บทที่ 291 สู้
บทที่ 291 สู้
มิดซัมเมอร์กรุ๊ปได้เช่าตึกสูงขนาดใหญ่เอาไว้สำหรับให้พนักงานทำงานอยู่ในโซนกลางเมืองตั้งแต่ที่ผู้พัฒนาหันมาให้ความสนใจในโลกของมิธ
ตัวตึกตั้งอยู่ในย่านธุรกิจที่แออัด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย เพราะบริเวณนี้รวมไว้ทั้งสถานที่ซื้อของและสถานที่สำหรับพักผ่อนเอาไว้อย่างครบครับ นอกจากนี้ภายในตัวตึกเองยังมีโซนฟิตเนสสำหรับพนักงานให้ได้ออกกำลังกายกันด้วย ซึ่งถือว่าเอื้ออำนวยให้แก่ผู้ที่เกี่ยวของกับกิลด์มิดซัมเมอร์อย่างเต็มที่
พนักงานที่อาศัยอยู่ภายในตึกแห่งนี้ ขั้นต่ำก็พันชีวิต และทุกคนล้วนแต่เป็นพนักงานหลักของมิดซัมเมอร์กรุ๊ปทั้งนั้น จะมีก็แต่พนักงานผู้หญิงรวมถึงหลิวเฉียงเหว่ยที่ออกไปอยู่ในชุมชนข้าง ๆ แทน หลังจากที่หลิวเฉียงเหว่ยย้ายไปอยู่ที่คฤหาสน์ยอดเขาแล้ว อพาร์ตเมนต์ที่ให้เหล่าพนักงานหญิงของกิลด์อยู่ก็อยู่ในความดูแลของลิลลี่แทน
สถานที่เกิดเหตุคือตึกที่ถูกใช้เป็นสถานที่ทำงานของพนักงาน
เมื่อช่วงใกล้เช้า รถมินิบัสกว่ายี่สิบคันก็ขับมาจอดที่ตึกพร้อมกับล้อมรอบตึกนั้นไว้ จากนั้นชายกว่าร้อยคนก็ลงมาจากรถมินิบัส พวกเขามีท่าทีโหดร้ายภายใต้ชุดสีดำที่สวมใส่มา แถมในมือก็ยังมีแท่งเหล็กอีกด้วย ชายเหล่านั้นวิ่งตรงเข้าไปในตึกแล้วเริ่มทำลายทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้าอย่างรวดเร็ว
ประตูทางเข้าด้านหน้าถูกทำลายจนเละเทะไปหมด รวมถึงต้นบอนไซที่ปลูกเอาไว้ก็ด้วย พนักงานหลายคนในตึกถูกทำร้ายซึ่งตอนนั้นผู้ที่ทำงานอยู่ห้องล็อบบี้ชั้นล่างล้วนแต่เป็นพนักงานที่เป็นกำลังสำคัญของกิลด์มิดซัมเมอร์ทั้งนั้น
ข่าวนี้แพร่ไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งทันทีที่ข่าวถึงหูสมาชิกคนไหน เขาหรือเธอคนนั้นต่างก็รีบออฟไลน์เพื่อออกจากห้องทำงานไปยังลิฟต์หรือบันไดอย่างรวดเร็ว แต่ละคนต่างก็หยิบเอาสิ่งของใกล้ ๆ ตัวที่พอจะหาได้อย่างไม้กวาดมาใช้เป็นอาวุธด้วยความไม่พอใจ พวกเขาทั้งหมดกระโจนเข้าใส่ชายชุดดำที่มีจำนวนน้อยกว่าอย่างไม่เกรงกลัว
แต่ถึงอย่างไร พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะเหล่าชายชุดดำนี้ได้ ตอนนี้ลิฟต์ทุกตัวถูกปิด รวมถึงบันไดก็ถูกกีดขวางเอาไว้ ใครก็ตามที่ลงมาแล้วต่างก็ถูกทุบให้ลงไปกองกับพื้นด้านล่างกันทั้งนั้น
โชคยังดีที่ชายชุดดำเหล่านี้ก็มีขอบเขต พวกเขาจะลงไม้ลงมือก็ต่อเมื่อคนคนนั้นต่อต้านหรือขัดขืนเท่านั้น
ยังไงเสียที่นี่ก็เป็นใจกลางเมือง มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้หากมีใครสักคนตายหรือมีคนอื่นเอะใจแล้วเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้มากขึ้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำไมชายชุดดำพวกนี้ถึงเลือกพกแท่งเหล็กแทนที่จะเป็นมีด
“พวกนี้มาจากแก๊งชิงหลงนี่! พระเจ้า!”
“อะไรนะ? แก๊งชิงหลงเหรอ? ทำไมพวกนั้นถึงเข้ามาสร้างปัญหาในที่ทำงานของพวกเราล่ะ? มิดซัมเมอร์กรุ๊ปไปรังควานพวกนี้หรือไง?”
“กิลด์กลอรี่อยู่ในสังกัดของแก๊งชิงหลง! ไอ้เวรพวกนี้! แพ้แล้วพาลนี่หว่า!”
“เรียกตำรวจเร็ว!”
พนักงานเกือบจะทั้งหมดภายในตึกออฟไลน์หมดแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เห็นชายชุดดำขึ้นมาลากตัวพนักงานชั้นบน ๆ ลงไป พนักงานส่วนที่เหลือที่ซ่อนตัวได้ต่างก็ไม่กล้าที่จะลงมาข้างล่างกันหมด พวกเขาพยายามโทรแจ้งตำรวจรวมถึงแจ้งไปยังผู้จัดการระดับสูงด้วย แต่ถึงอย่างนั้น แม้จะมีการโทรแจ้งตำรวจอยู่หลายสาย แต่ตำรวจก็ไม่มาเสียที
คนของแก๊งชิงหลงไม่ได้รีบร้อนอะไร พวกเขาอยู่ภายในห้องล็อบบี้และไม่ได้ลงไม้ลงมือกับพนักงานคนอื่นเพิ่ม ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะพวกเขาต่างเกรงกลัวตำรวจหรือกำลังรออะไรบางอย่างอยู่กันแน่
มีเพียงพนักงานที่ขัดขืนหลังจากถูกทุบล้มไปกับพื้นแล้วเท่านั้นที่จะถูกฟาดด้วยแท่งเหล็กอย่างรุนแรง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คนคนนั้นอยู่ในอาการมึนงงและขัดขืนไม่ได้อีก
ชายชุดดำเหล่านี้เป็นสมาชิกหลักของแก๊งชิงหลงเช่นกัน ในฐานะที่แก๊งให้ความสำคัญกับธุรกิจเกม พวกเขาทั้งหมดเองก็ได้ผันตัวมาเป็นผู้เล่นระดับสูงกันด้วย ไม่เพียงเท่านั้น คนเหล่านี้ยังถือเป็นหัวหอกให้กับแก๊งชิงหลง พวกเขารู้วิธีที่จะต่อสู้ ดังนั้นแล้วเพียงคนแค่ไม่กี่ร้อยคนก็สามารถถล่มตึกขนาดใหญ่ได้ขนาดนี้เลย
“หยุดนะ!”
รถสีขาวคันงามเข้ามาจอดที่ด้านนอกอาคารในจังหวะนั้น จากนั้นหลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋งก็รีบลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันพอดีกับที่พวกเธอเห็นชายชุดดำกำลังลงไม้ลงมือกับพนักงานในบริษัทที่ห้องล็อบบี้พอดี หลิวเฉียงเหว่ยจึงตะโกนออกไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึมพร้อมเดินเข้าไปภายในห้องล็อบบี้กับซือเยี่ยจิ๋งด้วย
“ปล่อยให้รอซะนานเชียว ฉันคิดว่าเธอจะไม่ปรากฏตัวออกมาแล้วนะเนี่ย ไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าหัวหน้าเฉียงเหว่ยผู้โด่งดังนั้น ในชีวิตจริงก็จะเป็นคนสวยได้ขนาดนี้ด้วย น่าประทับใจจริง ๆ !”
กลุ่มของชายชุดดำค่อย ๆ เปิดทางออก จากนั้น… บราเธอร์ไนน์ออฟกลอรี่ หรือชื่อจริงคือ ซูเจี่ยว ก็ปรากฏตัวออกมา เขาสวมชุดสูทพร้อมกับค่อย ๆ ย่าวก้าวออกมาจากฝูงชนและมองไปยังหลิวเฉียงเหว่ย ชายหนุ่มเลียริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยจุดประสงค์มุ่งร้ายอย่างชัดเจน
“ประธานหลิว! รีบหนีไปครับ! ไอ้พวกสารเลวนี่มันมาตามหาตัวท่านประธาน!”
พนักงานหลายคนที่นอนหมอบอยู่กับพื้นรีบตะโกนบอกเสียงดัง แต่ทันทีที่พวกเขาพูด แท่งเหล็กมากมายก็ระดมตีลงไปจนผิวหนังของพวกเขาเกิดการบอบช้ำขึ้นมาแล้ว
“หยุด! ปล่อยพนักงานของฉัน!”
หลิวเฉียงเหว่ยสั่นเทาไปด้วยความโกรธ ซึ่งความโกรธนั้นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เย็นชานั้นด้วย
“ฉันจะปล่อยพวกเขาไปก็ได้นะ แต่ในเมื่อเธอมาหาเรื่องแก๊งชิงหลงก่อน เธอก็ต้องชดใช้อย่างสาสมด้วยตัวของเธอเอง! จับเธอมัดซะ!”
ซูเจี่ยวแสยะยิ้มชั่วร้าย เขามองไล่ไปตามเรือนร่างของหลิวเฉียงเหว่ยตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยดวงตาที่หรี่แคบ จากนั้นถึงได้ตะโกนเสียงดังเพื่อสั่งให้ชายชุดดำทั้งหลายไปจับตัวเป้าหมายเอาไว้
ทันทีที่ได้ยินเสียงคำสั่ง ชายชุดดำคนก็รีบวิ่งเข้าไปหาหลิวเฉียงเหว่ย พวกเขารู้อยู่แล้วว่าเป้าหมายที่มากันในวันนี้ไม่ใช่เพื่อทะเลาะวิวาท ผู้เป็นนายของเขาต้องการจะลักพาตัวผู้หญิงคนนี้โดยที่ใช้การวิวาทบังหน้าเพื่อให้หญิงสาวปรากฏตัวออกมา
“ฮึ่ม!”
ซือเยี่ยจิ๋งที่แต่งตัวมิดชิดรวมไปถึงที่มือของเธอก็สวมนวมไว้ด้วย เห็นได้ชัดเลยว่าเธอเตรียมตัวเอาไว้แล้วก่อนจะมาที่นี่ หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวก็พ่นลมหายใจพร้อมกับก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เธอเข้าไปยืนขวางระหว่างชายชุดดำเหล่านั้นกับหลิวเฉียงเหว่ยไว้ด้วยหมัดที่กำแน่นและสายตาที่เยือกเย็น
“ดี ยัยนี่ก็ดูดีไม่น้อยเหมือนกัน จับเธอมัดด้วยอีกคน” ซูเจี่ยวมองซื่อเยี่ยจิ๋งที่ก้าวขึ้นมา เขาแสยะยิ้มหลังจากที่พิจารณาเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว
ผัวะ!
แม้ว่าซือเยี่ยจิ๋งจะดูตัวเล็กและอ่อนแอ ทว่าเธอนั้นกลับสามารถสู้ได้ดีเลยทีเดียว หญิงสาวยกขาขึ้นเตะปาดข้างตามด้วยกระโดดสูงและต่อยเข้าที่หน้าชายชุดดำที่อยู่ใกล้ ๆ อย่างว่องไวจนอีกฝ่ายกระเด็นลอยออกไป
ขณะที่ร่างบางเพิ่งลงมาแตะพื้น เธอก็ใช้เท้าข้างหนึ่งทะยานตัวเข้าไปเตะชายอีกคนหนึ่งด้วยขาที่ยาวของเธอ เพียงไม่นานชายชุดดำเจ็ดถึงแปดคนก็ลงไปกองกับพื้นโดยที่เธอไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น
“โอ้? สู้ได้ไม่เลวเลยนี่? พวกแกไปให้หมด ปิดทางเข้าออกให้ดีด้วย อย่าให้มีใครหนีออกไปได้!”
ซูเจี่ยวตกใจเล็กน้อยก่อนจะออกคำสั่งอีกครั้ง ทันใดนั้นชายกว่าสิบคนก็เดินตรงมาข้างหน้า และเข้าปะทะกับซือเยี่ยจิ๋งที่เพิ่งจะจัดการชายชุดดำเซ็ตก่อนหมด โดยที่ส่วนหนึ่งก็แยกตัวไปยืนขวางทางเข้าออกตึกนี้ไว้เพื่อปิดทางหนีของทั้งซือเยี่ยจิ๋งและหลิวเฉียงเหว่ย
“ฮ่า! ย้าก!”
ร่างที่ปราดเปรียวและยืดหยุ่นนั้นเข้าต่อสู้กับชายที่ตัวใหญ่กว่าอย่างไม่เกรงกลัว ทุก ๆ ครั้งที่เข้าปะทะกัน แม้จะโดนห้อมล้อมด้วยชายกว่ายี่สิบคน มันก็จะต้องมีศัตรูหนึ่งคนที่ถูกเธอเตะกระเด็นออกมาเสมอ
อย่างไรก็ตาม การต่อสู้เป็นเวลานานคือข้อจำกัดของเธอ ดังนั้นซือเยี่ยจิ๋งจึงขมวดคิ้วและมองหาทางออกด้วยความกังวลไปด้วย อย่างน้อย ๆ ไม่ให้ถูกล้อมจะดีที่สุด
ครั้งนี้หลิวเฉียงเหว่ยด่วนตัดสินใจมากเกินไปจนมันกลายเป็นความประมาท! ทั้ง ๆ ที่พวกเธอควรจะส่งข้อมูลไปให้เซียวเฟิงรู้และรอเขามาแท้ ๆ แก๊งชิงหลงนั้นต่างก็รวมพวกนักเลงที่มีประสบการณ์ไว้ร่วม ๆ ร้อยคนได้เลย หากต้องรับมือแค่สิบถึงยี่สิบคนมันคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ในเมื่อเห็น ๆ อยู่ว่าจำนวนของอีกฝ่ายมันมากกว่าขีดจำกัดของเธอ ซือเยี่ยจิ๋งก็จนแต้มเหมือนกัน!
“พวกแกนี่มีประโยชน์อะไรบ้างวะเนี่ย? กับอีแค่ผู้หญิงคนเดียวก็จัดการไม่ได้งั้นเหรอ? รีบ ๆ มัดเธอสิวะ!”
ยิ่งได้เห็นลูกน้องของตนถูกซือเยี่ยจิ๋งเตะเป็นลูกบอลลงไปกองเรื่อย ๆ มันก็ยิ่งทำให้เขาไม่มีความสุข
แต่ด้วยจำนวนคนที่เหนือกว่า ทันทีที่เขาพูดจบ ชายชุดดำอีกยี่สิบคนก็พุ่งเข้าใส่ซือเยี่ยจิ๋งอีก
หลิวเฉียงเหว่ยเองก็กำหมัดแน่นเหมือนกัน เธอรู้ว่าตนนั้นกระทำการโดยประมาทมากเกินไป นั่นก็เพราะเธอไม่คิดว่าแก๊งชิงหลงจะส่งคนเข้ามามากถึงขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่มีเป้าหมายเพียงแค่เธอ!
ขณะที่มองเหล่าชายชุดดำเข้าห้อมล้อมซือเยี่ยจิ๋ง ภายในใจของเธอก็ทำได้เพียงภาวนาให้ลูกพี่ลูกน้องของตนนั้นสามารถยื้อเวลาได้นานกว่านี้อีกหน่อยจนกว่าเซียวเฟิงจะมาถึง ซึ่งเรื่องนี้เองเธอก็มั่นใจว่าเซียวเฟิงจะต้องรู้แล้วแน่ ๆ
“อั่ก!!”
อย่างไรก็ตาม แม้ฝีมือจะดีขนาดไหน หากจำนวนต่างกันเกินไปมันก็ไร้ค่า ไม่ว่าซือเยี่ยจิ๋งจะมีทักษะในการต่อสู้สูงมากเพียงใด เธอก็ไม่สามารถรับมือกับผู้ชายปริมาณขนาดนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอไม่แข็งแกร่งพอที่จะล้มกลุ่มของชายที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ไปได้ตลอดแน่ ๆ เพราะงั้นจังหวะที่เธอพักหายใจ หญิงสาวก็โดนท่อนเหล็กฟาดเข้าที่ไหล่จนบาดเจ็บไปในที่สุด
ซือเยี่ยจิ๋งกัดฟันแน่นขณะที่กำลังข่มความเจ็บเอาไว้ แต่เพราะอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ จึงทำให้ความคล่องตัวของหญิงสาวลดลงไปในทันทีด้วย ท้ายสุดแล้วเธอก็ถูกชายเหล่านั้นสยบเข้าจนได้!
“แบบนั้นแหละ! จัดการเธอซะ!”
ซูเจี่ยวหัวเราะออกมาเสียงดัง ในตอนนี้ซือเยี่ยจิ๋งสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปแล้ว เพราะงั้นเธอจึงถูกจับตัวได้อย่างง่ายดายและไม่สามารถขยับหนีไปไหนได้อีก สิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้จึงมีแต่จ้องมองซูเจี่ยวด้วยความโกรธ
“ฉันไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าประธานเฉียงเหว่ยจะมีสาว ๆ ที่เก่งขนาดนี้อยู่เคียงข้างด้วย ดูไม่คุ้นตาเลยแฮะ ไอดีในเกมชื่อว่าอะไรล่ะ?”
เขาเดินยิ้มกว้างแล้วเข้าไปมองยังซือเยี่ยจิ๋งที่ถูกจับตัวไว้ ซูเจี่ยวยังไม่รู้ว่าเธอคือไนท์ คูนเนอร์ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ส่ายหน้าก่อนจะตบเข้าไปที่ใบหน้าสวยของอีกฝ่ายอย่างแรง
เพี้ยะ!
“เก่งนักไม่ใช่เหรอ? สู้ต่อไหมล่ะ? มัดยัยสองคนนี้แล้วเอาขึ้นรถ!” ซูเจี่ยวพูดอย่างเยือกเย็น
“ท่านประธาน!”
“ท่านประธาน!”
เหล่าพนักงานของมิดซัมเมอร์กรุ๊ปที่อยู่ภายใต้การควบคุมของชายชุดดำอดไม่ได้ที่จะเริ่มดิ้นรนเมื่อเห็นว่าประธานของพวกตนถูกจับตัวไป แต่ไม่ว่าพวกเขาจะดิ้นรนอย่างไร ก็ไม่สามารถสู้ทนกับการโดนฟาดด้วยท่อนเหล็กได้เลย
หลิวเฉียงเหว่ยรู้สึกหมดหวัง เธอกำหมัดแน่นขึ้นกว่าเดิมขณะที่ฟันก็กัดแรงราวกับจะบดขยี้กันเองเลยด้วย เธอเริ่มเสียใจกับการกระทำของตนเองขึ้นมาจริง ๆ แล้ว การที่ได้เห็นซือเยี่ยจิ๋งสู้จนตัวเองโดนจับแถมยังโดนตบหน้า รวมไปถึงได้เห็นเหล่าพนักงานของตนถูกทำร้ายโดยที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ มันเป็นอะไรที่น่าเศร้าและโกรธเคืองเสียเหลือเกิน
เธอเสียใจที่ไม่ปรึกษาเซียวเฟิงและทำอะไรโดยพลการเช่นนี้ ไม่เพียงแต่หญิงสาวจะทำอะไรไม่ได้แล้ว เธอยังต้องตกไปอยู่ในมือของแก๊งชิงหลงอีก ผลลัพธ์เช่นนี้มันเป็นอะไรที่คิดไม่ถึงจริง ๆ
“แกเป็นใคร!?”
“อ๊ากกก!!”
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ความสิ้นหวังกำลังครอบงำทุกสิ่งอย่าง ที่ด้านนอกของอาคารก็เกิดเสียงร้องโหวกเหวกดังขึ้น จากนั้นชายชุดดำที่รับหน้าที่ยืนเฝ้าประตูด้านหน้าก็กระเด็นเข้ามาภายในพร้อมกระแทกกับกลุ่มของชายชุดดำคนอื่น ๆ จนกระเด็นตามกันไปหมด ส่วนชายที่กระเด็นเข้ามานั้นสลบตั้งแต่ลอยเข้ามาข้างในแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น!?”
เมื่อรู้สึกได้ว่าบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้อง ซูเจี่ยวก็รีบมองไปด้านนอก แล้วก็พบว่าลูกน้องของตัวเองกำลังถอยกลับเข้ามาพร้อมกับจ้องมองไปยังชายที่กำลังเดินไล่พวกเขามาด้วยความหวาดกลัวไปด้วย
ชายผู้นั้นคือเซียวเฟิง เขากำลังค่อย ๆ เดินตรงเข้าไปด้วยความเยือกเย็น และด้วยความเยือกเย็นนั้น มันก็ทำให้เหล่าชายชุดดำได้แต่ถอยหลังกลับไปด้วยความหวาดกลัวดังที่เห็นด้วย นั่นเพราะไม่ว่าใครก็ตามที่พุ่งเข้าใส่เซียวเฟิง อีกฝ่ายก็จะถูกเตะกระเด็นพร้อมเสียงกระดูกหักตาม ๆ กันไปหมด
“เซียวเฟิง!”
ด้วยหัวใจที่เต้นรัว หลิวเฉียงเหว่ยรู้สึกโล่งอกและจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่มาใหม่ด้วยความหวัง ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นพร้อมกับความกังวลที่หายไปหมดในพริบตา หัวใจที่เต้นอยู่นั้นมันเต้นแรงจนเธอเองก็ยังได้ยินเสียงหัวใจของตนเองเลย
“พวกแกทั้งหมด ไปฆ่ามันซะ!”
ชายชุดดำที่กำลังถอยกลับอยู่หันมองซึ่งกันและกัน ก่อนจะตัดสินใจวิ่งเข้าไปหาเซียวเฟิงพร้อมกับฟาดเป้าหมายด้วยแท่งเหล็กในมือพร้อม ๆ กันด้วย
พลั่ก!
ผัวะ!
กร๊อบ!
ชายชุดดำเหล่านั้นถูกเซียวเฟิงถีบอย่างรวดเร็วจนกระเด็นลอยออกมาพร้อมเสียงกระดูกแตกทุกคน!