เมิ่งอวิ๋นพยักหน้า สะบัดแสงหนึ่งลงไปในมือจางเยว่หาน
เคล็ดวิชาบู๊มีควันสีม่วงลอยขึ้นมา ดูเหมือนภาพลวงตา
จางเยว่หานเก็บเคล็ดวิชาบู๊เอาไว้ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาดู แม้นักเรียนคนอื่นอิจฉาตาร้อน แต่ไม่มีใครกล้าพูดสักคน เพราะความแข็งแกร่งที่จางเยว่หานแสดงออกมา ตอนสู้กับหลัวตานทำให้คนพวกนี้ยอมรับแล้ว ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จางเยว่หานเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของคณะบังเหินแล้ว
อาจารย์เมิ่งอวิ๋นพูดว่า “เมื่อวานฉันได้ข่าวมาว่า คณะหนึ่งเดียวชนะคณะนานา คณะหนึ่งเดียวส่งคนไปแค่สองคน คนหนึ่งชื่อหานเฟิง ชนะติดต่อกันสองรอบ อีกคนชื่อลู่ฝาน เอาชนะหยุนอานของคณะนานาได้”
เมื่อพูดจบ สีหน้าจางเยว่หานเปลี่ยนไป
เมื่อได้ยินชื่อลู่ฝาน จางเยว่หานสีหน้าไม่สู้ดี เหมือนกินของเสีย รีบก้มหน้าลง ไม่ให้คนข้างๆ เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเธอ
อาจารย์เมิ่งอวิ๋นพูดว่า “พวกเธออย่าคิดว่าไม่มีอะไร แม้คณะหนึ่งเดียวเรียบง่าย แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่แข็งแกร่ง ฉันบอกพวกเธอได้แค่ว่า คณะหนึ่งเดียวมีพละกำลัง สามารถสั่นคลอนฐานะของคณะบังเหินได้ โดยเฉพาะลู่ฝาน คู่แข่งที่เขาเอาชนะได้ คือหยุนอานอันดับห้าในรายชื่อบู๊เมื่อสองปีก่อน หยุนอานที่ทั้งสถาบันสอนวิชาบู๊ยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คณะหนึ่งเดียวคือศัตรูในจินตนาการของพวกเธอ ทางที่ดีพวกเธอระวังคู่ต่อสู้คนนี้ไว้ ไม่งั้นเมื่อถึงตอนนั้นจะเสียเปรียบมาก”
ทุกคนคำนับแล้วพูดว่า “ศิษย์จะจดจำคำสอนของอาจารย์”
มีเพียงจางเยว่หานที่ไม่พูด เธอกำหมัดแน่น แววตาเย็นชา
ลู่ฝาน มีปัญญานายก็มาคณะบังเหินสิ
ฉันจะให้นายสัมผัสถึงความเจ็บปวดที่แท้จริง
……
ที่คณะหยินหยาง เอี๋ยนชิงฟังนักเรียนคนหนึ่งเล่าจนจบ ด้วยความสุขุม
เอี๋ยนชิงโยนเหรียญทองถุงหนึ่งออกไป แล้วพูดว่า “นายสอบถามข่าวมาได้ไม่เลว ไปสอบถามข่าวเกี่ยวกับคณะหนึ่งเดียวให้เยอะขึ้นอีก ฉันมีรางวัลใหญ่ให้”
นักเรียนหยิบเหรียญทอง พูดตอบรับ แล้วรีบเดินออกไป
รอยยิ้มบนใบหน้าเอี๋ยนชิงเย็นชาลงเรื่อยๆ
“คณะหนึ่งเดียว ให้พวกนายได้ใจไปก่อนสักพัก”
เอี๋ยนชิงพูดพึมพำ เอาอัญมณีออกมาเม็ดหนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่อาจารย์ซิงยวนให้เขา
มีสิ่งนี้อยู่ พละกำลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกขั้น
วิถีที่แฝงอยู่ด้านใน ชัดเจนมาก ราวกับยื่นมือออกไปก็ไม่สามารถสัมผัสได้
เอี๋ยนชิงสัมผัสได้ว่าพละกำลังของตัวเอง เพิ่มขึ้นต่อเนื่องภายใต้การหล่อเลี้ยงของอัญมณี ใกล้เข้าสู่แดนปราณชีวิตอย่างแท้จริง
……
คณะหนึ่งเดียว
หานเฟิงมองรายชื่อบู๊ที่เพิ่งออกมาใหม่ แล้วสบถออกมาว่า “ให้ตายเถอะ ใครทำรายชื่อนี้ ทำไมผมเพิ่งอันดับที่ 49 ล่ะ ทำไมๆ”
ฉู่สิงกลอกตามองบน “ทำไมเหรอ ก็เพราะพละกำลังนายไม่ได้เรื่องไง ดูศิษย์น้องลู่ฝานสิ อันดับที่ 20 ฮ่าๆ สูงกว่านายตั้ง 29 อันดับ ศิษย์น้องลู่ฝานเข้าสู่ 10 อันดับแรกให้ได้นะ”
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ ลูบหัวเจ้าดำแล้วพูดว่า “รับรองว่าอยู่ใน 10 อันดับแรกได้แน่”
หานเฟิงตะโกนว่า “10 อันแรกอะไรกัน ต้องที่ 1 สิ รอให้ศิษย์น้องลู่ฝานอยู่ที่ 1 ฉันจะได้เป็นศิษย์พี่ของอันดับหนึ่งในสถาบันสอนวิชาบู๊ ได้ยินแล้วสะใจจัง ศิษย์พี่ใหญ่ว่าไหม”
ศิษย์พี่ใหญ่พูดว่า “ใช่ ฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ศิษย์น้องลู่ฝาน รอบต่อไปนายไปคณะศิงขรเองไหม เอาชนะแบบหนึ่งต่อห้า รับรองว่าอยู่ใน 10 อันดับแรกแน่นอน”
หานเฟิง ฉู่สิงและฉู่เทียนตบโต๊ะ พูดพร้อมกันว่า “ความคิดดี”
ลู่ฝานอ้าปากกำลังจะพูด แต่ก็จำใจกลืนคำพูดลงคอ