ตอนที่ 1482 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (7) / ตอนที่ 1483 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (8)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1482 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (7)

 

 

ใช่แล้ว ถ้าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่เก็บหญ้าอสรพิษหยกแล้วบังเอิญให้พวกเขาเห็นการกระทำของนางจนทำให้พวกเขาคิดว่านางอ่อนแอ เขาก็คงไม่ใช้ให้คนอื่นล้อมแล้วกำจัดอวิ๋นลั่วเฟิง

 

 

ดังนั้นทุกอย่างเป็นความผิดของอวิ๋นลั่วเฟิง!

 

 

“ตั้งใจ?” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มเยาะแล้วพูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัว “เจ้ามีค่าพอหรือ”

 

 

สีหน้าของซูจวิ้นซีดเผือด เขาถอยหลังแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยความกลัวเพราะว่าเขาเพิ่งสังเกตว่าร่างของอวิ๋นลั่วเฟิงค่อยๆ หายไป…

 

 

ใช่แล้ว! ร่างของนางค่อยๆ จางหายไปตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนว่านางค่อยๆ รวมกับสิ่งของรอบๆ

 

 

“นายหญิง!” เสี่ยวโม่เห็นปรากฏการณ์ผิดปกติที่เกิดกับอวิ๋นลั่วเฟิง เขาก็พุ่งมาหานางโดยไม่ลังเลขณะที่อุ้มหลินรั่วไป๋ จากนั้นก็รีบจับมือนางไว้ หลังจากที่เขาสัมผัสอวิ๋นลั่วเฟิง ร่างกายของเสี่ยวโม่ก็เริ่มจางแล้วค่อยๆ หายไปเหมือนกัน…

 

 

“แม่นางอวิ๋น!” เหยียนเข่อและคนอื่นๆ ตั้งใจจะพุ่งเข้ามาเหมือนกัน แต่เมื่อพวกเขาไปถึง อวิ๋นลั่วเฟิงก็หายไปแล้ว…

 

 

เมื่อไร้คำสั่งของอวิ๋นลั่วเฟิง อวิ๋นอี้ก็เริ่มแกว่งหมัดด้วยความสับสน เขาเป็นแค่เครื่องมือไร้สมอง แล้วการสังหารของเขาก็เริ่มผิดปกติ

 

 

“พวกเรา ไป!” ซูจวิ้นไม่กล้าสู้กับอวิ๋นอี้แล้วฉวยโอกาสที่เขากำลังโจมตีคนอื่นนำคนของสำนักเสวียนชิงหนีไปอย่างรวดเร็ว นี่คือผลของการที่อวิ๋นอี้ไม่มีสติปัญญา

 

 

หุ่นเชิดที่ไร้สติปัญญาทำได้แค่ต่อสู้ตามที่เจ้านายสั่ง ไม่สามารถคิดด้วยตัวเองได้ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เขาต้องหยุดสำนักเสวียนชิงไม่ให้หนี

 

 

แน่นนอนว่ายังมีหุ่นเชิดแบบอื่นที่คล้ายกับเด็กหญิงตัวน้อยที่อวิ๋นลั่วเฟิงยกให้ผู้เฒ่าหาน เมื่อเจ้านายของพวกเขาตกอยู่ในอันตรายหรือบาดเจ็บ พวกเขาก็จะโจมตีทันทีโดยไม่ต้องออกคำสั่ง แต่ว่าพวกเขาก็ยังคิดด้วยตัวเองไม่ได้อยู่ดี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งแต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะใช้พวกมันอย่างไร

 

 

“เอาอย่างไรต่อ” เหยียนเข่อมองจุดที่อวิ๋นลั่วเฟิงและเสี่ยวโม่หายตัวไปอย่างโง่งมด้วยสายตาสับสน เห็นได้ชัดว่านางไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

 

 

“พวกเขาแค่หายไปไม่ได้ตาย” ฟู่จิ่นกัดฟัน “พวกเรารอพวกนางที่นี่ได้ พวกนางจะกลับมา”

 

 

เหยียนเข่อถอนหายใจ “ตอนนี้ก็มีแต่ต้องทำแบบนั้นเท่านั้น โชคไม่ดีที่คนของสำนักเสวียนชิงหนีไปได้ ถ้าพวกเขารู้ที่อยู่ของครอบครัวแม่นางอวิ๋น บางทีพวกเขาอาจจะไปสร้างปัญหาให้ได้ พูดแล้วเรื่องนี้ก็เกิดเพราะพวกเรา”

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของนาง ทั้งสี่ก็แบกความรู้สึกผิดไว้บนหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขา อวิ๋นลั่วเฟิงก็คงไม่มีปัญหากับสำนักเสวียนชิง

 

 

……

 

 

ขณะที่เหยียนเข่อและคนอื่นกำลังรู้สึกสับสนที่อวิ๋นลั่วเฟิงหายไป อวิ๋นลั่วเฟิงก็มาปรากฏตัวในห้องห้องหนึ่ง

 

 

ภายในห้องตกแต่งแบบโบราณ มีหนังสือสองสามเล่มวางอยู่บนโต๊ะและมีต้นไม้สองสามต้นทำหน้าที่เป็นเตียง เห็นได้ชัดว่ามีไว้ให้ใครสักคนพักผ่อน

 

 

“ในที่สุดข้ารอจนถึงวันที่ท่านมา ผู้สืบทอดเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์” มีเสียงดังขึ้นจากไกลๆ เหมือนพูดจากช่วงเวลาและมิติที่อยู่ไกลออกไปเป็นพันปีก่อนจะมาเข้าหูอวิ๋นลั่วเฟิง

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงหันไปก็เห็นสตรีในชุดอาภรณ์สีเขียวพร้อมใบไม้สีเขียวมรกตบนศีรษะเดินเข้ามาช้าๆ รูปร่างของนางดูสง่างามและสดใส งดงามเหมือนต้นไม้อมตะที่เดินออกมาจากภาพวาดจนอยากจะลืมเลือน

 

 

“ที่นี่คือภายในต้นไม้แห่งชีวิตงั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วแล้วมองสตรีที่อยู่ที่นี่ “เหตุใดเจ้าถึงพาพวกเราเข้ามาในร่างของต้นไม้แห่งชีวิต”

 

 

หญิงสาวยิ้มอ่อนโยนแล้วเดินไปหาหลิวรั่วไป๋ที่กำลังสลบอยู่ช้าๆ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1483 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (8)

 

 

“ช่วงนี้มีคนจำนวนมากที่เข้ามาสำรวจ แต่พวกเขาไม่ใช่คนที่ข้ารอ ดังนั้นข้าเลยสังหารพวกเขาทั้งหมดแล้วทำให้ศพพวกเขาหายไป”

 

 

ในที่สุดอวิ๋นลั่วเฟิงก็เข้าใจว่าทำไมนางถึงเห็นศพจำนวนมากระหว่างทาง แต่พอขึ้นมาถึงยอดเขากลับไม่มีแม้แต่ศพเดียว กลายเป็นว่าเป็นต้นไม้วิญญาณที่ทำนี่เอง

 

 

“สัตว์อสูรพิทักษ์ผลไม้วิญญาณก็ถูกเจ้าสังหารเหมือนกันหรือ”

 

 

“ใช่แล้ว” หญิงสาวยิ้มเยาะ “ใครก็ตามที่เห็นต้นไม้แห่งชีวิตต้องตาย แน่นอนว่ายกเว้นนาง” หญิงสาวเชิดหน้าขณะพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโส “ข้าไว้ชีวิตเจ้าก็เพราะเจ้ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนาง”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตา ประกายเย็นชาพาดผ่านดวงตา “เจ้าหมายถึงถ้าไม่มีเสี่ยวไป๋ เจ้าก็จะสังหารข้าเหมือนกันงั้นหรือ”

 

 

“ใช่แล้ว มีแค่เผ่าสตรีศักดิ์ทธิ์เท่านั้นที่เป็นเจ้าของต้นไม้แห่งชีวิต” หญิงสาวชุดเขียวแสดงสีหน้าดูถูก “แต่ว่าผู้สืบทอดเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ฟื้น แล้วข้าก็อยากให้นางอยู่ในต้นไม้ ในฐานะเพื่อนของนางก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่ข้าต้องยอมให้เจ้าอยู่ที่นี่กับนาง”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงส่งสายตาเย็นเยียบไปให้สตรีชุดเขียวแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “แล้วถ้าข้าปฏิเสธ”

 

 

“มนุษย์โอหัง!” สตรีชุดเขียวส่งเสียงขึ้นจมูก ทันใดนั้นเมื่อนางยกมือขึ้นสายลมแรงก็ปรากฏแล้วเข้าโจมตีอวิ๋นลั่วเฟิง

 

 

ปัง!

 

 

ถึงแม้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะกันการโจมตีไว้ได้ แต่นางก็ถูกแรงผลักจนถอยหลังไปด้วยความเร็วสูงจนชนเข้ากับผนัง

 

 

“นายหญิง!” สีหน้าของเสี่ยวโม่เปลี่ยนไปทันที เขาจ้องหน้าสตรีชุดเขียวอย่างโกรธแค้น “เจ้าก็เป็นแค่ต้นไม้ที่เกิดขึ้นเพราะพลังวิญญาณ แต่เจ้ากล้าโจมตีนายหญิงของข้างั้นหรือ! อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าเด็ดใบไม้ของเจ้าทิ้งทั้งหมด!”

 

 

สตรีสีชุดเขียวยิ้มเยาะอย่างดูถูก “ด้วยพลังของเจ้านะหรือ ถ้าข้าเข้าใจไม่ผิด เจ้าน่าจะตกหลุมรักผู้สืบทอดของเผ่าข้า น่าเสียดายที่เผ่าของเราไม่ได้รับอนุญาตให้ยุ่งเกี่ยวกับบุรุษจากโลกภายนอก อย่าได้หวังว่าเจ้าจะได้มีนางในชีวิต!”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดเสี่ยวโม่ที่กำลังเดือดดาล แล้วดวงตาร้ายกาจของนางก็ค่อยๆ หันไปหาสตรีชุดเขียว

 

 

“ข้าจะไม่อยู่ที่นี่ แล้วก็ไม่ยกเสี่ยวไป๋ให้เจ้าด้วย”

 

 

ตอนแรกอวิ๋นลั่วเฟิงถูกต้นไม้แห่งชีวิตล่อลวง แต่ว่าหลังจากรู้ว่ามีวิญญาณต้นไม้ข้างใน นางก็ทิ้งความคิดชั่วคราว สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือพาเสี่ยวไป๋และเสี่ยวโม่ออกไปจากที่นี่!

 

 

“หลังจากเข้ามาแล้วเจ้าคิดว่าตัวเองจะออกไปได้หรือ” สตรีชุดเขียวหัวเราะอย่างชั่วร้าย “เป็นเพราะผู้สืบทอด ข้าก็เลยไม่สังหารเจ้า! เจ้ามันได้คืบจะเอาศอก!”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มเย็น “ถ้าเจ้าไม่ปล่อยพวกเราไป ถึงแม้ว่าข้าจะต้องทำลายขวากหนามเพื่อหาทางออก ข้าก็ต้องออกไปให้ได้!”

 

 

ไม่มีใครหยุดนางได้!

 

 

“คิกๆ!” สตรีชุดเขียวหัวเราะเยาะ “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงให้ดูหน่อยว่าเจ้าแข็งแกร่งแค่ไหน”

 

 

ตูม!

 

 

พริบตาเดียวนางก็พุ่งเข้าไปหาอวิ๋นลั่วเฟิง ฝีเท้ารวดเร็วดุจสายลม นางเตะเข้าที่ท้องของอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยความเร็วสูง

 

 

ถึงแม้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะไวพอที่ใช้แขนกันการโจมตีไว้ได้แต่นางก็ยังโดยเตะจนลอยไปไกล สุดท้ายร่างของนางกระแทกกับผนังเย็นเยียบอย่างแรง

 

 

สตรีผู้นี้แข็งแกร่งมาก…นางน่าจะแข็งแกร่งกว่าหั่วหั่ว! แต่ว่านางก็ยังไม่ได้อยู่สูงกว่าขั้นจักรพรรดิปราชญ์ แล้วยังอยู่ในขอบเขตที่เอาชนะได้

 

 

“นายหญิง!” เสี่ยวโม่กังวลมากจนเสียงของเขาเต็มไปด้วยความวิตก

 

 

“อย่าเข้ามา!” อวิ๋นลั่วเฟิงยืนขึ้นช้าๆ แล้วมองตรงไปที่สตรีชุดเขียว

 

 

“ความแข็งแกร่งของเจ้ามีแค่นี้เองหรือ”