“เจ้าต้องการจะทำอะไรอีก?” เยี่ยจิ่งหานถาม

“อีกไม่นานสำนักศึกษาหลวงจะเริ่มการชุมนุมแข่งขันล่าขุมทรัพย์มังกร ข้าอยากเข้าร่วมการแข่งขัน”

“ไม่ได้ การชุมนุมแข่งขันล่าขุมทรัพย์มังกรมีความอันตรายอย่างมาก จะสามารถค้นพบสมบัติเจอหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจรู้ได้ เพียงแค่กระบวนท่าภายในนั้นก็มีความโหดร้ายอย่างมาก ซึ่งคนธรรมดาไม่อาจรับมือได้”

กู้ชูหน่วนจ้องมองเขาอย่างโอดครวญ

เยี่ยจิ่งหานหันหน้าไปทางอื่นและไม่ต้องการมองเห็นแววตาของกู้ชูหน่วน เขากลัวว่าหากเขาใจอ่อน เขาจะยอมตอบตกลงนางไปอีก

“เจ้าต้องการทรัพย์สมบัติอะไร ข้าจะมอบให้เจ้า ไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงอันตรายเช่นนั้นหรอก”

“ท่านอ๋อง ท่านไม่เข้าใจอะไร การที่ข้าอยากเข้าร่วมการชุมนุมแข่งขันล่าขุมทรัพย์มังกรนั้น ข้าไม่ได้ทำเพื่อค้นหาสมบัติ เพียงแต่ข้าแค่ต้องการเพิ่มการฝึกฝนกิจกรรมกลางแจ้งภายนอกให้กับลูกของเรา ท่านลองคิดดูสิ อยู่แต่ในห้องทั้งวันน่าเบื่อหน่ายมากเพียงใด ผู้ใหญ่ยังแทบเบื่อหน่ายจนทนไม่ได้ เช่นนั้นนับประสาอะไรกับลูก การได้ออกไปสูดบรรยากาศบริสุทธิ์ก็เป็นการผ่อนคลายที่ดีอย่างหนึ่ง”

“……”

“อีกอย่าง ท่านคงไม่ต้องการให้ลูกของเราเป็นคนเก็บกดเหมือนดังเช่นเยี่ยเฟิงเช่นนั้นหรอก หากไม่ต้องการให้ลูกเก็บกด เช่นนั้นก็ต้องออกไปผจญภัยข้างนอก เด็กในท้องก็จำเป็นต้องมีการเข้าสังคมเสียบ้าง ข้าก็เพียงแค่ต้องการให้ลูกได้ไปเรียนรู้ความรู้ใหม่ๆ”

“……”

เยี่ยจิ่งหานไม่รู้เลยจริงๆ ว่าสมองอันเล็กๆ ของกู้ชูหน่วนนั้นมีอะไรอยู่ข้างในนั้น ทำไมถึงพูดดำเป็นขาวได้

เรื่องไร้สาระเช่นนั้น คิดว่าเขาเป็นเด็กอายุสามขวบอย่างนั้นหรืออย่างไร?

“เจ้าต้องการพาลูกไปสูดบรรยากาศบริสุทธิ์ เช่นนั้นข้าสามารถออกไปเดินเล่นกับเจ้าได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการแข่งขันการล่ามังกรหรอก”

“ท่านไม่เข้าใจอะไร ไปสถานที่เช่นนั้นถึงจะเป็นของจริง ท่านอยู่ข้างกายข้าตลอดโดยไม่ยิ้มหรือหัวเราะ แถมยังมีความดุร้ายและใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา ข้ากลัวว่าต่อไปลูกจะเหมือนท่าน ที่เป็นคนเย็นชา”

“เจ้าพูดอะไรนะ?”

“ข้าบอกว่าข้ากลัวว่าลูกจะเหมือนท่าน อนาคตจะมีภรรยาได้ยาก”

“เช่นนั้นข้าจะให้ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยไปเดินเล่นกับเจ้า”

“ชิงเฟิงโง่เขลาราวกับสุนับเช่นนั้น ท่านต้องการให้ลูกของเราเป็นเหมือนเขาอย่างนั้นหรือ? เจี้ยงเสวี่ยก็ยิ่งแล้วใหญ่ วันๆ เอาแต่ทำสีหน้าเย็นชาบึ้งตึง ราวกับทุกคนต่างติดค้างเขาอย่างนั้น ข้ากลัวว่าลูกจะติดนิสัยของเขา”

“……”

ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยที่อยู่ข้างนอกต่างพูดไม่ออก

พวกเขาแย่เหมือนที่พระชายาพูดเช่นนั้นเลยหรือ?

พระชายาต้องการที่จะเข้าร่วมการชุมนุมแข่งขันล่าขุมทรัพย์มังกร แต่ดันโยนความรับผิดชอบไปที่ท่านอ๋ององค์น้อย เช่นนี้นับว่าไร้ยางอายเสียเหลือเกิน

กู้ชูหน่วนดึงมือของเขาและออดอ้อน “ท่านอ๋อง ท่านตอบตกลงข้าเถอะนะ ดีหรือไม่? ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บอันตรายใดๆ หากท่านไม่เชื่อใจก็สามารถส่งคนไปติดตามและปกป้องข้าอยู่ห่างๆ ก็ได้ ดีหรือไม่”

เยี่ยจิ่งหานขมวดคิ้ว

หลายปีที่ผ่านมา มีผู้คนต้องจบชีวิตลงจากการเข้าร่วมแข่งขันการล่ามังกรเป็นจำนวนมาก ตอนนี้อายุครรภ์ของนางเพิ่งจะหนึ่งเดือนกว่า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จำเป็นต้องพักผ่อน หากออกไปเสี่ยงอันตรายเช่นนั้นและเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นจะทำเยี่ยงไร?

“ไม่ได้ รอให้อายุครรภ์ของเจ้าครบสามเดือนค่อยไปเถอะ”

“ท่านอ๋อง ท่านไม่ต้องฟังที่หมอหลวงพูดจาเหลวไหลไร้สาระหรอก ตัวข้าเองก็เป็นหมอ ข้ารู้สภาพร่างกายของข้าดีกว่าพวกเขา ถึงแม้ว่าสามเดือนแรกจะไม่สามารถออกกำลังกายเกินกำลังได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถออกกำลังกายได้เลย ไม่เช่นนั้นจะแท้งได้ง่าย”

เยี่ยจิ่งหานเริ่มจะหมดความอดทน กู้ชูหน่วนจึงถอยหลังไปหนึ่งก้าว “หากท่านไม่ไว้วางใจจริง เช่นนั้นท่านกก็ติดตามข้าไปเข้าร่วมการชุมนุมแข่งขันล่าขุมทรัพย์มังกร หากมีท่านคอยปกป้องคุ้มครองข้า เช่นนั้นลูกก็คงไม่สามารถเกิดอันตรายใดๆ ได้?”

“ก็ได้ ถึงตอนนั้นข้าจะไปกับเจ้า”

กู้ชูหน่วนถอนหายใจเฮือกใหญ่และปล่อยมือจากเขา จากนั้นจึงหาท่านอนที่สบายและผล็อยหลับไป ในปากของนางพึมพำ “ลูกกลัวว่าจะเบียด ท่านไปหาที่นอนเองจะดีเสียกว่า”

ยังไม่ทันที่เยี่ยจิ่งหานจะตอบกลับ เสียงหายใจของกู้ชูหน่วนก็ได้ดังออกมา นางนอนหลับราวกับหมูตายเสียอีก

ความโกรธของเยี่ยจิ่งหานพุ่งขึ้นมาทันที

ผู้หญิงคนนี้……

เมื่อถึงเป้าหมายแล้วนางก็ปล่อยเขาเช่นนี้เลยหรือ?

นี่เป็นคืนวันแต่งงานของพวกเขา พวกเขายังไม่ได้แลกจอกสุราดื่มเลย