ภาคที่ 2 บทที่ 39 สู่แดนฝัน (2)

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

บทที่ 39 สู่แดนฝัน (2)

นอกจากโถงประกาศข้อมูล โถงแห่งความรู้ และโถงรับภารกิจแล้ว ปราสาทแดนฝันยังมีบริการอื่น ๆ อยู่อีก

เช่นโถงประลองฝีมือสำหรับให้ผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดประลองวิชากัน

และนอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดยังสามารถหาความบันเทิงทุกสิ่งอย่างได้ที่แดนแห่งนี้ เพราะที่นี่ให้บริการความบันเทิงทุกอย่างในระดับดีเลิศ แม้ทั้งหมดจะเป็นเพียงภาพมายา แต่ก็เหมือนจริงนัก ทำให้ผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจที่นี่ได้หลังจากเหนื่อยจากการบำเพ็ญเพียรมาทั้งวัน

ในแดนฝันมีแหล่งความบันเทิงที่ผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดสามารถใช้ได้หลากหลายอย่าง ซูเฉินลองกับตัวมาแล้วสองสามอย่าง เขานั่งอยู่ในตำหนักใหญ่ ชมแม่นางหน้าตาเช่นภูติร้องเพลงและร่ายรำ

ความบันเทิงเหล่านี้นั้น มันคงไม่อาจหาได้จากโลกจริงเป็นแน่ ทว่ามันก็ไม่สำคัญนักหรอก ว่าความบันเทิงจะเป็นจริงหรือเพียงแค่ภาพมายา ดังนั้นแล้วแดนฝันจึงพัฒนาจนถึงขีดสุดเช่นนี้

อาจกล่าวได้ว่าในแดนฝันแห่งนี้มีแต่ภาพที่ผู้คนไม่อาจจินตนาการถึง

ในด้านหนึ่งอาจมองได้ว่าแดนฝันเป็นสถานที่เพื่อความบันเทิงเป็นหลัก ส่วนเรื่องข้อมูลและความรู้เป็นรอง

ถึงที่นี่จะเป็นเพียงเครือข่ายมายาที่ถูกสร้างขึ้นด้วยภาพลวง แต่ก็ยังสามารถทำกิจกรรมหลายอย่างได้ที่นี่ เมื่อซูเฉินติดตามภูติแดนฝันไป เขาก็รู้สึกว่าได้เปิดโลกกว้างขึ้นกว่าเดิม ได้เคยเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น

“สามารถทำการบ่มเพาะพลังที่นี่ได้เหรือไม่ ?” ซูเฉินถาม

“ที่นี่คือแดนฝัน นอกจากเรื่องข้อมูลแล้วก็ไม่อาจแลกเปลี่ยนสิ่งของที่เป็นของจริงได้อีก ดังนั้นถึงบ่มเพาะพลังที่นี่ไปก็ไม่เกิดผลอันใดต่อร่างกายเจ้าหรอก” ลู่ลู่ตอบ

เด็กหนุ่มหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เช่นนั้นหากเป็นทักษะต้นกำเนิดที่ไม่จำเป็นต้องมีความเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายเล่า ? เช่นวิชาโบราณอาร์คาน่า”

ภูติแดนฝันลู่ลู่ยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะคิกคัก “ช่างเป็นแขกที่ชาญฉลาดเสียเหลือเกิน มีคนไม่มากนักที่จะค้นพบความลับของข่ายฝันได้เร็วเช่นนี้ เจ้าพูดถูกต้องแล้ว ! ข่ายฝันเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการฝึกวิชาโบราณอาร์คาน่านักแล ผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดที่ใช้วิชาโบราณอาร์คาน่าชอบมาทำการฝึกวิชากันที่นี่ แต่ว่า……”

ใบหน้าน้อยของนางปรากฏสีหน้าชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ออกมา

“แต่ว่าอันใด ?” แม้จะรู้ว่าเป็นกับดัก แต่ซูเฉินก็พร้อมกระโจนลงไป

“หากต้องการฝึกวิชาโบราณอาร์คาน่า ก็จะถูกจำกัดการฝึกด้วยพลังต้นกำเนิดที่มีไม่เพียงพอ”

ซูเฉินชะงักไป “ที่นี่คือแดนฝันนี่ คิดอย่างไรก็ได้เกินปรารถนาไม่ใช่หรือ ? เหตุใดจึงมีพลังต้นกำเนิดไม่พอได้ ?”

หากมีพลังต้นกำเนิดไม่เพียงพอ บำเพ็ญทักษะต้นกำเนิดในข่ายฝันไปก็ไร้ประโยชน์

“การสร้างแดนหนึ่งขึ้นมาจำต้องมีกฎ เพราะเมื่อมีกฎดินแดนจึงสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ แดนที่ไร้กฎเกณฑ์นั้นไม่มีอยู่จริง กระทั่งในแดนฝันก็ยังต้องมีข้อห้ามกฎเกณฑ์บังคับใช้ ทำให้พลังต้นกำเนิดมีอยู่อย่างจำกัด จนอาจก่อให้เกิดความอยุติธรรมเรื่องการแข่งขัน ดังนั้นยามที่จ้าวแห่งแดนฝันสร้างแดนฝันขึ้นมา ผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดก็จะสามารถใช้พลังต้นกำเนิดได้อย่างจำกัด ทุกอย่างคล้ายกับความจริง”

“แต่แน่นอนว่าโลกมายาย่อมสะดวกกว่าอยู่บ้าง เช่นในโถงประลองฝีมือ ที่ต่อให้เจ้าใช้พลังต้นกำเนิดจนหมด เจ้าก็สามารถที่จะขอเติมพลังต้นกำเนิดในร่างใหม่ได้ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ และทำการต่อสู้คราต่อไปได้ในทันที”

“โถงประลองฝีมือสามารถเติมพลังต้นกำเนิดที่ใช้ไปแล้วให้ได้ โดยต้องเสียค่าใช้จ่าย เรื่องบาดเจ็บก็เช่นกัน หากบาดเจ็บหนักแต่ไม่ต้องการรอให้แผลหาย ก็สามารถขอให้รักษาแผลได้ ข่ายฝันจะคิดราคาตามความรุนแรงของอาการบาดเจ็บ”

“เจ้าจะบอกว่าพลังต้นกำเนิดที่นี่จงใจเก็บไว้ใช้ทำเงินงั้นสินะ ?” ซูเฉินเริ่มเข้าใจ

ภูติแดนฝันยกมือปิดปากหัวเราะ “ไม่จำเป็นต้องพูดตรงไปตรงมาเช่นนั้น โถงประลองฝีมือและลานบ่มเพาะพลังนั้นเข้าได้โดยไม่เสียเงินใด ๆ หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ ข่ายฝันจะดำรงอยู่ต่อไปได้อย่างไรเล่า ? แล้วภูติแดนฝันอย่างพวกข้าจะใช้ชีวิตอย่างไร ?”

ซูเฉินพูดไม่ออก “ก็ได้ แล้วการรักษาอาการบาดเจ็บคิดค้าจ่ายเช่นไร ?”

“ละอองฝันทุกชิ้นสามารถใช้เติมพลังต้นกำเนิดเท่ากับหินพลังต้นกำเนิดระดับต่ำ 10 ก้อน เจ้าคิดว่าอย่างไร ? ถูกมากใช่หรือไม่ ?”

ถูกมากจริง ๆ

แต่หากไม่มีข้อบังคับนั่น จะมีใครจำเป็นต้องเติมพลังต้นกำเนิดที่นี่กัน ?

เช่นนี้ก็เหมือนเอาเงินจริงหนึ่งส่วนมาแลกเงินปลอมสิบส่วน

แต่ถึงกระนั้นซูเฉินก็ยังมองว่าสถานที่นี้ดีมากนัก อย่างน้อยก็เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการฝึกวิชาโบราณอาร์คาน่า

แต่หากต้องการฝึกวิชา ซูเฉินจำต้องมีละอองฝันเสียก่อน

“แขกผู้มีเกียรติ เจ้าลงชื่อมาจากสถาบันมังกรซ่อนเร้น หากไม่ต้องการเสียเวลาสร้างหรือหาละอองฝันก็สามารถแลกหินพลังต้นกำเนิดกับละอองฝันได้ที่สถาบันมังกรซ่อนเร้นได้เลย” ภูติแดนฝันเตือน

“ไม่จำเป็นหรอก ข้าจะลองหาเองดูก่อน” ซูเฉินตอบกลับ

“เจ้าอยากไปที่โถงใดเล่า ?”

“พาข้าไปยังโถงแห่งความรู้” ซูเฉินตอบ

“ความรู้ ?” ภูติแดนฝันอดกัดริมฝีปากตนไม่ได้

โถงแห่งความรู้มีความรู้ระดับสูงมากมาย ความรู้ที่หาได้ตามตำราจะไม่มีอยู่ในห้องโถงแห่งนี้

อาจกล่าวได้ว่าแหล่งข้อมูลและความรู้ในโถงแห่งความรู้นั้นมีความเป็นตัวตนของตนเอง พบเจอได้ยากบนโลกจริง

แต่แน่นอนว่าความรู้ใหม่บางครั้งก็ไม่ใช่ความรู้ที่มีมูลค่าสูงนัก อย่างเช่น 4 วิธีกินปูลายทอง หรือประโยชน์ของการใช้เส้นเงินไม้ถานมู่เป็นปุ๋ย เหล่านี้นับเป็นความรู้ใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ความรู้ที่มีค่ามากนัก

แต่กระทั่งความรู้ที่มีมูลค่าถูกที่สุดก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ศิษย์ขั้นพลังด่านก่อเกิดลมปราณสามารถเข้าใจได้โดยง่าย

เทียบกันแล้ว คนที่เพิ่งมาใหม่จะหาละอองฝันจากโถงประกาศข้อมูลด้วยการขายข้อมูลหรือข่าวเสียมากกว่า แต่แน่นอนว่าเป็นหน้าใหม่ย่อมขายได้ในราคาไม่สูง

หรือหากไร้ทางเลือกก็อาจไปยังโถงรับภารกิจ หากโชคดีก็จะมีงานลอบสังหารง่าย ๆ มาสักหนึ่งหรือสองงาน

แต่แน่นอนว่าผู้นำทางภูติแดนฝันของซูเฉินต้องมีมารยาท ดังนั้นนางจึงไม่เอ่ยคำใด

นางพาซูเฉินกลับมายังโถงประกาศข้อมูลอีกครั้ง

ซูเฉินเดินเข้าไปดูรายละเอียด หลากหลายคำถามถูกประกาศไว้บนนั้น

เห็นคำถามแปลกประหลาดมากมายบนรายการแล้วเขาก็ตื่นตาตื่นใจนัก..

บ้างถามเกี่ยวกับอสูรกาย บ้างถามเกี่ยวกับการบ่มเพาะพลัง บ้างถามเกี่ยวกับค่ายกลพลังต้นกำเนิด หรือเกี่ยวกับการปรุงยา แต่ก็มีบางคนที่ถามเกี่ยวกับเรื่องท้องถิ่นหรือวัฒนธรรมต่าง ๆ มีคำถามหลากหลายนับไม่ถ้วน

ผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดที่รู้คำตอบ เมื่อคำตอบได้รับการรับรองแล้วก็จะสามารถไปรับเงินค่าตอบแทนได้

ซูเฉินค่อย ๆ ไล่ดูคำถามแต่ละข้ออย่างช้า ๆ จากนั้นเลือกคำถามมาหนึ่งข้อ

“มีตำแหน่งใดที่สามารถทดแทนตำแหน่งของยันต์โคจรแสงได้ ? นอกจาก 4 ตำแหน่งที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว หากสามารถตอบตำแหน่งเพิ่มเติม จะได้รับละอองฝันตำแหน่งละ 20 ชิ้นเป็นคำขอบคุณ”

ซูเฉินเหลือบอ่านคำถาม จากนั้นถามภูติแดนฝัน “หากข้าต้องการตอบคำถามนี้ต้องทำเช่นไร ?”

“จำหมายเลขคำถามไว้ จากนั้นไปที่ห้องด้านขวาเพื่อตอบคำถาม แล้วรอให้ได้รับการยืนยันคำตอบ เจ้ารู้คำตอบจริงหรือ ? หากเดาส่งไปเรื่อย คำตอบเจ้าก็ไม่ผ่านหรอกนะ” ภูติแดนฝันลู่ลู่ดูกังขา

มีศิษย์ขั้นพลังด่านก่อเกิดลมปราณไม่มากนักที่สามารถตอบคำถามในโถงแห่งความรู้ได้

“ข้ารู้ 2 ตำแหน่ง” ซูเฉินตอบเสียงเบา จากนั้นเดินเข้าไปยังห้องด้านขวา

2 หรือ ? ลู่ลู่สับสนนัก

เขารู้อีก 2 ตำแหน่งงั้นหรือ ?

เมื่อซูเฉินปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ละอองฝัน 38 ชิ้นก็ถูกฝากเข้าไปในตราแดนฝัน ส่วนอีก 2 ชิ้นนั้นได้ถูกหักไปเป็นค่าภาษี

หากแต่เด็กหนุ่มไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขายังมองหาคำถามที่ตนเองสามารถตอบได้ต่อไป

จากนั้นก็พบอีกสองสามคำถาม สรุปแล้วเขาได้ละอองฝันมาเกือบ 200 ชิ้น

ซูเฉินเห็นเช่นนั้นก็พึงพอใจมาก “หาเงินที่นี่ก็ไม่ยากเท่าไหร่นี่”

นับเป็นครั้งแรกที่เขาสามารถหาเงินอย่าง่ายดายเช่นนี้ แม้ละอองฝัน 200 ชิ้นจะไม่ได้มากมายนัก แต่แดนฝันนั้นไม่ใช่โลกแห่งความจริง ไม่อาจนำละอองฝันนี้ไปใช้ได้ที่ไหนอีก ดังนั้นละอองฝัน 200 ชิ้นนี้ก็สามารถนำไปแลกหินพลังต้นกำเนิดระดับต่ำ 2000 ก้อนเพื่อใช้ฝึกวิชาโบราณอาร์คาน่าได้แล้ว

ลู่ลู่เห็นดังนั้นก็ชะงักไป

แท้จริงแล้วการหาเงินในข่ายฝันนั้นไม่ได้ยากเย็นจนเกินไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย

คนหน้าใหม่ส่วนมากไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือ ดังนั้นจึงเลือกใช้จิตสร้างละอองฝันขึ้นมาเสียมากกว่า ดังนั้นละอองฝันส่วนมากจึงถูกสร้างมาจากคนหน้าใหม่ทั้งสิ้น

ภูติแดนฝันนั้นไม่อาจมองซูเฉินได้เช่นเดิมอีกต่อไป เมื่อเห็นว่าเขาสามารถหาละอองฝัน 200 ชิ้นในระยะเวลาสั้นเพียงเท่านี้

“แล้วจะทำอะไรต่อ ?” ภูติแดนฝันถามเสียงตื่นเต้น

“ยังต้องถามอีกหรือ ? ได้มาแล้วก็ต้องเอาไปใช้น่ะสิ”

ซูเฉินเดินไปยังห้องด้านซ้าย จากนั้นเขียนคำถามสองสามข้อแล้วนำมาแขวนบนป้ายประกาศ