บทที่ 60 ดาร์ก เดม่อนตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活]

บทที่ 60 ดาร์ก เดม่อนตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

คาบเรียนแรกของช่วงบ่ายเป็นคาบวิชาปรุงยา

ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของคาบเรียน ศาสตราจารย์ทอมป์สันได้ทบทวนการปรุง [น้ำยาเวทมนตร์ความเร็วสูง] กับนักเรียน

และในชั่วโมงต่อมา เขาก็สอนการปรุง [น้ำยาฟื้นฟูพลังเวทมนตร์] แบบทั่วไป

ด้วยความประมาทของสองคู่หู เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตจึงทำผิดพลาดมากมาย จนเกิดเสียงหัวเราะขึ้นภายในชั้นเรียน

ตรงกันข้าม ดาร์กปรุงยาด้วยวิธีธรรมดา ๆ และหลังจากที่ได้รับอนุญาตจากศาสตราจารย์แล้ว เขาก็ไปช่วยไดแอนนาที่ซุ่มซ่ามปรุงยา

เมื่อต้องปรุงยา ไดแอนนานั้นไม่ระมัดระวังเท่าโรสสักเท่าไหร่

แม้ว่าเธอจะมีความอดทนสูง แต่น้ำยาบางชนิดก็ไม่จำเป็นต้องอดทน

น้ำยาส่วนใหญ่จะกำหนดเวลาสำหรับการปรุง

เมื่อเกินเวลาที่กำหนด วัตถุดิบบางอย่างจะสูญเสียประสิทธิภาพไปในทันที

นั่นคือเหตุผลที่ศาสตราจารย์ทอมป์สันสนับสนุนให้นักเรียนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

แน่นอนว่าถ้ามีใครทำไม่ได้ หนำซ้ำยังขอความช่วยเหลือจากเพื่อนไม่ได้อีก เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว

ในตอนที่ดาร์กกำลังสอนไดแอนนา เขาก็สังเกตเห็นว่าแม้เอ็มม่าจะดูหงุดหงิด แต่ที่จริงแล้วเธอกำลังช่วยเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่รอบ ๆ อยู่

งานเลี้ยงน้ำชาของสาว ๆ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาดูท่าจะส่งผลกับเธออย่างมาก

แต่อย่างน้อยเธอก็ได้เรียนรู้วิธีการเข้าสังคมกับผู้อื่นล่ะนะ

คาบวิชาปรุงยาจบลง

ดาร์กไม่ได้ตรงไปห้องสมุดในทันทีเหมือนปกติ แต่เจ้าตัวกลับนั่งอยู่ในห้องเรียนต่ออีกครู่หนึ่ง

กระทั่งเห็นเวอร์เธอร์และโรเบิร์ตเดินไปหอคอยของบ้านอัศวิน เขาถึงค่อยไปที่ห้องสมุดพร้อมกับความผิดหวังเล็กน้อย

วันนี้ศาสตราจารย์ทอมป์สันมอบหมายการบ้านที่เกี่ยวข้องกับ [น้ำยาฟื้นฟูพลังเวทมนตร์] ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงกว่าจะเสร็จ

หลังจากที่ดาร์กพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องแล้ว เขาก็เริ่มทำการบ้าน

ความแตกต่างระหว่าง [น้ำยาฟื้นฟูพลังเวทมนตร์] และ [น้ำยาเวทมนตร์ความเร็วสูง] คืออย่างหนึ่งสามารถฟื้นฟูพลังงานเวทมนตร์ได้อย่างต่อเนื่องในปริมาณมากได้

หากน้ำยาทั้งสองอย่างนี้ทำเป็นการ์ดเวทมนตร์ได้ พวกมันคงจะกลายเป็นการ์ดเมจิกเติมพลังงานซึ่งคล้ายกับ [เหรียญทอง X3] ของเอ็มม่า

ดาร์กเพิ่มความคิดเห็นของเขา และรายงานที่น่าพอใจก็เสร็จสมบูรณ์

ขณะเดียวกัน เขาก็เริ่มพิจารณาด้วยว่าจะเพิ่มการ์ดเมจิกเติมพลังงานสองสามใบลงในสำรับของเขาดีไหม

ณ ห้องส่วนกลางของบ้านอัศวิน

หลังจากเงียบไปนาน เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตที่เพิ่งเล่นหมากรุกเวทมนตร์เสร็จก็เก็บกระดาน

ระหว่างทางไปห้องสมุด โรเบิร์ตก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “เวอร์เธอร์ นายวางแผนที่จะหยุดใช้การ์ดดอกไม้ใบนั้นจริง ๆ เหรอ?”

เวอร์เธอร์ดูผิดหวังมาก “ฉันจะทำอะไรได้อีก? ศาสตราจารย์เคเซอร์บอกไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าถ้าเขาเห็นฉันใช้มันอีกครั้ง มันจะไม่จบแค่การหักห้าสิบคะแนนแน่”

โรเบิร์ตหันไปมองรอบ ๆ ตัว เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ เขาก็พูดขึ้นมาว่า “แต่เมื่อเช้า ตอนที่เราใช้มันก็เป็นไปด้วยดีไม่ใช่เหรอ? ตราบใดที่เราไม่ไปส่องอาจารย์อีก นักเรียนธรรมดาก็ตรวจจับไม่เจอหรอก ยิ่งกว่านั้น แม่กุญแจในการ์ด…”

“พูดถึงแม่กุญแจ” เวอร์เธอร์อุทานออกมาทันที “ฉันว่า…ดาร์ก เดม่อนเป็นคนดีจริง ๆ”

โรเบิร์ตมึนงง “อะไรนะ?”

เวอร์เธอร์กล่าว “รู้ไหมว่าใครอยู่ในห้องทำงานตอนที่ฉันโดนด่าเมื่อเที่ยง”

โรเบิร์ตงงเข้าไปอีก “จะมีใครอีกนอกจากศาสตราจารย์เคเซอร์”

“ศาสตราจารย์ไม่ได้อยู่คนเดียว” เวอร์เธอร์ถอนหายใจ “ในตอนนั้น ดาร์กก็อยู่ที่นั่นด้วย! ถ้าเขาไม่อยู่ที่นั่น ฉันคงทนต่อแรงกดดันจากศาสตราจารย์ไม่ได้หรอก อีกอย่าง ฉันคิดว่าเขาคงตั้งใจไปที่ห้องทำงานของอาจารย์เพื่อช่วยไม่ให้ฉันเครียดมาก”

โรเบิร์ตประหลาดใจ “เดี๋ยวก่อนนะ เวอร์เธอร์ ทำไมนายถึงคิดอย่างนั้น ดาร์กจะเป็นคนดีขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เวอร์เธอร์ส่ายหัว “อย่าพูดอย่างนั้นสิ เราไม่ได้รู้จักเขาดีพอสักหน่อย บางทีการรุดไปทักทายเมื่อตอนเช้าอาจส่งผลจริง ๆ ก็ได้นะ”

โรเบิร์ตแย้ง “แต่ค่าความชื่นชอบลดลงนะ เวอร์เธอร์!”

เวอร์เธอร์ตอบ “ความชื่นชอบมันผันผวนได้อยู่แล้ว เพราะงั้นตัวเลขนั้นอาจเป็นแค่เลขชั่วคราว”

โรเบิร์ตเสนอ “งั้นเราไปตรวจสอบเขาอีกครั้ง ตอนนี้เขาต้องอยู่ในห้องสมุดแน่ ๆ”

เวอร์เธอร์ปฏิเสธ “ไม่ ฉันจะไม่ใช้มันอีกต่อไปแล้ว”

โรเบิร์ตยุ “แต่นายไม่อยากรู้ว่าเหรอว่ารุ่นพี่แพนดอร่าชอบนายมากแค่ไหน?”

เวอร์เธอร์ชะงัก “ฉัน…”

ภายใต้การยุยงอย่างต่อเนื่องของโรเบิร์ต เวอร์เธอร์ก็เริ่มหวั่นไหว

“ใช้แค่ครั้งเดียว ตราบใดที่เราไม่โดนจับได้…”

“นายใช้มันไปหลายครั้งในตอนเช้าแล้ว และไม่มีใครสังเกตเห็นหรอกน่า”

“ตราบใดที่ไม่ได้ใช้มันกับศาสตราจารย์…”

โรเบิร์ตโน้มตัวเข้ามาใกล้ “ใช้มันเป็นครั้งสุดท้าย!”

อย่างไรก็ตาม เวอร์เธอร์ซึ่งมาห้องสมุดด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า กลับพบว่ารุ่นพี่แพนดอร่าไม่ได้อยู่ที่นี่ในวันนี้

ขณะที่ในใจรู้สึกผิดหวัง เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน

แต่พฤติกรรมของเวอร์เธอร์ กลับทำให้โรเบิร์ตตระหนักว่าเพื่อนของเขาอาจตกหลุมรักรุ่นพี่สาวเข้าแล้ว

ณ ห้องอ่านหนังสือ

หลังจากที่ดาร์กทำการบ้านวิชาปรุงยาเสร็จแล้ว เขาก็กำลังจะกลับไปที่หอพักเพื่อดูแลต้นไม้หนอนและหญ้าแมว

แต่เมื่อกำลังจะเก็บข้าวของของ เขาก็พบว่าเวอร์เธอร์กับโรเบิร์ตกำลังเดินมาทางนี้

“ขอโทษนะ เรานั่งตรงนี้ได้ไหม?”

เวอร์เธอร์ชี้ไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของดาร์ก

โต๊ะสามารถนั่งได้สี่คน

ที่ผ่านมามีเพียงไดแอนนาและโรสเท่านั้น ที่จะนั่งตรงข้ามกับดาร์ก

ดาร์กขมวดคิ้วเล็กน้อยและตอบว่า “แน่นอน”

แล้วเวอร์เธอร์และโรเบิร์ตก็นั่งลงทีละคน

เวอร์เธอร์ทำการบ้านของเขาและกำลังจะพูดอีกสองสามคำกับดาร์กเพื่อเพิ่มความชื่นชอบของเขา กลับพบว่าอีกฝ่ายได้ลุกขึ้นยืนแล้ว

สีหน้าของเขาชะงักไปทันที

แน่นอนว่าดาร์กจะไม่หยุดเพราะเรื่องนี้

หลังจากที่เด็กชายเดินหายลับไปแล้ว

เวอร์เธอร์ก็สังเกตเห็นเอ็มม่านั่งอยู่ที่โต๊ะถัดไป บรรยากาศยิ่งน่าอึดอัดเข้าไปใหญ่

ดาร์กออกจากห้องสมุดและตรงกลับไปที่หอพัก

หลังจากดูแลต้นไม้หนอนและหญ้าแมวแล้วเขาก็เริ่มฝึก ‘ศาสตร์แห่งจิตตั้งมั่น’ ตามวิธีที่ศาสตราจารย์เคเซอร์สอนทันที

แต่ตามที่ศาสตราจารย์กล่าวไว้ว่า หากใครต้องการเชี่ยวชาญ ‘ศาสตร์แห่งจิตตั้งมั่น’ ก็มีแต่ต้องพึ่งพาความพากเพียรและความอุตสาหะอย่างต่อเนื่องในระยะยาวเท่านั้น

วิธีที่ดีที่สุดคือ ฝึกฝนมันเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้านอนทุกวัน

ดังนั้น หลังจากฝึกฝนอย่างไร้ผลไปครึ่งชั่วโมง ดาร์กก็หยิบ ‘กลั่นวิญญาณ – คู่มือทั่วไป’ ออกมาอ่าน

แต่หลังจากอ่านได้เพียงครู่หนึ่ง เขาก็วางหนังสือลงและลุกขึ้นยืน

ดาร์กค่อนข้างรู้สึกไม่สบายใจตลอดทั้งวัน ราวกับมีบางอย่างที่ต้องทำแต่ยังไม่ได้ทำ

“เมี้ยว~”

หญ้าแมวลากกระถางมาถูที่ขาเด็กชาย

ดาร์กก้มหน้าลงและมองดูหญ้าแมวที่น่ารัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกไม้ที่กำลังจะเบ่งบานบนหญ้าแมว พลันดวงตาของเขาฉายวาบราวกับนึกออกแล้ว

“ใช่แล้ว”

“ค่า [อัตตา] ของวันนี้ยังไม่ได้ใช้เลยนี่”

“แค่หยดเดียว บางทีดอกไม้อาจจะบานวันนี้เลยก็ได้!”

“แต่จำนวนของเดือนนี้ถูกใช้ไปหมดแล้ว”

“ถ้าฉันยังคงใช้ค่าอัตตาต่อไป ฉันจะต้องเสี่ยงพอตัว”

“แต่อีกแค่หยดเดียว…”

ดาร์กตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกับเวอร์เธอร์