บทที่ 1087+1088

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 1087+1088 โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 1087 หยั่งเชิง 3

กู้ซีจิ่วเดินวนภายในห้องรอบหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า “ผู้อาวุโสหลงสิ้นเปลืองจิตใจแล้ว”

หลงฟั่นก็มองเห็นความผิดปกติอะไรจากใบหน้าของเธอ ท่าทางนี้ของเธอเหมือนเพิ่งเคยเห็นห้องที่มีการตกแต่งแบบนี้เป็นครั้งแรกเพียงแต่ท่าทางก็ดูจะชอบมากหมือนกัน

หลงฟั่นมองดูเธอสองครา “เธอควรเรียกฉันว่าคุณพ่อนะ”

กู้ซีจิ่วชะงักไปครู่หนึ่ง ตอบอย่างจริงจังยิ่ง “ขอโทษด้วย เรียกไม่ออก”

หลงซือเย่เงียบงัน

เขายังไม่ทันได้พูดอะไร ด้านนอกก็มีเสียงคนหัวเราะเบาๆ “ผู้อาวุโสหลง เจ้าให้นางเรียกเจ้าว่าพ่อ เช่นนั้นวันหน้าข้าต้องเรียกเจ้าว่าอย่างไรเล่า?”

บานประตูเปิดออก ท่านเจ้าผมเงินผู้นั้นเดินเยื้องย่างเข้ามา

ประโยคนี้เห็นได้ชัดว่าแฝงความนัยยิ่งนัก กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว สีหน้าของหลงฟั่นพลันแปรเปลี่ยนนิดๆ “ท่านเจ้า…”

ฝ่ามือของท่านเจ้าผมเงินกดลงบนไหล่เขาเบาๆ “เอาล่ะ ถึงแม้ร่างนี้ของนางเจ้าจะเป็นผู้สร้างขึ้นมา แต่ดวงวิญญาณของนางไม่ใช่ จึงไม่นับว่าเป็นบุตรสาวของเจ้า”

เห็ดได้ชัดว่าหลงฟั่นค่อนข้างยำเกรงเขา จึงเงียบไปแล้ว

ท่านเจ้าผมเงินตบไหล่อีกครั้ง “หลงฟั่น เจ้ามีการใดก็ไปทำเถิด”

“ขอรับ” หลงฟั่นหันกายจากไป

ในห้องเหลือเพียงท่านเจ้าผมเงินกับกู้ซีจิ่ว สายตาของท่านเจ้าผมเงินร่อนลงบนร่างกู้ซีจิ่ว ไม่พูดอยู่พักหนึ่ง

ภายในห้องเงียบไปชั่วขณะ กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปาก ไอพลังของเจ้าผู้นี้กล้าแกร่งเกินไป รั้งอยู่ที่นี่ต่อให้ไม่พูดอะไรก็รู้สึกถึงความมีตัวตนยิ่งนัก

เธออ้าปากหาวคราหนึ่ง “ท่านเจ้ามีธุระอะไรอีก?”

ท่านเจ้าผมเงินนิ่งไปครู่หนึ่ง โบกพัดจีบล่มหนึ่งที่ไม่ทราบว่าหยิบออกมาจากไหน ยิ้มบางๆ กล่าวว่า “ซีจิ่ว นี่เจ้าไล่ข้าแบบกลายๆ อยู่หรือ?”

กิริยาเช่นนี้ของเขาคือการเคลื่อนไหวอันเป็นมาตรฐานขององค์ชายแปดหรงเช่อ ถึงแม้รูปลักษณ์จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว แต่กิริยาท่าทางกลับเป็นเช่นในอดีต งามสง่าดั่งบทกลอน อ่อนโยนเสมือนหยก เหมือนทะเลสาบโค้งมนแห่งนี้ ดูใสกระจ่างตื้นเขิน แท้จริงแล้วกลับลึกจนไม่อาจหยั่งได้

เพียงแต่ความสุภาพอ่อนโยนในอดีตของเขาแฝงความเฉียบแหลมปานจิ้งจอกเอาไว้ ทว่ายามนี้จิ้งจอกตัวนี้กลับกลายร่างเป็นปีศาจจิ้งจอกเก้าหางแล้ว ทุกอากัปกริยาแฝงกลิ่นอายเย้ายวนไว้เสมอ

หลังจากที่เธอทะลุมิติมาหรงเช่อเป็นองค์ชายคนแรกที่ดีต่อเธอ ซ้ำยังช่วยเหลือเธออยู่หลายครั้ง ถึงแม้แรกเริ่มเขาอาจจะมีแผนการอย่างอื่นอยู่ แต่เขาก็ดีต่อเธออย่างแท้จริงอยู่ระยะหนึ่งจริงๆ ยามนั้นกู้ซีจิ่วก็เห็นเขาเป็นสหายคนหนึ่งจริงๆ เหมือนกัน

เวลาผ่านไปไม่ถึงสองปี ทุกสิ่งยังคงเดิมทว่าตัวคนนแปรเปลี่ยนไป ร่างของหรงเช่อระเบิดจนแหลกละเอียดนับพันนับหมื่นชิ้น ส่วนท่านเจ้าผู้นี้ก็กลับสู่รูปลักษณ์ดั้งเดิมของตน

ท่านเจ้าผู้นี้เข้าแทนที่หรงเช่อยามหรงเช่ออายุแปดขวบ ผู้ที่กู้ซีจิ่วรู้จักในคราแรกความจริงแล้วก็คือเขา…

ยามนั้นเธอไม่เคยคิดเลยว่าบอสใหญ่ที่บงการอยู่เบื้องหลังก็คือเขา เป็นตัวละครที่ซ่อนเร้นมิดชิดยิ่งนักโดยแท้!

เห็นทีว่ายังคงเป็นตี้ฝูอีที่มีสายตากว้างไกล ยามนั้นจึงมองออกว่าเขาผิดปกติ เพียงแต่หาหลักฐานมายืนยันไม่ได้เท่านั้น

ยามนี้มีหลักฐานยืนยันแล้ว ทว่าเมื่อทุกอย่างเปิดเผยออกมาแล้ว เธอกลับประเหมาะเคราะห์ร้ายตกอยู่ในกำมือของคนพวกนี้…

กู้ซีจิ่วทอดถอนใจอยู่ในใจคราหนึ่งโชคชะตาช่างเล่นตลกกับคนนัก ทว่าใบหน้ากลับไม่เผยสีหน้าใดๆ เพียงตอบอย่างเฉยชาว่า “ซีจิ่วค่อนข้างงาวงแล้ อยากพักผ่อนสักหน่อย ม่านเจ้าภาระล้นมือ คาดว่าต้องยุ่งมากเป็นแน่ ไม่จำเป็นต้องมาโอ้เอ้เสียเวลากับซีจิ่วที่นี่หรอก”

หรงเช่อในอดีตเป็นคนรู้ความผู้หนึ่งเสมอมา แถมยังช่างสังเกตสีหน้าคน ปีนั้นตอนกู้ซีจิ่วพำนักอยู่ที่จวนแม่ทัพ หรงเช่อก็เคยมาเยี่ยมเยือนเธออยู่หลายครา หากเธอเผยสีหน้าอ่อนเพลียเพียงเล็กน้อย เขาจะลุกขึ้นแล้วขอตัวลาทันที

หนนี้ท่านเจ้าผมเงินยังคงรักษานิสัยดีๆ ในกาลก่อนไว้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงยิ้มแวบหนึ่ง “ได้ เช่นนั้นเจ้าพักเถอะ เอาไว้ข้าจะมาหาเจ้าใหม่” เยื้องย่างจากไป

————————————————————————————-

บทที่ 1088 หยั่งเชิง 4

กู้ซีจิ่วเดินวนภายในห้องรอบหนึ่ง นี่คือความเคยชินที่ฟูมฟักมาจากอาชีพนักฆ่าของเธอ ไม่ว่าจะไปที่ไหนล้วนต้องสำรวจที่พักให้ละเอียดหนึ่งรอ ด้วยเหตุนี้เธอจึงพบกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งบนช่อดอกไม้ที่ปักกระจายอยู่ในแจกันใบใหญ่ใบหนึ่งตรงมุมห้อง…

เธอถือกล้องวงจรปิดตัวนั้นไว้มองแวบหนึ่ง ใบหน้าเฉิดฉันคล้ายจะค่อนข้างโกรธเคือง หัวเราะหยันคราหนึ่ง ทำลายกล้องทิ้งทันที!

ภายในห้องหนึ่งบนผนังกระจกเฝ้าติดตามเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ ด้านที่แสดงฉากภายในห้องของกู้ซีจิ่วกลายเป็นผนังขาวโพลนแล้ว…

หลงฟั่นมองเข้าไปแวบหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า

เขารู้อยู่แล้วว่าด้วยไหวพริบของสาวน้อยคนนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พบกล้องวงจรปิดตัวนั้น

ท่านเจ้าผมเงินก็มองเห็นฉากนี้เช่นกัน “หลงฟั่น เจ้าพูดถูก นางมีไหวพริบมากจริงๆ”

มือไม้ของหลงฟั่นเคลื่อนไหวทำงาน พลางตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา “ข้าก็เคยบอกไปนานแล้ว นางเป็นนักฆ่าที่ยยอดเยี่ยมที่สุดของยุคนั้น!”

พัดจีบในมือของท่านเจ้าผมเงินเคาะโต๊ะทำงานเบาๆ “เจ้าว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่พอนางฟื้นขึ้นมาก็พบกล้องวงจรปิดเหล่านั้นแล้ว ดังนั้นจึงแสร้งเล่นละคร?”

หลงฟั่นตะลึงไปครู่หนึ่ง ส่ายหัวทันที “เป็นไปไม่ได้! ตอนที่นางฟื้นขึ้นมาท่านเองก็เห็นแล้ว กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในห้องวิจัยของข้าน้อยเป็นสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นในยุคนี้ คนนอกไม่เคยพบเห็นเลย นางก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน เป็นไปไม่ได้ที่พอลืมตาขึ้นก็เล่นละครได้เลย หากนางมีความทรงจำของโลกนี้อยู่ เมื่อลืมตาขึ้นอย่างไรก็ต้องเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าท่าทางนั้นของนางมิใช่การแสร้งทำ”

ท่านเจ้าผมเงินถอนหายใจเบาๆ “สาวน้อยผู้นี้เฉลียวฉลาดปานจิ้งจอกน้อย ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากน้อยเพียงได้ที่หลงกลนางเข้า เรื่องมากมายที่เป็นไปไม่ได้เมื่อตกอยู่กับนางแล้วสามารถเป็นไปได้ทั้งนั้น บางทีข้าคงต้องทดสอบนางดูอีก”

หลงฟั่นเหลือบตาขึ้นแวบหนึ่ง สีหน้าไม่น่ามอง “ท่านเจ้าสงสัยความสามารถด้านโอสถของข้าหรือขอรับ?”

พัดของท่านเจ้าผมเงินแตะไหล่เขาคราหนึ่ง “ผิดแล้ว ข้าวางใจในความสามารถด้านโอสถของเจ้ายิ่งนัก ที่ไม่วางใจมีเพียงตัวนาง นางมักจะเป็นตัวแปรอยู่เสมอ วางใจเถอะ การทดสอบครั้งนี้ไม่ทำให้นางมีอันตรายถึงชีวิตหรอก ข้ารู้ว่านางเป็นแก้วตาดวงใจของเจ้า ย่อมกระทำอย่างมีขอบเขต” แล้วหมุนกายจากไป

….

กู้ซีจิ่วนอนอยู่บนเตียง หลับตาแสร้งงีบ ทว่าในใจกลับทอดทอดใจอย่างระทมขมขื่น

บนโลกนี้ยังมีใครที่น่ารันทดกว่าเธออีกไหม?

ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้อยู่กับคนรัก อิงแอบแนบซบกันอยู่ในถ้ำบนภูเขา ไหนเลยจะนึกว่าหลังจากไข้ขึ้นสูงคราหนึ่งดวงวิญญาณของเธอก็หลุดลอยแล้ว เบิกตามองดวงวิญาณตนลอยออกมาจากร่างตน ตอนนั้นเธอร้อนรนยิ่งนัก ไม่อาจควบคุมร่างกายได้ ในความว่างเปล่าราวกับมีมือข้างหนึ่งฉุดดึงเธอไป

เนื่องจากในใจเธอมีห่วงอยู่ จึงหวาดกลัวยิ่งนัก เกรงว่าตนจะตายไปแบบนี้ ยังคิดจะตะโกนส่งเสียงดังด้วย

ไหนเลยจะคาดคิดว่ายามนั้นเธอกลับส่งเสียงออกมาไม่ได้เลย คนใบ้ไร้เสียงยังพอรีดเค้นเสียงอืออาออกมาได้ ทว่าเธอในยามนั้นแม้แต่เสียงอืออาก็เปล่งไม่ออก!

ขณะนั้นเธอร้อนใจยิ่งนัก ในใจพะวงถึงตี้ฝูอีหากเขาออกฌานมาแล้วพบว่าเธอกลายเป็นศพเย็นเฉียบไปแล้ว จะปวดใจมากหรือเปล่า?

ด้วยความเศร้าโศกของเขาอาจจะใช้วิชาเรียกวิญญาณต้องห้ามอันใดเพื่อช่วยเหลือเธอหรือเปล่า จะสิ้นเปลืองพลังจนหดเล็กลงอีกครั้งหรือไม่?

ยามนั้นเธอเธอทุ่มเทอย่างกำลังเพื่อจะรั้งอยู่ที่เก่า เล่นชักเย่อกับแรงประหลาดที่ฉุดดึงตัวเธอ…

ยังดึงกันได้ไม่เท่าไหร่ เธอก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าร่างนั้นของตนถูกตี้ฝูอีเรียกจนตื่นขึ้นมาแล้ว…

ตอนนั้นเธอตกตะลึงยิ่งนัก ด้วยเหตุนี้จึงไม่ทันได้ระวัง ถูกแรงประหลาดนั้นลากไป เบื้องหน้าพลันมืดมิดไม่รับรู้อะไรอีกเลย ในสภาวะที่กำลังสะลึมสะลืออยู่ก็ได้ยินบทสนทนของหลงฟั่นกับท่านเจ้าผมเงิน…

————————————————————————————-