ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 184

นางหวังอย่างยิ่งว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้ตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง

“จื่ออัน!” มู่หรงเจี๋ยมองนาง หางตาที่เยือกเย็นของเขาแปรเปลี่ยนเป็นดวงตาที่อ่อนโยนอย่างหาใดเปรียบมิได้

“เพคะ!” จื่ออันตอบอย่างแผ่วเบา พยายามไม่สบตาเขา แม้ว่าเขาจะดูอ่อนโยนและเป็นมิตรมากแค่ไหน แต่หลังจากคืนนี้ไปเขาจะเปลี่ยนกลับไปเป็นผู้สำเร็จราชการผู้สูงส่งคนนั้น

นางไม่อาจปล่อยให้ตัวเองปรับตัวเข้าหาเขาผู้นี้ มิฉะนั้นเธอจะผิดหวังในอนาคต

“คืนนี้เจ้ากับข้ากลับไปที่วังด้วยกัน การเดินทางครั้งนี้อาจมีอันตราย แต่ว่าข้าจะปกป้องให้เจ้าปลอดภัยอย่างสุดกำลัง หลังจากกลับวังไปแล้ว หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี คืนนี้ประกาศเรื่องการอภิเษกสมรสของพวกเรา”

จื่ออันเงยหน้ามองเขา รอยแผลและเลือดที่คั่งบนใบหน้าของนางชัดเจนขึ้นเล็กน้อย “ท่านอ๋อง อภิเษกกับข้า คือ…” นางอยากถามว่าที่แต่งงานกับนางเป็นเพราะทำตามพระราชเสาวนีย์ หรือเพราะข้อดีเพียงเล็กน้อยของนาง?

แต่ก็ถามไม่ออก พอเกือบจะพูดออกมา ก็ต้องกลืนคำพูดเข้าไป”การอภิเษกกับข้านั้นเป็นความคิดของหวงไท่โฮ่ว ท่านสามารถคัดค้านพระองค์ได้”

“เหตุผลในการคัดค้าน?” มู่หรงเจี๋ยกล่าวถามอย่างแผ่วเบา ความอ่อนโยนในดวงตาของเขาได้หายไป แสงสีน้ำเงินอันตรายก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้น

“ท่านสามารถบอกกับหวงไท่โฮ่วว่า เซี่ยจื่ออันชั่วชีวิตนี้ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ ชื่อเสียงก็ฉาวโฉ่มาก ไม่เชี่ยวชาญดีดพิณ หมากล้อม เขียนพู่กัน หรือวาดภาพ…”

“ข้ากำลังพูดถึงเหตุผลใในการคัดค้านของเจ้า” มู่หรงเจี๋ยขัดจังหวะนาง

นางตกใจเล็กน้อย “เหตุผลที่ข้าจะคัดค้าน?”

“เจ้าไม่ตกลงที่จะอภิเษกกับข้าใช่-ไหม? งั้นเหตุผลที่เจ้าคัดค้านคืออะไร?” มู่หรงเจี๋ยถาม

จื่ออันส่ายหัว “ไม่ ไม่ใช่ ข้าแค่รู้จักตัวเองดี”

นอกจากนี้นางไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจในราชวงศ์ เมื่อนางอภิเษกกับผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ และกลายเป็นพระชายา นั่นก็หมายความว่าจะมีหลายสายตาที่จับจ้องมาที่นาง ซึ่งนางจะไม่เต็มใจที่จะยอมให้เป็นเช่นนั้น

มู่หรงเจี๋ยจ้องมาที่นาง ดวงตาของเขาเป็นประกาย “เซี่ยจื่ออันที่ข้ารู้จักเป็นคนที่ดื้อรั้น นิสัยทั้งแข็งกระด้างทั้งน่าเกลียด ลงมือได้เหี้ยมโหด และจะไม่มีวันดูถูกตัวเอง เจ้าไม่ใช่เซี่ยจื่ออันที่ข้ารู้จัก”

สีหน้าของจื่ออันเปลี่ยนไปเล็กน้อย ความดื้อรั้นนี้สามารถพูดออกมาได้ แต่ว่าลงมือได้เหี้ยมโหดนี่สิ.. เขาหมายถึงอะไร?

มู่หรงเจี๋ยเหมือนจะมองเห็นในหัวใจของนางได้ และกล่าวถามอย่างเรียบเฉยว่า “เจ้าฆ่าอาฟาใช่ไหม?”

จื่ออันตกตะลึง เขารู้ได้อย่างไร? ตอนที่ฆ่าอาฟาเขาไม่ได้อยู่ในวังนี่ ในคืนนั้นเขาออกไปข้างนอกกับหนี่หรงแล้ว

จื่ออันประหลาดใจมาก ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิของราชวงศ์ปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเขาจะมีความเมตตามากแค่ไหน ก็คงไม่อาจทนได้หากมีใครฆ่าคนที่วังหลัง ท้าทายอำนาจของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขากับคำว่าเมตตาสองคำนี้ แต่เดิมเขาก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำนี้เลย

มู่หรงเจี๋ยยื่นมือออกไปลูบที่รอยแผลบนใบหน้านางเบา ๆ นิ้วที่หยาบกร้านสัมผัสผิวของนางทำให้รู้สึกเจ็บแปลบ หัวใจของจื่ออันสั่นไหวเล็กน้อย สัมผัสไม่ได้ถึงความอ่อนโยนเลยสักนิด มีเพียงความกลัวและภัยคุกคามที่อธิบายไม่ได้ น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบราวกับอากาศที่ผ่านหิมะมา “เมื่อต้องรับมือกับคนที่ทำร้ายตัวเอง อย่าใจอ่อน เจ้ามีคุณสมบัติที่จะเป็นพระชายาของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ นับจากนี้ไป เจ้าจะยืนเคียงข้างข้า”

จื่ออันคิดว่าเขาจะพูดอะไรที่เป็นการข่มขู่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะพูดเช่นนี้

“ข้าฆ่าคน” จื่ออันรู้สึกเจ็บที่จมูกเล็กน้อย

“ข้าก็เคยฆ่าคน ฆ่ามากกว่าเจ้าหลายเท่านัก” มู่หรงเจี๋ยดึงมือกลับไป ดวงตาของเขายังคงเย็นชา “หากเจ้าไม่ฆ่า คนอื่นก็จะเข้ามาฆ่าเจ้า”

“ต่อไปข้าก็ยังจะฆ่าคนอีก” จื่ออันนึกถึงการตายของเจ้าของร่างคนเดิม ไม่ว่ายังไงก็ตาม นางจะต้องแก้แค้นให้เจ้าของร่างคนเดิมให้ได้

เนื่องจากนางได้เข้ามาแทนที่เจ้าของร่างคนเดิมเพื่อมีชีวิตอยู่ นางจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อล้างแค้นศัตรูที่ฆ่านาง

“ถ้าเจ้ามีความสามารถ ก็ฆ่ามันซะ” มู่หรงเจี๋ยหยิบมีดสั้นเล่มหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้นาง “มีดสั้นเล่มนี้เสด็จพ่อมอบให้ข้าเมื่อครั้งก่อน เป็นเหล็กดําที่หล่อขึ้นคมกริบไร้ที่เปรียบ จึงมอบให้แก่เจ้าเป็นการหมั้นหมาย”

จื่ออันสูดจมูกรับมีดสั้นมา “คนเขาให้ของหมั้นหมาย ส่วนใหญ่ส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับทองเงิน ไหนเลยจะให้มีดสั้นกัน?”

“เอาคืนมาถ้าเจ้าไม่ต้องการ!” มู่หรงเจี๋ยเอื้อมมือไปคว้ามัน

จื่ออันเอื้อมมือไปกอดเขาแล้วซุกหัวลงที่หน้าอกของเขา “ของที่ส่งออกไปไม่มีเหตุผลที่จะคืน”