ไม่กล่าวเรื่องนี้ก็ยังดี พอกล่าวพูดเรื่องนี้ เจ๋ออ๋องโมโหขึ้นมาทันที

จวนเจ๋ออ๋องแพ้แล้ว

เรือนรับรองหลายแห่งก็แพ้ ตอนนี้แม้แต่ที่พักเขายังไม่มีเลย เป็นเสด็จแม่ที่แลกเปลี่ยนสมบัตินำเงินไปซื้อเรือนที่พักขนาดเล็กอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราว

อีกทั้งเวลานั้นแพ้สูญเสียตั๋วเงินจำนวนมาก และเขายังยืมคนอีกมากมาย จนตอนนี้เขายังคงเป็นหนี้สินอยู่เลย

เจ๋ออ๋องมองกู้ชูหน่วนที่ยิ้มบางๆและเยี่ยจิ่งหานที่ไม่ทุกข์ร้อน จากนั้นกัดฟันกรอดแล้วนำแผ่นป้ายวางลง

ช่างเถอะ

ก็ต่อให้ซื้อ หญ้าจื่อเยียนสมุนไพรนี้ได้ มันก็ไม่แน่ว่าจะสามารถปรับแต่งกลั่นยาล้างไขกระดูกได้ รอไปก่อนเถิด

พวกเขาสองคนสามารถอดทนได้ แต่องค์หญิงตังตังไม่สามารถทนได้ นางกล่าวเสนอราคาอย่างต่อเนื่องว่า “หนึ่งแสนหนึ่งพันตำลึงจีน”

“หนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง”กู้ชูหน่วนกล่าว

“หนึ่งแสนห้าหมื่นหนึ่งพันตำลึง”องค์หญิงตังตังกล่าวด้วยความโมโห

เสี่ยวลี่ว์รีบกล่าวเกลี้ยกล่อมว่า“องค์หญิง หนึ่งแสนห้าหมื่นหนึ่งพันตำลึงแพงเกินไปแล้ว ไม่คุ้มค่าเลยเพคะ”

“ไม่ได้ ข้าไม่มีทางปล่อยนางให้ทำสำเร็จหรอก นางต้องการสิ่งใด ข้าก็จะแย่งสิ่งนั้น”

“สองแสนตำลึง”

“ชิ…..”

องค์หญิงตังตังแทบจะพ่นเลือดออกมา

หญ้าจื่อเยียนราคาสองแสนตำลึง นางจะต้องจงใจกลั่นแกล้งนางอย่างแน่นอน

นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องตั๋วเงินแล้ว แต่มันเป็นปัญหาเรื่องของหน้าตาศักดิ์ศรีแล้ว

ไม่ว่าเสี่ยวลี่ว์จะห้ามปรามอย่างไร องค์หญิงตังตังก็ยังคงกัดฟันสู้กล่าวว่า“สองแสนหนึ่งพันตำลึง”

“สามแสนตำลึง”กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างเยือกเย็น คล้ายกับว่าสำหรับนางแล้ว ตั๋วเงินสามแสนตำลึงนี้ไม่นับว่าอะไรเลย

“กู้ชูหน่วน ผู้หญิงสารเลว”องค์หญิงตังตังรูดแขนเสื้อขึ้น และแทบที่จะกระโจนเข้าจัดการกู้ชูหน่วน

เสี่ยวลี่ว์กอดขาของนางไว้ กล่าวอย่างร้อนรนใจขึ้นว่า“องค์หญิงได้โปรดใจเย็นเพคะ เทพแห่งสงครามอยู่ข้างกายนาง หากตอนนี้พระองค์กระโจนเข้าไป จะต้องถูกเทพแห่งสงครามตำหนิอย่างแน่นอนเพคะ”

“แต่ว่า…..”

“องค์หญิง การประมูลราคาเพิ่งจะเริ่มขึ้น ของดียังมีมากมาย พวกเราไม่จำเป็นต้องคิดเล็กคิดน้อยกับนางเพียงแค่ หญ้าจื่อเยียนหรอกเพคะ อีกสักครู่หนึ่งนางชอบสิ่งใด พวกเราแย่งกลับมาก็พอแล้ว”

องค์หญิงตังตังสะบัดชุดแล้วนั่งลง กางแขนเสื้อออกด้วยความโมโห

เสี่ยวลี่ว์ทอดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเล็กน้อย

ในขณะที่ที่เงยหน้าขึ้น กลับได้เห็นกู้ชูหน่วนขยิบตาให้กับพวกเขาด้วยความลำพองใจ

ภายในใจของนางสะดุ้งเฮือกเลย

จบแล้ว ลืมปิดม่านของห้องส่วน ที่นั่งธรรมดาสามารถมองเห็นทุกอย่างได้

เป็นจริงตามที่คิดว่าองค์หญิงตังตังจะโมโหขึ้นมาอีก หากไม่ใช่ว่านางดึงรั้งขาไว้ เกรงว่าองค์หญิงตังตังจะกระโจนออกไปอีกแน่

ที่งานการประมูลเงียบกริบ ทุกคนต่างใช้สายตามึนงงมองไปทางกู้ชูหน่วน

เจ้าภาพงานประมูลเสี่ยวลู่มองไปทางกู้ชูหน่วนแล้วยิ้ม สายตาที่มองคือการทดสอบหยั่งเชิงอย่างมากมายก่อน ตามด้วยแววตาที่อบอุ่นขึ้น

“ยังมีคนที่จะแข่งขันประมูลหรือไม่?หากไม่มีแล้ว หญ้าจื่อเยียนนี้ก็เป็นของแขกคนสำคัญที่ประมูลหมายเลขยี่สิบแปด”

“สามแสนตำลึง ใครประมูลคนนั้นโง่มาก รีบผ่านไปเสียเถิด”ที่นั่งธรรมดาไม่รู้ว่าใครเสียงดังขึ้น เพราะฉะนั้นคนเลยส่งเสียงขานรับตาม

เจ้าภาพเสี่ยวลู่ยิ้มกล่าวขึ้นว่า“สามแสนตำลึงครั้งที่หนึ่ง สามแสนตำลึงครั้งที่สอง สามแสนตำลึงครั้งที่สาม ตกลงทำการค้า ยินดีกับแขกคนสำคัญหมายเลขที่ยี่สิบแปดด้วยที่ได้รับ หญ้าจื่อเยียนนี้ไปครอบครอง”

เสียงตีกลองดังขึ้น เพื่อประกาศให้เห็นว่าการประมูลชิ้นนี้เสร็จสิ้นแล้ว

อัครเสนาบดีกู้พ่อกับลูกสาวสีหน้าดูไม่ได้

เจ๋ออ๋องสีหน้าดูไม่ได้

องค์หญิงตังตังสีหน้าดูไม่ได้

ชิงเฟิงก็สีหน้าดูไม่ได้

มีเพียงกู้ชูหน่วนที่บนใบหน้าทีรอยยิ้ม

“ของชิ้นที่สองที่จะประมูลคือไข่มุกเหวินหยวน สรรพคุณของไข่มุกเหวินหยวนคิดว่าไม่ต้องให้ข้าพูดเยอะหรอกนะ ราคาถูกประมูลเริ่มที่สามล้านตำลึง”