ตอนที่ 679 ทุ่งหญ้าสีเขียว เขียวขจี / ตอนที่ 680 คู่หมั้นจะไม่มีแล้ว จะอายไปทำไม

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 679 ทุ่งหญ้าสีเขียว เขียวขจี

“ตอนเด็กๆ คุณชอบให้ของผม ไม่เหมือนผู้หญิงเลยสักนิด ชอบบอกว่าต้องทำดีกับผมให้มากหน่อยถึงจะหลอกผมให้มาอยู่ในกำมือได้” เมื่อฟ่านอวี่พูดออกไป อากาศภายในห้องหนังสือก็ดูลดต่ำลงทันที

เมื่อหันไปมอง ดวงตาสีดำของอวี๋เยว่หานก็เยือกเย็นอย่างถึงที่สุด

สายตาเต็มไปด้วยการเตือน

ถ้าหากชายหนุ่มยังคงพูดต่อไป ไม่ต้องรอพิสูจน์หรอกว่าเขามีความสัมพันธ์อะไรกับสิงลี่ อวี๋เยว่หานคงต้องหาข้ออ้างต่อยเขาสักหมัดแน่ๆ

สายตาคมของฟ่านอวี่ มองว่าดีมันก็ดี

ชายหนุ่มค่อยๆ หยิบอัลบั้มรูปภาพออกมาจากกล่องไปนั้น

เหล่มองไปทางอวี๋เย่หานแวบหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยพูดขึ้นอย่างสบายๆ

“นี่คือหลักฐาน”

ฟ่านอวี่พูดจบก็ส่งอัลบั้มภาพที่อยู่ในมือไปให้เหนียนเสี่ยวมู่ มุมปากยกยิ้มขึ้นเอ่ยเตือนอย่างหวังดี “ทางทีดีคุณควรดูคนเดียวนะ”

“……”

เพื่อนเกลอ คุณหาเรื่องนะ!

พูดบอกให้เธอดูคนเดียวต่อหน้าอวี๋เยว่หาน ก็เท่ากับเป็นการบอกว่าอวี๋เยว่หานเป็นคนนอกไม่ใช่หรือไง

มันสายเกินไปแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่รับอัลบั้มภาพมาแล้ววิ่งไปอยู่ตรงหน้าอวี๋เยว่หาน

ในใจก็เอาแต่คิดว่าโอกาสที่จะง้อก้อนน้ำแข็งมาถึงแล้ว!

ฟ่านอวี่บอกให้เธอดูคนเดียวแต่เธอรีบเอามาดูกับเขาอย่างรวดเร็ว แบบนี้เรียกว่ารักแท้ใช่ไหม

แบบนี้อวี๋เยว่หานก็คงไม่หึงฟ่านอวี่แล้วแน่ๆ

เหนียนเสี่ยวมู่คิดอย่างได้ใจ กลัวว่าฟ่านอวี่จะเข้ามาห้ามแล้วทำแผนดีๆ ของเธอพัง เหนียนเสี่ยวมู่เลยวิ่งไปตรงหน้าของอวี๋เยว่หานอย่างรวดเร็วแล้วเปิดอัลบั้มภาพออก

ภาพแรกที่ปรากฏต่อสายตาทำเอาร่างเธอแข็งทื่อไปทั้งร่าง!

มองเห็นภาพเพื่อนรักวัยเด็กคู่หนึ่งอยู่ในภาพถ่ายที่เหลืองไปหมดแล้วเพราะความเก่า

อายุราวๆ สิบขวบ มองแล้วดูเด็กมาก

ยืนไหล่แนบชิดกัน มือของเด็กผู้ชายโอบอยู่ที่ไหล่ของเด็กผู้หญิง

เด็กสาวดูเหมือนจะเขินอาย มุดหลบอยู่ในอ้อมกอดของเด็กชาย ไม่ยอมมองไปที่กล้อง

ในภาพปรากฏแค่หน้าของเด็กผู้ชายซึ่งก็คือฟ่านอวี่……

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเด็กสาวที่ ”เขินอาย” คนนั้น……ก็คือเธอ

เมื่อมองเห็นภาพนั้นอย่างชัดเจน เหนียนเสี่ยวมู่ก็สั่นไปทั้งร่างราวกับโดนไฟฟ้าช็อต

หดคอลง เหลือบมองไปยังอวี๋เยว่หานที่อยู่ข้างๆ

ใบหน้าสง่างามของใครบางคน ตอนนี้คาดเดาอารมณ์อะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ท่าทางที่ยากจะสัมผัสได้ เดาไม่ออกเลยว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

“ฉันเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูปมาโดยตลอด คนในภาพมองใบหน้าตรงไม่ชัดด้วยซ้ำ อาจจะไม่ใช่ฉัน……”

“คือคุณ” อวี๋เยว่หานพูดขึ้นเบาๆ

นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่กรอบรูปบนโต๊ะทำงานของฟ่านอวี่

ภาพถ่ายเดี่ยวใบนั้น คือใบหน้าตรงของเธอ

กระโปรงที่สวมใส่เป็นกระโปรงตัวเดียวกับที่ใส่ถ่ายภาพคู่นั่น

พิสูจน์ได้ชัดแล้ว

เขาโดนสวมเขา

แถมยังเป็นเมื่อสิบปีที่แล้ว……

“อวี๋เยว่หาน ฉันลืมเรื่องในอดีตไปหมดแล้ว คุณคงไม่คิดบัญชีกับฉันหรอกใช่ไหม” เหนียนเสี่ยวมู่ตบไปที่ภาพถ่ายคู่ใบนั้น

เทพธิดากำลังร้อนรนง้อคู่หมั้นของตัวเอง ไม่มีกะจิตกะใจจะไปหาความจริงอะไรทั้งนั้น

ความจริงจะสำคัญไปกว่าคู่หมั้นได้ยังไง!

แต่ฟ่านอวี่กลับมองดูความทุกข์ของคนอื่นด้วยความสะใจอยู่ด้านข้าง

“ผมเตือนคุณแล้ว ว่าอัลบั้มนั้นเหมาะที่จะดูคนเดียวแต่คุณไม่ยอมเชื่อเองนะ”

สิ้นเสียง เหนียนเสี่ยวมู่ก็หันไปถลึงตาใส่ชายหนุ่ม

เขาจงใจชัดๆ!

ถ้าเขาไม่พูดแบบนั้นออกมา เธออาจจะดูมันเองก่อนแล้วค่อยพิจารณาว่าจะให้อวี๋เยว่หานดูดีไหม

แต่เขาพูดแบบนั้นเธอก็ต้องให้ชายหนุ่มดูอยู่แล้วสิ

ไม่อย่างนั้นก็เท่ากับเธอกลัวความผิด

แม้ว่าเหตุการณ์ในตอนนี้แย่กว่าการกลัวความผิดมากนัก

อาจกลายเป็นคนโสดได้ทุกนาที……

เหนียนเสี่ยวมู่กำลังลังเลว่าจะง้อชายหนุ่มยังไงดีก็ได้ยินเสียงอวี๋เยว่หานค่อยๆ เอ่ยพูดขึ้น “เปิดดูต่อ”

ตอนที่ 680 คู่หมั้นจะไม่มีแล้ว จะอายไปทำไม

เขาพูดว่าอะไรนะ

ดูต่อ……อย่างนั้นเหรอ

เหนียนเสี่ยวมู่กอดสมุดอัลบั้มรูปถ่ายเอาไว้แน่น กลืนน้ำลายลงคออย่างหนัก

กำลังคิดอยู่ว่าชายหนุ่มพูดจริงหรือแค่ต้องการประชดเธอ

มองอยู่พักใหญ่ก็เห็นว่าชายหนุ่มยังคงมีสีหน้านิ่งๆ อยู่อย่างนั้น ไม่มีวี่แววว่าอยากจะลุกมาบีบคอเธอให้ตาย

อย่างนั้นก็หมายความว่าเขาอยากดูต่อจริงๆ อย่างนั้นเหรอ

ไม่ดีมั้ง……

ดูรูปถ่ายที่ถ่ายกับเพื่อนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กพร้อมกับคู่หมั้นแบบนี้ รู้สึกว่ามันโหดร้ายเกินไปนะ!

“อวี๋เยว่หาน พวกเราไม่ต้องดูแล้วดีมั้ย……” เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะเอ่ยพูดขึ้น คนที่อยู่ตรงหน้าก็ยื่นมือมาหยิบอัลบั้มภาพไปจากมือของเธอแล้วเปิดดูต่ออีกครั้ง

ใบหน้าสง่างามที่ไม่มีใครเทียบได้ องค์ประกอบบนใบหน้าสมส่วน เพียงแค่ยืนนิ่งๆ อยู่เฉยๆ ตรงนั้นก็ดูสูงส่งจนไม่มีใครกล้าแตะต้อง

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเปิดอัลบั้มรูปถ่ายออกดู ใจของเหนียนเสี่ยวมู่ก็กระวนกระวานเป็นทวีคูณ

ภาพคู่ภาพแรกพวกเธอดูไปแล้ว

เธอมองดูอวี๋เยว่หานเปิดไปดูภาพที่สองอย่างตื่นเต้น ตั้งท่าเพื่อเตรียมจะวิ่งเข้าไปแย่งสมุดกลับมา

ภาพแรกก็สนิทสนมกันขนาดนั้นแล้ว ถ้าภาพที่สองหนักกว่าเดิมล่ะ เธอจะวิ่งไปแย่งสมุดภาพนั้นกลับมาแล้วเอามันไปเผาในที่ที่ไม่มีคน!

ไม่ต้องสนหลักฐานอะไรทั้งนั้นแล้ว ง้อก้อนน้ำแข็งให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!

เหนียนเสี่ยวมู่กลั้นลมหายใจ จ้องไปที่อัลบั้มภาพนั้นไม่วางตา

เมื่อเห็นรูปใบที่สองชัดเจน เธอจึงผ่อนลมหายใจออกมาได้

ยังดียังดี ๆ ไม่ใช่ภาพถ่ายคู่ เป็นภาพที่เธอวาดภาพอยู่ที่สนามหญ้าคนเดียว

ตอนนั้นเธอยังเด็กอยู่ ยังไม่สูงสักเท่าไหร่ เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าขาตั้งวาดภาพก็ดูตัวเตี้ยมาก ในมือถือดินสอเสก็ตภาพเอาไว้ สายตาไม่ได้มองไปที่กระดาษแต่กลับมองไปด้านหน้าแทน……

เดี๋ยวนะ!

เหนียนเสี่ยวมู่เริ่มรู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้อง อึ้งงันไป

เธอหันหน้าให้กระดานวาดภาพแต่ไม่ได้วาดภาพ กลับมองไปด้านหน้าแทน อย่างนั้นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ……ก็คงจะเป็นฟ่านอวี่ที่กำลังถ่ายรูปให้เธออยู่แน่ๆ

เหนียนเสี่ยวมู่มองภาพที่ตนเองยิ้มจนตาหรี่ ก็แทบอยากจะจิกเข้าไปที่ดวงตาของตัวเอง

เธอไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

เธอไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

นี่มันไม่ใช่เธอ เธอความจำเสื่อม

เรื่องในอดีตเธอไม่ยอมรับเด็ดขาด!

เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้นมา มองไปทางอวี๋เยว่หานที่เห็นได้ชัดว่าคิดได้แบบเธอเหมือนกัน

ดวงตาดำราวกับหมึกของชายหนุ่ม ค่อยๆ เงยขึ้นมองมายังเธอแวบหนึ่ง

ในแววตาไม่มีความโกรธเคือง

แต่ว่ามันกลับทำให้คนรู้สึกหนาวจากด้านในแปลกๆ รู้สึกว่ามันแย่กว่าเดิมอีก……

สีหน้าแบบนี้ สู้ด่าเธอออกมาสักชุดยังจะดีกว่า

อย่างน้อยเธอจะได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส อ้างว่าเขาใช้ความรุนแรง ถือโอกาสทำตัวน่าสงสาร……

แต่ว่าชายหนุ่มกลับไม่พูดอะไรเลย เพียงแค่มองเธอด้วยความข่มขืน เธอจึงรู้สึกผิดในใจ

ทำอย่างไรดี

ไม่ใช่ว่ายังไม่ทันจะดูจบ เทพธิดาก็จะกลับไปเป็นโสดนะ……

เหนียนเสี่ยวมู่คว้ามือไปแย่งอัลบั้มภาพกลับมา ปิดมันลง จากนั้นก็กอดอัลบั้มภาพเอาไว้แล้วพุ่งเข้าใส่อ้อมกอดของอวี๋เยว่หาน

“ฉันไม่สน ไม่สน ตอนนี้คุณเป็นของฉันแล้ว ห้ามมาคิดบัญชีเก่ากับฉัน ฉันฮอตมากนะ ถ้าคุณรังเกียจฉันคุณโดนคนอื่นแย่งฉันไปแน่ๆ!”

อวี๋เยว่หาน “เหยียนเสี่ยวมู่ ไม่อายบ้างเหรอ”

“คู่หมั้นแทบจะไม่มีแล้ว จะอายไปทำไมกัน” เหนียนเสี่ยวมู่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม พูดออกมาอย่างน่าสงสาร

ท่าทางน่าสงสารแบบนี้ราวกับว่าคนที่โดนสวมเขาเป็นเธออย่างนั้นแหล่ะ

อวี๋เยว่หานกระตุกยิ้มมุมปาก เอื้อมมือไปบีบแก้มเธอ “ผมชอบที่คุณไม่อายแบบนี้นี่แหล่ะ แถมยังมั่นใจในตัวเองอีกต่างหาก”

เหนียนเสี่ยวมู่ “แล้วคุณยังโมโหอยู่ไหม”

สิ้นเสียง อวี๋เยว่หานก็หันไปมองฟ่านอวี่ที่จงใจยั่วโมโหเขาซึ่งยืนอยู่ข้างๆ แววตาเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย ค่อยๆ เอ่ยพูดออกมาทีละคำ “คนบางคนตอนนี้ก็ทำได้แค่กอดอัลบั้มภาพเก่าๆ รำลึกความหลังไปก็เท่านั้น ผมใจกว้าง ไม่โกรธหรอก”