บทที่ 321 หญิงแปลกและชายแปลก

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

จางหลานเป็นญาติผู้น้องของหานเจี๋ยและเคยเป็นหัวหน้าหน่วยสวาทหญิงมาก่อน มีหน้าตาสวยงาม เย่เทียนเฉินเคยพบมาก่อนแล้ว ต้องการรูปร่างก็มี ต้องการหน้าตาสวยงามก็มี ฝีมือก็ไม่จำเป็นต้องพูดแล้วร้ายกาจเป็นอย่างมาก สามารถประมือกับเย่เทียนเฉินที่ตอนนี้อยู่ในขอบเขตพลังระดับจอมราชันขั้นสูงได้ ผู้หญิงแปลที่หน้าตาดีคนนี้ทำให้เย่เทียนเฉินต้องเปลี่ยนมุมมอง

การเดิมพันของทั้งสอง ในตอนแรกที่เย่เทียนเฉินพุ่งเข้าไปในหุบเขาหมอกทมิฬเริ่มมีผลแล้ว ถ้าหากจางหลานช่วยหานเจี๋ยออกมาได้ก่อน ถ้าอย่างนั้นเย่เทียนเฉินก็ต้องยกน้ำชาเสิร์ฟน้ำให้เธอไปสามเดือน แต่ถ้าหากเย่เทียนเฉินหาตัวหานเจี๋ยได้ก่อน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมอบจูบแรกของตนให้กับเขานี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่ทั้งสองคนจริงจังเป็นอย่างมาก

ซาโต้เป็นคนระดับผู้อาวุโสของสำนักโฮคุชินอิตโตริว ในสำนักของพวกเขานับว่าเป็นยอดฝีมืออันดับสิบ ความสามารถแข็งแกร่งมาก เมื่อลงมือจะต้องมีพลังอำนาจที่ยากจะขัดขวางได้แน่นอน ครั้งนี้เขามาคุมด้วยตัวเองและยังพานักฆ่าทั้งสี่คนซึ่งรวมไปถึงเซนโทอินมาด้วย ต่างเป็นคนที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากในสำนักโฮคุชินอิตโตริวซึ่งอยู่ในยี่สิบอันดับแรก

สี่ราชานักฆ่า นี่เป็นชื่อที่ตั้งกันภายในสำนักโฮคุชินอิตโตริว สี่คนนี้เป็นยอดฝีมือสี่คนที่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่นของสำนักโฮคุชินอิตโตริว ถ้าหากต้องการเทียบความสามารถกับคนอื่นจริงๆ ก็สามารถเทียบได้กับเซนโทอิน กระทั่งแข็งแกร่งกว่าคาเอดะอิจิโร่ไม่น้อย

ในตอนนี้สี่ราชานักฆ่าที่เหลืออีกสามคนได้ยินคำพูดของซาโต้ก็รู้สึกตื่นตกใจ ด้วยความสามารถของพวกเขา ดูเหมือนว่าจะไม่มีคู่ต่อสู้ที่สู้ไม่ได้ ด้วยความสามารถของผู้อาวุโสซาโต้ บนโลกใบนี้จะหาคนที่สู้กับเขาได้นั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีเลย คนที่สามารถทำให้ผู้อาวุโสซาโต้ชื่นชมและให้ความสำคัญได้มีน้อยยิ่งกว่าน้อย

แต่นี้ก็สามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งของซาโต้ได้ ในตอนที่เย่เทียนเฉินเข้ามาในหุบเขาหมอกทมิฬและได้กางพลังพิเศษแห่งการรับรู้และพลังเขตแดนปิดกั้นนั้น ซาโต้ก็สามารถสัมผัสได้ถึงการมาเยือนของเย่เทียนเฉินแล้ว และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว พลังลมปราณอันแข็งแกร่งที่ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านที่เย่เทียนเฉินสัมผัสได้นั้นก็คือความผันผวนของพลังในร่างกายของซาโต้กระทั่งยังมีส่วนที่เก็บซ่อนเอาไว้ด้วย

“ผู้อาวุโส ผู้มาเยือนแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ เหรอครับ?” มือสังหารที่ยืนอยู่ตรงกลางถามขึ้นด้วยความไม่เชื่อแหละไม่ยอมรับ

ซาโต้มองไปยังราชานักฆ่าทั้งสามคนที่เหลือ จากนั้นจึงลืมตาขึ้นแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เซนโทอินตายไปแล้ว ครั้งนี้สมาชิกช่วยเหลือที่ประเทศจีนส่งมาไม่ใช่ทหารหน่วยรบพิเศษธรรมดา แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก บางทีพวกเราจะต้องลงมือ!”

“ผู้อาวุโสซาโต้คุณวางใจเถอะครับ พวกเราจะไม่ให้คุณมีโอกาสลงมือแน่!” มือสังหารชุดดำอีกคนนึงพูดอย่างมั่นใจในตัวเอง

“ครั้งนี้ ในเมื่อให้พวกเราสี่ราชานักฆ่าลงมือแล้ว ถ้ายังงั้นก็ต้องฆ่าทหารหน่วยรบพิเศษที่ชายแดนป่าหมอกดำให้หมด โจมตีประเทศจีนอย่างสาหัสที่สุด ให้พวกมันรู้ว่าถึงความร้ายกาจของสำนักโฮคุชินอิตโตริวของพวกเรา” มือสังหารอีกคนที่เหลือพูดอย่างโอหัง

“ผู้อาวุโสครับ เซนโทอินตายแล้ว?” มือสังหารชุดดำที่ยืนอยู่ตรงกลางผู้นั้น ถึงแม้จะยโสโอหังเช่นเดียวกัน แต่ก็น้อยกว่าและก็ใจเย็นกว่ามือสังหารอีกสองคนที่เหลือ เมื่อได้ยินว่าเซนโทอินตายไปแล้วเขาก็รู้สึกแปลกใจมาก

เซนโทอิน แม้จะไม่นับว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ราชานักฆ่าทั้งสี่คนอย่างพวกเขา แต่ก็ไม่ใช่คนที่อ่อนแอที่สุด นับว่าเป็นยอดฝีมืออายุน้อยอันดับต้นๆ ในสำนักโฮคุชินอิตโตริว เขาถูกส่งออกไปดึงดูดความสนใจ

เมื่อทหารหน่วยรบพิเศษที่ชายแดนลงมือ ถือโอกาสนี้สังหารทหารหน่วยรบพิเศษมากยิ่งขึ้น มอบการโจมตีอันสาหัสที่สุดให้กับประเทศจีน

ไหนเลยจะรู้ว่า ครั้งนี้เซนโทอินจะพบเข้ากับหลีหวังซึ่งเป็นคนที่มีความสามารถในขอบเขตนักรบอาวุโส เคยเป็นขุนพลทัพฟ้าชั้นกลางมาก่อน เมื่อต่อสู้กันทั้งสองจึงมีจุดจบที่ไม่อาจย้อนคืน ที่ทำให้เซนโทอินตกใจมากที่สุดก็คือ ในหลายปีมานี้ความสามารถของกองทัพจีนและพรรควรยุทธโบราณไม่ได้อ่อนแอลงแม้แต่น้อย กลับแข็งแกร่งด้วยซ้ำ ท่าทางประเทศชิบะคิดจะรุกรานประเทศจีนไ ม่เพียงแต่จะมีโอกาสริบหรี่ แต่ยังอาจจะถูกทำลายเองก็เป็นได้

“ตายแล้ว ฉันสัมผัสได้ว่าลมหายใจชีวิตของเขาตายไปแล้ว ในครั้งนี้คนที่ถูกส่งมาช่วยเหลือแข็งแกร่งมาก พวกแกอย่าได้ลำพองใจไป ฆ่าทหารหน่วยรบพิเศษคนอื่นซะ พวกเขามีความภูมิใจ คงไม่พูดออกมาแม้แต่ครึ่งคำ เหลือผู้หญิงคนนั้นเอาไว้เป็นแต้มต่อก็พอ!” ซาโตพยักหน้าแล้วพูดขึ้น

“ไฮ่!”

ราชานักฆ่าทั้งสามคนที่เหลือแห่งสำนักโฮคุชินอิตโตริวต่างเดินออกมาจากเต็นท์ของซาโต้ ถึงแม้ซาโต้จะกำชับครั้งแล้วครั้งเล่าแต่พวกเขาก็ไม่เชื่อโดยเด็ดขาด บนโลกใบนี้จะมีคนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าซาโต้อยู่ด้วยหรือ ต้องทราบว่าซาโต้ไม่ได้ลงมือมาเกือบยี่สิบปีแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสลงมือแต่ไม่จำเป็นต้องลงมือ กล่าวให้ชัดเจนก็คือไม่ได้พบกับศัตรูที่ควรค่าแก่การต่อสู้เลยจึงมอบหมายให้พวกเขาจัดการก็พอแล้ว

ฟิ้ว!

ตู้ม!

พลั่ก!

ความเร็วของจางหลานก็ไม่ช้า ดูเหมือนจะไล่ตามเย่เทียนเฉินได้ทันในเวลาไม่นาน ในมือขวามีมีดเล่มหนึ่งโผล่ออกมา เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอย่างมากและลงมืออย่างดุดัน ใช้หนึ่งกระบวนท่าฆ่าหนึ่งคนเช่นเดียวกัน

“ฉันฆ่าไปเจ็ดคนแล้วเธอล่ะ?” เย่เทียนเฉินจงใจถามอย่างท้าทาย

“หกคน!” ในตอนที่จางหลานพูดคำนี้ก็ทำหน้าทะเล้นใส่เย่เทียนเฉิน จากนั้นจึงพุ่งเข้าไปยังมือสังหารชุดดำอีกคนหนึ่ง

เย่เทียนเฉินแย้มยิ้มเล็กน้อย ภายใต้สถานการณ์การต่อสู้อันดุเดือดนี้ยังสามารถคุยเล่นกับสาวงามได้อีก ช่างเป็นความสุขที่ไม่เลวเลยจริงๆ ส่วนจางหลานก็เป็นผู้หญิงที่แปลกมากจริงๆ ในเวลาแบบนี้กลับยังมีอารมณ์มาทำหน้าทะเล้นใส่เย่เทียนเฉินด้วยดูซุกซนและน่ารักมาก

ตลอดทางเย่เทียนเฉินและจางหลานดูเหมือนจะฆ่าเปิดทางเข้าไปในหุบเขาหมอกทมิฬ เดินไปตามทางที่มีมือสังหารชุดดำพวกนั้นโผล่ออกมาขวางเอาไว้ ไม่ใช่เพราะฝีมือของพวกเขาไม่แข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่าจะเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงแปลกๆ ที่สวมเสื้อผ้าแบบคนเมืองแต่สวมรองเท้าบู๊ทแบบสูงคนนั้น เป็นผู้หญิงที่เป็นเหมือนมัจจุราชคนหนึ่ง แข็งแกร่งมาก

ในช่วงเวลาขณะนั้นเอง เบื้องหน้าของเย่เทียนเฉินและจางหลานเหลือมือสังหารชุดดำอยู่คนหนึ่ง มือสังหารชุดดำคนนั้นตกใจจนขาอ่อนแล้ว

จะอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่ายอดฝีมืออย่างพวกเขาจะถึงกับถูกคนฆ่าเหมือนหมูเหมือนหมา เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เทียนเฉินและจางหลานจึงไม่มีแรงแม้แต่จะตอบโต้เลยแม้แต่น้อย คนหนึ่งเป็นผู้หญิงแปลกๆ ที่สวมรองเท้าบู๊ท อีกคนเป็นผู้ชายแปลกๆ ที่ยิ้มอยู่ตลอดเวลาแม้ในยามฆ่าคน นี่เป็นเรื่องผิดปกติในเส้นทางทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ไม่มีใครขวางได้

“พวกแกพวกแกทำให้ผู้อาวุโสซาโต้โกรธแล้วพวกแกต้องตายทุกคน…” มือสังหารชุดดำคนที่เหลือเอ่ยปากพูดอย่างดุดัน

“ถ้าหากฉันฆ่าเขาฉันก็จะฆ่าไปแปดคน เธอเพิ่งจะฆ่าไปหกคน ถ้าเธอฆ่าเขาถ้าอย่างนั้นพวกเราก็เสมอกันเจ็ดต่อเจ็ด…” เย่เทียนเฉินมองไปยังจางหลานแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

ฉึก! มีดในมือขวาของจางหลานพุ่งออกไป และสิ่งที่ทำให้ผู้คนคิดไม่ถึงก็คือถึงกับพุ่งไปทางเย่เทียนเฉิน จนกระทั่งเย่เทียนเฉินหลบมีดเล่มนั้นจางหลานก็พุ่งไปยังมือสังหารที่เหลืออยู่แล้วต่อยออกไป

“หวา พอผู้หญิงบ้าขึ้นมาโหดเหี้ยมมากจริงๆ กล้ากระทั่งขายพี่ชายสุดหล่อตามใจชอบ!” เย่เทียนเฉินจับมีดที่พุ่งเข้ามาของจางหลานแล้วพูดออกมายังจนใจเล็กน้อย

“นายหล่องั้นเหรอ? ไม่เห็นรู้เลย…แหวะ!”

เย่เทียนเฉินได้เห็นฝีมือของจางหลานตลอดทางมาแล้ว ร้ายกาจและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เพียงเวลาแค่ชั่วพริบตาเธอก็กำจัดมือสังหารชุดดำคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เตะขาอันสวยงามของเธอจนมันกระเด็นออกไปตกกระแทกลงบนก้อนหินใหญ่อย่างรุนแรง หัวแตกเลือดไหลจนตาย

ถ้าหากจางหลานไม่ลงมือ หากไม่ใช่ว่าหานเจี๋ยเคยพูดถึงจางหลานให้เย่เทียนเฉินฟังมาก่อนแล้ว เกรงว่าหากต้องเผชิญหน้ากับสาวสวยแปลกๆ ที่ร้ายกาจขนาดนี้ เย่เทียนเฉินของจะต้องตกใจขนาดใหญ่เป็นแน่ แต่เมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็รู้สึกนับถือผู้หญิงคนนี้จริงๆ

“เจ็ดต่อเจ็ด พวกเราเสมอกัน นายเอาชนะฉันไม่ได้!” จางหลานทำหน้าทะเล้นใส่เย่เทียนเฉินอย่างซุกซน ห่อปากอันเซ็กซี่ตามมาตรฐานของเธอ แลบลิ้นออกมาจากปากเล็กๆ ดูท่าทางน่ารัก

“ยังไม่ถึงสุดท้ายเธอก็เริ่มโอหังซะแล้ว ระวังจูบแรกของเธอจะหายไปล่ะ!” เย่เทียนเฉินพูดจาหยอกล้อแล้วหัวเราะออกมา

“ไม่ต้องมายุ่ง เจ้าบ้ารอดูเถอะ!” ร้องหลานใช้ดวงตาอันงดงามกรอกตาใส่เย่เทียนเฉินเราพูดขึ้น

ฉัวะๆๆ!

เย่เทียนเฉินและจางหลานค่อนข้างเข้ากันได้ คนหนึ่งเป็นสาวงามแปลกๆ อีกคนเป็นผู้ชายเหลาะแหละที่มีทั้งด้านที่เป็นมัจจุราชและด้านที่เป็นอันธพาล เมื่อสองคนนี้รวมกลุ่มเข้าด้วยกันก็กลายเป็นกลุ่มคนแปลก สามารถกล่าวได้ว่าเป็นคู่ที่โรแมนติกและอบอุ่นมาก

เพียงแต่ว่าหลังจากที่จางหลานฆ่ามือสังหารชุดดำคนสุดท้ายนั้นแล้วก็มีมือสังหารชุดดำอีกสามคนพุ่งโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ด้านหน้า มือสังหารทั้งสามคนนี้ปรากฎตัวออกมาก็ไม่พูดทำทำเพลง สะบัดดาบออกไปยังจางหลานและเย่เทียนเฉิน

ปรานดาบสามสายที่ใหญ่โตและแฝงไปด้วยพลังอำนาจที่ทำลายอากาศได้ตัดผ่านทุกอย่างพุ่งไปยังจางหลานและเย่เทียนเฉิน เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์ที่กะทันหันแบบนี้อีกทั้งยังมีเงาดาบสามสายที่ใหญ่โตและทรงอำนาจขนาดนี้ จางหลานรู้สึกทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง จนกระทั่งเธอได้สติกลับมา ปราณดาบก็ฟันตรงลงมาที่ศีรษะของเธอแล้ว

“กรี๊ด…” ต่อให้จางหลานจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์อันตรายเช่นนี้ยังคงอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา

ฉัวะๆๆ!

ปรานดาบทั้งสามสลายไปทั้งหมด โจมตีถูกโล่ทองคำ ในช่วงเวลาสำคัญเย่เทียนเฉินพุ่งไปด้านหน้าจางหลานแล้วใช้ “โล่ทองคำ” ซึ่งเป็นเคล็ดวิชาพลังพิเศษสายทองคำออกมาขวางดาบทั้งสามที่ทรงอำนาจเอาไว้

เย่เทียนเฉินหยุดดาบทั้งสามที่มีพลังแข็งแกร่งนี้เอาไว้และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เนื่องจากโล่ทองคำที่เขากลางออกมาปรากฏรอยอยู่ สามรอย มือสองหาชุดดำทั้งสามคนที่อยู่เบื้องหน้าไม่ได้แข็งแกร่งธรรมดาเลยจริงๆ เป็นครั้งแรกที่มีคนสามารถทำลายโล่ทองคำของเย่เทียนเฉินได้

อย่างไรก็ตามมือสังหารชุดดำทั้งสามคนนี้กลับถูกทำให้ตื่นตะลึงจนนิ่งอึ้งไปมากกว่า พวกเขาสามคนเป็นสามราชานักฆ่าแห่งสำนักโฮคุชินอิตโตริว ได้รับฉายาว่าเป็นราชานักฆ่าได้ เห็นได้ชัดว่ามีความสามารถอย่างไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่สามคนนี้ลงมือพร้อมกันเลยขนาด แค่ใครคนใดคนหนึ่งลงมือก็ไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะขวางไว้ได้แล้ว ต่อให้ศัตรูเป็นยอดฝีมือก็ไม่สามารถขวางกั้นโจมตีผสานของคนทั้งสามได้ เพียงแต่ชายชาวจีนอายุน้อยเบื้องหน้าคนนี้ทำให้พวกเขาสั่นสะท้านอย่างอยากจะเชื่อ มิน่าล่ะผู้อาวุโสซาโต้ถึงบอกว่าในหมู่ยอดฝีมือที่มาช่วยคนครั้งนี้มีผู้แข็งแกร่งที่กระทั่งเขาก็อาจจะต้องลงมืออยู่