ตอนที่ 671 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน (1) / ตอนที่ 672 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน (2)

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 671 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน (1)

“ดีจังเลยค่ะ ยังเป็นแม่ที่รอบคอบเสมอ” กู้ซูหลิงโล่งใจเบาๆ แต่ก็ยังกังวลอยู่ “แต่ว่าเรื่องของไป๋เสวี่ยจะไม่มีใครสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับเราเหรอคะ”

“เขาเป็นคนตามหาเองไม่ได้ผ่านมือเราสักหน่อย หากไป๋เสวี่ยหายตัวไป ต่อให้เขาสงสัยอย่างไรก็คงสาวไม่ถึงตัวพวกเราหรอก เราก็แค่ได้ยินมาว่าเธอคือกู้เหยียนอวี๋ถึงได้ดีกับเธอ เราก็โดนหลอกเหมือนกัน รู้ไหม”

กู้ซูหลิงพยักหน้า

จริงด้วย ขอเพียงแค่ไป่เสวี่ยหายตัวไป เรื่องทุกอย่างก็จะไม่ถูกสาวมาถึงตัวเธอ

แต่ไม่รู้ทำไมยังอดกระวนกระวายไม่ได้

งานเลี้ยงในคฤหาสน์ตระกูลกู้จบลงอย่างรวดเร็ว แขกเหรื่อพยายามแสดงน้ำใจอย่างเต็มที่และทยอยกลับกันแล้ว

คนในงานยิ่งเหลือน้อยลง จูอวี้ลู่ลองหยั่งเชิงพากู้ซูหลิงเข้าไปหากู้เชินด้วยสีหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นจึงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “เซอร์ไพรส์มากจังเลยนะคะ ที่แท้คุณหมออวี๋ก็คือเสี่ยวอวี๋นี่เอง”

กู้เชินไม่ตอบเธอ แต่ใบหน้าเดิมที่มีรอยยิ้มกลับนิ่งขรึมลงทันตา

ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาคู่นี้ดูไม่ต่างจากคนแปลกหน้าสักเท่าไหร่

ด้วยความที่อวี๋กานกานไม่สนใจเรื่องนี้และไม่ต้องการมีส่วนร่วม เธอจึงมองไปที่ฟังจือหันข้างๆ เผยรอยยิ้มเล็กน้อยจนเห็นฟันขาวสะอาด

ฟังจือหันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เหนื่อยไหม”

อวี๋กานกานยิ้มและเอ่ยตอบ “ไม่ค่อยเท่าไหร่ค่ะ”

จูอวี๋ลู่ไม่สนใจสีหน้าเย็นชาของกู้เชินสักนิด เธอยังคงรักษาภาพพจน์ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ดูเหมือนว่าเธอจะมีความชำนาญมาก แม้ว่าจะมีมีดแสนก็ไม่สามารถแทงทะลุได้

กู้เชินไม่ให้ความสนใจเธอ เธอจึงหันไปยิ้มแล้วพูดกับอวี๋กานกาน “ครั้งแรกที่เจอเธอฉันก็รู้สึกคุ้นเคย คิดในใจว่าหากเราเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันจริงๆ”

อวี๋กานกานนึกถึงเรื่องในวัยเด็กไม่ออก แต่ฟังจือหันบอกว่าผู้หญิงคนนี้ร้ายกับเธอไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เห็นได้ว่าเล่ห์เหลี่ยมเยอะขนาดไหน

เธอจึงทำได้เพียงยิ้มและไม่พูดอะไร

เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้ความสนใจจูอวี้ลู่

แต่จูอวี้ลู่ก็ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พูดจาอ่อนหวานกับอวี๋กานกานโดยไม่สนว่าอวี๋กานกานจะมีสีหน้าเย็นชาขนาดไหน เธอจะยังไงก็ได้ แต่กู้ซูหลิงที่อยู่ข้างๆ กลับแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

เสียงเหยียบพื้นของรองเท้าส้นสูงดังมาก

กู้เชินปราดตามองเธอด้วยแววตาเยือกเย็นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เมื่อแขกกลับกันไปหมดแล้ว ความอดทนของกู้ซูหลิงก็มาถึงขีดสุด เธอจ้องอวี๋กานกานเขม็งด้วยสายตาเย็นชา

กู้เชินเห็นสายตาแบบนี้ของเธอเข้าพอดี

สีหน้าของกู้เชินเย็นชาอย่างถึงที่สุด เย็นยะเยือกไปทั่วทั้งร่าง จากนั้นกวาดแขนอย่างแรงจนขวดเหล้าที่อยู่ด้านข้างตกแตกกระจายบนพื้น

“กรี๊ดด!” กู้ซูหลิงตกใจส่งเสียงกรีดร้อง มองกู้เชินด้วยความกลัวอย่างหวาดหวั่น “คุณพ่อ เป็นอะไรคะ”

สายตาของกู้เชินเต็มไปด้วยความผิดหวังแล้วจ้องเธออย่างเคร่งขรึม “เมื่อกี้เธอหมายความว่ายังไง”

ม่านตาของกู้ซูหลิงฉายแววหวาดกลัว ท่าทางของกู้เชินตอนนี้ทำให้คนรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก เธอเกรงกลัวหวาดหวั่นแล้วเอ่ยด้วยเสียงแหบ “หนูไม่ได้มีอะไร คุณพ่อคะ…”

เธอออดอ้อนอย่างน่าสงสาร “หรือว่าพอคุณพอเจอลูกสาวแท้ๆ ก็ไม่ต้องการหนูแล้วใช่ไหม คุณพ่อลำเอียงเกินไปแล้ว”

กู้เชินขมวดคิ้ว “เธอก็บอกอยู่ว่าเป็นลูกสาวแท้ๆ ไม่ให้ฉันลำเอียงเข้าข้างลูกแล้วจะให้เข้าข้างใคร”

“แล้วหนูล่ะคะ” ความโกรธของกู้ซูหลิงในคืนนี้กำลังระเบิดออกมาที่นี่

เธอร้องไห้ออกมาเสียงดังด้วยน้ำเสียงตีโพยตีพาย เธอเกรี้ยวกราดและตั้งคำถามกับกู่เชิน “หนูก็เป็นลูกสาวคุณพ่อเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่หลายปีมานี้เราก็เป็นพ่อลูกกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน คุณพ่อรู้ทั้งรู้ว่าอวี๋กานกานคือกู้เหยียนอวี๋ ไป๋เสวี่ยไม่ใช่กู้เหยียนอวี๋ คุณพ่อก็ไม่บอกพวกเราสักคำ คุณพ่อให้แม่กับหนูกลายเป็นตัวตลก แล้วต่อไปพวกหนูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนคะ”

ตอนที่ 672 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน (2)

กู้ซูหลิงพูดความในใจออกมาทั้งหมด จูอวี้ลู่จะห้ามแต่ก็ห้ามไม่ทัน

เธอจ้องกู้ซูหลิงเขม็งแล้วยอมรับผิดกับกู้เหยียนอวี๋ “อาเชิน ขอโทษด้วยนะ ลูกคนนี้ก็แค่เพราะหึง แล้วลูกก็รักคุณมาก คุณอย่าไปฟังคำพูดไปเรื่อยเปื่อยของลูกเลยนะคะ”

กู้เชินไม่ได้มองเธอแต่กลับมองไปที่กู้ซูหลิง “เธอบอกไม่รู้ว่าไป๋เสวี่ยไม่ใช่กู้เหยียนอวี๋อย่างนั้นเหรอ”

กู้ซูหลิงตะคอกเสียงดังโดยไม่ทันลังเล “แน่นอนว่าหนูไม่รู้ หนูจะไปรู้ได้ยังไงคะ”

กู้เชินหันไปมองผู้ช่วย ผู้ช่วยจึงรีบหยิบรูปภาพชุดหนึ่งออกมา หลังจากกู้เชินหยิบรูปขึ้นมาก็โยนใส่กู้ซูหลิงทันที “เธอไม่รู้เหรอ แล้วนี่มันคืออะไร”

รูปถ่ายทั้งหมดเป็นรูปที่กู้ซูหลิงพบหมอคนหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในรูปภาพเหล่านั้นเป็นรูปที่กู้ซูหลิงยื่นซองจดหมายให้กับหมอคนนั้น

และหมอคนนี้เป็นหนึ่งในหมอที่เซ็นรับรองพ่อลูกในผลตรวจดีเอ็นเอ

กู้ซูหลิงตกใจจนหน้าซีด ส่ายหน้าไปมา “เปล่า หนูเปล่านะคะ รูปพวกนี้ต้องตัดต่อ เป็นรูปตัดต่อค่ะ”

เธอเริ่มหยิบรูปที่ติดมือมาฉีกทิ้ง ฉีกทึ้งพร้อมพูดว่ามันเป็นรูปตัดต่อ เป็นรูปตัดต่อทั้งหมด

“สิบห้าปีมานี้ฉันดูแลเธอไม่ดีพอเหรอ ทำไมเธอถึงเข้ามาแทรกแซงในการตรวจดีเอนเอด้วย แล้วไหนจะไป๋เสวี่ยที่เธอจ้างมาอีก ทำไมถึงทำแบบนั้น” กู้เชินตวาดถามด้วยความปวดใจ

หลายปีมานี้เขารักและเอ็นดูกู้ซูหลิงเสมือนลูกในไส้ ให้เธอได้มีชีวิตที่สมบูรณ์มีการศึกษาที่ดี

แต่สุดท้ายเธอกลับจงใจสร้างเสี่ยวอวี๋ตัวปลอมให้กลับมา จิตใจเธอทำด้วยอะไร

ที่จริงหากคิดดูก็เดาได้ไม่ยาก หรือจะบอกว่าความเป็นพ่อลูกในหลายปีมานี้จะเป็นเรื่องหลอกลวง เป็นละครฉากหนึ่งมาตั้งแต่ต้น

กู้ซูหลิงเซไปสองสามก้าวก่อนจะล้มลงกับพื้น

ทำยังไงดี

ถ่ายมาได้ตั้งหลายรูปแล้วจะทำยังไงดี หรือว่าต้องยอมรับ แต่ไม่ยอมรับก็ไม่ได้เพราะหลักฐานตรงหน้ามัดตัวแน่นหนาจนไร้ทางโต้แย้ง

แต่ถ้าหากยอมรับแล้วเธอก็ไม่เหลืออะไรสักอย่าง

ใครจะเป็นกู้เหยียนอวี๋ก็ได้ แต่ทำไมถึงต้องเป็นอวี๋กานกานด้วย

อวี๋กานกานจะเป็นกู้เหยียนอวี๋ไปได้ยังไง

เธอไม่ยอม ไม่ยอม!

กู้ซูหลิงร้องไห้ฟูมฟายเอื้อมมือดึงชายเสื้อของกู้เชิน “คุณพ่อ หนูผิดไปแล้ว ที่หนูทำไปทุกอย่างนี้ก็เพราะคุณพ่อ เพราะคุณพ่อเอาแต่อาลัยอาวรณ์หาเสี่ยวอวี๋ หนูอดเสียใจน้อยใจไม่ได้ก็เลยให้หมอคนนั้นสับเปลี่ยนผลตรวจดีเอนเอ แต่หนูไม่ได้จ้างไป๋เสวี่ยมาจริงๆ นะคะ หนูก็หวังเพียงว่าเธอจะเป็นเสี่ยวอวี๋ตัวจริงแล้วทำให้คุณพ่อมีความสุขเท่านั้น”

อวี๋กานกานมองกู้ซูหลิงที่กำลังรั้งกู้เชินเอาไว้

เธอเหลือบมองฟังจือหันด้วยหัวใจสับสน ฟังจือหันก็มองมาที่เธอเช่นเดียวกันราวกับจะบอกว่าถ้าคุณเงียบผมก็เงียบ

ไม่ว่ากู้ซูหลิงจะร้องไห้ฟูมฟายเพียงใดหรือต่อให้อธิบายยังไงกู้เชินก็ยังนิ่งไม่ไหวติง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเย็นเยียบไปทั้งร่าง

จูอวี๋ลู่กัดฟันกำหมัดแน่น ทันใดนั้นก็สะบัดฝ่ามือตบหน้ากู้ซูหลิง แล้วตวาดลั่นด้วยความรวดร้าว “หลิงหลิง ลูกทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง คุณพ่อเขาดีกับลูกขนาดไหน ลูกโกหกเขาได้ยังไง!”

แล้วเธอก็สะบัดตบหน้าตัวเอง “เป็นเพราะฉันไม่ดีเองค่ะ ฉันสอนลูกไม่ดีเอง ทุกอย่างเป็นความผิดของฉัน”

จากนั้นก็ตบตีกู้ซูหลิงอีกด้วยสีหน้าผิดหวัง “ลูกไม่รักดี ต่อให้อยากให้คุณพ่อมีความสุขอีกแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรสร้างเรื่องโกหก ลูกรู้ไหมว่าทำแบบนี้จะยิ่งเป็นการทำร้ายให้คุณพ่อหาเสี่ยวอวี๋ตัวจริงไม่เจอ แล้วทำให้คุณพ่อเสียใจ หากรักคุณพ่อก็ต้องหาทางเอาเองสิลูก”