บทที่ 106 เป้าหมายสําเร็จ!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

บทที่ 106 เป้าหมายสําเร็จ!

เย่เทียนเปิดอ่านข้อมูลที่ได้รับมา ซึ่งมีรายละเอียดเนื้อหาที่เกี่ยวกับหอค่าย
กลซางเหอมากมาย

หอค่ายกลซางเหอถูกสร้างขึ้นโดยซางเหอหวาง ราชาซางเหอผู้เคยเป็น บุคคลที่มีชื่อเสียงของฐานทะเลมาร ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นยอดฝีมือระดับราชาเท่านั้น เขายังเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลระดับสูงอีกด้วย เขาเป็นหนึ่งในจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของฐานทะเลมาร และยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสร้างค่ายกลป้องกันของฐานทะเลมาร

ผู้ที่ผ่านหอคอยค่ายกลในแต่ละชั้นจะได้รับแผนผังค่ายกลและใครก็ตามที่ ผ่านชั้นที่เก้าแล้ว คนผู้นั้นจะกลายเป็นผู้สืบทอดของราชาซางเหอ

อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครกลายเป็นผู้สืบทอดของซางเหอเลยซัก คน สําหรับเหตุผลนั้นไม่มีใครรู้ รู้เพียงว่าผู้มีพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงจํานวน ไม่น้อยที่สามารถผ่านไปยังชั้นที่แปดได้ แต่พวกเขาก็กลับละทิ้งการทดสอบไป โดยไม่ขึ้นไปยังชั้นเก้าของกอคอย

แต่ต้องบอกว่าหอค่ายกลซางเหอมีแผนผังค่ายกลอยู่มากมาย การเข้าไปใน หอค่ายกลซางเหอมีประโยชน์ต่อปรมาจารย์ด้านค่ายกลมาก แต่มันก็อันตราย เช่นกัน ภายในหอคอยส่วนใหญ่ถูกติดตั้งค่ายกลสังหารไว้ ดังนั้นจึงจําเป็นต้อง เป็นผู้ฝึกยุทธในขอบเขตปรมาจารย์จึงจะรับภารกิจนี้ได้
มิเช่นนั้นหากเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญ ก็อาจจะต้องเอาชีวิตไปทิ้งตกตายในหอค่ายกลชางเหอ

เมื่อทราบสถานการณ์ของหอคอยค่ายกลซางเหอคร่าวๆแล้ว เย่เทียนก็มุ่ง
หน้าไปยังหอคอยค่ายกลซางเหอทันที

“ที่นี่หรอ!”

เย่เทียนมาถึงเขตเมืองเก่า ที่ตรงนี้เป็นเขตเมืองแห่งแรกของฐานทะเลมาร
แต่ปัจจุบันมันอยู่บริเวณชายขอบของฐานทะเลมาร มีผู้อยู่อาศัยไม่มากนัก แต่มันก็เงียบสงบมาก ผู้ฝึกยุทธที่อายุมากส่วนใหญ่เลือกที่จะตั้งรกรากอยู่บริเวณนี้

หอคอยค่ายกลซางเหอก็ตั้งอยู่ในพื้นที่นี้เช่นกัน สมาคมค่ายกลได้ปกป้อง
และดูแลมันเป็นอย่างดี พวกเขาจ้างทหารจํานวนหนึ่งมาเฝ้าที่นี่ไว้ทั้งกลางวัน และกลางคืน

เย่เทียนหยิบบัตรคะแนนและบัตรประชาชนออกมาให้ต่างหากที่เฝ้าอยู่ จากนั้นเขาก็เข้าไปด้านใน

ภายในหอคอย

ฟูม!!!

ทันทีที่เย่เทียนเข้ามาด้านในภูมิทัศน์โดยรอบก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เปลว เพลิงมากมายพลุ่งพล่านออกมาทําให้เย่เทียนรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกแห่งเปลวเพลิง

“ค่ายกลโจมตีเปลวเพลิง!”

สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนไปและรู้สึกสนใจเล็กน้อย

พลังโจมตีของเปลวเพลิงเหล่านี้แข็งแกร่งมาก หากเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญก็
ยากที่จะรักษาชีวิตไว้ได้ มีเพียงผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่จะสามารถ รับมือกับค่ายกลโจมตีเช่นนี้

“พรสวรรค์ด้านพละกําลัง”

“ทักษะดาบฟาดฟันวายุคราม!”

เย่เทียนปลดปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาทันที แต่ไม่นานการ โจมตีของเขาก็ถูกพลังที่แฝงเร้นอยู่ในค่ายกลสายหนึ่งพัดพาจนสลายไป

“เป็นอย่างที่คิดไว้ ไม่มีทางที่เราจะฉวยโอกาสได้ เว้นเสียแต่ว่าพลังของเรา จะบรรลุถึงระดับราชาเทียบเท่าราชาซางเหอ มิเช่นนั้นการโจมตีของเราจะถูก พลังที่แฝงเร้นของค่ายกลทําให้สลายไป!” เย่เทียนขมวดคิ้ว

การจะฝ่าค่ายกลนี้ได้ต้องอาศัยพรสวรรค์ด้านค่ายกลเพียงอย่างเดียวดังนั้นเย่เทียนจึงเปิดใช้งานพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูง

พริบตาเดียว พื้นที่เปลวเพลิงก็กลายเป็นมิติค่ายกล อักขระลวดลายมากมายปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของเย่เทียน

ในตอนนี้เขาเห็นภาพที่แตกต่างออกไป รูปแบบอักขระจํานวนมากเหล่านี้รวม กันเป็นเปลวเพลิงที่พุ่งเข้าโจมตีมายังเขา

เมื่อเห็นองค์ประกอบของค่ายกลเปลวเพลิง เย่เทียนก็ค่อยๆเริ่มแผนการโต้กลับ

“เราต้องทําลายจุดเชื่อมต่อค่ายกล!

เย่เทียนพยายามทําลายค่ายกลด้วยความช่วยเหลือของพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูง เขาพบแกนหลักของค่ายกลซึ่งก็คือข่ายอาคมที่เชื่อมระหว่างรูปแบบของค่ายกลแต่ละรูปแบบ

“สลาย!”

เย่เทียนรวบรวมลมปราณไว้ที่นิ้วและชี้ไปยังจุดเชื่อมต่อเหล่านั้น

ทันใดนั้นเมื่อจุดเชื่อมต่อแรกถูกทําลาย ค่ายกลเปลวเพลิงก็เริ่มไม่เสถียร
หลังจากนั้นเย่เทียนก็พบแกนหลักจุดเชื่อมต่ออื่นๆ และเริ่มทําลายมันอีกครั้ง
เมื่อจุดเชื่อมต่อมากกว่า 10 จุดถูกทําลาย ค่ายกลก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ สลายหายไปทันที

ค่ายกลโจมตีของชั้นแรกถูกทําลายลงแล้ว!

ชั้นหนึ่งของหอคอยกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่าและภาพวาดก็ปรากฏขึ้นในมือ
ของเย่เทียน

“แผนผังค่ายกลป้องกันขั้นต้น: ค่ายกลม่านฝน!”

เย่เทียนเก็บแผนผังค่ายกลระดับเริ่มต้นและเริ่มผ่าเข้าไปในชั้นที่สอง

ชั้นที่สองค่อนข้างซับซ้อนกว่าชั้นแรก มันเป็นค่ายกลเยือกแข็ง เย่เทียนใช้ เวลาหลายชั่วโมงในการทําลายค่ายกลนี้ โชคดีที่เย่เทียนแข็งแกร่งมาก เขา สามารถยืนหยัดในมิติค่ายกลได้นานกว่าปกติ หากปรมาจารย์ทั่วไปมายังที่แห่งนี้ พวกเขาคงถูกโจมตีจากค่ายกลเยือกแข็งนี้จนบาดเจ็บ ก่อนที่จะทําลายค่ายกลนี้ได้

ค่ายกลชั้นที่สามเป็นค่ายกลใบไม้เขียว มันเป็นค่ายกลโจมตีธาตุไม้ เย่เทียน ใช้เวลาเกือบหนึ่งวันกว่าจะทําลายค่ายกลได้ แต่เขาก็ต้องสูญเสียพลังปราณและกําลังกายไปอย่างมาก เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้ในการ ทดสอบของชั้นต่อไป

“ผ่านชั้นที่ 3 แล้ว เราได้รับแผนผังค่ายกลมา 3 แผ่น แผนผังค่ายกลป้องกัน ขั้นต้นหนึ่งแผ่น: ค่ายกลม่านฝน แผนผังค่ายกลธาตุไฟขั้นต้นหนึ่งแผ่น: ค่ายกล มังกรไฟทะยานฟ้า แผนผังค่ายกลซ่อนเร้นอีกหนึ่งแผ่น: ค่ายกลล่องหน นับว่า ได้กําไรไม่น้อย แต่ไม่รู้ว่าจะได้คะแนนเท่าไหร่?”

เย่เทียนนําแผนผังสามทั้งแผ่นออกจากหอคอยค่ายกลซางเหอ

หลังจากพักผ่อนหนึ่งคืน วันต่อมา เย่เทียนก็เดินทางไปยังสมาคมค่ายกล…
“ข้ามาส่งภารกิจ!”
เย่เทียนมาถึงโถงภารกิจ เพื่อส่งภารกิจหอค่ายกลซางเหอ

เจ้าหน้าที่หยิบบัตรประจําตัวเย่เทียนขึ้นมาตรวจสอบและยืนยันทันที

“ท่านได้ทําภารกิจสําเร็จแล้วจริงๆ และท่านก็ยังสามารถผ่านด่านที่สามได้ รางวัลรวม 900 คะแนน ชั้นแรกได้รับ 200 คะแนน ชั้นที่สอง 300 คะแนน ชั้นที่ สาม 400 คะแนน ปรมาจารย์เย่เทียน ในปีหน้าท่านสามารถรับภารกิจนี้ได้อีกครั้ง แต่หากไม่สามารถไปถึงชั้นที่ 4 ได้ ท่านก็จะไม่ได้รับรางวัลใดๆ

“เข้าใจแล้ว!” เย่เทียนพยักหน้า

เจ้าหน้าที่ส่งคะแนน 900 คะแนนให้เย่เทียนและถามว่า “ปรมาจารย์เย่เทียนท่านน่าจะได้แผนผังค่ายกลสามแผ่นจากหอค่ายกลซางเหอใช่หรือไม่? หากเป็นแผนผังที่ทางสมาคมค่ายกลยังไม่มี ท่านสามารถแลกมันเป็นคะแนนได้ ท่านคุณยินดีที่จะแลกคะแนนหรือไม่?

“ได้!”

เย่เทียนหยิบแผนผังค่ายกลทั้งสามแผ่นออกมา

น่าเสียดายที่มีเพียงแผนผังค่ายกลซ่อนเร้นเพียงแผ่นเดียวที่ทางสมาคมค่ายกลยังไม่มี อีกสองแผ่นทางสมาคมค่ายกลมีมันอยู่แล้ว จึงไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้

แต่ด้วยแผนผังค่ายกลเพียงแผ่นเดียว เย่เทียนก็ได้รับคะแนนถึง 500 คะแนนทําให้คะแนนของเย่เทียนเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เย่เทียนคํานวณอย่างรอบคอบ ตอนนี้เขามี 3,300 คะแนน ซึ่งเพียงพอที่จะ ซื้อแผนผังค่ายกลรวบรวมรวมลมปราณ 6 เท่า

ในความเป็นจริงแผนผังค่ายกลระดับต้นนั้นไม่ได้แพงขนาดนี้แต่เป็นเพราะสมาคมค่ายกลยังไม่มีมันเขาจึงสามารถแลกมันมาได้ 500 คะแนน

หากเขาต้องการแลกค่ายกลระดับเริ่มต้น 10 คะแนนก็เพียงพอแล้ว

เย่เทียนก็แลกแผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณ 6 เท่า แม้ว่าจะเป็นมันจะเป็นค่ายกลระดับกลาง แต่มูลค่าของมันเทียบได้กับค่ายกลระดับสูง ดังนั้นมันจึงมี มูลค่าถึง 2,000 คะแนน และเขาใช้คะแนนอีก 1,000 คะแนนเพื่อแลกแผ่นจานค่ายกลระดับสูง

เมื่อได้แผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณและแผ่นจานค่ายกลมาแล้ว ทุกอย่างก็เตรียมพร้อมแล้ว

สิ่งต่อไปคือการทําความเข้าใจรูปแบบค่ายกลและการจัดวางค่ายกลรวมรวมลมปราณโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะสามารถจารึกค่ายกลได้ เมื่อสามารถสร้างค่ายกลรวบรวมลมปราณได้สําเร็จ ภายในหนึ่งปี เย่