ตอนที่ 11 ของขวัญ

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 11

ของขวัญ

พอพูดถึงของขวัญ ราชาทั้ง 3 ที่ยังไม่ได้นำของขวัญออกมาต่างพากันเรียกกล่องไม้ออกจากมิติส่วนตัวของแต่ละตนอย่างรวดเร็ว มันทั้ง 5 ต่างมองตากันราวกับจะบอกว่าของขวัญของมันแต่ละตนไม่น้อยหน้าตนอื่นๆแน่นอน

“จูเอ๋อ ในภายภาคหน้าเจ้าต้องใช้ของพวกนี้ฝึกพลังวิญญาณ น้าเลยไปหามาให้”ไก่ฟ้าหงอนทองเป็นคนแรกที่เปิดกล่องออกมา ภายในปรากฏหินคริสตัลหลากหลายรูปแบบดูแล้วมีค่าเป็นอย่างยิ่ง

“เจ้าจะบ้าหรือไงไก่ฟ้า หินวิญญาณระดับสูงพวกนี้ขืนจูเอ๋อใช้มีหวังได้ตายแน่”จิ้งจอกเหมันต์ท้วงพลางแย่งกล่องหินวิญญาณจากไก่ฟ้าหงอนทอง จริงๆของพวกนี้มันสะสมไว้นานแล้ว แต่เพราะอสูรไม่ได้ฝึกฝนพลังวิญญาณมันเลยใช้งานหินพวกนี้ไม่ได้ แต่คุณค่าของมันก็ยังคงมหาศาลที่มันเก็บเอาไว้เพื่อสะสมเท่านั้น แต่ก็เป็นอย่างที่จิ้งจอกเหมันต์ได้พูดเอาไว้ ของพวกนี้เป็นของระดับสูงเกินกว่าที่ไป๋จูเหวินจะสามารถเอามาใช้ได้ หากจะใช้มันต้องฝึกจนพลังฝีมือสักครึ่งหนึ่งของเหล่าน้าๆมันก่อนเท่านั้น

“น่าก็เก็บไว้ก่อนไง”ไก่ฟ้าว่าพลางยิ้มกว้าง

“เก็บไว้ก่อนน้องสาวเจ้าสิ ขืนให้จูเอ๋อถือของแบบนี้ไปไหนมาไหนได้โดนฆ่าเพื่อชิงหินวิญญาณพวกนี้ก่อนแน่ๆ”ราชสีห์เพลิงท้วงพลางหยิบกล่องที่จิ้งจอกเหมันต์แย่งมาส่งไปให้มังกรธรณี

“ของเช่นนี้เก็บไว้ที่พวกเราก่อน หากจูเอ๋อใช้ได้เมื่อไหร่ค่อยให้ไป”มังกรธรณีถอนหายใจพลางยึดกล่องไม้ที่ไก่ฟ้าหงอนทองเอามาไปอย่างไม่ไยดี จริงๆในป่าของมันก็มีสมุนไพรหายากที่มีพลังพิสดารหลากหลายชนิด แต่มันก็ให้จูเอ๋อกินไม่ได้เพราะผลของมันแรงเกินกว่าจูเอ๋อจะรับไหว หากมันอยากจะเสี่ยงเพิ่มพลังให้จูเอ๋อมันคงเอาสมุนไพรพวกนั้นมาให้นานแล้ว และพลังของจูเอ๋อคงขึ้นเป็นระดับ ทอง ในพริบตาแน่ๆ แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงว่าจูเอ๋อจะอยู่หรือตายอีกที

“อะ เอ่อ…”ดูเหมือนเจ้าไก่ฟ้าจะลืมนึกถึงเรื่องที่มีคนจะขโมยของไปจากจูเอ๋อเสียสนิท ในป่ามันปกครองได้แต่ในแดนมนุษย์มันปกครองไม่ได้เสียด้วย

“ไม่งั้นพวกข้าจะลำบากหาของที่มีประโยชน์กับจูเอ๋อตอนนี้ไปทำไมกันเล่า”ราชสีห์เพลิงถอนหายใจ ก่อนจะเปิดกล่องไม้ของตนเอง ภายในกล่องปรากฏขวดยากระเบื้องสีขาว 3 ขวดโดยแต่ละขวดถูกวาดลวดลายเอาไว้ไม่เหมือนกัน

“นี่เป็นยาฉุกเฉินให้เจ้าพกติดตัวเอาไว้ ขวดรูปต้นหญ้าเป็นยารักษาทั่วไป หากเจ้าบาดเจ็บไม่มากให้กินยาในขวดนี้ ส่วนขวดรูปผีเสื้อสีแดงเป็นยารักษาบาดแผลฉุกเฉิน หากเจ้าบาดเจ็บหนักจงใช้ยาในขวดนี้ ส่วนขวดรูปพระจันทร์เป็นยาฟื้นฟูพลังวิญญาณ เมื่อเจ้าฝึกฝนพลังแล้วเกิดพลังวิญญาณหมดหรือบาดเจ็บเพราะพลังวิญญาณกินยาขวดนี้”ราชสีห์เพลิงพูดจบก็วางยาเอาไว้ให้จูเอ๋อ มันได้สอนวิธีหลอมยาพวกนี้ให้จูเอ๋อไปแล้ว มันสามารถหลอมเองได้ แต่มันไม่รู้ว่าวัตถุดิบที่ใช้จะหาจากแดนมนุษย์ได้หรือไม่ มันเลยหลอมยาพวกนี้เผื่อไว้ให้จูเอ๋อใช้ยามจำเป็น

“จูเอ๋อ สวมสร้อยเส้นนี้เอาไว้ตลอดนะ”มังกรธรณีพูดพลางยื่นสร้อยเส้นหนึ่งให้ไป๋จูเหวิน มันเป็นสร้อยทรงกลมรูปมังกรกำลังขดตัว แต่ในมือของมังกรทั้ง 4 มีลูกแก้วสีฟ้า เหลือง แดง และ ทองถือเอาไว้ ส่วนในปากคาบลูกแก้วสีเขียว ดูแล้วสวยงามและมีค่าไม่น้อย แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือบนลูกแก้วแต่ละลูกมีกลิ่นอายของท่านน้าทั้ง 5 ของมันโชยออกมา

“น้าใช้พลังอสูรของพวกเราหลอมลูกแก้วพวกนี้ขึ้นมา มันเป็นเครื่องหมายว่าเจ้าเป็นคนรู้จักของพวกเรา”สร้อยดังกล่าวมังกรธรณีทำขึ้นหลังจากตัดสินใจจะให้ไป๋จูเหวินเดินทางไปแดนมนุษย์ มันขอให้ราชาแต่ละตนสร้างลูกแก้วพวกนี้และสร้างสร้อยขึ้นมา 1 เส้นเพื่อประกอบลูกแก้วเข้าด้วยกัน แม้แดนมนุษย์จะมีอสูรจากเขตอสูรไม่มาก แต่อย่างน้อยเมื่อไป๋จูเหวินเจอกับพวกมัน สร้อยเส้นนี้จะทำให้พวกมันรู้ว่าไป๋จูเหวินเป็นคนของพวกมันและห้ามทำอะไรเด็ดขาด กล่าวอีกอย่างก็คืออสูรที่ไป๋จูเหวินเจอจะไม่ทำร้ายมัน แม้มันจะมีพลังทำให้อสูรหลงใหลอยู่แล้วแต่มังกรธรณีก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“ขอบคุณครับท่านน้ามังกร”ไป๋จูเหวินตอบพลางสวมสร้อยคออย่างว่าง่าย พริบตาที่สวมลูกแก้วทั้ง 5 ส่องแสงวูบก่อนจะกลับเป็นลูกแก้วธรรมดาในทันที แม้จะเป็นแค่ของง่ายๆที่พวกมันทำขึ้นแต่นี่เป็นของชิ้นแรกที่ราชาทั้ง 5 แห่งแดนอสูรสร้างร่วมกันเชียวนะ

“จูเอ๋อ ผ้าพันคอผืนนี้น้ามอบให้เจ้า”เมื่อเห็นไป๋จูเหวินสวมสร้อยเสร็จแล้ว จิ้งจอกเหมันต์ก็ยื่นผ้าพันขอสีขาวให้ไป๋จูเหวินผืนหนึ่ง ทันทีที่สัมผัสมือไป๋จูเหวินก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นที่คุ้นเคย

“ท่านน้า…นี่มัน”ไป๋จูเหวินขมวดคิ้วพลางมองสิ่งที่ใช้ทอผ้าพันคอ แม้ดูภายนอกจะเหมือนผ้าไหมชั้นดี แต่หากเพ่งมองจะพบว่ามันคือขนหางของจิ้งจอกเหมันต์นั่นเอง

“เวลาเจ้าร้อน มันจะช่วยเจ้าได้”จิ้งจอกเหมันต์พูดราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แม้จะไม่ได้ตัดหางออกมา แต่การใช้ขนหางทอผ้าพันคอให้ไป๋จูเหวินนางต้องดึงขนหางที่นางแสนรักแสนหวงออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านางทุ่มเทให้มากแค่ไหน ทำให้ไม่มีใครทักท้วงเลยว่าผ้าพันคอที่สมควรเป็นของทำให้ร่างกายอบอุ่นมันไม่เหมาะกับการใช้ขนหางของนาง แต่ร่างกายไป๋จูเหวินตอนนี้อากาศร้อนหนาวคงทำอะไรมันไม่ได้อยู่แล้ว ทุกตนเลยปล่อยผ่านไป

“พลังอสูรของเจ้ายังไม่ถึงขั้น….ทอง พกสิ่งนี้ไว้มันจะช่วยให้เจ้าเดินทางได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น”สิ่งที่อยู่ในกล่องของพยัคฆ์อัสนีคือ แหวนมิติ ปกติเหล่าราชาใช้ช่องมิติของตนเองอยู่แล้ว พวกมันเลยแทบไม่ได้ใช้ของแบบนี้เลย ไม่ทราบพยัคฆ์อัสนีไปหาของแบบนี้มาจากไหน แต่มันย่อมมีประโยชน์กับจูเอ๋อในช่วงนี้จริงๆ

“แล้วก็.. ถึงข้าจะเขียนมันช้าไปหน่อย แต่เจ้าจงฝึกมันซะ”สิ้นเสียงพยัคฆ์อัสนีก็ยื่นม้วนตำราเล่มหนึ่งไปให้ไป๋จูเหวิน ภายในมันเขียนกระบวนท่าที่มันคิดค้นเพื่อใช้กับร่างมนุษย์เอาไว้กว่า 80 กระบวนท่า

“เดี๋ยวสิพยัคฆ์อัสนี จูเอ๋อต้องฝึกวิชาที่ข้าคิดให้ต่างหาก”ราชสีห์เพลิงว่าพลางคว้าตำราเล่มหนึ่งออกมาวางบนโต๊ะ กระบวนท่าของมันเป็นกระบวนท่าหมัดทลายผา มีกระบวนท่า 46 กระบวนท่าทุกกระบวนท่ารุนแรงทรงพลัง เหมาะกับบุรุษเพศเป็นอย่างยิ่ง

“ไม่ จูเอ๋อต้องฝึกวชาของข้า”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางวางม้วนตำราอีกเล่มลงบนโต๊ะ นางคิดกระบวนท่าขึ้นมา 22 กระบวนท่าเพื่อให้จูเอ๋อฝึกฝน กระบวนท่าฝ่ามือหิมะของนางรับรองว่าไม่แพ้ของเจ้าสองตัวแน่ๆ

“ไม่ๆ จูเอ๋อต้องฝึกของข้า”เจ้าไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางวางม้วนตำราลงบนโต๊ะเช่นกัน ของขวัญของมันโดนมังกรธรณียึดไปแล้ว มันไม่ยอมให้จูเอ๋อฝึกวิชาของผู้อื่นเป็นแน่

“ไม่ ข้าเป็นคนสัญญาว่าจะเขียนมันให้ จูเอ๋อต้องฝึกของข้า”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางกัดฟันกรอด

“ของข้าต่างหากที่จูเอ๋อสมควรฝึก”ไก่ฟ้าหงอนทองท้วงพลางยื่นเล่มตำราให้ไป๋จูเหวิน

“อะไร วิชาเหินนภาอะไรนั่น… เจ้าไก่บ้าจูเอ๋อไม่ได้มีปีกนะ”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางคว้าตำรากลับมาหาตนเอง

“พวกเจ้าจะเถียงกันทำไม”มังกรธรณีถอนหายใจพลางคว้าตำราทั้ง 4 เล่มมาไว้กลางโต๊ะ

“ไม่ใช่ว่าจูเอ๋อฝึกของใครแล้วจะฝึกของอีกคนไม่ได้สักหน่อย”พูดจบมังกรธรณีก็วางตำราเล่มที่ 5 ลงที่กลางโต๊ะ มันไม่ถนัดวิชาต่อสู้นัก และรู้อยู่แล้วว่าราชาอีก 4 ตนกำลังคิดกระบวนท่าให้จูเอ๋ออยู่ มันเลยถือโอกาสสร้างเคล็ดวิชาที่ใช้ร่วมกับพลังอสูรเสียเลย เรียกว่ามันไม่ต้องไปแย่งชิงกับใครเพราะไม่ว่าจูเอ๋อจะใช้วิชาของใคร เคล็ดพลังอสูรวัฒนะ ของมันจะเพิ่มพลังกายอย่างมากให้แก่ไป่จูเหวิน มันสมควรใช้พลังได้มากกว่าปกติ 3 เท่าตัวเลยทีเดียว

“ไม่ต้องห่วงครับท่านน้า ข้าจะฝึกทั้งหมด”ไป๋จูเหวินพูดพลางยื่นมือออกไปหยิบตำราอย่างรวดเร็ว

“จูเอ๋อ เจ้าอย่าโลภมากเกินไปนัก”มังกรธรณีท้วง พลางมองจูเอ๋อที่ถือตำราไว้เต็มมือ

“ข้าจะฝึกไปทีละวิชา ท่านน้าทุกคนคิดมันเพื่อข้า เพราะฉะนั้นข้าจะฝึกมันทั้งหมด”ไปจูเหวินพูดพลางมองมังกรธรณีด้วยสายตาแน่วแน่ มันไม่คิดเลยว่าพวกน้าๆของมันจะคิดวิชาให้มันกันทุกคน มันไม่อาจทิ้งวิชาของใครคนใดคนหนึ่งไปได้จริงๆ เพราะทุกวิชาต่างมาจากความใส่ใจของน้าทั้ง 5 อย่างไม่ต้องสงสัย

“เด็กดี”มังกรธรณีพูดพลางลูบหัวของไป๋จูเหวิน แม้มันจะอายุ 17 แล้วแต่สำหรับพวกราชาทั้ง 5 มันก็ไม่ต่างจากเด็กน้อยอยู่ดี

“เอาเถอะ เจ้าค่อยๆฝึกไปห้ามรีบร้อนเด็ดขาด”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางจับบ่าของไป๋จูเหวินอย่างเบามือ

“เจ้าต้องดูแลตัวเองนะ ห้ามโดนใครหลอกนะ”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางเดินอ้อมโต๊ะมากอดร่างของไป๋จูเหวิน

“หากเจ้าเบื่อแดนมนุษย์ ก็กลับไปหาพวกเราละ”ราชสีห์เพลิงพูดพลางลุกขึ้นอย่างมั่นคง มันมองไป๋จูเหวินครู่หนึ่งก่อนจะเดินมายืนด้านหลังมังกรธรณี พวกมันทั้ง 5 ทำใจมาพักใหญ่แล้ว แต่วันที่จะปล่อยจูเอ๋อเอาไว้ช่างเป็นเวลาที่ทำใจยากยิ่ง

“ข้าจะรอเจ้านะ”ไก่ฟ้าหงอนทองพูดจบมันก็เดินออกจากห้องไปเป็นคนแรก ก่อนที่น้าทั้ง 5 ของมันจะทยอยออกจากห้องไป ทำให้ไป๋จูเหวินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มองประตูบานใหญ่อยู่แบบนั้นพักใหญ่