บทที่ 30 เบื้องหลังการปองร้าย

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

บทที่ 30 เบื้องหลังการปองร้าย Ink Stone_Fantasy

กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาจากใบหน้าที่ผุกร่อนของอังเดร ใบหน้าที่ลูเซียนยังสามารถบอกได้ว่าเขาหวาดกลัวและดิ้นรนเพียงใดก่อนตาย

แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ลูเซียนก็ไม่พบอะไรที่เชื่อมโยงกับการตายอันแปลกประหลาดนี้เลย

‘นี่เกี่ยวกับการที่แก๊งอารอนทำตัวไม่โดดเด่นในช่วงนี้หรือเปล่านะ’

หลังจากครุ่นคิดเงียบๆ ในใจอยู่ครู่หนึ่ง ลูเซียนก็เอาเศษผ้ามาพันรอบมือ จากนั้นก็กดร่างหนักๆ ของอังเดรให้จมลงไปใต้น้ำ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้อังเดรมาติดอยู่ตรงตาข่ายนี้ได้อย่างไร แต่ครานี้ เขาคงไม่โชคดีอีกแล้ว

ร่างของอังเดรจมลงและไหลไปตามกระแสน้ำ ผ่านตาข่าย และออกไปยังแม่น้ำเบเล็ม ส่วนใครจะเป็นผู้มาค้นพบนั้น ลูเซียนไม่อาจควบคุมได้

ลูเซียนโยนถุงเงินกับเศษผ้าลงไปในสายน้ำดำมืดด้วยเช่นนั้น จากนั้นเขาจึงลุกขึ้นและเตรียมตัวกลับขึ้นด้านบน แต่เขาไม่ได้เดินไปทางเดิม กลับเลี้ยวตรงแยกที่อยู่ห่างออกไปยี่สิบเมตร เพื่อเปลี่ยนทิศทางไม่ให้ตัวเองไปเจอกับกลุ่มขอทานอีกครั้ง และตามที่ลูเซียนเทียบกับเส้นทางที่เขาใช้เข้ามา เส้นทางนี้จะตัดผ่านซากห้องทดลองลับของแม่มดและกลับไปยังทางออกหลักของท่อน้ำเสีย

หลังจากเดินเลี้ยวเข้ามาในทางแยกได้ไม่กี่เมตร จู่ๆ ลูเซียนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ

เสียงฝีเท้าเหล่านั้นฟังดูวุ่นวายไร้ระเบียบ เสียงมันดังก้องไปทั่วและชัดเจนภายในท่อน้ำเสียคับแคบ ดูเหมือนว่าคนกลุ่มใหญ่กำลังเดินเข้ามา และหลายคนในกลุ่มจะต้องเป็นผู้ที่ตัวใหญ่โตไม่น้อย

ลูเซียนมองไปรอบตัวอย่างใจเย็น ไม่นานเขาก็พบรูตรงผนังด้านหน้าไม่ไกล แม้ว่ามันจะไม่ใหญ่พอจนปิดบังเขาได้ทั้งตัว แต่ตราบใดที่คนพวกนั้นไม่เข้ามาดูใกล้ๆ พวกเขาก็ไม่มีทางเห็นลูเซียนแน่

เขาแนบตัวเข้ากับผนังและรออยู่ไม่นานคนกลุ่มนั้นก็เดินผ่านไป

อาจเพราะครั้งก่อนพวกเขาทำงานได้โดยไร้ปัญหา คนกลุ่มนี้จึงเพียงมองไปยังทางที่ลูเซียนซ่อนตัวอยู่แบบผ่านๆ แล้วเดินต่อไป

“พวกเจ้า โยนศพพวกนี้ลงไปซะ ขอให้พระเจ้าอำนวยพร พวกเขาคงจะถูกปลากระบอกฟันแหลมกัดกินอย่างรวดเร็ว” เสียงทุ้มต่ำดังลอยมาตามท่อน้ำเสียคับแคบเงียบงันแม้จะอยู่ในระยะไกล แต่ดูเหมือนคนผู้นี้เวลาพูดจะมีเสียงลมพ่นออกมามาก ทำให้การออกเสียงหลายๆ พยางค์นั้นไม่ถูกต้อง

ลูเซียนตั้งใจจะฉวยโอกาสนี้จากไป แต่เสียงนั้นกลับทำให้เขาต้องมุ่นคิ้ว ‘ทำไมคุ้นหูจัง ใครกันนะ’ ในหัวเขาเริ่มคิดถึงทุกคนที่เขาเคยพบเจอ

เสียงคุ้นหูลูเซียนอีกเสียงดังขึ้น “เหตุใดจึงเก็บช้านัก อย่าทำให้การณ์ใหญ่ล่าช้าสิวะ”

‘เป็นเสียงคนแก่ที่พยายามจะเผยแพร่ศาสนาคนนั้น’ เพราะเสียงที่สองนี้เขาเพิ่งได้ยินมา จึงจำได้ในทันที

เจ้าของเสียงแรกเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย “วางใจได้ขอรับ ภายในสิบวัน เราจะได้ทุกอย่างมาแน่ ท่านอารอนสั่งการไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสำเร็จ”

อารอน? โรซาน อารอน?

ลูเซียนพลันนึกออกว่าเจ้าของเสียงแรกคือใคร เป็นแจ็คสัน ผู้ที่พาลูกน้องไปถล่มบ้านเขาและรุมซ้อมเขากับจอห์น เขาได้ยินเสียงลมออกมามากเวลาที่แจ็คสันพูดก็เพราะเขาทำฟันหน้าหักไปหลายซี่ ‘ฟังดูเหมือนว่าแก๊งอารอนจะไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นผู้ร่วมขบวนการในลิทธินี้มากกว่า และอังเดรก็คงจะไม่เต็มใจทำตามเลยถูกฆ่า’

ชายชราผู้เผยแพร่ลัทธินอกรีตแสยะยิ้ม “โปรดบอกท่านอารอนและท่านอื่นๆ ว่า ตราบใดที่พวกท่านให้ความร่วมมืออย่างเต็มกำลัง เราจะไม่ทำให้พวกท่านผิดหวัง อย่ามองว่าข้าหาใช่ผู้ที่มีพลังอำนาจ จริงอยู่ว่าภายใต้แสงสว่างแห่งพระเจ้า ข้าเป็นเพียงหนอนตัวเล็กๆ แต่นักบวชของเราหลายท่านแข็งแกร่งพอจะต่อกรกับบิช็อบจากศาสนจักรแห่งความจริงเลยเชียว หากไม่ใช่ว่าเราต้องการรักษาสิ่งนั้นไว้ เราคงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกท่านเลยสักนิด”

“ขอรับ ข้าจะไปเรียนท่านอารอนให้” แจ็คสันตอบด้วยอารมณ์ขุ่นมั่ว

หลังจากเกิดเสียงเหมือนของหนักๆ ตกลงไปในน้ำหลายครั้ง ใครบางคนก็เอ่ยขึ้นเสียงสั่น “แต่ว่า ท่านแจ็คสัน การจะหาคนที่ไม่มีใครสนใจไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะขอรับ หาให้ได้ห้าสิบคนภายในสิบวันมันยากมากๆ และข้าก็ไม่รู้ว่าขอทานที่อาศัยอยู่ในท่อน้ำเสียนี้หายไปไหนหมด ยกเว้นคนของท่าน ข้าก็หาไม่พบอีกแล้ว” ประโยคหลังนั้นเขาพูดกับชายชราผู้เผยแพร่ลัทธินอกรีต

ชายชราผู้เผยแพร่ลัทธินอกรีตหัวเราะ “แน่นอน พวกมันถูกผลักลงแม่น้ำเบเล็มและกลายเป็นอาหารของปลากระบอกฟันแหลมแล้วอย่างไรล่ะ”

แจ็คสันสูดหายใจแผ่วเบา “สกา ไม่ต้องห่วง ท่านอารอนก็บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าต้องทำให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด จะไปลักพาตัวใครมาก็ได้ ตราบใดที่เราไม่ไปยุ่งกับพวกขุนนาง บาทหลวง และชนชั้นสูง ท่านจะรับมือด้วยเส้นสายและความสัมพันธ์ที่มี”

“ท่านแจ็คสันมีเป้าหมายแล้วหรือขอรับ” สกาถามอย่างลังเล

แจ็คสันเอ่ยเสียงเยาะ “สกา เจ้าได้รู้เห็นและลงมือทำมาแล้วหลายสิ่ง แต่ยังอยากจะเลิกอยู่อีกหรือ อยากจะเป็นเหมือนอังเดรรึ! ส่วนเป้าหมาย ฮึ่ม แก้มข้ายังปวดร้าวอยู่เลย แล้วเจ้าหนุ่มสองคนนั้นกับครอบครัวมันจะยังได้รับการละเว้นได้อย่างไร!”

ได้ยินเช่นนั้น ลูเซียนก็แทบระงับโทสะไว้ไม่อยู่ เขารู้ว่าแจ็คสันเกลียดเขามากแค่ไหน เกลียดมากจนอยากจะเอาชีวิตเขา รวมถึงทั้งครอบครัวของอะลิซ่า!

แต่ไม่นานลูเซียนก็ควบคุมโทสะได้ เพราะเขารู้ดีว่าความสงบจะทำให้เป็นต่อ เขาเคยได้ยินมากับตัวว่ามีคนรับงานฆ่ายกครอบครัวเพื่อแลกกับเงินไม่กี่เหรียญ ‘โชคดีที่ฉันมาได้ยินเรื่องนี้ ถึงจอห์นกับฉันจะพอรับมือได้ แต่ท่านลุงโจเอล ท่านน้าอะลิซ่า กับไอเวินคงรับไม่ไหวแน่’

‘เรื่องนี้ต้องจัดการให้เร็วที่สุด’ ลูเซียนคิดแผนการสังหารพวกมันเงียบๆ หากพวกแจ็คสันออกไปจากท่อน้ำเสียได้ เขาจะไปตามหาพวกมันได้ที่ไหน แล้วเขาจะปกป้องครอบครัวของโจเอลได้อย่างไร ใครจะไปรู้ว่าพวกแจ็คสันจะโจมตีเมื่อไหร่และที่ไหน ‘ถ้าพวกนี้ถูกฆ่าตายหมด แก๊งอารอนที่เหลือก็จะไม่นึกถึงพวกเราอีก แบบนี้จะช่วยซื้อเวลา แล้วฉันก็ค่อยหาข้ออ้างเอาเรื่องนี้ไปบอกจอห์น และให้จอห์นบอกเซอร์เวนน์แก้ปัญหาลัทธินอกรีตนี้เสีย’

เมื่อถึงตอนนั้น ลูเซียนสามารถบอกจอห์นได้ว่าเขาบังเอิญไปได้ยินขอทานพูดดูหมิ่นศาสนา และขอทานคนนั้นก็อาศัยอยู่ในท่อน้ำเสียมานานแล้ว ถ้าคนของโบสถ์หรืออัศวินลงมาตรวจสอบสักครั้ง พวกเขาก็ย่อมต้องเจอเบาะแสสักอย่าง ส่วนข้ออ้างที่เขาสร้างขึ้นก็กำลังจะตายโดยไม่ทิ้งหลักฐานไว้อย่างไรเล่า

หากลูเซียนไม่ลงมือในตอนนี้ แต่กลับขึ้นไปบอกจอห์นทันที แล้วพวกชายชรากับคนที่ร่วมขบวนการถูกจับตัว เขาก็คงอธิบายแก้ตัวไม่ได้ว่าทำไมเขาจึงลงมาที่ท่อน้ำเสียนี้

ลูเซียนสงบลงมาก เขาแตะกระเป๋าดูให้มั่นใจว่าส่วนประกอบการร่ายเวทมนตร์ยังหยิบออกมาได้ง่าย จากนั้นจึงย่องเข้าไปตรงมุมใกล้ๆ โดยอาศัยเสียงพูดคุยของพวกมันช่วยกลบเกลื่อน แล้วเขาก็ค่อยๆ โผล่ศีรษะออกไปแอบมอง

พวกมันมีกันเก้าคน

คนของพวกมันมีเยอะเกินไป ลูเซียนไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถสังหารได้ครบหมดทุกคน และอาจถึงขั้นเป็นฝ่ายถูกฆ่าถ้าเกิดพวกมันร่วมมือกัน แต่ ณ เวลานี้ เขาถอยกลับไม่ได้แล้ว และทำได้เพียงออกไปสู้ด้วยจิตใจที่นิ่งสงบ

สกากับสหายอีกสองคนช่วยกันโยนกระสอบห่อศพสุดท้ายลงไปในแม่น้ำแสนมืดมิด จากนั้นจึงหยิบไม้ด้ามยาวมาด้วยมืออันสั่นเทา เพื่อที่จะใช้มันดันห่อศพให้ไหลผ่านหลุมข้างใต้ตาข่ายลวดหนาม แต่เพราะอารมณ์มากมายที่ถักทอเข้าด้วยกันจนแยกไม่ออกว่ามันคือความกลัว ความหวาดผวา หรือความเสียใจกันแน่ อันธพาลทั้งสามจึงอดสวดอ้อนวอนศาสดาแห่งความจริงอยู่ในใจไม่ได้ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองศพ จึงหลุบสายตาหนี

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนชั่วที่กดขี่ชีวิตผู้อื่นมาตลอด แต่การควักหัวใจคนออกมาทั้งเป็นก็ยังเป็นสิ่งที่พวกเขารับไม่ได้

เมื่อเหลือบมองไปทางชายชราลึกลับท่าทางแปลกๆ สกาก็สั่นสะท้านไปทั้งกายใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ท่านแจ็คสันขอรับ ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เรารีบไปจากที่นี่กันเถิด ข้าได้ยินมาว่าแม่น้ำเบเล็มมีผีดิบปรากฏกายขึ้นมากมาย หากว่าเรายังอยู่ในนี้…”

“ได้” แจ็คสันมองไปทางชายชราผู้เผยแพร่ลัทธินอกรีต “แม่น้ำเบเล็มมีผีดิบจริงหรือ มันเกี่ยวข้องกับท่านหรือไม่ แต่ว่าเราโยนศพลงไปในนี้มากมาย ช่วงเวลามันจะไม่เหมาะเจาะเกินไปหรือ”

ชายชราผู้เผยแพร่ลัทธินอกรีตส่ายศีรษะ “เราไม่อยากจะเคลื่อนไหวสร้างปัญหาอะไรอีกก่อนที่ภารกิจจะสำเร็จ เมืองอัลโต้เคยเป็นศูนย์กลางจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณทางตะวันตก บางทีอาจมีพลังแข็งแกร่งที่ตายไปแล้วฝังตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในแม่น้ำเบเล็มก็ได้ เอาเป็นว่า ศาสนจักรแห่งความจริงยังไม่รับรู้ถึงพวกเราหรอก”

แจ็คสันกำลังจะบอกให้ลูกน้องตนออกไปจากที่นี่ แต่ทันใดนั้นสีหน้าของสกาก็กลายเป็นหวาดผวา พร้อมกับที่เสียงพึมพำรัวเร็วแปลกประหลาดดังขึ้นข้างหลังเขา

สกาเห็นเงาดำยืนนิ่งเงียบอยู่ตรงหน้า ห่างจากแผ่นหลังของเจ็คสันและชายชราออกไปประมาณยี่สิบเมตร ใบหน้าและลำตัวครึ่งหนึ่งซ่อนอยู่ในความมืด และภายใต้แสงเรืองรองอ่อนๆ จากตะไคร่น้ำ เงาลึกลับนั้นก็ยิ่งดูน่าขนลุกชวนขวัญผวา

“มีผีอยู่ในนี้!” นี่คือความกลัวที่สกาพยายามกักเก็บไว้ในใจนับแต่ที่เขาเข้าร่วมขบวนการนี้ เขาทุกข์ทรมานจากความเศร้าโศกเสียใจ กลัวว่าวิญญาณจะกลับมาแก้แค้นและเรื่องพรรค์นี้ทั้งหมด แต่เขาก็ไม่กล้าไปขอให้ทางโบสถ์ชำระล้างบาปให้ ในตอนนี้ ท่ามกลางแสงสลัวและพื้นที่คับแคบ หลังจากที่เพิ่งโยนศพลงไปมากมาย ความรู้สึกบาดลึกในใจทั้งหมดของสกาก็พลันระเบิดโพลง ทำให้แข้งขาเขาอ่อนแรง

ตอนที่สกาเห็นเงาดำนั้น ชายลึกลับก็ยกมือขวาขึ้น แล้วผงมากมายนับไม่ถ้วนที่เปล่งประกายแวววาวก็ร่วงหล่นลงมา พร้อมกับที่เขาอ้าปากเปล่งถ้อยคำแปลกประหลาดด้วยเสียงที่ไม่คล้ายเสียงของมนุษย์

แจ็คสันและชายชราหันขวับกลับไปทันทีที่ได้ยินเสียงร้อง และก็พบกับชายลึกลับที่แผ่เงาชั่วร้ายออกมา แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้ก้าวเท้า แสงน้อยนิดรอบกายทั้งหมดก็พลันดับไป

มันมืดสนิทจนมองไม่เห็นผู้ใด ดังนั้น นอกจากชายชราแล้ว ทั้งแจ็คสัน สกา และคนอื่นๆ จึงตื่นตกใจสุดขีด ต่างดึงกริชออกมากวัดแกว่งปัดป้องตนเองมิให้ผู้ใดเข้าใกล้

ทว่าภายในท่อน้ำเสียนั้นแคบมาก และพวกเขาก็ยืนอยู่ใกล้กัน พอกวัดแกว่งกริชในมือก็มีคนถูกแทงจนกรีดร้องเสียงหลงทันที

เสียงกรีดร้องยิ่งทำให้แจ็คสันหวาดกลัว ทว่าความแตกตื่นไม่อาจช่วยพวกเขาได้ท่ามกลางความมืดมิดแปลกประหลาดนี้ ตอนนี้แต่ละคนต่างเป็นห่วงความปลอดภัยของตนเองเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง ดังนั้นจึงยิ่งกวัดแกว่งฟาดฟันกริชในมืออย่างหนักหน่วง

‘เวทดับแสง’ เวทมนตร์ระดับฝึกหัดนี้จะสร้างพื้นที่แห่งความมืดขนาดหกคูณหกเมตร ซึ่งไฟธรรมดาจะไม่สามารถส่องแสงสว่างได้ในพื้นที่นี้ และมันอยู่ได้เพียงหนึ่งนาทีเพราะลูเซียนยังเป็นเพียงผู้ฝึกใช้มนตรา

“มีสติ มีสติสิ โว้ว!” แม้ว่าชายชราจะไม่ใช่แม้แต่นักบวชฝึกหัด แต่เขาก็เคยได้ยินนักบวชพูดถึงเวทมนตร์อีกประเภท เป็นเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์อะไรสักอย่าง ความมืดแปลกประหลาดนี้ต้องเป็นชายลึกลับที่สร้างขึ้นแน่ อันดับแรก ตัวคนร่ายจะต้องไม่แตกตื่น อันดับที่สอง ปล่อยให้คนวิ่งพล่านไปทั่วทุกทิศ อาณาเขตความมืดคงจะไม่กว้างนัก ทว่าทันทีที่เขาตะโกนบอกให้ทุกคนมีสติ เขาก็ถูกแจ็คสันที่กำลังหวาดผวาแทงด้วยกริช จึงกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

ภายในสิบวินาที ชายสองคนก็ถูกแทงจนร่วงลงไปกองกับพื้นท่ามกลางความมืดนั้น ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็ได้รับบาดแผลไปไม่มากก็น้อย

ด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความกลัว ทำให้สกาและสหายอีกสี่คนวิ่งหนีไปด้านหลัง ทิศทางที่เป็นทางระบายน้ำ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ นับแต่จุดที่พวกเขาอยู่ ไปจนถึงตาข่ายลวดหนาม ล้วนอยู่ในอาณาเขตของความมืดนี้

แจ็คสัน ชายชรา และอันธพาลคนอื่นๆ รีบพุ่งตัวเข้าใส่ชายลึกลับ

แต่เพราะพวกเขามองไม่เห็นทาง แม้จะวิ่งไปทางใดก็มองไม่เห็นแสงสว่าง ทันใดนั้น ทั้งขอทานทั้งอันธพาลก็ตกลงไปในสายน้ำดำมืดดังตูมพร้อมกับที่หยาดน้ำสาดกระจายขึ้นมา

ในตอนนั้นเอง เสียงแปลกประหลาดแสนบีบคั้นหัวใจก็ดังขึ้นอีกครั้ง

————————————————