บทที่ 256
ทันทีที่หยกแขวนถูกทำลาย เฉินโม่ก็จะสามารถรับรู้ได้ทันที และสามารถรีบไปช่วยเหลือได้ทัน

“ฮาฮา ที่แท้ไอ้ขยะก็หลบอยู่นี่เอง ฉันคิดว่าแกจะทำให้ตระกูลจินขุ่นเคือง จะไม่กล้ามาซะแล้ว ” เสียงหัวเราะร่าดังขึ้นมาจากด้านข้าง

คุณชายหลิวที่ถูกเฉินโม่ตบในสโมสรว่านหาว กับฉือรุ่ยปิงและกลุ่มลูกเศรษฐีอีกกลุ่มหนึ่ง ยิ้มอย่างชั่วร้ายเดินเข้ามาหาเฉินโม่

เมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดจาหยาบคาย เฉินซงจื่อก็ลุกขึ้นยืน แต่ก็ถูกเฉินโม่ดึงเอาไว้จนลงไปนั่งอีกครั้ง ได้แต่จ้องมองไปยังคนเหล่านี้ด้วยสายตาเยือกเย็น

เฉินโม่เหลือบมองพวกเขาอย่างไม่แยแส ในใจคิดถึงสิ่งที่หลี่ซู่เฟินพูดไว้ ว่าอย่าก่อเรื่อง

ลูกเศรษฐีกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา สายตาถูกเอียนชิงเฉิงที่อยู่ข้างกายเฉินโม่ดึงดูดไว้ สาวที่สวยอันดับหนึ่งในยานจิง ไม่ใช่มีแต่ชื่อ

ขนาดเอียนชิงเฉิงไม่ได้แต่งหน้ามา แต่ความงดงามของนางก็สามารถสร้างความแตกแยกให้กับเมืองแต่ละเมืองได้เลย

“อ๋อ ไอ้ขยะนี่มันดึงดูดผู้หญิงได้เก่งจริง ๆ ไม่เจอกันวันเดียวก็เปลี่ยนของดีมาแล้วสองอย่าง เหมือนกับดอกไม้งามบนกองขี้วัวเลย น่าเสียดายจริง ๆ !” คุณชายหลิวมองไปยังเอียนชิงเฉิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความโลภ

เอียนชิงเฉิงสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แม้แต่มองยังไม่มองคนพวกนี้ ได้แต่ทำเป็นไม่สนใจ

แต่ซังซังไม่มีทางยอมให้ผู้ชายเหล่านี้ล้อเลียนเอียนชิงเฉิง จึงสบถออกไปอย่างเย็นชาว่า “หลีกไป !”

“โอ้ แม่พริกขี้หนู นิสัยอย่างนี้ ฉันชอบ !” คุณชายหลิวหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย

ซังซังจ้องไปยังคุณชายหลิวอย่างเย็นชา ตะโกนออกไปว่า “ถ้านายยังกล้าพูดอะไรอยู่อีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน !”

คุณชายหลิวเหลือบมองไปยังชายวัยกลางคนด้านหลัง ขณะนั้นสีหน้าของเขาไร้ซึ่งความกลัว เขายิ้มอย่างเยือกเย็นและพูดว่า “ที่นี่ไม่ใช่สโมสรว่านหาว ไม่มีกฎ อยากลงมือก็เอาเลย !”

“คุณจาง แล้วแต่คุณแล้ว !” คุณชายหลิวหันไปมองชายวัยกลางคนคนนั้น

เพียงแค่แววเดียว ร่างของคุณจางก็ปรากฏอยู่ด้านหน้าคุณชายหลิว จ้องอย่างเยือกเย็นไปยังซังซัง รัศมีลมปราณอันทรงพลังแผ่พุ่งออกมาจากร่างของเขา

“แดนในชั้นสมบูรณ์”

ซังซังเผลอตกใจ มองไปยังชายวัยกลางคนด้วยความรู้สึกเกรงกลัวเล็กน้อย

“ฮาฮา กลัวงั้นหรือ ? ฉันขอร้องคุณแม่ทั้งวัน ท่านพ่อถึงจะยอมให้ฉันนำบอดี้การ์ดออกมาด้วย ตั้งใจเอามาจัดการไอ้ขยะอย่างแกโดยเฉพาะ หากวันนี้แกยอมคุกเข่าร้องขอความเมตตากับฉัน ยอมให้ฉันตบสิบที ฉันจะยอมให้อภัยพวกแก” คุณชายหลิวยิ้มอย่างชอบใจ

ซังซังไม่พูดอะไร หันหลังกลับไปมองเฉินโม่

เฉินโม่ทำอะไรไม่ถูก ก่อนหน้านี้เขาเองก็ไม่คิดจะก่อปัญหาอยู่แล้ว อยากจะรอจนกระทั่งจบประชุมจะได้รีบ ๆ กลับไป แต่อะไร ๆ ก็ไม่เป็นดังหวัง

เฉินโม่คิดจะสั่งสอนอะไรให้กับคุณชายหลิวเล็กน้อย แต่หนึ่งในลูกเศรษฐีที่ห้อยต่างหูทองเอาไว้จู่ ๆ ก็กะโกนขึ้นมาว่า “ดูนี่สิ คุณชายว่านมาแล้ว !”

เฉินโม่มองไปตามต้นเสียง ว่านเหวินโยวกับลูกน้องอีกสองคน เดินตามชายวัยกลางคนที่ดูสง่าผ่าเผยด้านหน้าที่กำลังเดินเข้ามาด้านใน

“ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้าน่าจะเป็นชายที่ร่ำรวยที่สุดในฮ่านหยาง ท่านประธานหอการค้าฮ่านหยาง ประธานกว่างฮ่าน กรุ๊ป คุณว่านฉางหรูแน่เลย !” ก่อนที่จะไปยังสโมสรว่านหาว เฉินโม่เคยเห็นคุณชายหวาง พูดถึงด้วยความตกใจ

“นอกจากว่านฉางหรูแล้วจะมีใครอีกที่คุณชายว่านยอมเดินตามต้อย ๆ อยู่ด้านหลัง !” ฉือรุ่ยปิงพูดขึ้นด้วยใบหน้าเลื่อมใสศรัทธา เฉินโม่หันไปมองว่านฉางหรูที่เดินมาด้วยความสง่า แววตาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชา เศรษฐีอันดับหนึ่งในฮ่านหยางผู้นี้ ดูแล้วใบหน้าแลดูจิตใจดี แต่เฉินโม่ในชาติที่แล้วได้มีประสบการณ์กับความโหดเหี้ยมอำมหิตของเขามาแล้ว คนเมตตาไม่นำทัพต่อสู้ คนใจบุญไม่สะสมเงินทุน ในเมื่อสามารถมาถึงตำแหน่งของเศรษฐีอันดับหนึ่งในฮ่านหยาง นั่นก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเขาย่อมไม่ใช่คนดีมากมายนัก

ทันทีที่ว่านฉางหรูปรากฏตัวขึ้น ห้องโถงใหญ่ที่คึกคักก็เงียบลงทันที ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน เหล่าคนดังต่างก็หลีกทางพลางประสานมือทักทาย บางคนถึงกับขนาดคำนับให้ แม้ว่าในวันนี้จะมีคนที่มีชื่อเสียงอยู่มากกว่าร้อยคน แต่มีเพียง ว่านฉางหรู เท่านั้นที่ได้รับเกียรตินี้

“ไป พวกเราเข้าไปทักทายคุณชายว่านกัน !” จากนั้นทายาทเศรษฐีกลุ่มนี้ก็เดินเข้าไปหาว่านเหวินโยว