บทที่ 9 หักหลัง

ในขณะนั้นเอง เซียวชูหรันก็เกิดความคิดที่ไม่น่าเชื่อขึ้นมา

คุณชายเย่ที่หวังตงเสวี่ยนพูดถึง คงไม่ใช่เย่เฉินสามีของตนหรอกนะ?

แต่เมื่อคิดดูดีๆ เธอก็รู้ว่าสึกว่าเป็นไปไม่ได้

จะเป็นไปได้ยังไง!

เย่เฉินเป็นเด็กกำพร้าที่โตในสถานสงเคราะห์นะ!

แต่ว่าบนโลกใบนี้ นอกจากเย่เฉินแล้วยังจะมีใครที่ดีกับเธอได้ขนาดนี้อีก?

150ล้านนี่ก็หวังเกินตัวไปแล้วนะ แต่อีกฝ่ายกลับให้ถึง300ล้าน……

เธอถามหวังตงเสวี่ยนอย่างอดไม่ได้:“รองประธานหวัง ประธานของคุณชื่อเย่เฉินรึเปล่า?”

หวังตงเสวี่ยนตกใจเล็กน้อย คุณชายสั่งไว้แล้วว่าอย่าเปิดเผยตัวตน บอกได้แค่ว่าตนนามสกุลเย่ ถ้าหากภรรยาคุณชายเดาได้ขึ้นมา ตนต้องเดือดร้อนแน่ๆ?

เธอจึงรีบพูดขึ้น:“คุณเซียวไม่ต้องถามแล้วล่ะค่ะ ประธานของเราเป็นคนในตระกูลที่มีฐานะ และมีชื่อเสียงในเย่นจิง ตัวตนของเขาเป็นความลับสุดยอด ฉันไม่มีสิทธิ์เปิดเผย”

เซียวชูหรันพยักหน้าเบาๆ ที่หวังตงเสวี่ยนพูดว่า เป็นคนในตระกูลที่มีฐานะและมีชื่อเสียงในเย่นจิง ก็ทำให้เธอมีสติกลับมา

เย่เฉินเป็นเด็กกำพร้า ไม่ใช่คนในตระกูลที่มีฐานะและมีชื่อเสียงในเย่นจิงหรอก ดูท่าตนจะคิดมากไป

……

ตั้งแต่ออกมาจากห้องทำงานของหวังตงเสวี่ยน เซียวชูหรันก็ยังคงมึนๆงงอยู่

ในมือถือที่ถืออยู่ คือข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างตระกูลเซียวกับตี้เหากรุ๊ปมูลค่า300ล้าน

ทั้งหมดนี้ราวกับฝันไปอย่างไรอย่างนั้น

เซียวชูหรันเห็นเงาเย่เฉินจากประตูตี้เหากรุ๊ป จึงวิ่งไปด้วยความตื่นเต้น แล้วพูด:“เย่เฉิน ฉันเจรจาสำเร็จแล้ว”

เย่เฉินแอบยิ้มในใจ สามีคุณเป็นถึงประธานของตี้เหากรุ๊ปนะ คุณจะเจรจาไม่สำเร็จได้ยังไง?

แต่เขาแสร้งทำเป็นแปลกใจ:“โปรเจกต์ยากขนาดนั้นแต่คุณกลับทำสำเร็จแล้ว คุณนี่เก่งจริงๆเลย!”

เซียวชูหรันพูด:“โถ่ นี่ไม่ใช่เพราะฉันเก่งหรอก นี่มันเหมือนกับตี้เหากรุ๊ปให้มาฟรีซะมากกว่า”

“ยังไงเหรอ?”เย่เฉินจงใจถาม:“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ?”

เซียวชูหรันกลัวถ้าตัวเองพูดเรื่องประธานของตี้เหากรุ๊ปไป เย่เฉินจะหึงเอา เธอจึงรีบพูดขึ้น:“เอาเถอะ พูดแล้วเรื่องมันยาวหน่ะ เราไปบริษัทกันเถอะ ไปบอกข่าวดีนี้ให้ทุกคนรับรู้”

เย่เฉินพูดอย่างดีอกดีใจ:“โอเค!ครั้งนี้ไอ้สารเลวเซียวไห่หลงนั่น ต้องคุกเข่าก้มหัวให้ผมตามเดิมพันแล้วล่ะ!”

เซียวชูหรันพยักหน้าพลางพูด:“ปกติเขาเป็นคนเย่อหยิ่งอยู่แล้ว ควรให้บทเรียนเขาบ้าง!”

ที่จริงเซียวชูหรันก็มีความแค้นส่วนตัวเหมือนกัน เซียวไห่หลงและคนพวกนั้นดูถูกตนและสามีของตน ตอนนี้เธอเจรจาความร่วมมือสำเร็จแล้ว อยากให้หลังจากนี้พวกเขาเจียมตัวสักหน่อย

10กว่านาทีต่อมา ทั้งสองคนก็มถึงบริษัทเซียวซื่อ

ณ ห้องประชุม ทุกคนในตระกูลเซียวล้วนมีสีหน้าประหลาดใจ

พวกเขารู่ว่าเซียวชูหรันไปตี้เหากรุ๊ปตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ทุกคนไม่เชื่อว่าเธอจะทำได้ ล้วนรอหัวเราะเยาะเธออยู่

แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะกลับมาเร็วแบบนี้

เมื่อเซียวชูหรันและเย่เฉินเข้ามาในห้องประชุม สายตาทุกคนก็เต็มไปด้วยความดูถูก

เซียวไห่หลงพูดอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย:“โถ่ชูหรัน นี่แค่ครึ่งชั่วโมงกว่าๆเองก็กลับมาซะแล้วงั้นเหรอ ?คงไม่ใช่แม้แต่ประตูตี้เหากรุ๊ปก็เข้าไม่ได้หรอกนะ!ฮ่าๆๆๆ!”

เซียวเวยเวยน้องสาวของเขาก็พูดเย้ยหยันเช่นกัน:“โถ่พี่ชูหรัน ไม่ทันถึง1ชั่วโมงก็ประกาศความล้มเหลวซะแล้ว พี่นี่ทำลายสถิติเลยนะ?”

สีหน้าของนายหญิงใหญ่เซียวก็เคร่งขรึมเช่นกัน ภารกิจตี้เหากรุ๊ปนี่ยากมากจริงๆ ถึงเซียวชูหรันจะเจรจาไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็ต้องระมัดระวังท่าทีไว้บ้าง?ล้มเลิกอย่างรวดเร็วแบบนี้ ทำเอาเธอโมโหมากๆ

นายหญิงใหญ่เซียวจึงจ้องเธอเขม็ง พลางพูด:“เซียวชูหรัน แกทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ”

เย่เฉินได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วเป็นปมทันที

คนพวกนี้น่าขยะแขยงจริงๆ?ยังไม่ทันถามผลลัพธ์เลย ก็เยาะเย้ยกันก่อนซะแล้ว?

โดยเฉพาะไอ้สารเลวเซียวไห่หลง มันแม่งมีสิทธิ์อะไร?อีกเดี๋ยวแกก็ต้องคุกเข่าก้มหัวให้ฉัน!

เดิมทีเซียวชูหรันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ตอนนี้คำพูดของทุกคน ทำให้เธอเสียกำลังใจอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เธอพูดขึ้นอย่างโมโห:“ขอโทษนะคะที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง หวังตงเสวี่ยนของตี้เหากรุ๊ป เจรจาความร่วมมือกับฉันสำเร็จแล้วค่ะ!”

“ว่าไงนะ?แกเจรจาสำเร็จงั้นเหรอ?”

“เป็นไปไม่ได้!เป็นไปได้ยังไง!แม้แต่หน้าของหวังตงเสวี่ยนแกยังไม่มีทางได้เจอหรอก!”

ทุกคนล้วนตกตะลึง

“เซียวชูหรัน แกคิดว่าพวเราจะเชื่องั้นเหรอ?”

เซียวไห่หลงได้สติกลับมา ตบโต๊ะแล้วพูดขึ้นอย่างโมโห:“รองประธานหวังของตี้เหากรุ๊ป เป็นนักธุรกิจระดับหัวกะทิที่เป็นที่รู้จักในเมือง เธอจะให้แกเข้าพบได้ยังไง แกเป็นใครแกไม่รู้ตัวเองเลยเหรอ?”

เมื่อต้องเผชิญกับข้อสงสัยและคำตำหนิของทุกคน เซียวชูหรันจึงหยิบสัญญาออกมา ส่งให้นายหญิงใหญ่เซียว:“นี่คือสัญญาโปรเจกต์ของตี้เหากรุ๊ป คุณย่าดูเถอะค่ะ”

สัญญาฉบับนี้ราวกับลูกระเบิดอย่างไรอย่างนั้น ทำเอาคนพวกนี้ระเบิดออกมาทันที!

เซียวไห่หลงยังคงไม่เชื่อ พูดตะโกนเสียงดัง:“นี่เป็นสัญญาที่แกปลอมขึ้นมาแน่ๆ!ฉันไม่เชื่อว่าแกจะเจรจากับตี้เหากรุ๊ปสำเร็จ!”

“ใช่!”เซียวเวยเวยก็พูดเสริมอยู่อีกด้าน:“ตี้เหากรุ๊ปจะไปเซ็นสัญญากับพี่ได้ยังไง ?นี่เป็นถึงโปรเจกต์ใหญ่มูลค่า150ล้านนะ!ถ้าพี่ทำได้จริง ฉันคงทำได้ไปตั้งนานแล้วเหมือนกัน!”

เซียวชูหรันพูดขึ้น:“น้องสาว เธออย่าเข้าใจผิดสิ สัญญานี้ไม่ใช่150ล้านจ่ะ แต่เป็น300ล้าน!”

“ออกไปเหอะ!”เซียวเวยเวยพูดเย้ยหยัน:“สัญญามูลค่า300ล้านงั้นเหรอ?ยังกล้าพูดออกมาอีกนะ!เห็นว่าพวกเราโง่เหรอ?ถ้าพี่บอกว่าเซ็นสัญญาได้300ล้าน ฉันคงเซ็นได้5พันล้านแล้วล่ะ!”

เซียวไห่หลงก็พูดเย้ยหยันเช่นกัน:“ชูหรัน แกล้อคุณย่า ล้อพวกเราเล่นงั้นเหรอ!”

พูดจบเขาก็หันไปพูดกับนายหญิงใหญ่เซียว:“คุณย่า!ชูหรันหักหลังกันชัดๆ!ย่าอย่าปล่อยเธอไว้นะครับ!”

นายหญิงใหญ่เซียวก็โกรธมากเช่นกัน 150ล้านยังเป็นไปไม่ค่อยได้เลย เซียวชูหรันไปแค่ครึ่งชั่วโมง แล้วกลับมาบอกตนว่าเซ็นสัญญาได้300ล้านเนี่ยนะ……

นี่ก็เท่ากับเห็นตนเป็นคนโง่ ต่อหน้าคนเยอะแยะขนาดนี้ใช่ไหม?

เป็นผู้นำตระกูลมาเสียเปล่าจริงๆ?

หลานนอกคอกแบบนี้ ถ้าไม่ไล่ออกไป ต่อไปจะยืนหยัดอยู่ในตระกูลได้ยังไง?

นายหญิงใหญ่เซียวโมโหมาก เธอตบโต๊ะแล้วตะโกนเสียงดัง:“เซียวชูหรัน!รีบไปแผนกบุคคลแล้วลาออกเดี๋ยวนี้!”

เซียวชูหรันร้อนรนมาก คนพวกนี้เป็นบ้ากันไปแล้วเหรอ?แค่เปิดสัญญาดูมันจะตายรึไง?

ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนออกมาเสียงดัง:“เชี่ย!บัญชีทางการของตี้เหากรุ๊ปโพสต์แล้ว!สัญญา300ล้านเป็นเรื่องจริง!”