แม่ชีแห่งโชคชะตากำลังฝึกสมาธิอยู่ที่ศาลาในลานบ้าน เธอสวมชุดขาวดูผุดผ่องด้วยรังสีพลังแห่งอนันต์
มีเงาตะคุ่ม ๆ แอบมองดูอย่างเจ้าเลห์อยู่ตรงประตูลานบ้านนั่นคือ ฟลอเรียน ดาร์บี้
ตั้งแต่เหล่าสาวกหน้าตางดงามของสำนักง้อไบ๊ได้ย้ายเข้ามาอยู่คฤหาสน์ข้าง ๆ บ้าน เขาหวังว่าจะได้พบเจอพวกเธอสักครั้ง อย่างไรก็ตามแม่ชีแห่งโชคชะตาและเหล่าสาวกคนอื่น ๆ ออกจากบ้านน้อยครั้งมาก ๆ พวกเธอใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ในลานบ้าน
ฟลอเรียน ไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของนายท่านชรา เขาจึงมีความคิดว่าจะไปยืนมองอยู่ข้าง ๆ รั้ว
แม่ชีแห่งโชคชะตาสังเกตุเห็นฟลอเรียน “คุณฟลอเรียน” เธอทักทายอย่างสุภาพ “มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?”
“แม่ชีแห่งโชคชะตา ต้องขอภัยที่มารบกวนคุณ” เขาหัวเราะอย่างซื่อ ๆ “ผมกำลังคิดว่า… ในเมื่องานเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วงกำลังใกล้เข้ามาในอีกสองวัน ผมเลยอยากจะเชิญชวนคุณและเหล่าสาวกไปรับประทานอาหารที่บ้านของเรา”
แม่ชีแห่งโชคชะตาครุ่นคิดกับคำเชิญ “เพียงเท่านี้ก็รบกวนพวกคุณมากเกินพอแล้ว” เธอตอบอย่างขวยเขินทำให้ลำบากใจ
เธอซาบซึ้งสำนึกในบุญคุณของนายท่านชรา ดาร์บี้ ซึ่งให้ที่พักพิงกับพวกเธอได้อาศัย มันจะเป็นการรบกวนมากเกินไปที่พวกเขาจะมาจัดงานเลี้ยงให้พวกเธอ
‘ถ้าเหล่าสาวกของสำนักง้อไบ๊เข้าร่วมงานเลี้ยง ฉันก็สามารถจะใกล้ชิดกับพวกเขาได้ โดยเฉพาะแม่ชีแห่งโชคชะตาเมื่อเธอเมาขาดสติ’
ตราบใดที่สาวกของสำนักง้อไบ๊เข้าร่วมงานเทศกาลกล่างฤดูใบไม้ร่วง เขาจะมีโอกาสชิดใกล้กับพวกเธอโดยเฉพาะแม่ชีแห่งโชคชะตาเมื่อเธอเมาขาดสติ ความคิดของฟลอเรียน
“ไม่มากมายเกินไปหรอก!” เขาหัวเราะกับตัวเอง “อย่าเกรงใจ”
“ฉันขอคิดดูก่อน” เธอตอบ
เขาหัวเราะคิกคักตื่นเต้น “ได้เลย! ผมจะเฝ้ารอคำตอบจากคุณ!”
และเขาก็หันหลังเดินจากไป
กลับมาที่โรงเรียนเฮกเซด คาบเรียนสุดท้ายของวันคือวิชาพละ มันบังเอิญพอดีที่ห้องเรียนสิบเจ็ดซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน มาเรียนร่วมด้วยในคาบนี้
นักเรียนจากทั้งสองห้องส่วนใหญ่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยมั่งคั่งในเมืองตงไห่
ลิลี่,อีวอน และเคนท์นั้นเรียนอยู่ห้องเรียนสิบเจ็ด
คาบวิชาพละเหมือนเป็นชั่วโมงพักผ่อนตามอัธยาศัย บางคนเล่นบาสเกตบอลในสนาม บางคนเล่นโทรศัพท์มือถือ และบางคนก็เดินพูดคุยกันไปรอบ ๆ
แดร์ริลนั่งหลบแดดอยู่ใต้ไม้ กำลังฮัมเพลงกับตัวเอง ไม่นานก็มีร่างของสาวงามเดินเข้ามาหาเขา นั่นคือ ลิลี่
ลิลี่มอบขวดน้ำเปล่าให้กับแดร์ริล ที่เธอซื้อมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
แดร์ริลสังเกตุเห็นว่าลิลี่อ่อนโยนกับเขามากขึ้นในช่วงวันที่ผ่าน ถึงขนาดห่วงใยเขา พวกผู้ชายจากสนามมองแดร์ริลอย่างอิจฉา โดยเฉพาะพวกที่มาจากห้องเรียนสิบเจ็ดดวงตาพวกเขาลุกเป็นไฟ
ลิลี่เป็นดาวของห้องเธอ แต่ทำไมเธอถึงดูสนิทสนมกับผู้ชายที่มาจากห้องอื่น? พวกเขาอิจฉา หมอนั่นแดร์ริลไอ้ลูกเขยบ้านคนอื่น ผู้ไม่เคยแตะต้องเธอเลยตลอดสามปีของชีวิตแต่งงาน? แล้วทำไมพวกเขาถึงมาสนิทกันตอนนี้ได้?
จากนั้นก็มีร่างสาวงามอีกคนเข้ามาหาพวกเขา นั่นคือ อีวอน ยัง เธอก็มีขวดน้ำอยู่ในเช่นกันและส่งให้กับแดร์ริล “แดร์ริล ดื่มน้ำก่อนสิ” เธอขัดจังหวะ
อีวอนดูสวยขึ้นกว่าเดิมจากที่เคยเจอกันเมื่อครั้งก่อน เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์รัดรูป เธอเป็นจุดสนใจของทุกคนไม่ว่าจะไปที่ไหน
เธอนั่งลงข้าง ๆ กับแดร์ริลและหยิบเศษหยกสีขาวออกมา “แดร์ริลนายรู้ไหมว่ามันคือหยกอะไร?”เธอถาม
เธอไม่ได้เจอกับเขามาสักพัก แต่เขาก็วนเวียนอยู่ในหัวเธอ เธอรู้ว่าวันนี้จะมีคาบเรียนร่วมกันเธอจึงเอาหยกสีขาวติดตัวมาด้วย
พ่อของเธอก็ไม่รับรู้ถึงตำนานของหยกสีขาวนี้เหมือนกัน เธอจึงนำมาถามเขา และใช้มันโอกาสใกล้ชิดกับเขาอีกด้วย “นี่มันคือ หยกไขมันแกะจากเหอเถียน เป็นหยกที่หายากผิวสัมผัสของมันละเอียดละออ” แดร์ริลมองอย่างพินิจไปที่เศษหยกสีขาว
เขากล่าวต่อ “ถ้าฉันเดาไม่ผิดมันน่าจะมาจากพระราชวังในยุคราชวงศ์ถัง”
เด็กชายที่อยู่ในสนามกำลังแกล้งทำเป็นเล่นบาสเกตบอลแต่จริง ๆ แล้วพวกเขาจับจ้องไปที่แดร์ริล
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมสาวสวยถึงสองคนไปนั่งอยู่ข้าง ๆ ไอ้เจ้าลูกเขยบ้านคนอื่นนั่น?’
“หรือว่าเดียวนี้สาว ๆ จะชอบหัวขโมยกันหมดแล้ว?” ลูกพี่ลูกน้องพาลเมอร์เยาะเย้ยขบขันขณะเดินผ่านพวกเขา