ไม่นานเฝิงจิ้งได้นัดพบกับหลินเฉี่ยนเป็นครั้งที่สอง
ในครั้งนี้เธอต้องการบอกเรื่องของพ่อของหลินเฉี่ยนให้เธอได้รู้
หลินเฉี่ยนอยากจะรู้ว่าเธอพยายามจะมาไม้ไหนอีก เธอจึงไปพบอีกฝ่ายอีกครั้ง ทว่าในครั้งนี้เฝิงจิ้งไม่ได้นัดหลินเฉี่ยนมาเพียงคนเดียวแต่กลับนัดลัวอิงหงมาด้วย
เมื่อหลินเฉี่ยนเห็นผู้หญิงทั้งสองคนนั่งอยู่ด้านในห้องวีไอพี เธอต้องการหันหลังกลับ แต่เฝิงจิ้งเห็นเธอเสียก่อนจึงรีบเรียกชื่อรั้งเธอไว้ “เฉี่ยนเฉี่ยน จะไปไหนล่ะ”
หลินเฉี่ยนคาดไม่ถึง เธอไม่คิดว่าเฝิงจิ้งจะเลือดเย็นขนาดนี้
“เฝิงจิ้ง เธอไม่เรียกผู้จัดการของฉันเป็นกันเองไปหน่อยเหรอ” ลัวอิงหงเอ่ยถาม
เฝิงจิ้งเหยียดยิ้มก่อนดึงหลินเฉี่ยนเข้าไปหาพวกเธอ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “ฉันจะเรียกเฉี่ยนเฉี่ยนว่าอะไรก็ได้ตามใจนั่นแหละค่ะ พี่หงคงไม่รู้แน่ๆ ว่าหลินเฉี่ยนเป็นลูกสาวที่พลัดพรากมานานของฉัน มันไม่ง่ายที่จะตามหาตัวเธอเจอเลยนะคะ นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้จัดการของคุณ บังเอิญจังเลยนะคะ!”
หลังได้ยินคำพูดปั่นประสาทของเฝิงจิ้ง ลัวอิงหงชะงักไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยถามหลินเฉี่ยนอย่างไม่พอใจ “เฝิงจิ้งพูดเรื่องจริงเหรอ”
เฝิงจิ้งคงคิดว่าการดึงหลินเฉี่ยนมาอยู่ข้างตัวเป็นเรื่องง่ายๆ
ทว่าหลินเฉี่ยนเป็นเหมือนหนามแหลมคม “พี่หง ฉันจะพูดกับคุณตามตรงนะคะ ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเธอพูดจริงหรือเปล่าเหมือนกัน เพราะอยู่ดีๆ วันหนึ่งเธอก็โผล่มาร้องไห้ขอคืนดีต่อหน้าฉัน
“แต่ต่อให้เธอจะเป็นแม่ของฉันหรือเปล่า ฉันว่าคุณเฝิงก็ไม่ควรคิดไปเองว่าฉันจะช่วยเธอหรือไปเป็นพวกของเธอหรอกนะคะ…
“ฉันเกลียดคนที่แย่งของคนอื่นไปค่ะ ในฐานะผู้จัดการของพี่หง ฉันจะช่วยเธออย่างถึงที่สุดค่ะ
“ไม่ว่าพี่หงจะเชื่อฉันหรือไม่ ฉันก็ได้พูดสิ่งที่อยากจะพูดไปหมดแล้วค่ะ” สิ้นประโยค หลินเฉี่ยนหันหลังเดินจากไป แต่เฝิงจิ้งกลับรั้งเธอไว้อีกครั้ง
“เฉี่ยนเฉี่ยน แม่เป็นแม่ของลูกนะ… ลูกทำกับแม่แบบนี้ไม่ได้”
“คุณรู้ดีว่าพี่หงจะโกรธฉันถ้าเธอรู้เรื่องนี้ คุณก็ยังจงใจนัดเรามาในเวลาเดียวกัน จุดประสงค์ของคุณก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่คะ” หลินเฉี่ยนสะบัดตัวออกจากเฝิงจิ้ง “วิธีของคุณมันน่าขยะแขยง”
“เฉี่ยนเฉี่ยน…”
เฝิงจิ้งไม่คาดคิดว่าหลินเฉี่ยนจะฉีกหน้าเธอไม่มีชิ้นดีอย่างนี้ เมื่อลัวอิงหงเห็นดังนั้นจึงอดตบมือและกล่าวชื่นชมไม่ได้ “เยี่ยมมาก! เธอต้องชดใช้ที่แย่งลูกชายของฉันไป ตอนนี้ลูกสาวของเธอกลับมาเป็นผู้จัดการของฉัน เราเสมอกันแล้วนะ”
เฝิงจิ้งสะกดกลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้ และเอ่ยกับลัวอิงหงเสียงเรียบ “นังปีศาจ แม้แต่พระเจ้ายังช่วยให้เธอกลับมาดังไม่ได้เลย”
“คอยดูไปแล้วกันนะ”
เรื่องที่หลินเฉี่ยนเป็นลูกสาวบังเกิดเกล้าของเฝิงจิ้งทำให้ลัวอิงหงตกตะลึงไปไม่น้อย อันที่จริงเธอแอบคิดว่าหลินเฉี่ยนหลอกลวงเธอไปชั่วขณะหนึ่ง
หากแต่เมื่อคิดพิจารณาคนอย่างหลินเฉี่ยนพร้อมคำพูดของเจ้าตัวอย่างรอบคอบ เธอเชื่อว่าหลินเฉี่ยนจะไม่มีทางนับเฝิงจิ้งเป็นแม่อย่างแน่นอน
เรื่องวุ่นวายได้สาดซัดเข้าใส่พวกเขาเป็นระลอก
หลังกลับมาที่บริษัท ลัวอิงหงตัดสินใจคุยกับหลินเฉี่ยน จึงได้รู้ว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของเธอ และเฝิงจิ้งได้ทำตัวหน้าไม่อายไปเองคนเดียว
“พี่หง ฉันหวังว่าพี่จะเชื่อใจฉันนะคะ”
“เธอเป็นผู้จัดการของฉันนะ ฉันก็ต้องเชื่อใจเธอสิ ต่อให้ฉันไม่เชื่อใจเธอ ฉันก็เชื่อใจถังหนิง” ลัวอิงหงยืนกราน “ไหนๆ ก็เกิดเรื่องอย่างนี้แล้ว จากนี้ไปเราอย่ามีอะไรปิดบังกันอีกดีกว่านะ เฝิงจิ้งชอบเล่นสกปรก ฉันไม่อยากให้เราต้องเจ็บปวดกันอีก”
“ขอบคุณนะคะ พี่หง” หลินเฉี่ยนกล่าวขอบคุณ
ลัวอิงหงส่ายหน้าพร้อมส่งยิ้มให้อีกฝ่าย “มีเธออยู่ข้างๆ ฉันแบบนี้ ฉันมั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องอยู่ไม่สุขแน่ เธอจะต้องพยายามทำให้เราแตกคอกันอย่างแน่นอน…
“อันที่จริง ในฐานะคนที่เป็นแม่มาก่อน ฉันมั่นใจว่าเธอต้องหายตัวไปหรือถูกทิ้งแน่…
“คนภายนอกไม่รู้เรื่องนี้ของเธอ หมายความว่าเธอคงไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ถึงการมีตัวตนของเธอ ถ้าเธอจัดการเรื่องนี้อย่างใสสะอาดและถูกต้องตามกฎหมาย มันคงไม่ถูกเก็บเป็นความลับสุดยอดขนาดนี้หรอก”
หลังได้ยินดังนั้น หลินเฉี่ยนพยักหน้ารับ เธอไม่ได้ให้อภัยอีกฝ่ายเหมือนนักบุญและความเป็นไปได้นี้ก็ไม่ได้มีผลทางจิตใจกับเธอลึกซึ้งมากนักด้วยเธอคาดการณ์ไว้เช่นนั้นอยู่แล้ว
หากแม่ทำลูกหาย เธอจะต้องตามหาพวกเขาแน่ ด้วยความสามารถของเฝิงจิ้ง หากเธอตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริงๆ เธอคงตามหาหลินเฉี่ยนพบตั้งนานแล้ว และสถานการณ์คงจะแตกต่างกับในตอนนี้มากโข
“พี่หง หลังจากคุณฝึกเสร็จแล้วก็พักผ่อนเถอะนะคะ”
ลัวอิงหงมองหน้าหลินเฉี่ยนและระบายยิ้มอ่อนโยนให้เป็นคำตอบ
…
แต่ทว่าลัวอิงหงประเมินเฝิงจิ้งต่ำเกินไป
ในเมื่อเธอกล้าพอที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ของตัวเองกับหลินเฉี่ยนต่อหน้าลัวอิงหง เธอต้องเตรียมการกับผลที่จะเกิดขึ้นในทางตรงกันข้ามเอาไว้อยู่แล้ว
ดังนั้นสื่อจึงได้รับข่าวใหญ่ในวันถัดมา นักแสดงดัง เฝิงจิ้ง แอบมีลูกสาว ลูกสาวคนนี้เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลเฉวียน หลินเฉี่ยน
ทันทีที่ข่าวหลุดออกไป เฝิงจิ้งได้สร้างเรื่องวุ่นวายในขณะที่คนบนโลกออนไลน์ต่างพยายามเรียกร้องให้เธอออกมาให้คำตอบ
หากแต่เฝิงจิ้งกลับทำเมินเฉย ทำเพียงต่อสายหาหลินเฉี่ยน อย่างไรก็ตามหลินเฉี่ยนไม่ได้รับสายเพราะผู้หญิงคนนี้ไม่มีความหมายอะไรสำหรับเธอ
เธอเพียงแค่เป็นห่วงว่าผู้อาวุโสหลี่จะมองเธอยังไงเท่านั้น
ดังนั้นเธอจึงพูดเปิดใจกับคุณนายหลี่และอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟัง หลังได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้น คุณนายหลี่รู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อยพลางดึงหลินเฉี่ยนเข้ามากอด
“เด็กโง่ หนูต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ เลยจ้ะ แล้วยังมาเป็นห่วงความรู้สึกของเราอีก…
“พูดตามตรงเลยนะจ๊ะ จริงๆ แล้วเราไม่ได้สนใจอดีตของหนูเลยจ้ะ หนูเป็นเด็กดีและเราก็ยอมรับหนูเป็นลูกสะใภ้แล้วด้วย ดังนั้นนังบ้านั่นควรเลิกเสแสร้งได้แล้ว ไม่ว่าเธอจะทำอะไร เราจะอยู่ข้างหนูเสมอนะจ๊ะ ตระกูลหลี่จะเป็นเกราะกำบังหนูจากพายุเอง ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
หลินเฉี่ยนซาบซึ้งกับคำพูดเหล่านี้จากก้นบึ้งของจิตใจ
“ขอบคุณนะคะ คุณป้า”
“เราเกือบจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ ไม่เห็นต้องขอบคุณเลยจ้ะ”
ไม่นานหลังจากนั้น หลินเฉี่ยนได้รับสายจากลัวอิงหง “ผู้หญิงคนนั้นต้องการจะโยนความผิดให้ฉันกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด…”
“ฉันรู้ค่ะ” หลินเฉี่ยนตอบกลับนิ่งๆ “ไหนๆ เธอก็กล้าจะทำอย่างนี้แล้ว เธอต้องเตรียมการมาอย่างดีแล้วแน่ๆ อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เด็ดขาดเลยนะคะ ปล่อยให้เธอแสร้งทำไปเท่าที่เธอต้องการเถอะค่ะ”
“โอเค ตราบใดที่เธอรู้ว่าฉันไม่ได้ทำอะไรผิดก็พอแล้วล่ะ” ลัวอิงหงตอบ
หลินเฉี่ยนยังคงไม่สนใจเฝิงจิ้งต่อไป หากแต่ข่าวลือกลับยิ่งบิดเบือนเข้าไปทุกวัน เมื่อเห็นว่าไม่สามารถทำให้หลินเฉี่ยนกับลัวอิงหงแตกคอกันได้ ในที่สุดเฝิงจิ้งก็ก้าวออกมายอมรับว่าเธอมีลูกสาวจริง ทั้งยังบอกกับคนภายนอกว่าเธอตามหาลูกสาวคนนี้มาร่วมหลายปี โดยอ้างว่าได้รับการตรวจสอบจากทางตำรวจแล้วว่าเธอไม่เคยย่อท้อกับการตามหาและยังคงยืนหยัดเช่นนั้น
“ในฐานะนักแสดง ฉันหวังว่าจะเก็บเรื่องชีวิตส่วนตัวเป็นความลับค่ะ ฉันไม่อยากจะมีภาพลักษณ์แย่ๆ เพราะอดีตของตัวเอง ฉันเลยตัดสินใจไม่เปิดเผยเรื่องนี้ในระหว่างที่ฉันขอให้ทางตำรวจตามหาตัวเธออยู่หลายปี…
…แต่ตอนนี้ฉันเจอเธอแล้ว ในที่สุดฉันก็สามารถออกมารับผิดชอบได้อย่างเต็มที่ ฉันแค่หวังว่าลูกสาวของฉันจะให้อภัยกับความประมาทเลินเล่อของฉัน และความเจ็บปวดที่เธอต้องเผชิญมาตลอดหลายปีค่ะ”
เฝิงจิ้งแสร้งทำดี หากแต่หลินเฉี่ยนยังคงไม่ได้ออกมาตอบโต้แต่อย่างใด