บทที่ 305 หน้าไม่อาย
บทที่ 305 หน้าไม่อาย

เซียวเฟิงไม่จำเป็นต้องรอนาน เพราะภายในสิบนาที หลิวเฉียงเหว่ย ก็เทเลพอร์ตตัวเองมาปรากฏที่เมืองแห่งความโศกเศร้าแล้ว ครั้งนี้ซือเยี่ยจิ๋งและลิลลี่ไม่ได้มาด้วย มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่เข้ามายังที่พักชนชั้นสูงด้วยความเร่งรีบ

“ดูนี่!”

เขารีบนำยาเพิ่มความแข็งแกร่งและยาเพิ่มความเร็วออกมาโชว์ให้หลิวเฉียงเหว่ยดูราวกับจะอวด

“ยาระดับหายาก! เอามาให้ฉันให้หมดเลย! แล้วเดี๋ยวฉันจะไปนอนกับนายก็ได้!”

เพียงแค่เหลือบมอง หลิวเฉียงเหว่ยก็รู้ได้ทันทีว่ายาในมือของเซียวเฟิงนั้นมีคุณค่ามากขนาดไหน ไม่ว่าจะใช้สำหรับการประลองหรือจะใช้ตอนปราบบอสในดันเจี้ยน มันถือเป็นสิ่งที่สามารถทำให้สถานการณ์พลิกผันได้มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก! เพราะงั้นแล้วเธอจึงพูดออกไปโดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น! เธออยากได้ยาทั้งสองประเภทนี้แบบสุด ๆ!

เธอรู้ดีด้วยว่าถ้าเมื่อไหร่ยาทั้งสองชนิดนี้ถูกวางขายในร้านค้ามหาสมบัติล่ะก็ มันจะต้องทำรายได้ให้อย่างเป็นกอบเป็นกำแน่ ๆ

“ให้ตายเถอะ…”

ชายหนุ่มหมดคำพูด เป็นครั้งแรกเลยที่เขารู้สึกว่าการจะพูดกับผู้หญิงคนนี้มันเป็นเรื่องยาก แต่เขาก็ยังเชื่อว่าบางทีมันอาจจะเป็นเพราะหญิงสาวตรงหน้านั้นโรคจิต แม้ภายนอกจะดูเหมือนนางฟ้าตกสวรรค์ที่ดูสูงส่ง แต่ภายในนั้นกระเหี้ยนกระหายจ้องจะนอนกับเขาอยู่ตลอดเวลา…เพราะแบบนี้ชายหนุ่มถึงไม่รู้จะพูดอย่างไรกับเธอดี

“เธอมีหินอวกาศอยู่เท่าไหร? พอดีฉันไปได้ตัว NPC ที่สร้างยาพวกนี้มา แต่ฉันจำเป็นต้องสร้างแท่นเทเลพอร์ตใหม่เพื่อที่จะได้เชิญเขาเข้ามาในเมืองแห่งความโศกเศร้านี้ได้” เซียวเฟิงตัดสินใจปัดเรื่องไร้สาระออกทั้งหมดและถามไปตรง ๆ

“พาเขาเข้ามาในเมืองแห่งความโศกเศร้าเหรอ? ได้สิ! ฉันมีอยู่สามชิ้น ถ้ายังไงเดี๋ยวฉันจะไปหาจากคลังเพิ่มให้อีกทีหนึ่ง”

หลิวเฉียงเหว่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบตกลงในทันที เธอหันหน้ากลับแล้วเดินออกไปอย่างไม่รอช้า

“ทำไมเธอถึงมีแค่สามชิ้นน่ะ? ฉันให้เธอไปตั้งเป็นโหลเลยไม่ใช่เหรอ?” เซียวเฟิงพูดด้วยความประหลาดใจ

“ตอนสร้างกิลด์ฉันก็ใช้ไปบ้างแล้ว ตอนสร้างเมืองแห่งความโศกเศร้านี้ก็ใช้ไปด้วยเหมือนกัน เพราะงั้นฉันเหลือแค่นี้แหละ สิ่งนี้มีอัตราการพบเจอที่ต่ำมาก ๆ กิลด์อื่นเองก็น่าจะมีนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ต่างกันหรอก นายจะลองไปขอยืมมาดูไหมล่ะ?” หลิวเฉียงเหว่ยตอบอย่างช่วยไม่ได้

“ให้ฉันไปยืมเหรอ? เฮอะ ฝันไปเถอะ เอาเป็นว่าเธอส่งหินอวกาศของเธอทั้งสามชิ้นไปให้เฉียนโตวโตวก่อน เดี๋ยวฉันจะหาทางอื่นเอง” เซียวเฟิงคิดทบทวนแล้วพูด

“โอเค” หลิวเฉียงเหว่ยหันกลับไปดังเดิมและเดินจากไป

ภายในโถงแห่งนี้เหลือเซียวฟิงเพียงคนเดียวอีกครั้ง เขากำลังคิดว่าจะหาหินอวกาศเพิ่มจากที่ไหนได้บ้าง อัตราการพบเจอของมันต่ำอย่างที่หลิวเฉียงเหว่ยบอกนั่นแหละ ถ้าจะให้ไปขุดก็ใช้เวลานานเอาการด้วย เพราะงั้นแล้วมันก็เหลือทางเดียวคือไปหาเอาจากคลังสมบัติในแต่ละที่แทน

พวก NPC ก็คาดการณ์อะไรไม่ได้ ครั้นจะให้ไปเอาหินอวกาศมาจากคลังสมบัติภายในเมืองหลักหรือเมืองจักรวรรดิก็คงจะไม่ได้อีก ทำได้อย่างมากก็คงจะเป็นการขอซื้อมันมาจาก NPC ที่พอจะคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่บ้าง อย่างชนชั้นสูงในปราสาทภายในเมืองเทียนหลง

นอกจากวิธีนี้ ก็จะเหลือแต่คลังของแต่ละกิลด์ คำพูดของหลิวเฉียงเหว่ยวกกลับมาในหัวเซียวเฟิงอีกครั้ง ภายในเขตฮัวเซียนี้มีกิลด์ขนาดใหญ่อยู่มากมาย และแต่ละกิลด์เองก็น่าจะมีเก็บไว้กิลด์ละนิดละหน่อยด้วยเหมือนกัน

แล้วถ้าจะทำให้กิลด์พวกนั้นยอมยกหินอวกาศให้เลย จะพอมีวิธีไหมนะ?

การยืมน่ะมันไม่ใช่วิสัยของเขาเลย

เขาออกจากเมืองแห่งความโศกเศร้าและตรงไปยังเมืองจักรวรรดิด้วยแท่นเทเลพอร์ตประจำเมือง ระหว่างที่กำลังเดินทางผ่านเทเลพอร์ต เขาก็คิดอยู่ตลอดว่าควรทำอย่างไรดี ตอนนี้ที่ได้ความคิดเพิ่มขึ้นมาก็คือเสนอช่วยเหลือการผ่านดันเจี้ยน กับขอให้เฉียนโตวโตวนำอุปกรณ์ระดับสูงอย่างยาระดับหายาก และตั้งไว้ว่ารับแลกเปลี่ยนเฉพาะหินอวกาศเท่านั้น

ในเวลาตอนเมืองจักรวรรดินั้นค่อนข้างจะครึกครื้นขึ้นมาก มันผ่านมาหลายวันแล้วหลังจากที่เซียวเฟิงเปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 ยึดเอาจากจำนวนประชากรภายในเขตฮัวเซีย ตอนนี้ภายในเมืองจักรวรรดิก็น่าจะมีผู้เล่นกว่าแสนคนแล้วที่เปลี่ยนคลาสและเข้ามาในเมืองได้ ดังนั้นบนท้องถนนจึงสามารถพบเห็นผู้เล่นได้มากมาย

เซียวเฟิงปรากฎตัวที่จุดเทเลพอร์ตและพบว่า จัตุรัสที่กว้างใหญ่ตรงหน้านั้นเต็มไปด้วยผู้เล่นจนหนาตา และด้วยจำนวนผู้เล่นที่หนาตานี้ มันก็ทำให้จัตุรัสนี้เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและเสียงจอแจด้วย

“ขวางทางจริง หมาที่เห่าคือหมาที่ไม่กัดนะ”

ขณะที่เซียวเฟิงกำลังเดินไปรอบ ๆ ชนคนนู้นบ้างคนนี้บ้างเพราะความแออัด กลุ่มของผู้เล่นกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเขาหมายจะชนกับว่าตั้งใจจะเดินมาชนโดยเฉพาะ เซียวเฟิงไม่ได้หลบทางให้แต่อย่างใด มันจึงทำให้ชายผู้มีคันธนูพกไว้ด้านหลังเดินแหวกออกมาและพูดกับเซียวเฟิงด้วยความใจร้อน

“ทำไม? มีปัญหาอะไรหรือไง?”

เมื่อมองคนเหล่านี้ดี ๆ ก็พบว่าพวกเขานั้นเป็นคนที่เคยรู้จักกันมาก่อน คนกลุ่มนี้คือผู้เล่นจากกิลด์ไดนัสตี้ ไดนัสตี้ซอร์ดเองก็อยู่ท่ามกลางพวกเขาด้วย และผู้ที่เข้ามายั่วโมโหชายหนุ่มก็คือ นักธนูอายุ 17 ที่อยากนอนกับนักบวช ที่ขึ้นชื่อเรื่องความกวนอวัยวะเบื้องล่างอยู่แล้ว

“โอ้ เจ้าแห่งฮีลเลอร์! อย่าได้เข้าใจผิดนะครับ! นายน้อยนักธนูอายุ 17 ของพวกเราแค่หยอกเล่นน่ะ แหะ ๆ”

ไดนาสตี้ซอร์ดไม่คาดคิดเลยว่าจู่ ๆ นักธนูอายุ 17 นั้นจะไปยั่วโมโหคนอื่นเช่นนี้ เพราะงั้นเขาจึงรีบเดินแทรกไปเพื่อไกล่เกลี่ย เซียวเฟิงนั้นสวมชุดแฟชั่นอยู่ ดังนั้นผู้เล่นทั่วไปจึงไม่สามารถจำเขาได้ แต่ผู้เล่นระดับสูงของทุกกิลด์ก็ยังคงจำเขาได้อยู่ดี

“หา? นี่นายกล้ากลับมาหาเรื่องฉันหลังจากเข้าร่วมกับกิลด์ไดนัสตี้แล้วงั้นเหรอ? อยากมีเรื่องสินะ?” เซียวเฟิงจ้องมองนักธนูอายุ 17 แล้วพูดอย่างไม่ใจเย็นนัก เขาไม่อยากจะทนกับการกวนของอีกฝ่ายแต่อย่างใด นั่นเพราะแม้จะไม่เคยมีปัญหาใหญ่หลวงต่อกัน แต่ก็ไม่ได้ชอบหรือเฉย ๆ เฉกเช่นคนอื่น ๆ

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์! อย่าเพิ่งโกรธเลยครับ! นายน้อยนักธนูอายุ 17 ก็แค่จำคุณไม่ได้! เขาไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่องนะครับ!”

ไฟโทสะของเซียวเฟิงที่ปะทุขึ้นมาทำให้ไดนัสตี้ซอร์ดถึงกับต้องปาดเหงื่อตนเองขณะที่คอยไกล่เกลี่ยไปด้วย ขณะเดียวกันก็หันไปขยิบตาให้นักธนูอายุ 17 เพื่อขอให้หยุด

เจ้าแห่งฮีลเลอร์มีชื่อเสียงที่รู้กันดีว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน แล้วถ้าหากยึดตามอันดับอุปกรณ์ เจ้าแห่งฮีลเลอร์นั้นเก็บชุดอาร์ติแฟกต์ได้ครบทั้งชุดแล้ว ไม่เกินไปหากจะบอกว่าตอนนี้ไม่มีใครทัดทานเขาได้ แม้ว่านักธนูอายุ 17 นั้นจะไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่เขาก็ยังเด็กและห้าวไปเรื่อย เด็กคนนี้ยังไม่รู้ว่ามีใครบ้างที่ไม่ควรจะหาเรื่องด้วย

ถึงคนอื่น ๆ จะรู้อยู่แล้วว่านักธนูอายุ 17 นั้นเป็นฝ่ายผิดก่อนที่จงใจเดินเข้าใส่เซียวเฟิงเช่นนั้น แต่ยังไงเสียอีกหลายคนก็ยืนยันว่าเซียวเฟิงนั่นแหละที่ไม่ยอมหลบทาง เรื่องมันไม่ควรจะมีอะไรมากไปกว่านี้ แต่เพราะคู่กรณีดันเป็นคนใหญ่คนโตทั้งคู่ ผลสรุปมันจึงค่อนข้างคาดเดาไม่ได้ ทางฝั่งนักธนูอายุ 17 ก็เป็นคนของกิลด์ไดนัสตี้ที่ถือว่าเป็นกิลด์สำคัญขนาดใหญ่ในฟากใต้ ในขณะที่เซียวเฟิง หรือเจ้าแห่งฮีลเลอร์ก็เป็นที่รู้จักกันดีในฉายาของหนึ่ง vs กิลด์ แล้วชนะ!

จริง ๆ แล้วนักธนูอายุ 17 นั้นไม่ได้ตั้งใจจะให้เรื่องมันกลายเป็นปัญหาใหญ่โตอะไรนัก เขาแค่อยากจะทำให้เซียวเฟิงรู้สึกเป็นทุกข์ขณะที่เผอิญเจออีกฝ่ายกำลังเดินเล่นไปทั่วก็เท่านั้น ในตอนนี้ดูเหมือนเรื่องมันจะเริ่มไม่เล็กแล้วเพราะไดนัสตี้ซอร์ดกำลังส่งสัญญาณให้เขาถอยออก

“ฮึ่ม!”

เขาพ่นลมหายใจแล้วสะบัดหน้าขึ้นขณะเดินผ่านเซียวเฟิงไป แน่นอนว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่พลาดที่จะกระทบไหล่เซียวเฟิงขณะที่เดินผ่านไปด้วย

และคราวนี้ ปัญหาใหญ่ก็ตามมาจริง ๆ

“โอ้ย!!”

เซียวเฟิงร้องออกมาเสียงดังจนทำเอาผู้เล่นรอบ ๆ สะดุ้งโหยง เขาใช้จังหวะนี้ล้มลงไปนอนบนพื้น

“นายทำอะไรน่ะ!?”

นักธนูอายุ 17 ตกใจกับภาพที่เห็น เขามองเซียวเฟิงที่ลงไปนอนกลิ้งกับพื้น ซึ่งไดนัสตี้ซอร์ดและคนอื่น ๆ เองก็งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน

จากนั้นเซียวเฟิงก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และตะโกนออกมาเสียงดัง

“โอ้ ทหาร! ตรงนี้มีนักผจญภัยทำร้ายคนอื่นท่ามกลางที่สาธารณะภายในเมืองจักรวรรดิ! ทหารยามอยู่ไหน! ดยุกของพวกท่านกำลังถูกคนอื่นทำร้ายอยู่นะ! ที่นี่เป็นบ้างป่าเมืองเถื่อนหรือไร ไยจึงไม่มีกฏหมายอะไรมาช่วยผู้เคราะห์ร้ายได้เลย?”

เสียงร้องที่โหยหวนของเซียวเฟิงนั้น เรียกความสนใจจากเหล่าผู้เล่นทั้งหมดที่อยู่บริเวณแท่นวาร์ปได้ดี และในบรรดาผู้เล่นเหล่านั้นก็มีผู้เล่นระดับสูงจากหลายกิลด์รวมไปถึงผู้เล่นระดับท็อปเขตฮัวเซียที่เคยเข้าร่วมอีเวนต์ล่าสมบัติปะปนอยู่ด้วย เซียวเฟิงในสายตาพวกเขานั้นไม่ใช่คนที่ยากที่จะจำได้เลย เพราะงั้นแน่นอนว่าพวกเขาจำเซียวเฟิงได้

“นั่นเจ้าแห่งฮีลเลอร์ไม่ใช่หรือไง?”

“เขากำลังทำอะไรน่ะ? สติแตกไปแล้วเหรอ?”

ในตอนนั้น ผู้เล่นมากมายได้แต่พากันงงว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขามองหน้ากันแล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ไม่มีใครรู้ว่าผู้ที่เป็นเจ้าแห่งฮีลเลอร์สุดไร้เทียมทานคนนี้กำลังคิดจะทำอะไร บางคนถึงกับต้องถ่ายวีดีโอเก็บไว้เลย เพราะยังไงเสียเหตุการณ์เช่นนี้ก็คงไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนักหรอก

จะมีก็แต่ผู้เล่นกลุ่มล่าสุดที่เพิ่งออกจากเทเลพอร์ตเท่านั้นที่ต่างพากันช็อกเมื่อเห็นภาพตรงหน้า พวกเขาคือผู้เล่นจากดูมส์เดย์ลีกที่นำโดยดูมส์เดย์ก็อด ทุกสายตาของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความตกตะลึง นั่นเพราะมันเหมือนกับสิ่งที่พวกเขาเคยเจอมาก่อนเลย!

“หลบทางหน่อย! ไหน ใครมันกล้าที่จะมาสร้างปัญหาในเมืองจักรวรรดิกัน!?”

หลังจากที่เซียวเฟิงร้องโอดครวญอยู่ไม่นานนัก กลุ่มของ NPC ยามลาดตระเวนที่รับผิดชอบภายในเมืองจักรวรรดิก็เดินเข้ามาเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ พลันเมื่อเห็นว่าผู้ที่นอนอยู่เป็นเซียวเฟิง พวกเขาก็รีบเข้าไปช่วยพยุงร่างนั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“ท่านดยุก! เกิดอะไรขึ้นกับท่านกันครับ!”

หัวหน้ากองทหารลาดตระเวนกล่าวถามด้วยความหวาดหวั่นขณะช่วยปัดฝุ่นออกให้เซียวเฟิง

เพราะเซียวเฟิงมียศเป็นดยุก ดังนั้นเขาถือว่ายิ่งใหญ่มาก ๆ สำหรับเหล่า NPC ในเมืองจักรวรรดินี้

“ฉันโดนนักผจญภัยคนนี้ชนล้ม รู้หรือยังว่าต้องทำอะไร? ดยุกของเมืองจักรวรรดิถูกชนจนล้มขนาดนี้ ทำอะไรกันได้บ้างหรือเปล่า? ในเมืองนี้ไม่มีกฏหมายกันหรือไง?”

เซียวเฟิงชี้ไปทางนักธนูอายุ 17 ขณะที่มือหนึ่งก็เท้าสะเอวอยู่

“ว่าอย่างไรนะครับ? เขากล้าที่จะดูหมิ่นท่านดยุกงั้นเหรอ! ทหาร จับเขาไป! นำตัวไปเข้าคุก!”

หัวหน้าทหารยามลาดตระเวนได้ยินดังนั้นก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ทันทีที่เขาชี้นิ้วไปยังนักธนูอายุ 17 ปี ทหารยามอีกสี่คนก็รีบรุดหน้าเข้าไปอย่างไม่รีรอ

“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ! หมอนั่นมันพูดไร้สาระ!”

นักธนูอายุ 17 ปีตะโกนแล้วพยายามอธิบายให้ NPC ทหารยามที่กำลังเข้ามาฟัง เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากอธิบายเท่านั้น เนื่องจาก NPC พวกนี้เป็นถึงทหาร หากเขาลงไม้ลงมือสู้กลับล่ะก็ บทสรุปไม่สวยแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนการอธิบายนี้ก็จะไปได้ไม่สวยเช่นกัน ขณะที่เซียวเฟิงกำลังแสยะยิ้ม นักธนูอายุ 17 ก็ได้แต่วิ่งหนีทหารยามไปด้วย แม้ตอนนี้จะยังจับตัวไม่ได้ แต่ยังไงเสียปลายทางของเขาก็ต้องไปจบลงที่คุกอย่างแน่นอน แล้วยิ่งเป็นคุกของเมืองจักรวรรดิ มั่นใจได้เลยว่ามันจะต้องเยี่ยมยอดแน่ ๆ

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์! ได้โปรดเมตตาเถอะครับ! นายน้อยนักธนูอายุ 17 น่ะไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่องคุณจริง ๆ นะครับ! เมตตาเขาเถอะ!”

ไดนัสตี้ซอร์ดแทบจะลงไปคุกเข่า เขารู้ว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์นั้นถือว่ายศสูงกว่าเหล่า NPC หลาย ๆ คนในเมืองนี้ เพราะครั้งหนึ่งเจ้าแห่งฮีลเลอร์ก็เคยบัญชาการทัพ NPC ในภารกิจสมรภูมิมาแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คาดคิดว่าต่อให้ไม่มีภารกิจ ตำแหน่งของเซียวเฟิงก็จะยังคงสูงขนาดนี้! เพียงแค่เขาพูดไม่กี่คำ NPC ทหารยามก็สามารถส่งทหารยามเข้ามาลากตัวนักธนูอายุ 17 ไปเข้าคุกได้แล้ว นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้ว!

นักธนูอายุ 17 ผู้นี้ถือเป็นผู้เล่นระดับสูงที่ค่าตัวเองก็สูงไม่แพ้กัน กิลด์ไดนัสตี้ย่อมทุ่มทุนเช่าเขามาเพราะหวังจะให้กิดล์เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ขืนปล่อยให้ถูกจับขังคุกหลายวัน มีหวังกิลด์ได้ถูกทิ้งหลุดออกจากตำแหน่งในอันดับเลเวลแน่ รวมถึงหากเป็นเช่นนั้น ชื่อเสียงของกิลด์ไดนัสตี้ก็จะแปดเปื้อนด้วย!

“ส่งต่อคำสั่งของฉันไป ว่าถ้าจะให้ปล่อยตัวก็จ่ายเป็นหินอวกาศมาสามชิ้นแทนค่าไถ่ตัว”

เซียวเฟิงไม่สนใจคำเว้าวอนของไดนัสตี้ซอร์ด และหันไปพูดกับหัวหน้ายามลาดตระเวนด้วยเสียงดังแทน ดูเหมือนเขาจะจงใจให้ไดนัสตี้ซอร์ดได้ยินคำพูดนี้ด้วย

“ครับ ท่านดยุก!” หัวหน้าทหารยามรับคำสั่ง

ผู้เล่นรอบ ๆ บริเวณนั้นต่างก็รู้สึกเหมือนไดนาสตี้ซอร์ด พวกเขาตกตะลึงเมื่อได้เห็นภาพที่ไม่น่าเชื่อนี้ ผู้เล่นที่ถ่ายวีดีโอไว้ไม่รอช้าที่จะอัปโหลดวีดีโอขึ้นไปในฟอรั่มเกมประจำเขตฮัวเซียทันที

หัวข้อกระทู้นั้นคือ ‘พระเจ้าช่วย! เจ้าแห่งฮีลเลอร์แกล้งบาดเจ็บเพื่อจะแบล็กเมล์นายน้อยนักธนูอายุ 17 แห่งกิลด์ไดนัสตี้ที่จัตุรัสเทเลพอร์ต! ไม่เช่นนั้นแล้วจะถูกจับเข้าคุก!’

ต้องยอมรับว่าผู้เล่นคนนี้ฉลาดไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เพราะหัวกระทู้ที่เขาตั้งนั้นถือว่าเรียกแขกได้ดี ผู้เล่นคนอื่น ๆ มากมายต่างสนใจและกดเข้ามาดู วีดีโอที่ปรากฏอยู่ในกระทู้นั้นก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้ชมเช่นกันจนเพียงไม่นานมันก็สามารถถูกดันขึ้นไปอยู่บนสุดของฟอรั่มได้

อย่างไรก็ตาม ไดนัสตี้ซอร์ดก็ต้องรู้สึกช่วยอะไรไม่ได้เพราะเขาถูกเซียวเฟิงเมินเฉย ยังไงเสียนักธนูอายุ 17 คนนั้นก็เป็นฝ่ายไปยั่วยุเซียวเฟิงก่อนเอง เขาทำให้กิลด์ไดนัสตี้ต้องถูกต่อว่า เพราะงั้นจึงรีบติดต่อไปหาคราวน์ปรินซ์ ผู้เป็นหัวหน้ากิลด์ทันที

เซียวเฟิงไม่ได้เดินออกจากจุดนั้นไปทันที เขามองซ้ายทีขวาทีแล้วก็พบดูมส์เดย์ก็อดกับเหล่าสมาชิกกิลด์ เห็นเช่นนั้นเขาก็ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเลย

“สหาย! ไม่เจอกันนานเลยนะ!”

รอยยิ้มกว้างใหญ่บนใบหน้าเซียวเฟิงนั้นกว้างจนเหมือนว่าเขาได้เจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอมานานแล้ว ซึ่งมันทำให้ดูมส์เดย์ก็อดไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไรดี

“อุ่ก!”

ทว่าตอนนั้นเอง เซียวเฟิงก็สะดุดล้มลงไปตรงหน้าดูมเดย์ก็อดและคนอื่น ๆ โดยที่ยังเดินไม่ถึงตัวเลยด้วยซ้ำ

สีหน้าของดูมส์เดย์ก็อดซีดเผือดลงไปในทันที เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยังไงเสียดูมส์เดย์ลีกก็เป็นเหยื่อการแบล็กเมล์ของเซียวเฟิงกลุ่มแรกอยู่แล้ว เพราะงั้นภาพที่เกิดขึ้นนี้มันเหมือนกับเมื่อครั้งแรกที่โดนเป็นอย่างมาก คนเราจะสามารถตกหลุมพรางครั้งหนึ่ง หรือไม่ก็สองครั้ง แต่ไม่มีครั้งที่สามแน่ ๆ !

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์! คุยกันก่อน บอกฉันมาได้เลยว่านายต้องการอะไร ดูมเดย์ลีกจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อตอบสนองความต้องการนั้นของนายเอง! ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม!”

ดูมส์เดย์ก็อดเลือกที่จะยอมรับความพ่ายแพ้แต่เนิ่น ๆ ด้วยสีหน้าแข็งเกร็ง เขารีบเข้าไปช่วยประคองเซียวเฟิงลุกขึ้นแล้วพูด

เซียวเฟิงผู้ที่เตรียมจะตะโกนรีบหยุดปากไปในทันที เขาไม่คาดคิดว่าครั้งนี้ดูมส์เดย์ก็อดจะหัวไวกว่าที่คิด เพราะงั้นจึงพูดสิ่งที่ต้องการออกไปตามตรง

“เอาหินอวกาศมาให้ฉันสามก้อน แล้วจะปล่อยผ่านเรื่องในวันนี้ไป”

สิ่งนั้นทำเอาดูมส์เดย์ก็อดแข็งเกร็งไปทั้งตัวพร้อมกับกัดฟันแน่น ก่อนจะหันไปพูดกับดูมส์เดย์ลอว์ก็อดที่อยู่ด้านหลัง

“นี่เลย สิ่งที่นายต้องการ!”

ทันใดนั้นเอง วีดีโอเหตุการณ์ล่าสุดก็ไปปรากฏขึ้นในฟอรั่มประจำเขตฮัวเซียอีกครั้ง

ครั้งนี้หัวข้อกระทู้คือ ‘เจ้าแห่งฮีลเลอร์แบล็กเมล์กิลด์ใหญ่! ช่างไม่ละอายใจเสียจริง! กิลด์ใดก็ตามที่กำลังมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสเทเลพอร์ตในเมืองจักรวรรดิต้องระวังไว้ให้ดี!’