ตอนที่ 786 มีเมียแบบนี้เสี่ยวเฉียงเองก็สิ้นหวัง

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

ผู้ชายคนอื่นถ้าได้เจอเรื่องดีๆแบบนี้แทบอยากจะแสร้งทำเป็นเมาแล้วฉวยโอกาสเล่นไปตามเกมเสีย จูบกับคนสวยๆใครล่ะจะไม่อยาก แต่ก็มีคนที่กลัวเรื่องพรรค์นี้อยู่บนโลก วิ่งหนีไปซะไกลอย่างกับถูกคนตามฆ่า—แต่ประธานเชี่ยนก็ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองก็พอใจที่เสี่ยวเฉียงมีท่าทางแบบนี้

 

 

สุ่ยเซียนได้แต่ภาวนาให้โทรไม่ติด แต่เบอร์นี้ที่โทรไม่ติดเลยตอนเลิกกันกลับติดขึ้นมาเสียอย่างนั้นในเวลานี้

 

 

เธออยากจะกดทิ้งแต่ไม่ทันแล้ว เพราะจูเต๋อซีแทบจะกดรับทันที

 

 

“สุ่ยเซียน” น้ำเสียงเขาดูดีใจมาก

 

 

“เต๋อซี…” พอได้ยินเสียงของเขาเธอก็รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล เธอคิดว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้นมากแล้ว แต่แค่น้ำเสียงที่คุ้นเคยของเขาดังขึ้น เธอก็พ่ายแพ้ทันที

 

 

อันที่จริงฉากนี้กำลังน่าประทับใจ แต่กลับมีคนที่รับบทเป็นนางร้ายอยู่ในเหตุการณ์ด้วย

 

 

“เข้าประเด็น” เสี่ยวเชี่ยนเตือนอยู่ข้างๆ

 

 

สุ่ยเซียนกัดริมฝีปากไม่พูดอะไร คำพูดแบบนั้นจะให้เธอพูดได้ยังไง

 

 

“งั้นฉันจะบอกจูขี้บ่นว่าเธอยังมีเขาอยู่ในใจ ก่อนหน้านี้เรื่องเลิกกันเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ให้เขารีบย้ายงานแล้วกลับมาหาเธอ—” เสี่ยวเชี่ยนขู่

 

 

“ไม่เอา” สุ่ยเซียนรีบห้ามเสี่ยวเชี่ยน ที่เธอเลิกกับจูขี้บ่นก็เพราะไม่อยากให้เขาเปลี่ยนงานไม่ใช่เหรอ ทำแบบนั้นทุกอย่างที่เธอทำมาก็สูญเปล่าสิ

 

 

“ฉันจะพูด” น้ำเสียงของสุ่ยเซียนหนักแน่นมาก

 

 

“สุ่ยเซียน มีอะไรเหรอ” จูขี้บ่นยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางนี้วุ่นวายแค่ไหน

 

 

เสี่ยวเชี่ยนโบกมือให้อวี๋หมิงหลาง รีบกลับมาได้แล้ว ละครฉากเด็ดกำลังจะมา

 

 

อวี๋หมิงหลางมองเสี่ยวเชี่ยนอย่างระแวง คุณแน่ใจนะว่าจะไม่มอบจูบของผู้ชายตัวเองให้คนอื่นน่ะ

 

 

เสี่ยวเชี่ยนทำมือรับประกัน อวี๋หมิงหลางถึงได้ค่อยๆเขยิบเข้าไปหาอย่างระมัดระวัง

 

 

เขาได้ยินสุ่ยเซียนพูดอย่างตะกุกตะกัก

 

 

“ฉัน ฉันท้องแล้ว”

 

 

“หา” ตอนแรกจูขี้บ่นก็ดีใจ แต่ต่อมาก็รู้สึกแปลกๆ เขากับเธอช่วงหลายเดือนมานี้ไม่ได้มีอะไรกันเสียหน่อย แล้วเธอจะท้องได้ไง

 

 

“ลูก…ไม่ใช่ของคุณ เป็นของอาเหม็ด ขอโทษนะ ลืมฉันเถอะ”

 

 

สุ่ยเซียนพูดจบก็รู้สึกเหมือนถูกฝังทั้งเป็น เธอไม่เพียงแต่ฝังกลบความรักของตัวเอง ยังได้ทิ้งความทรงจำอันเลวร้ายไว้ให้คนที่เธอรักด้วย

 

 

ต่อไปถ้าเธออยากเจอเขาคงไม่ใช่เรื่องดี คงดูเป็นเรื่องหน้าไม่อายมากใช่ไหม

 

 

“สุ่ยเซียน คุณอยู่ที่ไหน” หลังจากที่จูเต๋อซีเงียบไปสักพักก็ถามขึ้น

 

 

“ฉันจะอยู่ที่ไหนไม่สำคัญ ต่อไปพวกเราเลิกติดต่อกันเถอะ” สุ่ยเซียนอยากร้องไห้จะแย่แล้ว

 

 

“บอกผมมาว่าคุณอยู่ที่ไหน” น้ำเสียงของเขาดูร้อนรน

 

 

“ลาก่อน”

 

 

สุ่ยเซียนตัดสายทิ้งทันที รู้สึกหัวใจสลายแล้วในคืนนี้

 

 

จบกัน ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์อย่างที่เธอต้องการเหรอ ทำไมถึงรู้สึกใจสลายแบบนี้

 

 

สุ่ยเซียนรู้สึกโลกนี้เริ่มเลือนรางเพราะน้ำตาของเธอ จากนั้นก็รู้สึกตัวโคลงเคลงไปมา ร่างกายอ่อนยวบ แล้วเธอก็ล้มลง

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรีบเข้าไปพยุง

 

 

“เอานอนราบก่อน” อวี๋หมิงหลางสั่ง เสี่ยวเชี่ยนกับหลิวเหมยช่วยกันวางสุ่ยเซียนนอนราบไปบนหาดทราย เอาเสื้อผ้ารองหัว

 

 

“ทำไงดีล่ะ พี่สะใภ้เล่นแรงเกินไปแล้ว สุ่ยเซียนเป็นลมเลย” หลิวเหมยพอเห็นสุ่ยเซียนเป็นลมก็ร้อนใจ ต้องเรียกรถพยาบาลมาไหม

 

 

“คนเราเวลาอารมณ์สะเทือนใจถึงขีดสุดก็จะมีอาการหน้ามืดเป็นธรรมดา รอดูสักพักยังไม่ต้องพาไปโรงพยาบาลหรอก”

 

 

ขณะที่อวี๋หมิงหลางกำลังอธิบายอยู่นั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น จูเต๋อซีโทรมา

 

 

“สุ่ยเซียนเป็นไงบ้าง” จูเต๋อซีถามด้วยความร้อนใจ

 

 

“ถูกเมียฉันเล่นแรงจนเป็นลมไปแล้ว—แต่เรื่องนี้จะโทษเมียฉันก็ไม่ได้ ใครใช้ให้แฟนนายเล่นเกมความรักฉันลึกซึ้งความรักฉันยิ่งใหญ่ก่อนล่ะ”

 

 

“เขาเป็นไงบ้าง” พอได้ยินว่าสุ่ยเซียนเป็นลมจูเต๋อซีก็ตกใจมาก

 

 

“ตอนนี้อาการดูไม่น่าเป็นห่วง”

 

 

“หมายความว่าไง ตอนนี้ บอกฉันมาว่าพวกนายอยู่ไหน”

 

 

“อยู่ริมทะเลใกล้ๆค่าย”

 

 

“ช่วยฉันดูแลสุ่ยเซียนก่อน อีกสิบนาทีฉันจะไปถึง—ลุงครับ ขับเร็วหน่อยได้ไหมครับ”

 

 

“เร็วกว่านี้ตำรวจก็เรียกแล้วครับ จะรีบไปไหน”

 

 

น้ำเสียงหงุดหงิดของคนขับดังลอดมา

 

 

อวี๋หมิงหลางวางสาย หันไปมองเสี่ยวเชี่ยนที่เฝ้าสุ่ยเซียนอยู่ จากนั้นก็ถอนหายใจ เดินไปที่เตาย่างแล้วลงมือกินอย่างเมามัน

 

 

“พี่ ทำไมใจดำแบบนี้ สุ่ยเซียนเป็นถึงขนาดนี้แล้วพี่ยังจะมีอารมณ์กินอีกเหรอ” หลิวเหมยเห็นอวี๋หมิงหลางเริ่มลงมือกินก็โมโหชี้หน้าด่า

 

 

“ถ้าไม่กินเดี๋ยวจะมีแรงสู้ได้ไงเล่า มีเมียชอบก่อเรื่องแบบนี้ จะให้ทำไง…” อวี๋หมิงหลางยอมรับในชะตากรรม วิธีรักษาแบบสุดโต่งของเมียเขาตอนใช้ก็สะใจอยู่หรอกนะ แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาเขาก็พอจะเดาได้

 

 

คนอย่างจูเต๋อซีน่ะ ปกติก็ใจเย็นอยู่หรอก ออกจะขี้บ่นชอบสอนคนอื่น แต่จุดเด่นของคนแบบนี้ตอนไม่โมโหน่ะพอไหว แต่ถ้าระเบิดอารมณ์ขึ้นมาก็ตัวใครตัวมัน เสี่ยวเชี่ยนทำแบบนี้จูเต๋อซีมาอาละวาดแน่

 

 

ใช่ว่าอวี๋หมิงหลางจะสู้ไม่ได้ เพียงแต่คิดๆดูวิธีที่เมียเขาใช้ก็ออกจะสุดโต่งจริงๆ เขาไม่มีหน้าจะสู้กลับหรอก กินให้เยอะๆเติมพลังดีกว่า เตรียมตัวเตรียมใจโดนอัด ใครใช้ให้เขาหาเมียแบบนี้ล่ะ…

 

 

สุ่ยเซียนสะลึมสะลือฟื้นขึ้นมา พอเห็นใบหน้าเสี่ยวเชี่ยนเธอก็ปล่อยโฮ เสี่ยวเชี่ยนเข้าไปกอดพลางตบหลังปลอบ

 

 

“เชี่ยนเอ๋อ…ครั้งนี้ฉันเสียเขาไปแล้วจริงๆ”

 

 

“อืมๆ ไม่เป็นไรนะ ร้องให้เต็มที่เลย เสียใจแค่ไหนก็ปล่อยออกมาเลย” เสี่ยวเชี่ยนตบหลังสุ่ยเซียนเบาๆ ช่วยให้เธอหายใจได้คล่องขึ้น

 

 

นับจากนี้ต่อไปสุ่ยเซียนอาจไม่ต้องร้องไห้หนักแบบนี้อีกแล้ว เมื่อเธอยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอำนาจและผลประโยชน์ ความเศร้าทั้งหมดจะถูกแทนที่ด้วยความเข้มแข็ง เวลานี้ร้องไห้ปล่อยโฮเหมือนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็เป็นประสบการณ์ที่ต้องผ่านมาบ้างในชีวิต

 

 

เพียงแต่ประสบการณ์นี้สำหรับสุ่ยเซียนแล้วมันฝังลึกในจิตใจมาก เธอลืมทั้งหมดที่ได้รับการสั่งสอนมา ลืมสถานะตัวเอง ลืมว่าไม่ควรแสดงอารมณ์ต่อหน้าคนอื่น เธออยู่ในอ้อมอกของประธานเชี่ยนไม่อยากเติบโต คิดว่าตัวเองเป็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่นอายุสิบเจ็ดสิบแปดที่สูญเสียคนที่สำคัญที่สุดไป เธอเสียใจมาก

 

 

“เธอตัดสินใจอยากเลิกนานแล้วไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ก็แค่เอาเรื่องที่เธออยากทำมานานใช้วิธีที่ไม่ต้องยืดเยื้อต่อไปทำให้สำเร็จก็เท่านั้น ทำไมถึงได้ร้องไห้เสียใจแบบนี้ล่ะ” เสี่ยวเชี่ยนชี้นำอารมณ์สุ่ยเซียนให้หนักขึ้น สายตามองไปไกลๆเห็นคนที่กำลังวิ่งมาทางนี้อย่างรีบร้อน

 

 

อวี๋หมิงหลางเองก็เห็นแล้ว เขากระดกเบียร์อย่างยอมรับชะตากรรม ต่อให้ต้องถูกอัดจนตายก็ขอเป็นผีที่อิ่มท้อง~

 

 

“ฉันตัดสินใจเลิกก็จริง แต่การเลิกกันไม่ได้หมายความว่าฉันไม่รักเขาแล้ว ฉันรู้ว่าตัวเองโตแล้ว ไม่ควรทำตัวงอแงเหมือนเด็กๆ ในฐานะที่ฉันเป็นนักธุรกิจไม่ควรสนใจเรื่องรักๆใคร่ๆมากเกินไป แต่ฉันควบคุมจิตใจตัวเองไม่ได้ ฉันควบคุมไม่ให้คิดถึงเขาก็ไม่ได้ ทำไงดี เชี่ยนเอ๋อ ฉันควรทำไงดี”

 

 

“พูดต่อสิ ระบายความอัดอั้นตันใจออกมาเลย” เสี่ยวเชี่ยนให้กำลังใจสุ่ยเซียน