ตอนที่ 57 ร่างกายของพ่อมีกลิ่นหอมของแม่

Mars เจ้าสงครามครองโลก

เย่เซิ่งเทียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ

ตระกูลหมิง ผมจะปล่อยพวกคุณไปได้อย่างไร?!

ถ้าพวกคุณยอมรับผิด แม่ผมถึงจะนอนตายตาหลับได้!

แม่ ลูกชายคนนี้ขอร้อง อย่าเพิ่งกลับชาติมาเกิด รอจนกว่าลูกชายจะล้างแค้นให้แม่ แล้วให้คนตระกูลหมิงคุกเข่าขอโทษและยอมรับผิดต่อหลุมศพของแม่ แล้วแม่ค่อยมาเกิดใหม่

“เซิ่งเทียน พวกเราควรกลับแล้ว”

เสียงของหวางซีดึงเย่เซิ่งเทียนกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง

เขารีบเช็ดน้ำตาออกจากหางตาและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “โอเค”

หลายปีแล้วที่ไม่เสียน้ำตา

เมื่อเดินผ่านหน้าคนตระกูลหวาง เย่เซิ่งเทียนกล่าวอย่างเย็นชา “หวางหง นี่เป็นเพียงบทเรียนที่ผมสอนตระกูลหวาง ตอนนี้ป้ายวิญญาณพ่อตาผมอยู่ในหอบรรพบุรุษของตระกูลหวางแล้ว หากพวกคุณไม่พอใจ พวกคุณสามารถมาหาผมได้ตลอดเวลา หากคุณย้ายป้ายวิญญาณ พวกคุณจะไม่สามารถรับผลที่ตามมาได้”

คนตระกูลหวางก้มศีรษะลง

พวกเขาถูกเขยแต่งเข้าบ้านเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า!

พวกเขารู้สึกไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก

เย่เซิ่งเทียน คุณจองหองเถอะ จองหองเถอะ ตอนที่ตระกูลหวางมาล้างแค้น จะคอยดูว่าคุณยังกล้าจองหองอีกหรือไม่!

ทั้งหมดนี้เหมือนการตบหน้าเสียงดังต่อหน้าทุกคน ตบหน้าตนเองและคนอื่น ๆ อย่างแรง

มีคำกล่าวว่า ลาไม่ยอมดื่มน้ำแต่กดหัวบังคับให้ลาดื่ม

คนตระกูลหวางกลายเป็นลาที่ถูกบังคับให้ดื่มน้ำ

“พวกคนโง่เขลา”

เกาเจี๋ยกล่าวเหยียดหยาม

ถ้าตระกูลหวางรู้ว่าควรจะทำอะไร ตอนนี้พวกเขาก็ยังมีโอกาส

เจ้าเทพไม่ได้ฆ่าพวกเขา แต่ให้โอกาสพวกเขา รอให้พวกเขามาขอโทษและยอมรับผิดต่อครอบครัวของคุณหวางซี

หากพวกเขาไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร กล้าแก้แค้น และกำเริบเสิบสาน งั้นมันจะเป็นวันตายของตระกูลหวาง

การที่เจ้าเทพไม่ฆ่าคนตระกูลหวาง เพียงเพราะคิดถึงความรู้สึกของหวางซี

ไม่ว่าจะอย่างไร ตระกูลหวางก็คือครอบครัวหวางซี

เกาเจี๋ยส่ายศีรษะ คอยดูว่าคนตระกูลหวางทำอะไรต่อไป

อย่างไรก็ตาม คนโง่เขลากลุ่มนี้ คงไม่เข้าใจเจตนาที่ดีของเจ้าเทพอย่างแน่นอน

เมื่อเห็นท่าทีไม่เต็มใจของพวกเขา พวกเขายังคงต้องการแก้แค้นคืน

ฮ่าฮ่า พวกกลุ่มคนโง่!

หลังจากกลับถึงบ้านแล้ว หลี่หลานกล่าวว่า “วันนี้ฉันจะไปรับซือซือ ซีเอ๋อร์ทำอาหารน่ะ”

เย่เซิ่งเทียนตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจความคิดของแม่ยาย

นี่คือการให้ตนเองและซีเอ๋อร์มีเวลาส่วนตัว

ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า

แม่ยายเป็นคนดีมากจริง ๆ

หวางซีไม่ทันได้สังเกตเห็น เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของเย่เซิ่งเทียน เขาถามด้วยความแปลกใจว่า “คุณหัวเราะอะไร”

เย่เซิ่งเทียนกอดหวางซีเอาไว้ มือของเขาเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข

อดทนไม่แตะต้องผู้หญิงมาสี่ปีแล้ว ถ้ามือยังอยู่ดีนั้นถึงจะแปลก

เขากระซิบว่า “ซีเอ๋อร์ โอกาสหายาก พวกเรา…….”

หวางซีถึงได้มีปฏิกิริยาเช่นกัน เธอหน้าแดงทันที เธอกัดริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “คุณ อีตาบ้า สมองเต็มไปด้วยความคิดที่ไม่ดี”

เย่เซิ่งเทียนกัดหูของหวางซี และนี่คือจุดที่หวางซีอ่อนไหวที่สุด

ทันใดนั้นหวางซีรู้สึกว่าร่างกายอ่อนปวกเปียก แล้วล้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเย่เซิ่งเทียน เธอกัดฟันและกล่าวด้วยความเขินอายว่า “อีตาบ้า รู้แค่รังแกฉันอย่างเดียว”

“ฮ่าฮ่า อีกสักครู่ผมจะให้คุณรังแกผม”

เย่เซิ่งเทียนอุ้มหวางซี แล้วเดินไปที่ห้องนอน

เมื่อเด็กรื้อซือซือกลับมาแล้ว ใครจะรู้ว่าจะยังมีโอกาสอีกไหม

ค่ำคืนแห่งฤดูใบไม้ผลินั้นแสนสั้น ต้องรีบทำเวลา

……

“คุณพ่อค่ะ คุณแม่ค่ะ หนูกลับมาแล้ว”

ซือซือกระโดดโล่เต้นและวิ่งเข้ามาในบ้าน และเริ่มตะโกนก่อนจะเข้ามาในประตู

“วิ่งช้า ๆ หน่อย ระวังหกล้ม”

หลี่หลานถือกระเป๋านักเรียนใบเล็กของซือซือ และพูดเตือนอยู่ข้างหลัง

“หือ? คุณแม่ยังไม่ได้ทำอาหารเลย ขี้เกียจจัง ปกติหนูกลับมาถึงบ้าน คุณยายทำอาหารเสร็จแล้ว คุณพ่อเปลี่ยนช่องหน่อย หนูอยากดูการ์ตูนคู่หูหมีตัวป่วน”

ซือซือชำเลือง แล้วถอดรองเท้าเล็ก ๆ ของตนเองออก ปีนขึ้นไปบนโซฟาและนั่งอยู่ในอ้อมแขนของเย่เซิ่งเทียน

“เอาล่ะ เอาล่ะ พ่อจะดูเป็นเพื่อนลูก”

เย่เซิ่งเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

อืม วันนี้อารมณ์ดีจริง ๆ

ทันใดนั้น ซือซือสูดอากาศในอ้อมแขนของเย่เซิ่งเทียน มุ่ยปากแล้วกล่าวว่า “ร่างกายของคุณพ่อเป็นอะไร? ทำไมถึงได้มีกลิ่นหอมของคุณแม่?”