ส่วนที่ 13 ไม่พึ่งทักษะการแสดง พึ่งพิงคนจ่ายเงิน ตอนที่ 23 ไม่พึ่งพิงทักษะการแสดง พึ่งพิงคนจ่ายเงิน (ปัจฉิมบท)

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

หลังผ่านชีวิตยุ่งวุ่นวายอยู่หลายวัน หลูจวิ้นก็รอดพ้นจากวิกฤตได้ชั่วคราว อาการป่วยของคุณแม่หลูนับว่าทรงตัวแล้ว ในเวลาแบบนี้ นักข่าวบันเทิงก็ยังคงไม่ปล่อยหลูจวิ้นไว้ ทุกคนล้วนถามเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเย่ชิง

เย่ชิง?

หลูจวิ้นหลีกเลี่ยงการตอบคำถามทั้งหมดเกี่ยวกับเย่ชิง ซึ่งความจริง สองสามวันมานี้ ทั้งสองคุยกันทางโทรศัพท์แล้ว แต่ก็มีปากเสียงกันตลอด ไม่สามารถสงบสติอารมณ์แล้วคุยกันดีๆ ได้

บางที นี่ล่ะที่เขาเรียกว่า คนกำหนด มิสู้ฟ้ากำหนด

เดิมทีซูหว่านกับซูรุ่ยวางแผนว่า ขณะหลูจวิ้นยุ่งจนหัวฟูนั้น จะตามตัวหลี่เหวยอีมาถ่ายรูปเยี่ยเส่าฉวินไปเยี่ยมกองสักสองสามรูป แล้วนำไปเผยแพร่ ก่อกวนสายตาและจิตใจของหลูจวิ้น

นึกไม่ถึงว่าเยี่ยเส่าฉวินจะไปเยี่ยมกองตอนดินถล่มพอดี ซึ่งแม้ว่าคุณชายรองเยี่ยเป็นคนอ่อนแอที่สุดในบ้าน แต่จะดีจะร้ายยังไงก็เคยฝึกฝนมาก่อน จึงกลายเป็นฮีโร่ช่วยสาวสวย ช่วยเย่ชิงออกมาได้ภายในไม่กี่นาที

และเพราะเหตุนี้ เย่ชิงกับเยี่ยเส่าฉวินจึงกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปจริงๆ แน่นอน เป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น

หลังจากนั้น พอมีข่าวของทั้งสองออกมา เย่ชิงก็รีบโทรศัพท์อธิบายให้หลูจวิ้นฟัง แต่เห็นชัดว่าหลูจวิ้นไม่เชื่อเธอเลย

เมื่อคนสองคนอยู่ด้วยกัน ความไว้ใจคือการดำรงอยู่ขั้นพื้นฐานสุด

ถ้าระหว่างคนทั้งสอง กระทั่งความไว้ใจขั้นพื้นฐานสุดยังไม่มี แล้วยังจะคุยเรื่องชั่วฟ้าดินสลายอะไรอีก ยังจะมีอนาคตอะไรอีก

ซึ่งอันที่จริง หลูจวิ้นขาดความไว้ใจในตัวเย่ชิงจริงๆ พูดได้ว่า ตั้งแต่เขากลับชาติมาเกิดใหม่ ก็เปลี่ยนเป็นคนขี้ระแวง ไม่กล้าปล่อยวาง แล้วเชื่อใจใครสักคนจริงๆ

โดยเฉพาะคนที่มีความสัมพันธ์กับเยี่ยเส่าฉวิน ล้วนทำให้หลูจวิ้นนึกถึงอดีตชาติที่ไม่อยากจะนึกถึงอีก

เขาเชื่อใจเย่ชิงได้เหรอ ในเมื่อเย่ชิงก็เป็นนักแสดงคนหนึ่ง

ถ้าเธอกับ ‘ซูหว่าน’ ในชาติที่แล้ว ล้วนเป็นคนที่เยี่ยเส่าฉวินจัดให้มาอยู่ข้างกายตนเอง เขาควรทำยังไงดี

ต้องบอกว่า หลูจวิ้นหมกมุ่นอยู่กับทุกอย่างของ ‘ชาติที่แล้ว’ มากเกินไปจริงๆ ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นสงสัยโน่นนั่นนี่อย่างไม่มีเหตุผล

ตอนท้ายเรื่อง เย่ชิงได้โพสต์ข้อความลงในเวยป๋อ บอกว่าตนกับเยี่ยเส่าฉวินเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน ส่วนกับหลูจวิ้น ก็แยกทางกันด้วยดี

ตอนนั้น ภาพยนตร์ได้ถ่ายทำไปกว่าครึ่งเรื่องแล้ว เดิมทีเย่ชิงคิดลาออกจากกอง แต่ผู้กำกับมองเห็นศักยภาพและความขยันของเธอ สุดท้ายก็เกลี้ยกล่อมให้เธออยู่ต่อ

หลังจากนั้น บริษัทของหลูจวิ้นก็ได้รับการโอนเงินเก้าหลักจากบัญชีส่วนตัวของเยี่ยเส่าฉวิน

ไม่ผิด เวลาคุณชายสกุลเยี่ยจีบหญิง ไม่เคยสนใจเรื่องเงินทองมาแต่ไหนแต่ไร

แม้ว่า คุณชายรองเยี่ยจะจีบเย่ชิงไม่ได้มาตลอดก็ตาม…

หนึ่งปีต่อมา เย่ชิงที่กำลังโดดเด่นในวงการบันเทิง ก็ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์ที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก และในครั้งนี้ เธอได้เจอซูหว่าน

ในระยะเวลาปีกว่ามานี้ แม้ว่าทั้งสองปรากฏตัวในงานเดียวกัน แต่ความจริงแล้ว พวกเธอไม่ได้เจอหน้ากันมานานมาก

“พี่หว่าน ยินดีด้วยนะคะ คืนนี้ตำแหน่งราชินีวงการบันเทิงต้องเป็นของพี่แน่ๆ!”

เย่ชิงในตอนนี้ ค่อยๆ มีท่าทีเป็นสาวขึ้นมา ความเป็นเด็กใสซื่อในตอนแรกได้เจือจางลงแล้ว

“ขอให้สมพรปากเถอะ! ถ้าฉันได้รางวัลอีกครั้งจริงๆ ก็เป็นรางวัลสุดท้ายในอาชีพการแสดงของฉันด้วย”

พอได้ยินคำพูดของเย่ชิง ซูหว่านก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้เธอ

“พี่จะออกจากวงการจริงเหรอ…”

เย่ชิงค่อนข้างตกตะลึงขณะมองซูหว่าน แม้เธอเคยนึกถึงข้อความในเวยป๋อของคุณชายสามเยี่ยเมื่อกว่าปีที่แล้ว ใบหน้าก็ยังเผยให้เห็นความอิจฉาโดยไม่รู้ตัว “พี่หว่าน พี่เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกจริงๆ”

“ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”

ซูหว่านยิ้มลึกลับให้เย่ชิง ก่อนเอนตัวพิงเข้าที่ด้านข้างเธอ “ความจริง ขอเพียงเธอยินยอม เธอก็มีความสุขแบบฉันได้เหมือนกัน ผู้หญิงเกิดมาเพื่อเป็นที่รักของผู้ชาย และผู้ชายสกุลเยี่ยก็ไว้ใจได้แน่นอน”

เย่ชิง “…”

ปีกว่าที่ผ่านมา เยี่ยเส่าฉวินจีบเย่ชิงมาตลอดจริงๆ แถมยังให้เย่ชิงดูแผลเป็นบนตัวเขาอีก ว่ากันว่าเมื่อปีที่แล้วเขาไม่ได้บรรลุเป้าหมายที่พ่อบอกให้หาแฟนมาให้ได้ สุดท้ายจึงถูกลงโทษตามกฎของบ้านอย่างไร้ความปรานีอะไรทำนองนี้

ซึ่งอันที่จริง เย่ชิงก็ค่อยๆ รู้สึกว่าเยี่ยเส่าฉวินจริงใจและจริงจังกับตนเอง แม้เมื่อก่อนเขาเจ้าชู้มาก แต่ตอนนี้ได้ลดราวาศอกลงไปไม่น้อย

ใจของเย่ชิงหวั่นไหวอยู่บ้าง แต่ประสบการณ์เรื่องหลูจวิ้น ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวสัญชาติญาณของคนรวย จึงไม่กล้าใจง่ายอีก…

ในพิธีมอบรางวัล ซูหว่านได้รับรางวัลตามที่ทุกคนคาดหมาย และแขกรับเชิญผู้มอบรางวัลให้ซูหว่านก็คือคุณชายสามเยี่ย!

หลายคนพลันนึกเชื่อมโยงไปถึงข้อความในเวยป๋อที่คุณชายสามเยี่ยโพสต์กลางดึก ในคืนวันเกิดของซูหว่านเมื่อปีที่แล้ว…

‘ตอนคุณยืนอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของอาชีพการงาน ผมจะเป็นผู้มอบมงกุฎให้คุณด้วยตัวเอง!’

“ซูหว่าน นี่คือเกียรติยศของคุณ!”

ซูรุ่ยสวมมงกุฎดอกไม้ สัญลักษณ์แห่งราชินีวงการบันเทิงให้ซูหว่าน ด้วยตัวเอง แล้วรีบคุกเข่าลง ต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติและกล้องนับไม่ถ้วน ก่อนล้วงแหวนเพชรที่เตรียมไว้แต่แรกออกมา “แต่งงานกับผมนะ!”

“อยู่ด้วยกัน!”

“อยู่ด้วยกัน!”

“แต่งกับเขา!”

“แต่งกับเขา!”

เสียงตะโกนอย่างเป็นกันเองดังกระหึ่มไปทั่วสถานที่รับรางวัล ซูหว่านแย้มยิ้มพลางรับแหวนในมือของซูรุ่ยไว้ แสงแฟลชนับไม่ถ้วนได้เปลี่ยนรอยยิ้มอันแสนสุขของคนทั้งสองให้กลายเป็นห้วงเวลานิรันดร…

สองเดือนต่อมา ซูหว่านกับซูรุ่ยก็แต่งงานกัน หลังการแต่งงาน ซูหว่านก็จัดงานแถลงข่าว ประกาศถอนตัวออกจากวงการบันเทิงอย่างเป็นทางการ

หลังจากซูหว่านออกจากวงการบันเทิง เย่ชิงก็ออกจากบริษัทเดิมของตนเอง มาเซ็นสัญญากับเยี่ยซื่อเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ตามคำชักชวนของซูหว่าน และในตอนนี้ ซูรุ่ยก็ได้คืนอำนาจการบริหารเยี่ยซื่อเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ทั้งหมดให้กับเยี่ยเส่าฉวิน

เหล่าพนักงานเยี่ยซื่อพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่พวกตนหลุดพ้นจากอุ้งมือมารของคุณชายสามจนได้ สิ้นสุดวันเวลาอันยากลำบาก ที่ต้องตะโกนคำว่า ‘เยี่ยเส่าหลิงรักซูหว่าน’ วันละสามเวลาทุกวันอีก แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ พวกเขากำลังจะต้อนรับการทรมานจากคุณชายรอง ที่แสดงความรักได้ช่ำชองกว่าคุณชายสามอีก…

ยังไงเสีย คุณชายสามก็อุ้มสาวงามกลับไปแล้ว จะแสดงความรักอะไรยังไงก็ไม่ถือว่าเกินกว่าเหตุ

แต่คุณชายรองนี่สิ กระทั่งคนก็ยังจีบไม่ติด การทู่ซี้ตื๊อทุกวันนี่ ไม่ถูกทำร้ายจิตใจแย่เหรอ

หลังจากซูหว่านกับซูรุ่ยแต่งงานกัน ทั้งสองก็ออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างหวานชื่น ในทุกๆ วันซูรุ่ยต้องบันทึกสถานที่ที่ทั้งสองเคยไป ด้วยการโพสต์รูปลงในเวยป๋อ โดยตอนนี้จำนวนแฟนคลับในเวยป๋อของทั้งสองกำลังจะเกินสิบล้านคนแล้ว…

ไม่ผิด ทุกคนเข้ามาดูการแสดงความรักของทั้งสองโดยเฉพาะ

คุณถูกหลอก? ถูกทิ้ง? ถูกคบซ้อน? ไม่ว่าจิตใจคุณบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายมามากแค่ไหน ขอเพียงมาเยี่ยมชมเพจคุณชายสามสักรอบ รับรอง คุณจะมีพลังเต็มเปี่ยมจนฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง…

โลกกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ ย่อมมีคนเจ้าชู้มากมาย ถูกทิ้งก็เป็นเรื่องที่โชคดี เพราะคุณคู่ควรกับคนที่ดีกว่า ในโลกนี้ต้องมีผู้ชายสักคน ที่รอคุณอยู่ รอที่จะรักคุณ…

ตอนรู้ข่าวการแต่งงานของเยี่ยเส่าฉวินกับเย่ชิง ซูรุ่ยกับซูหว่านกำลังนอนอาบแดดอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง พอวางโทรศัพท์ ซูหว่านก็ได้รับแจ้งว่า ภารกิจสำเร็จลงแล้ว

แต่เธอกับซูรุ่ยยังไม่เลือกที่จะออกจากโลกภารกิจในทันที ทั้งสองจองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ เพื่อเข้าร่วมพิธีแต่งงานของเยี่ยเส่าฉวิน พอรู้ว่าลูกสะใภ้ท้องก่อนแต่ง คุณพ่อเยี่ยก็ยิ้มไม่หุบ

เพื่อสุขภาพของเย่ชิง พิธีแต่งงานของทั้งสองจึงจัดขึ้นอย่างหรูหราแต่เรียบง่าย ทว่าก็ถูกสื่อยักษ์ใหญ่รายงานข่าวไปอย่างกว้างขวางเช่นเดียวกัน

และหลูจวิ้นก็เห็นข่าวนี้เหมือนกัน

เนื่องจากสองปีมานี้ ธุรกิจของสกุลหลูประสบกับความยากลำบากมาตลอด คุณแม่หลูจึงจัดการนัดบอดลูกสาวของหุ้นส่วนธุรกิจคนหนึ่งให้หลูจวิ้น และตอนนี้ทั้งสองก็เพิ่งยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน

สำหรับสาวน้อยแบบคุณหนูในตระกูลร่ำรวยนั้น หลูจวิ้นไม่ชอบก็จริง แต่ก็ไม่รังเกียจ บางครั้ง ฝันยามเที่ยงคืน เขาก็ยังคงฝันถึงตนเองในชาติที่แล้ว ฝันว่าตนกับเย่ชิงอยู่ด้วยกันอย่างเรียบง่าย ยากจน แต่กลับหวานจนหยดย้อย

น่าเสียดาย ล้วนแล้วแต่ฝัน

เป็นแค่ความฝัน

ทว่า เป็นความฝันจริงๆ เหรอ

เมื่อหลูจวิ้นได้พบซูหว่านอีกครั้ง และเห็นรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าเธอ เขาก็รู้สึกเหมือนภาพมายา แบบอยู่อีกโลกหนึ่ง

“ตอนนี้คุณมีความสุขไหม”

ซูหว่านค่อยๆ ก้าวเดินมายืนอยู่ตรงหน้าหลูจวิ้น ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มน้อยๆ ที่ทำให้ผู้คนหลงใหล

“หากเทียบกับชาติที่แล้ว คุณชอบชีวิตในตอนนี้มากกว่าหรือเปล่า อย่างน้อย คุณก็ไม่ถึงกับไม่มีอะไรเลย”

“คุณ…คุณกำลังพูดอะไรน่ะ”

พอได้ยินเสียงต่ำๆ ของซูหว่าน หลูจวิ้นก็หน้าถอดสี ขณะมองเธออย่างไม่เชื่อในสายตา

“คุณรู้นี่ ว่าฉันกำลังพูดอะไร เสียดายจริงๆ เย่ชิงรักคุณขนาดนั้น เสียดาย คุณให้ความสุขกับเธอไม่ได้ ตอนนี้ฉันช่วยให้เธอได้พบกับคนที่ดีกว่าแล้ว คุณไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก!”

ซูหว่านพูดพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้หลูจวิ้น “หลูจวิ้น คุณน่ะเป็นคนขี้ขลาด ต่อให้สวรรค์ยอมให้โอกาสคุณกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้งแล้วยังไง ขนาดคนรักของตัวเอง คุณก็ยังไม่กล้าที่จะเชื่อใจเธอ ชาตินี้สมควรแล้วที่คุณต้องเสียเย่ชิงไป!”

ขณะหลูจวิ้นกำลังทำหน้าตะลึงงันอยู่นั้น ซูหว่านก็หัวเราะอย่างพออกพอใจ แล้วหันกายเดินจากไป…

บางครั้ง สวรรค์ให้โอกาสเรา เพื่อต้องการให้เราทะนุถนอมผู้คนกับสิ่งต่างๆ รอบตัวเราไว้ให้ดี และชดเชยความผิดพลาดที่เราเคยทำไว้ ไม่ใช่ให้เราฉวยโอกาสก่อกวนชีวิตคนอื่นไม่หยุดหย่อน…

พอกลับเข้าไปนั่งในรถของซูรุ่ย ซูหว่านก็เอนตัวพิงเบาะรถแล้วหลับตาลง ตอนนี้เธอจากไปได้แล้ว

ต่อให้ตอนนี้หลูจวิ้นสำนึกผิด เขาก็ไม่มีทางได้เย่ชิงกลับคืนมา

หัวใจของทุกคน อันที่จริงล้วนเล็กมาก เล็กจนบรรจุได้แค่คนคนเดียว

อีกครึ่งชีวิตที่เหลืออยู่ ก็ปล่อยให้หลูจวิ้นสำนึกผิดไป โทษตัวเองไป และใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยการไล่ตามความทรงจำไปเถอะ…