มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 156
“งั้นคุณกำลังจะบอกว่าคุณมาจากมหาวิทยาลัยซันนี่เดลเหรอ? ผมไม่เคยเห็นคุณที่นั่นมาก่อนเลย!” ดิกสันยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา
“ไม่ ผมมาจากมหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่” เจอรัลด์รู้วิธีที่จะสงบสติอารมณ์ไม่ว่าคนอื่นจะให้ความรู้สึกแบบไหนกับเขาก็ตาม
“มหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่ก็ดี ยังไงซะ ครอบครัวของคุณทำงานอะไร? คุณทำให้เอเลน่าตกหลุมรักคุณได้อย่างไรกัน?” ดิกสันถาม
“เอาล่ะ ดิกสัน ให้ฉันบอกคุณนะ เขามาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ และครอบครัวของเขาเปิดร้านขายของชำที่เล็กมาก ๆ ! คุณจะไม่เข้าใจได้อย่างไรเมื่อมองวิธีที่เขาแต่งตัว?” แอมเบอร์ตอบ
สภาวะสูงสุดของการเพิกเฉยก็คือการแสร้งทำเป็นว่าใครบางคนไม่ได้มีตัวตนอยู่ถึงแม้เขาจะอยู่ตรงหน้าของคุณก็ตาม แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เจ็บปวด แต่จริง ๆ แล้วก็คงไม่มีใครจะบ่งชี้ให้เห็น อย่างไรก็ตาม แอมเบอร์ได้ทำอย่างนั้นกับเจอรัลด์มาโดยตลอด และมันแสดงให้เห็นว่าเธอรังเกียจเขามากเพียงใด
“โอ้ การมาจากเมืองเล็ก ๆ มันต้องเป็นการเรียนที่ยากลำบากแน่ในเมืองเมย์เบอร์รี่ โปรดแจ้งให้ผมได้รู้ถ้าคุณมีปัญหาใด ๆ ก็ตาม พ่อของผมรู้จักกับคณบดี และผมสามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้คุณได้ ถ้าคุณต้องการเงินกู้ คุณสามารถมาหาผมได้ตลอดเวลาเช่นกัน ผมมาจากมหาวิทยาลัยซันนี่เดล แต่จริง ๆ แล้วผมมีเส้นสายทั่วไป! ยังไงซะ คุณเคยกู้เงินประเภทใดมาก่อนหรือไม่?”
ไม่นานดิกสันก็สังเกตเห็นว่าแอมเบอร์ได้เพิกเฉยต่อเขา…
“ครับ ผมเคยสมัครขอเงินกูเรียนมาสามปี ผมใช้เงินนั้นจ่ายค่าเทอมไป!” เจอรัลด์ตอบ
เดิมทีเจอรัลด์ตั้งใจจะแสดงให้เห็นว่าเอเลน่านั้นคิดคิด แต่ตอนนี้เขาตัดสินใจว่ามันคงจะดีที่สุดที่จะไม่ทำตัวให้เป็นจุดสนใจ
มีอยู่สามเหตุผลสำหรับเรื่องนี้ด้วยกัน
อย่างแรก เจอรัลด์ได้สมัครขอเงินกู้และได้จ่ายค่าเล่าเรียนของเขาด้วยเงินนั้นจริง
อย่างที่สอง แม้ว่าเขากำลังพยายามจะช่วยเอเลน่า แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำไปเกินกว่านั้น เจอรัลด์ตระหนักได้ว่าเอเลน่าไม่ได้แค่แสร้งทำเป็นว่าเขาเป็นแฟนของเธอ แต่จริง ๆ แล้วเธออยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป ไม่ใช่ว่าเขาหลงตัวเอง แต่เขาสามารถรู้สึกมันได้จริง ๆ แม้ว่าเจอรัลด์จะชอบผู้หญิงสวย ๆ และอาจตกหลุมรักกับพวกเธอคนใดคนหนึ่งได้ง่าย ๆ แต่เขาก็ไม่ใช่คนเลวโดยทั่วไป เจอรัลด์ต้องการให้แฟนสาวของเขามีความเชื่อมโยงกันในระดับที่ลึกซึ้งกันมากกว่านี้เสมอมา แต่เอเลน่าไม่ใช่คน ๆ นั้นอย่างแน่นอน นี่เป็นเพราะว่าครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกัน เอเลน่าทำให้ใบหน้าของเขาบอบช้ำ จึงเป็นผลให้เจอรัลด์ไม่อยากจะเดทกับเธอ
อย่างที่สาม เขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา เขารู้สึกอึดอัดใจในแต่ละครั้งที่เขากลายมาเป็นจุดสนใจ เขาไม่เคยจะเข้าใจว่าทำไมใคร ๆ ก็ชอบที่จะเป็นแบบนั้น
“โห! นายต้องจ่ายค่าธรรมเนียมโรงเรียนของนายด้วยเงินกู้ถึงสามปีเลยเหรอ? นายต้องยากจนมากแน่!”
“พระเจ้า! นี่คือข่าวใหญ่ คนบางคนจะยากจนขนาดนี้จนต้องสมัครเงินกู้ถึงสามปีได้อย่างไร? ฉันคงจะอับอายขายหน้ามากแม้ว่าฉันจะต้องสมัครมันแค่ครั้งเดียว ฉันอาจจะฆ่าตัวเองตายเลยก็ได้!” แอมเบอร์และหญิงสาวคนอื่น ๆ เย้ยหยัน
รูบี้หน้านิ้วคิ้วขมวด คิดว่าเอเลน่าต้องบ้าไปแล้วที่ได้เลือกผู้ชายเช่นเขา!
ทำไมเธอถึงเลือกคนบางคนเช่นเขาได้!
“พวกเขาบอกว่าเด็ก ๆ ที่มาจากครอบครัวที่ยากจนจะเสรีมากขึ้น แต่เอาล่ะ ดูเหมือนว่าจะถูกนะ แต่ถ้าคุณต้องการเงิน คุณสามารถเข้ามาหาผมได้ตลอดเวลานะ ผมยินดีที่จะให้คุณยืมเงินเพราะเอเลน่า และผมเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกัน พวกเราก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ เหมือนกัน!” ดิกสันยิ้ม
แม้ว่าจะเป็นอิริยาบทเล็ก ๆ แต่มันก็ชัดเจนว่าพวกเขากำลังเยาะเย้ยเขาอยู่
การเป็นประธานนักศึกษา จึงเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่พูดได้ดี ทุก ๆ ประโยคที่ออกมาจากปากของเขาดูถูกเจอรัลด์ได้อย่างมีเลศนัย
“ไม่มีความจำเป็นสำหรับเรื่องนั้น แต่ก็ขอบคุณนะครับ” เจอรัลด์ยิ้มและปฏิเสธข้อเสนอของเขาอย่างสุภาพ
“ไม่เป็นไร ยังไงซะ เนื่องจากคุณกำลังเรียนที่มหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่ คุณเคยไปสถานที่ท่องเที่ยงใกล้เคียงหรือเปล่า? คุณควรไปเที่ยวดูแถวย่านการค้าเมย์เบอร์รี่และเวย์แฟร์เมาน์เทน เอ็นเตอร์เทนเม้นนะ คุณจะไม่ไปได้อย่างไรในเมื่อคุณอยู่ในเมืองเมย์เบอร์รี่แล้ว ใช่ไหม? ทำไมผมไม่พาคุณไปดูรอบ ๆ หลังจากนี้เอาล่ะ? พ่อของผมรู้จักกับซีอีโอของร้านอาหารในย่านการค้านั่น ผมพาคุณไปได้นะ!”
“เฮ้ ดิกสัน คุณจำไม่ได้ว่าพ่อของเอเลน่าทำธุรกิจอะไรเหรอ? แม้เจอรัลด์จะมาเยี่ยม เอเลน่าก็สามารถพาเขาไปได้!” แอมเบอร์พูดด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ ใช่สิ ผมลืมไปได้ยังไง? ผมแค่จำได้แค่ว่าเจอรัลด์ค่อนข้างเป็นคนยากไร้ที่ไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนมาก่อนแค่นั้น แต่เอาเถอะ ดูเหมือนว่าเขาจะเคยไปที่ย่านการค้าเมย์เบอร์รี่บ่อย ๆ หลังจากที่เขาได้คบกับเอเลน่าแล้ว”
“โอ้วว… เป็นความผิดของผมแน่ ๆ ที่มีความจำไม่ดี! ฮ่าฮ่าฮ่า!” ดิกสันตีหัวของเขาขณะที่เขาปล่อยหัวเราะออกมา