บทที่ 319 สาวงามผู้แปลกประหลาด จางหลาน

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

เย่เทียนเฉินในตอนนี้โกรธเขhาแล้ว เจตนาเข่นฆ่าถูกกระตุ้น เขาไม่ใช่คนที่จะโกรธง่ายๆ แต่ในครั้งนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าจะทำให้ชีวิตของไอ้พวกชิบะเหล่านี้ถูกกลบฝังเอาไว้ที่นี่ทุกคน คนกลุ่มนี้จะน่ารังเกียจเกินไปแล้ว ความจริงพวกเขาบ้าคลั่งมาก ฆ่าทหารหน่วยรบพิเศษไปมากขนาดนั้น กระทั่งหลีหวังก็ตายไปแล้ว เขาเป็นหัวหน้าทหารหน่วยรบพิเศษแห่งชายแดนกลุ่มนี้ เป็นยอดฝีมือที่มีความสามารถในระดับนักรบอาวุโส

ภายในหุบเหวลึกของป่าหมอกดำมีเต็นท์จำนวนหนึ่งกระจัดกระจาย ทุกจุดที่ห่างกันหลายเมตรล้วนมีมือสังหารในชุดดำอยู่คนหนึ่ง ความสามารถของคนเหล่านี้ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่อ่อนแอ ท่าทางครั้งนี้ เพื่อที่จะก่อกวนชายแดนป่าหมอกดำและเพื่อที่จะทำให้จุดประสงค์ของพวกเขาสำเร็จ ไอ้พวกชิบะจึงลงทุนไปมาก ไม่เพียงแต่จะมียอดฝีมือเหมือนเซนโทอิน แต่ยังมีผู้อาวุโสแห่งสำนักโฮคุชินอิตโตริวที่ร้ายกาจยิ่งกว่าเซนโทอินด้วย นี่ทำให้เย่เทียนเฉิน ชางหลางและหลัวเหว่ยเคอไม่กล้าลำพองใจ

สำนักโฮคุชินอิตโตริวก็เหมือนกับพรรควรยุทธโบราณของประเทศจีน ตำแหน่งในประเทศชิบะของพวกเขามีความยาวนานและสำคัญมาก ก็เหมือนกับไท่ซานเป่ยโต่วและวัดเส้าหลินที่มีมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ของจีน นี่เป็นสำนักที่มีความสามารถแข็งแกร่งเป็นอย่างมากสำนักหนึ่ง เย่เทียนเฉินเคยประมือกับยอดฝีมือของสำนักโฮคุชินอิตโตริวมาหลายครั้ง กระทั่งเขาก็ไม่อาจไม่นับถือในส่วนที่ร้ายกาจของสำนักนี้

“ให้ฉันระวังหลังเองเถอะ หลังจากที่พวกเราไปช่วยคน แกกับหลัวเหว่ยเคอก็คุ้มครองคนจากไป!” ชางหลางเอ่ยปาก

“ถ้าคุณตามหลังคุณจะฆ่าทุกคนได้เหรอ? ด้วยฐานะของคุณถ้าหากทำแบบนั้น พอข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปจะต้องสร้างผลกระทบที่ไม่ดีต่อนานาชาติอย่างแน่นอน กระทั่งอาจจะทำให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ระหว่างสองประเทศก็ได้ เรื่องแบบนี้ให้ผมทำเถอะ!” เย่เทียนเฉินส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น

“แต่ว่า…”

ชางหลางยังคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ต่อมาก็ถูกเย่เทียนเฉินพูดขัด เย่เทียนเฉินมองไปยังชางหลาง จากนั้นจึงมองไปยังหลัวเหว่ยเคอแล้วพูดขึ้นว่า

“การที่ท่านหยางและท่านผู้นำสูงสุดส่งผมมาไม่ได้เป็นเพราะเหตุนี้หรือ? ผมเชื่อในความคิดของพวกเขา ต้องการให้ผมฆ่าพวกชิบะทั้งหมดเพียง แต่ด้วยฐานะของพวกเขาจึงไม่สามารถออกคำสั่งนี้มาได้อย่างเปิดเผยเท่านั้นเอง!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียนเฉิน ชางหลางและหลัวเหว่ยเคอก็ชะงักไป ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกนับถือเย่เทียนเฉินขึ้นมา ถึงแม้ไอ้หนูนี่จะมีบางครั้งที่ดูพึ่งพาไม่ได้หรือกระทั่งทำให้คนอื่นรู้สึกอับจนคำพูดอย่างถึงขีดสุด แต่กลับไม่ใช่คนที่ไม่ละเอียดรอบคอบ เขาเป็นคนที่ฉลาดและมีไหวพริบเป็นอย่างมาก

เป็นเช่นนี้จริงๆ การที่ท่านผู้นำสูงสุดและท่านหยางส่งเย่เทียนเฉินมาปฏิบัติการด้วยกันกับชางหลาง ประการแรกเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเย่เทียนเฉินและหานเจี๋ย ประการที่สองเป็นเพราะพวกเขาที่เป็นระดับหัวหน้าทั้งสองคนต่างก็รู้ว่า เย่เทียนเฉินเป็นคนที่บ้าบิ่น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่ถูกกองทัพไล่ออกไปแล้ว เขาไม่ได้เป็นตัวแทนของประเทศ เป็นตัวแทนของเขาคนเดียวเท่านั้น ด้วยความสามารถและนิสัยของเขา ต่อให้ฆ่าคนพวกนี้ทั้งหมดก็ไม่ทำให้เกิดผลกระทบอันใหญ่หลวงใดๆ ต่อให้ประเทศชิบะ แม้จะโกรธอย่างมากแต่ก็ไม่กล้าทำอะไร

นี่ไม่ใช่จะกล่าวว่าประเทศจีนกลัวประเทศอื่น แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีเหตุผล เบื้องหน้านั้นใช้ “เหตุผล” นี่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องกระทำ ถ้าหากไม่ทำใครๆ ก็ไม่สามารถยืนอยู่ได้ ประเทศก็เป็นเช่นนี้เอง นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมสงครามระหว่างสองประเทศถึงมักจะต้องหาข้ออ้างสร้างสถานการณ์บางอย่างถึงจะสามารถส่งทหารออกไปได้ จะออกศึกก็ต้องมีเรื่องถึงจะถูก

“ไปเถอะ ตัดสินใจตามนี้ก็แล้วกัน พวกเราเชื่อในความสามารถและการตัดสินของน้องเย่”

หลัวเหว่ยเคอพยักหน้า ถึงแม้เขาจะได้พบกับเย่เทียนเฉินเป็นครั้งแรก แต่ระหว่างทางเย่เทียนเฉินก็แสดงความสามารถและความฉลาดออกมา ทำให้หลัวเหว่ยเคอรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก

“อย่าได้มุทะลุ รักษาชีวิตของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!” ชางหลางพูด

“วางใจเถอะ การต่อสู้ระหว่างผมกับคุณยังไม่ได้สู้กัน ผมไม่ตายหรอก!” เย่เทียนเฉินพูดด้วยรอยยิ้มบางเบา

เริ่มปฏิบัติการแล้ว ตอนนี้เย่เทียนเฉินไม่รักษาพลังใดๆ เอาไว้อีก ไม่เพียงแต่จะใช้พลังพิเศษแห่งการรับรู้ออกไป แต่ยังใช้พลังเขตแดนปิดกั้นอีกด้วย ครอบคลุมหุบเหวของป่าหมอกดำเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เย่เทียนเฉินใช้พลังเขตแดนปิดกั้น พริบตามนั้นเขารู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้กลุ่มหนึ่ง ราวกับสัมผัสได้ถึงพลังเขตแดนปิดกั้นของตนเล็กน้อยและกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างอยู่ อย่างไรก็ตามในตอนนี้เย่เทียนเฉินไม่กลัวจะแหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว สิ่งที่เหลือต่อไป นอกจากการฆ่าล้างครั้งใหญ่แล้วยังจะมีวิธีอื่นอยู่อีกหรือ?

ฉึก!

เย่เทียนเฉินหยิบมีดที่หลัวเหว่ยเคอเตรียมไว้ให้เขาออกมา เดินไปข้างหน้าสุด เดินไปที่หุบเหวลึกโดยตรง สถานที่ที่เรียกว่าหุบเขาหมอกทมิฬนี้มีเต็นท์อยู่ประมาณแปดเก้าหลัง เพียงพอที่จะเห็นได้ว่าครั้งนี้ประเทศชิบะส่งคนออกมาเคลื่อนไหวมากแค่ไหนเพื่อมาก่อกวนชายแดนและฆ่าพวกทหารหน่วยรบพิเศษเรานั้น

ตวัดมีดออกไป ดูเหมือนเย่เทียนเฉินจะปะทะกับมือสังหารด้านหน้าแล้ว อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ลงมือและยังไม่ทันได้กรีดร้องก็ถูกเขาใช้มีดเอาชีวิต แทงทะลุไปที่หลอดลมของเขา จนถึงตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องกลยุทธ์อะไรกันอีก บุกเข้าไปฆ่าโดยตรงเลย นี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดและเป็นวิธีการที่เด็ดขาดที่สุดในตอนนี้ เย่เทียนเฉินอยู่ด้านหน้าสุด ดึงดูดความสนใจของศัตรู ส่วนชางหลางและหลัวเหว่ยเคอลอบเข้าไปจากที่อื่น นี่เป็นแผนการที่ไม่เลวเลย

“แก…แกเป็นใคร?” คนชุดดำหลายคนเห็นเย่เทียนเฉินก็ตกใจจนชะงักไป ส่วนใหญ่คือคิดไม่ถึงมีพวกเขาที่เป็นยอดฝีมือมากมายขนาดนี้อยู่ด้วย อีกทั้งยังมีตัวตนระดับผู้อาวุโสแห่งสำนักโฮคุชินอิตโตริวนั่งอยู่ด้วย ถึงกับยังมีคนกล้าบุกเข้ามาอีกเบื่อที่มีชีวิตนานเกินไปรึไง?

“คนที่จะฆ่าพวกแกไง…”

ฉึก!

คำพูดเพิ่งจะออกมา มีดในมือขวาของเย่เทียนเฉินก็โจมตีไปที่คนผู้หนึ่ง ในตอนนี้มีดในมือขวาของเขาอาบยอมไปด้วยพลังพิเศษในขอบเขตจอมราชันขั้นสูงแล้ว ไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะขวางได้ รวมกับที่เขามีใจจะสังหารแล้วจึงลงมือไม่ไว้ไมตรีแม้แต่น้อย เมื่อลงมือก็จะต้องฆ่าศัตรูโดยไม่เหลือแม้แต่คนเดียว

“ฆ่าไอ้คนไม่รู้จักที่ตายนี่ซะ!” หนึ่งคนในนั้นตะโกนเสียงดัง

มือสังหารสวมชุดดำหลายคนล้วนควักดาบทหารสไตล์ชิบะออกมาแล้วพุ่งเข้าไปใส่เย่เทียนเฉิน เย่เทียนเฉินแย้มยิ้มเล็กน้อย บนใบหน้าไม่เห็นไอสังหารแม้แต่น้อย แต่ทุกครั้งที่ลงมือก็จะต้องมีชีวิตของคนผู้หนึ่งสิ้นสุดลง

ฉึกๆๆ…

มีมือสังหารสวมชุดดำสี่คนล้มลงไปที่พื้น ทุกคนต่างถูกมีดในมือขวาของเย่เทียนเฉินที่อาบยอมไปด้วยพลังพิเศษเอาชีวิตในการลงมือครั้งเดียว เรียกได้ว่ามีดเล่มนี้ในตอนนี้ไม่ใช่มีดอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นกระบี่แสงพลังพิเศษเล่มหนึ่งร้ายกาจและดุดันเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่จะสามารถตัดศีรษะของมือสังหารชุดดำหลายคนนี้ได้ กระทั่งดาบทหารสไตล์ชิบะที่พวกเขาถืออยู่ในมือก็ยังถูกตัดจนหัก นี่เป็นอำนาจระดับไหนกัน ทำให้ผู้คนต้องตกตะลึงจนตาค้าง

เหลือมือสังหารชุดดำที่ตะโกนออกมาคนแรกสุดเท่านั้น เขาตกใจจนถอยออกไปเล็กน้อย มือทั้งสองกำดาบทหารสไตล์ชิบะในมือเอาไว้แน่น ดวงตาทั้งสองมองไปยังเย่เทียนเฉินด้วยความโกรธและความกลัว ต้องทราบว่าพวกเขาเหล่านี้ต่างก็เป็นลูกศิษย์ของสำนักโฮคุชินอิตโตริว แต่ละคนมีฝีมือไม่ธรรมดา ไม่ด้อยกว่าทหารหน่วยรบพิเศษบริเวณชายแดนที่ปกปักตั้งมั่นอยู่ในป่าหมอกดำของประเทศจีนเลย แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีใครที่สามารถฆ่าพวกเขาเหมือนผักปลาแบบนี้ เย่เทียนเฉินเป็นคนแรก ชายหนุ่มคนนี้อายุไม่เกินยี่สิบปีเท่านั้นแต่กลับมีความสามารถเหมือนกับเทพสังหาร จะให้เขาไม่หวาดกลัวและกระวนกระวายได้อย่างไร?

“พูดมาเถอะ พวกแกมีทั้งหมดกี่ คนไอ้แก่ที่เป็นคนนำอยู่ที่ไหน?” เย่เทียนเฉินถามด้วยรอยยิ้ม แต่กลับเดินเข้าไปยังมือสังหารชุดดำที่เหลืออยู่คนนั้นทีละก้าว

“แก แก มันปีศาจจะต้องตายแน่…” มือสังหารชุดดำที่เหลือมองเย่เทียนเฉินอย่างดุดันและกล่าวขึ้น

“ฉันไม่ใช่ปีศาจแต่เป็นมัจจุราช…”

ระหว่างที่พูดเย่เทียนเฉินก็ลงมือ ทันใดนั้นมีเงาร่างที่งดงามร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านข้าง พบว่ามีประกายแสงอันเย็นยะเยือกส่องสว่าง มือสังหารชุดดำที่เหลือล้มลงนอนจมกองเลือด เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เงาร่างอันงดงามที่พุ่งออกมาอย่างกระทันหันนี้มีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก ดูเหมือนในเวลาเพียงชั่วพริบตาเดียวก็สามารถฆ่ามือสังหารชุดดำคนที่เหลือนั้นได้ นี่อดไม่ได้ที่จะทำให้เย่เทียนเฉินต้องสำรวจอีกฝ่ายขึ้นมา

พบว่าเบื้องหน้าของเขามีผู้หญิงร่างสูงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นสูงประมาณ 172 เซนติเมตร ดวงหน้างดงามทรงเสน่ห์ ปากอวบอิ่ม มีตาชั้นเดียวอันเซ็กซี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมเป็นลอนสีทองนั้น ดูแล้วยิ่งเพิ่มความน่ารักสดใสขึ้นมาก ไม่ใช่ผู้หญิงประเภทผอมแห้งแบบนั้นแต่กลับทำให้ผู้ชายจำนวนมากต้องใจเต้นกับความเต็มไม้เต็มมือ สิ่งที่ควรนูนก็นูนสิ่งที่ควรเว้าก็เว้า เป็นสาวงานระดับสูงที่มีชีวิตชีวาคนหนึ่ง บนร่างของเธอสวมใส่ชุดโปร่งบาง ร่างกายท่อนล่างสวมกางเกงสีดำแนบเนื้อ. ที่ร้ายกาจมากที่สุดก็คือที่ขาสวมรองเท้าบู๊ทสองข้าง ไม่รู้จริงๆ ว่าผู้หญิงที่สวยงามแบบนี้ออกมาจากไหน

“พูดมา เอาญาติผู้พี่ของฉันไปซ่อนไว้ที่ไหน?” สาวงามผู้แปลกประหลาดจับมือสังหารชุดดำคนนั้นมาถาม

“เขาตายไปแล้ว อีกอย่างเสียงของเธอเพราะขนาดนี้ ถ้าเป็นฉันต่อให้ตายก็ไม่บอกความจริงกับเธอหรอก!” เย่เทียนเฉินมองไปยังสาวสวยผู้แปลกประหลาดด้วยความรู้สึกจนใจ คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงสวยขนาดนี้จะมีเสียงแบบนั้นได้

ที่เย่เทียนเฉินมองว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนแปลก ไม่ต้องพูดเรื่องเรื่องหน้าตางดงาม ร่างกายที่มีน้ำมีนวลนั้นและใบหน้าที่อวบอิ่มนั้นเลย ที่สำคัญที่สุดก็คือใส่ชุดฤดูร้อนแต่กลับสวมรองเท้าบู๊ทและยังวิ่งมาถึงที่นี่ ฝีมือก็ยังแข็งแกร่งขนาดนั้นด้วย ถ้านี่ไม่ใช่ผู้หญิงงดงามผู้แปลกประหลาดแล้วจะเป็นอะไรได้?

ฟิ้ว!

คำพูดนี้ของเย่เทียนเฉินเพิ่งจะพูดออกมา ขาอันงดงามก็เตะกวาดมาที่เขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรองเท้าบู๊ทสูงที่ดูดีคู่นั้น ผิวขาวเนียนนุ่มที่โผล่ออกมาดูเจริญตาเป็นอย่างมาก

แต่เรื่องเจริญตาก็ส่วนเจริญตา ถ้าหากต้องถูกผู้หญิงคนนี้โจมตีจนตาเขียวก็คงดูไม่ดีแน่ ดังนั้นในตอนที่ผู้หญิงสวยผู้แปลกประหลาดคนนี้เตะกวาดมา เย่เทียนเฉินจึงใช้มือซ้ายจับข้อเท้าของเธอเอาไว้และพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“ดูเหมือนเธอก็มาช่วยคนเหมือนกัน เธอต้องการช่วยใคร?”

“ไม่ต้องมายุ่ง ปล่อยมือ!”

ไม่กล่าวไม่ได้ว่า สาวงามผู้แปลกประหลาดคนนี้แข็งแกร่งมาก ขาขวาถูกเย่เทียนเฉินจับเอาไว้ในตำแหน่งสูงกลางอากาศ แต่ขาซ้ายก็ยังเตะไปที่หน้าอกของเย่เทียนเฉินได้ กระบวนท่านี้ไม่ธรรมดาเลย

สาวงามผู้แปลกประหลาดเตะออกไปอีกครั้ง เย่เทียนเฉินยังคงหลบได้ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ถูกเย่เทียนเฉินจับขาขวาเอาไว้อีกแล้ว ใช้ดวงตาอันงดงามกรอกตาใส่เย่เทียนเฉินด้วยความโกรธเคืองท่าทางน่ารักอย่างมาก

“อ้อ กรอกตาใส่ บนโลกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!” เย่เทียนเฉินพูดหยอกล้อ

“เจ้าอันธพาล ขี้เกียจสนใจนายแล้ว!”

สาวงามผู้แปลกประหลาดหมุนตัวเดินไปเบื้องหน้า เธอรู้ว่าเย่เทียนเฉินไม่ได้มีความโหดเหี้ยม มิฉะนั้นเมื่อสักครู่นี้คงไม่ใช้กระบวนท่าๆ ง่ายแบบนั้นแน่

เย่เทียนเฉินเห็นสาวงามผู้แปลกประหลาดไม่สนใจตนจึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมายิ้มๆ ว่า

“ฉันรู้ว่าเธอชื่อจางหลาน เป็นญาติผู้น้องของหานเจี๋ย!”