ตอนที่ 222: ทำลายล้างตระกูลเทียนซ่ง (3)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 222: ทำลายล้างตระกูลเทียนซ่ง (3)

ในขณะที่กลุ่มคนในห้องโถงคุยกันเด็กหนุ่มอายุ 20 ปีสวมเสื้อคลุมสีขาวกำลังเดินอยู่หน้าประตูของตระกูลเทียนซ่ง เขาค่อนข้างรูปงามด้วยใบหน้าที่สามารถอธิบายได้ว่าสมบูรณ์แบบ เพิ่มเสน่ห์ตามธรรมชาติให้กับบุคลิกภาพของเขา ทำให้รู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน.

เด็กหนุ่มคนนี้คือเจี้ยนเฉิน

เมื่อมองไปที่ห้องโถงใหญ่ ดวงตาของเจี้ยนเฉินทอประกายอำมหิต ความทรงจำเมื่อเขาถูกเทียนซ่งหลีไล่ล่าครั้งแรกยังคงค่อนข้างชัดเจนในใจ โดยปกติแล้วเจี้ยนเฉินไม่ใช่คนใจคอคับแคบ แต่เมื่อต้องต่อต้านตระกูลเทียนซ่ง เขาจะไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป

บุญคุณต้องทดแทนความแค้นต้องชำระ หากมีใครช่วยเหลือก็ต้องตอบแทน หากความเกลียดชังถูกจารึกไว้ลึกลงไปในกระดูกก็ต้องล้างแค้นเอาคืนเป็นร้อยเท่า นี่เป็นคติประจำใจที่เจี้ยนเฉินเก็บไว้ในใจในฐานะเซียนในโลกที่ผ่านมา จนถึงวันนี้เจี้ยนเฉินก็ยังไม่ได้เปลี่ยนความคิดของเขา

ลานบ้านของตระกูลเทียนซ่งค่อนข้างเรียบง่าย มีประตูสูงที่เปิดกว้างเอาไว้โดยไม่มีปัญหา เมื่อมองเข้าไปจะเห็นคนที่มีร่างกายกำยำ 8 คนซึ่งพวกเขาจะจ้องกลับมาด้วยแววตาที่โหดเหี้ยม

เจี้ยนเฉินชะลอความเร็วลงในขณะที่เขาเดินไปยังลานโล่งอย่างใจเย็นราวกับว่าเขากำลังเดินเล่นอยู่ ในความเป็นจริง เขาดูสบายใจราวกับว่าไม่มีศัตรูอาฆาตแค้น

ยามแปดคนที่เฝ้าประตูตระหนักว่าเจี้ยนเฉินกำลังมาหาพวกเขา ดังนั้นเมื่อเขาเข้ามาใกล้ ชายสองคนก็ขวางทางเขาและเรียกเขาไว้ หยุดนะ ! เจ้ามีเรื่องอะไรที่นี่”

เจี้ยนเฉินมองไปที่ชายสองคนต่อหน้าเขาในที่สุดก็เผยให้เห็นรอยยิ้มอันเย็นชา “ข้ามาฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด”

ยามทั้งหมดจ้องเขาขณะที่พวกเขางงกับคำตอบ ในขณะที่คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดอย่างไม่ทันระวังตัว ทันใดนั้นก็มีแสงประกายสว่างไสวเมื่อกระบี่วายุโปรยพุ่งเข้าใส่ทหารยาม ทันใดนั้นปลายกระบี่ก็ทะลุผ่านคอของพวกเขา

การโจมตีของเจี้ยนเฉินเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และยามเหล่านี้ก็เป็นเพียงเซียนธรรมดา พวกเขาจึงไม่ทันดึงอาวุธเซียนออกมาได้ทันเวลา ดังนั้นในพริบตายามทั้งแปดคนจึงถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย

หลังจากที่ฆ่าคนเหล่านี้ เจี้ยนเฉินยังคงเดินหน้าผ่านธรณีประตูเข้าสู่สนามซึ่งมีกลุ่มสมาชิกของตระกูลอยู่

เจ้าเป็นใคร ?

“หยุดตรงนั้น !”

ขณะที่เจี้ยนเฉินเข้ามาในสนามหญ้าเสียงตะโกนดังขึ้นรอบตัวเขาในขณะที่เงาของชายสองคนจู่โจมเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินหัวเราะกับตัวเอง “ไม่น่าแปลกใจที่ตระกูลเทียนซ่งเคยเป็นกลุ่มอันดับหนึ่งมาก่อน ใครจะคิดว่าถัดจากประตู สนามหญ้าจะมีเซียนผู้เชี่ยวชาญ 2 คนคอยซุ่มอยู่”

เซียนผู้เชี่ยวชาญกระโดดลงมาอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาที่เจี้ยนเฉินใช้ความคิด พวกเขาก็มาถึงด้านหน้าของเจี้ยนเฉินและนำกระบี่ออกมาเตรียมที่จะต่อสู้กับเขา พลังเซียนที่แข็งแกร่งมาพร้อมกับกระบี่ของพวกเขาขณะที่พวกเขาเหวี่ยงมันใส่เจี้ยนเฉิน

เซียนผู้เชี่ยวชาญทั้งสองนี้คอยดูแลประตูจากด้านใน และเมื่อพวกเขาเห็นเจี้ยนเฉินข้ามเข้าไปในลาน พวกเขาจึงรีบเข้ามาขวาง เนื่องจากพวกเขาสามารถเห็นทั้งแปดศพของยาม พวกเขารู้ว่าเจี้ยนเฉินไม่ใช่ศัตรูที่อ่อนแอและเป็นคนที่มุ่งร้าย

อาวุธเซียนบินห่างจากเจี้ยนเฉินเพียงครึ่งเมตร กระบี่วายุโปรยปรากฏขึ้นอีกครั้งในมือของเขา ด้วยการโค้งของแสงสีเงิน กระบี่วายุโปรยบินออกไปที่กระบี่ทั้งสองด้วยความเร็วที่นึกไม่ถึง ตอนที่อาวุธเซียนทั้งสองอยู่ห่างจากเจี้ยนเฉินเพียง 3 นิ้ว เขาได้แทงคอของเซียนผู้เชี่ยวชาญสองคนไปแล้ว

หลังจากนั้น ร่างของเจี้ยนเฉินก็หายแวบไปขณะที่เขาปรากฏขึ้นอีกครั้งห่างออกไป 3 ก้าวจากตำแหน่งเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงอาวุธเซียนทั้งสองที่เพิ่งพุ่งเข้ามา

เพราะตอนนี้เป็นเวลาเช้า ลานบ้านของตระกูลเทียนซ่งจึงมีผู้คนมากมายออกกำลังกายในตอนเช้า สมาชิกบางคนกำลังเดินเล่นอยู่รอบ ๆ บ้าน แต่เมื่อพวกเขาเห็นเจี้ยนเฉินฆ่าเซียนผู้เชี่ยวชาญไป 2 คน พวกเขาจึงหยุดชะงักและส่งเสียงเตือน

“มีคนร้ายอยู่ที่นี่ ! “

“มีคนกำลังสร้างความวุ่นวาย ! “

“ศัตรูอยู่ที่ประตูของเรา ทุกคนเตรียมพร้อม ! “

ตระกูลเทียนซ่งที่เงียบสงบก่อนหน้านี้ได้ปะทุเสียงดังขึ้นขณะที่มีเสียงตะโกนสั่น ๆ ดังออกมา คนที่มั่นใจก็พุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน ในขณะที่คนอื่นวิ่งกลับเข้าไปในห้องโถงทันทีเพื่อแจ้งเตือนหัวหน้าตระกูล เทียนซ่งหลี

เมื่อเห็นกลุ่มคนแยกออก ใบหน้าที่เฉื่อยชาของเจี้ยนเฉินเริ่มเย็นลงเมื่อเขาเยาะเย้ย ไม่นานหลังจากนั้นกระบี่วายุโปรยก็ขยับเข้าหากันเพื่อพบกับศัตรูของเขา

หลังจากแสงเจิดจ้าสีเงิน พวกผู้ชายที่กวัดแกว่งอาวุธเซียนถูกตัดคอโดยดาบของเจี้ยนเฉินในทันที

เจี้ยนเฉินมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะฆ่าใครก็ตามในตระกูลเทียนซ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่ปล่อยให้ผู้ใดหนีรอดไปได้

เมื่อเสียงตะโกนและเสียงร้องดังขึ้น ผู้คนของตระกูลเทียนซ่งก็ตื่นขึ้นและพวกเขาก็เริ่มวิ่งไปหาต้นเสียง แม้ว่าคนในตระกูลจะลดลงเล็กน้อยในปีที่ผ่านมา แต่เดิมนั้นพวกเขาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองเวค ดังนั้นจึงไม่สามารถประมาทความแข็งแกร่งของตระกูลนี้ได้ ผู้คนมากมายวิ่งมาที่ลานบ้าน ขณะที่ผู้คนวิ่งออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เจี้ยนเฉินก็ค่อย ๆ ถูกล้อมรอบ

ภายในห้องโถงหลักของตระกูลเทียนซ่ง เทียนซ่งหลีกำลังปรึกษากับหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างหลายคน แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงต่อสู้ข้างนอก เขาก็ขมวดคิ้วด้วยความสับสน แม้แต่หัวหน้าทหารรับจ้างต่างก็มองหน้ากันด้วยความสงสัยและงุนงงในขณะที่พวกเขาพยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก

“เกิดอะไรขึ้นข้างนอก ทำไมเสียงถึงดังมาก ? ” เทียนซ่งหลีร้องถามคนรอบข้าง

” ท่าน ท่านหัวหน้า มีชายคนหนึ่งกำลังสร้างความวุ่นวายให้ตระกูลเทียนซ่งของเรา เขาฆ่าทหารยามของเราไปแล้ว 10 คนโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ! ” ชายคนหนึ่งร้องออกมาอย่างเร่งรีบขณะที่เขาวิ่งเข้ามาในห้องโถง

เทียนซ่งหลีตาลุกเป็นไฟ เขาตะโกนว่า “อะไรนะ ? มีคนกล้าเข้ามาสร้างปัญหาในตระกูลเทียนซ่งของเราอย่างนั้นหรือ ? “

“ใช่แล้ว นายท่าน ! ชายคนนั้นแข็งแกร่งมาก และเขาฆ่าทหารยามที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญไป 2 คน ! ” ชายผู้นั้นตอบ

“ฮึ่ม ! ” ดวงตาของเทียนซ่งหลีเปล่งประกายความเกลียดชังขณะที่เขาถ่มน้ำลายออกมา “เขาใจร้อนมากอยากจะรีบตายซินะ ถึงกล้าเข้ามาหาเรื่องในตระกูลเทียนซ่ง ข้าจะออกไปดูเองว่ามันเป็นใคร ! “