บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 150

เจเรมี่รู้สึกปวดร้าวในใจทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างจนดูเหมือนว่าดวงตาคู่นั้นกำลังจะหลุดออกจากเบ้า “คุณพยายามเต็มที่แล้ว คุณหมายความว่ายังไง?” เขาตั้งคำถาม และนั่นคือคำพูดที่สมาชิกในครอบครัวไม่อยากได้ยิน

หมอมองเขาแล้วถอนหายใจ “เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ขอแสดงความเสียใจด้วย”

เขาไม่มีทางยอมรับผลลัพธ์นี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เขาต้องการให้มาเดลีนมีชีวิตอยู่

เขาต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่เพื่อที่เธอจะได้ยินในสิ่งที่เขาจะบอกความจริงกับเธอ

“ฉันเป็นหมอที่ดูแลคนไข้คนนี้เมื่อสามปีก่อน ตอนนั้น เธอตั้งท้องและฉันขอให้เธอทำแท้งเด็ก กระนั้น เธอยืนยันที่จะให้กำเนิดลูก ฉันคิดว่าเด็กคนนั้นสำคัญกับเธอมากกว่าชีวิตของเธอเองเเละตอนนี้เธอจากไปแล้ว เด็กคนนั้นจะมีชีวิตอยู่เพื่อเธอได้ ฉันคิดว่านั่นเป็นการปลอบใจบางอย่างจากพระเจ้า” แพทย์หญิงคนหนึ่งพูดย้ำสิ่งนั้นมันดังก้องอยู่ในหูของเขา หลังจากที่เจเรมี่ได้ยินเช่นนั้น เขาแทบหายใจไม่ออก

เด็กคนนั้น

เขาขยี้เด็กคนนั้นให้เป็นผงธุลีด้วยมือของเขาเอง

เด็กคนนั้นคือเนื้อและเลือดของพวกเขาเอง แต่วิญญาณของเด็กคนนั้นถูกทำลายโดยเขา ผู้เป็นพ่อ

ทำไมหัวใจของเขาถึงเจ็บมากขนาดนี้? เจเรมี่รู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะบ้า

เขาวิ่งไปที่ห้องผ่าตัด มาเดลีนยังคงอยู่บนเตียงผ่าตัด

เขาเดินเข้าไปหาเธอช้า ๆ เขารู้สึกว่าฝีเท้าของเขาหนักขึ้นเมื่อเขาเข้าใกล้เธอ

ในที่สุด เขาก็ไปถึงเตียงผ่าตัด มาเดลีนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว แต่เขากลับรู้สึกเหมือนถูกแยกออกจากกันด้วยภูเขาและทะเลที่มีขอบเขต

ใบหน้าของเธอซีด เธอไม่หายใจและไม่มีอัตราการเต้นของหัวใจปรากฎอยู่ที่เครื่องตรวจหัวใจ เธอเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิตที่หลับใหลไปตลอดกาล

“มาเดลีน …”

เจเรมี่เรียกชื่อมาเดลีนเบา ๆ น้ำเสียงของเขาสั่นสะท้าน แต่แน่นอนว่า เธอไม่มีทางตอบสนองเขาอีกแล้ว

สายตาที่คาดหวังและโหยหาความรักเหล่านั้นจะไม่มองมาที่เขาอีกแล้วงั้นหรือ

เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างในร่างกายแตกหักและไม่สามารถทำการแก้ไขอะไรได้อีก

เมเรดิธเดินเข้ามาอย่างมีความสุข เมื่อเธอเห็นมาเดลีนที่สูญเสียชีพจรชีวิตทั้งหมดไป เธอรู้สึกดีใจมาก กระนั้น เธอเดินไปหาเจเรมี่ด้วยใบหน้าที่เสียใจ

“เจเรมี่ ฉันเดาว่าแมดดี้ป่วยตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน เธอต้องไม่อยากให้คุณเห็นเธอเป็นแบบนี้แน่ ๆ ให้เธอจากไปอย่างสงบเถอะนะ พวกเราควรกลับบ้านได้แล้ว”

เธอต้องการดึงเขาออกไปหลังจากที่เธอพูดเช่นนั้น แต่ก่อนที่เธอจะทำอะไร เธอรับรู้ได้ถึงอากาศเย็น ๆ ที่อยู่รอบตัวเธอ

“เจเรมี่?” เมเรดิธร้องเสียงแผ่ว อย่างไรก็ตาม เธอเห็นเจเรมี่มองเธออย่างน่ากลัว

“คุณบอกให้ใครไปทำร้ายให้ตาเธอบอดหรือเปล่า?”

เมเรดิธสั่นสะท้านขณะกระพริบตาอย่างไร้เดียงสา “เจเรมี่ คุณกำลังพูดถึงอะไร? ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย? แมดดี้ตาบอดงั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง?”

รูม่านตาของเจเรมี่หดตัวลงเมื่อเขามองไปที่ใบหน้าของเมเรดิธในขณะที่พยายามอธิบาย

“คุณไม่ควรรู้เห็นอะไรกับเรื่องนี้เป็นการดีที่สุด”

“… ”

เมเรดิธรู้สึกหนาวสั่นเมื่อได้ยินคำตอบของเจเรมี่

“เจเรมี่ คุณคิดกับฉันแบบนั้นได้ยังไง? ฉันจะไม่ทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้ ฉัน…”

“ออกไป”

“เจเรมี่…”

“ออกไปให้หมดทุกคน เดี๋ยวนี้!”