บทที่ 113 ฆ่าราชาอสูร วิกฤติคลี่คลายชั่วคราว!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

บทที่ 113 ฆ่าราชาอสูร วิกฤติคลี่คลายชั่วคราว!

สิบนาทีผ่านไป

หมีสงครามหลังดํายังไม่ถูกฆ่าโดยเย่เทียน แม้ว่าอาการบาดเจ็บของมันจะหนักขึ้นเรื่อยๆและเลือดของมันก็ไหลออกมาไม่หยุดทําให้พื้นดินทั่วบริเวณเปียกชุ่มไปด้วยเลือด แต่มันก็ยังยืนหยัดต่อสู้อยู่ จิตวิญญาณการต่อสู้ของมันแข็งแกร่งมาก

ในทางกลับกันเย่เทียนแม้ว่าจะไม่มีอาการบาดเจ็บ แต่พลังของเขาก็ถูกใช้ไปไม่น้อย

ในตอนนั้นเอง เย่เทียนก็เปิดใช้งานพรสวรรค์ระดับลึกลับ – พรสวรรค์กลืนกินโลหิต

“กลืน!”

เลือดของหมีสงครามหลังดําจํานวนมากลอยเข้าไปในปากของเย่เทียน และถูกกลืนลงไปเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและพลังปราณ

นี่คือความน่ากลัวของพรสวรรค์กลืนกินโลหิต เขาสามารถกลืนกินเลือดเพื่อฟื้นฟูพลังของตนเองในขณะการต่อสู้ได้ แต่หมีสงครามหลังดํากลับไม่สามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บและพละกําลังของมันได้

เย่เทียนหันกลับไปมองที่ฐานหลินไห่และขมวดคิ้วทันที

“มีสัตว์อสรมากเกินไป อย่างน้อยๆก็สามารถฆ่านักรบได้นับหมื่นคน หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ฐานหลินไห่คงถูกทําลายอย่างแน่นอน!

ทันใดนั้นเย่เทียนก็ตัดสินใจ “เคลื่อนย้ายพริบตา!

เย่เทียนหายตัวไป และปรากฏขึ้นบริเวณดวงตาของหมีสงครามหลังดําทันที

เขาใช้พลังทั้งหมดแทงดาบออกไปผ่านดวงตาของหมีสงครามหลังดํา ปราณดาบอันน่าสยดสยองแทงเข้าไปในหัวของหมีสงครามหลังด่า

แต่ในขณะเดียวกัน

ฝ่ามือของหมีสงครามหลังดําตบเย่เทียนจนลอยกระเด็นออกไป

ทันทีที่เขาโดนโจมตี เย่เทียนก็เปิดใช้งานพรสวรรค์สองอย่างพร้อมกัน

“พรสวรรค์ด้านการป้องกัน!”

“พรสวรรค์กระดูกเพชร!”

สองพรสวรรค์ระดับลึกลับสามารถทนต่อการโจมตีของสัตว์อสูรระดับราชาได้ ทําให้เย่เทียนรอดพ้นจากการโจมตีนี้ได้ แต่อวัยวะภายในของเขายังคงถูกกระแทกจนได้รับบาดเจ็บ

“พรสวรรค์ในการรักษา!”

อาการบาดเจ็บของเย่เทียนฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยพรสวรรค์ในการรักษาระดับสูงสุด

ในเวลานี้หมีสงครามหลังดําก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันถูกโจมตีไปยังสมองโดยตรง และได้รับบาดเจ็บสาหัส

เย่เทียนใช้โอกาสนี้โจมตีหมีสงครามหลังดําอีกครั้งด้วยการเคลื่อนไหวในพริบตา และทุกครั้งที่โจมตีออกไป เขาก็เล็งไปที่บาดแผลตรงดวงตาของหมีสงครามหลังดํา

หลังจากโจมตีอย่างต่อเนื่อง กลิ่นอายของหมีสงครามหลังด่าเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนท้ายที่สุด มันก็ล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง

หลังจากแน่ใจว่าหมีสงครามหลังดําตายแล้ว เย่เทียนไม่มีเวลาแม้แต่จะเก็บเลือดของสัตว์อสูรระดับราชา เขารีบไปช่วยตาเฒ่าหลี่และคนอื่นๆทันที

ระยะทางของเขาและฐานหลินไห่ก็ค่อนข้างไกล ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาสามารถเคลื่อนย้ายได้ในระยะ 10 กิโลเมตร หลังจากใช้งานทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาหลายครั้งเขาก็มาถึงใต้กาแพงเมือง

เขาไม่กลัวใครจะพบว่าเขาใช้ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตา เพราะคนเหล่านี้ไม่รู้ถึงการมีอยู่ของทักษะนี้ พวกเขาเพียงคิดว่าเย่เทียนนั้นรวดเร็วเกินไป

“ตาย

เย่เทียนฟันออกไปด้วยดาบในมือ แสงจากดาบจํานวนนับไม่ถ้วนปลดปล่อยเจตจํานงแห่งดาบออกมา พุ่งเข้าสังหารสัตว์อสูรไปเป็นจํานวนมาก แม้แต่สัตว์อสูรชั้นยอดก็ยังไม่สามารถทนต่อการโจมตีนี้ได้
ฆ่า!

ฆ่า

ฆ่า!

ความเร็วในการสังหารของเยเทียนนั้นรวดเร็วมาก เขาฆ่าสัตว์อสูรราวกับว่ากําลังสับแตงโม

ด้วยการมาถึงของเย่เทียน แรงกดดันที่เหล่าผู้ฝึกยุทธของฐานหลินไม่ได้รับก็ลดลงอย่างมาก

ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง สัตว์อสูรหลายแสนตัวถูกกําจัดจนหมด แม้แต่สัตว์อสูรชั้นยอดก็ถูกเสี่ยวเสวียนฆ่าตายไปกว่าครึ่ง เหลือไว้เพียงสัตว์อสูรที่เปิดใช้งานพรสวรรค์ด้านความเร็วเพื่อหลบหนี แต่ไม่นานเย่เทียนก็ไล่ตามพวกมันทันและฆ่าพวกมันจนหมด

ถึงตอนนี้วิกฤตคลื่นสัตว์อสูรได้สิ้นสุดลงชั่วคราว

เมื่อนักรบเห็นฝูงสัตว์อสูรถอยหนีออกไป พวกเขาก็เริ่มดีใจและรับวิ่งออกไปเก็บเลือดสัตว์อสูรและซากศพของสัตว์อสูรทันที แต่เย่เทียนและตาเฒ่าหลีไม่ได้ผ่อนคลาย

พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าฝูงสัตว์อสูรที่บุกเข้ามาหาพวกเขาในตอนนี้ เป็นเพียงฝูงสัตว์อสูรกลุ่มเล็กๆเท่านั้น ไม่ใช่กองกําลังหลักของพวกมัน

คลื่นสัตว์อสูรสิ้นสุดลงชั่วคราว เย่เทียนบินไปยังศพหมีสงครามหลังด่าสัตว์อสูรระดับราชา เขารวบรวมเลือดของสัตว์อสูรระดับราชาได้ทั้งหมดประมาณ 10,000 ขวด เพราะหมีสงครามหลังดํานั้นมีขนาดใหญ่มาก ดังนั้นเลือดของมันจึงมีมากมาย

สําหรับศพของหมีสงครามหลังด่า เย่เทียนก็มอบมันให้เสียวเสวียน

แม้ว่าเสี่ยวเสวียนจะชอบดื่มเลือดของสัตว์อสูร แต่มันก็ชอบกินเนื้อสัตว์อสูรเช่นกัน ซึ่งก็เป็นวิธีที่สัตว์อสูรใช้เพิ่มความแข็งแกร่งของพวกมัน

“นายท่าน!

เสี่ยวเสวียนวิ่งเข้ามา

“มีอะไร?” เย่เทียนถาม

เสี่ยวเสวี่ยนพูดอย่างอายๆ

“นายท่าน สัตว์อสูรชั้นยอดที่ข้าล่ามา ข้าสามารถนําเลือดของพวกมันไปได้หรือไม่?”

เย่เทียนหัวเราะและตบหัวเสี่ยวเสวี่ยน

“ได้ พวกมันเป็นของเจ้าทั้งหมด!”

เสียวเสวียนดีใจมาก แต่มันก็ยังคงไม่ได้จากไป มันเอ่ยประจบประแจงอีกครั้ง

“นายท่าน ข้าจําได้ว่าท่านมีถุงเก็บสมบัติอยู่ไม่น้อย ข้ายังไม่มีสักใบเลย สัตว์อสูรพวกนั้นมีเลือดมากเกินไป ข้าดื่มไม่หมดในครั้งเดียว นายท่านสามารถมอบถุงเก็บสมบัติให้ข้าซัก 2-3 ถุง ได้หรือไม่?”

“นี่ของเจ้า!”

เย่เทียนหยิบถุงเก็บสมบัติสองใบออกมา และใส่สิ่งของด้านในไว้ในมิติส่วนตัว จากนั้นเขาก็ลบรอยประทับมิติและมอบมันให้กับเสี่ยวเสวียน

เสี่ยวเสวี่ยน รีบรับถุงเก็บสมบัติมาอย่างตื่นเต้น

มันจําได้ว่าเสี่ยวจอมถุงเก็บสมบัติอยู่ใบหนึ่งเช่นกัน ทุกครั้งที่เห็นเสี่ยวจื่อหยิบของบางอย่างออกมาจากถุงเก็บสมบัติ มันก็อิจฉาอย่างมาก ในที่สุดคราวนี้มันก็ฉวยโอกาสขอถุงเก็บสมบัติสองใบจากเจ้านายของมันได้

“สิ้ม ถุงเก็บของเป็นของข้าแล้ว ข้าไม่คืนให้นายท่านแน่!”

เสี่ยวเสวียนคิดในใจ

พรึบ!

มันรีบบินตรงไปยังศพของเหล่าสัตว์อสูรชั้นยอดทันที และรวบรวมเลือดจากซากศพของสัตว์อสูรชั้นยอดใส่ไว้ในถุงเก็บสมบัติ หลังจากนั้นไม่นาน

ถุงเก็บสมบัติทั้งสองใบเต็มก็ไปด้วยเลือดของสัตว์อสูร

เลือดของสัตว์อสูรที่เหลือถูกเสี่ยวเสวี่ยนกลืนกินอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นมันก็เริ่มดูดซับพลังจากเลือดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง

เป็นเวลาสามวันเต็มศพของสัตว์อสูรที่อยู่นอกฐานหลินไห่ถูกจัดการเรียบร้อย ทุกครอบครัวได้รับเนื้อและเลือดของสัตว์อสูรจํานวนมาก และครอบครัวของผู้ฝึกยุทธที่เสียชีวิตจากสงครามได้รับค่าตอบแทนเป็นจํานวนมากเช่นกัน

ตระกูลหลิน

การประชุมเริ่มต้นขึ้น

“ปรมาจารย์เย่ข้อมูลถูกสรุปแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้มีผู้ฝึกยุทธทั้งหมด 12,123 คนเสียชีวิต ในขณะที่คนธรรมดาเสียชีวิตไปประมาณ 20,000 คน!” หลินว่านหลี่รายงานต่อเย่เทียน

“ทําไมคนธรรมดาถึงตายไปเยอะขนาดนี้?” เย่เทียนขมวดคิ้ว

“เนื่องจากสัตว์ร้ายระดับสูงหลายตัวบุกเข้ามาในฐานทางใต้ดิน พวกเขาจึงไม่สามารถซ่อนตัวได้ เหลือแต่คนธรรมดาจํานวนไม่น้อยที่ไม่เต็มใจลงไปซ่อนตัวในอุโมงค์ใต้ดิน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเรามีจํานวนผู้ฝึกยุทธไม่เพียงพอ จึงสังหารสัตว์อสูรช้าไปเล็กน้อย นี่จึงเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ที่น่าอนาถเช่นนี้!” หลินว่านหลี่พูดอย่างช่วยไม่ได้

เย่เทียนถอนหายใจ

สัตว์อสูรมีมากมายหลายชนิด ภายใต้การโจมตีของสัตว์อสูรนับแสนตัว การที่สามารถปกป้องฐานหลินไห่เอาไว้ได้นับว่าดีมากแล้ว

สําหรับผลการรบ สถานการณ์การตายและการบาดเจ็บของฐานหลินไห่นั้นนับว่าเป็นการสูญเสียที่ไม่มากนัก

“ปรมาจารย์เย่ เราจะทําอย่างไรต่อไป คลื่นของสัตว์อสูรคราวนี้น่าจะยังไม่จบใช่หรือไม่?”

ในที่สุดตาเฒ่าหลี่ก็เปิดปากพูด

“มันยังไม่จบ ผมต้องกลับไปดูสถานการณ์ของฐานทัพทะเลมารก่อน สําหรับทางนี้ พวกคุณต้องคอยจับตาดูสถานการณ์ในป่าตลอดเวลา นี่คืออุปกรณ์ติดต่อ พวกคุณสามารถส่งข้อความง่ายๆให้ผมได้ แม้ว่าผมจะอยู่ที่ฐานทะเลมาร ถ้ามีคลื่นของสัตว์อีกครั้ง พวกคุณต้องรีบติดต่อผมโดยเร็ว “เย่เทียนสั่ง

“ท่านเย่เทียน ท่านกําลังจะไปที่ฐานทะเลมารหรอ? ไม่ใช่ว่าที่นั่นอันตรายกว่าฐานหลินไห่หรอกหรือ?” สีหน้าของตาเฒ่าหลี่เปลี่ยนไปอย่างมาก

ที่จริงเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเย่เทียน แต่เขากลัวว่าเมื่อเย่เทียนจากไป จะไม่มีใครช่วยปกป้องฐานหลินไห่ แม้ว่าเย่เทียนจะสัญญาว่าจะมาช่วยเขาทุกเวลา แต่หากเขาตกอยู่ในอันตรายขึ้นมาจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเย่เทียนไม่สามารถช่วยเหลือได้? ดังนั้นเขาจึงหวังว่าเย่เทียนจะอยู่ที่ฐานหลินไห่ต่อไป

“ผมตัดสินใจแล้ว ก็เอาตามนี้แล้วกัน!”

เย่เทียนพูดจบก็จากไป โดยไม่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดเลย