บทที่ 408

บทที่ 408

เพียงพริบตาทหารม้าก็มาถึงหน้าประตูทางผ่านบาและเห็นเข้ากับบรรดาแม่ทัพที่ออกมาต้อนรับ จึงทำให้พวกทหารม้าหนิงที่กำลังควบม้าวิ่งเข้ามาโล่งอก เพราะมันก็เท่ากับว่าที่แห่งนี้เปิดให้พวกเขาเข้าไปได้ !!!

ทหารม้าหนิงที่เป็นผู้นำดูจะตื่นเต้นมาก แต่เขาก็เลือกที่จะเก็บอาการและหันมองไปยังแม่ทัพที่ออกมาต้อนรับอย่างหยิ่งยโส ก่อนจะเอ่ยถามว่า “ใครเป็นแม่ทัพใหญ่ของพวกเจ้ากัน ?”

โจวชุนที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเดินออกมาแล้วยิ้มให้ “ขอบคุณสำหรับความเหน็ดเหนื่อยของพวกเจ้านะ” เมื่อว่าจบ เขาก็พลันหันมองไปด้านหลัง ทว่าก็พบว่ามันว่างเปล่า ไม่มีซ่งเทียนกับคนอื่น ๆ อยู่เลย ดังนั้นจึงได้ถามไปว่า “จะว่าไปแล้ว ฝ่าบาทกับคนอื่น ๆ อยู่ที่ใดกัน ?”

ทหารหนิงนายหนึ่งชี้ไปข้างหลัง “แม่ทัพของข้ากับท่านอ๋องของเจ้าอยู่ข้างหลังนั่น จงไปรับพวกเขาเสียสิ”

โจวชุนพยักหน้าให้ก่อนจะควบม้าออกไป แต่ทว่าเขาก็ต้องหยุดลงเมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามออกมาด้วยเลย

โจวชุนขมวดคิ้วแล้วตะโกนออกไป “แม่ทัพอิงปู ฝ่าบาทมาแล้วนะ ทำไมเจ้ายังไม่ออกไปต้อนรับท่านกัน ? ถ้าเจ้าไม่ทำตามที่ข้าบอกล่ะก็ รับรองได้ว่าจะไม่เหลือหัวให้ตัดเชียวนะ !!”

ทว่าแทนที่จะหวาดกลัว อิงปูกลับหัวเราะลั่นจนโจวชุนสงสัย “เจ้าหัวเราะบ้าอะไรกัน ?”

“ข้าหัวเราะเจ้านั่นแหละ”

“ข้าหรือ ?”

“เจ้าเป็นคนเฟิงแท้ ๆ แต่กับทำตัวเป็นสุนัขเลียไข่พวกหนิงเสียอย่างนั้น ไม่คิดว่าพวกมันกำลังดูหมิ่นพวกเราอยู่บ้างหรือไง ?” อิงปูยิ้มออกมา

โจวชุนหน้าเสียทันที ก่อนที่เขาจะได้สติแล้วควบม้าวิ่งกลับมาชี้นิ้วไปยังอิงปู “เจ้ากล้าดียังไงที่เรียกตัวเองว่าคนเฟิง ? ข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้ฝ่าบาททราบ หัวเจ้าต้องขาดแน่ !”

อิงปูหัวเราะอีกครั้ง “ก็เอาสิ ถ้าคิดว่าจะตัดหัวข้าได้ง่าย ๆ ล่ะก็นะ !!”

อิงปูชักดาบออกมาโดยไม่ทันบอกกล่าวแล้วฟันเข้าใส่โจวชุนในฉับพลันนั้น

อีกฝ่ายที่ไม่คิดว่าจะโดนอะไรแบบนี้จึงไม่ทันระวังตัว อีกทั้งเขายังเป็นแค่คนธรรมดา… จึงเป็นที่แน่นอนแล้วว่าคงไม่อาจหลบได้

ชั่วพริบตาหัวของโจวชุนก็ร่วงลงสู่พื้น ทำให้เกิดความเงียบเข้าปกคลุมพื้นที่ มีเพียงแต่เสียงเลือดที่ไหลออกมาจากร่างไร้หัวนั่นเท่านั้นที่ดังให้ได้ยินจนทั่วกัน

พวกหนิงที่เห็นแบบนั้นก็แทบจะเสียสติ แม้แต่พวกทหารของอิงปูเองก็ตะลึงไม่ต่างกัน ทว่าอิงปูกลับทำตัวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเพียงเก็บดาบแล้วตะโกนร้องสั่งพวกทหาร “ซ่งเทียนมันสมคบคิดกับพวกนางสนมเพื่อชิงบัลลังก์จากท่านอ๋องของพวกเรา มันขายชาติขนาดนี้แล้วจะให้ข้าอยู่กับมันได้อีกหรือ ? พวกเราชาวเฟิงไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ พวกเจ้าจงเลือกเอาว่าจะต้อนรับมันหรือจะจัดการทรราชนี้ให้สิ้นไป !”

พวกทหารต่างก็ตะลึงอีกครั้ง เพราะคำพูดนี้ไม่ได้มีความไม่พอใจต่อซ่งเทียนหรืออวยถังหยินแต่อย่างใด ราวกับว่าเขาเปลี่ยนตัวเองไปเสียเฉย ๆ

…พวกทหารต่างก็ไม่รอช้าที่จะเลือกเข้าพวกกับอิงปู

หนึ่งในแม่ทัพของเขาที่ได้สติก็ได้ตะโกนออกมาก่อนใคร “ที่ผ่านมานายท่านช่วยเหลือพวกเราเป็นอย่างดี ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นยังไงข้าก็ขอติดตามท่านตลอดไป !!!”

จากนั้นพวกทหารก็พากันตะโกนคำเดียวกันออกมา

อิงปูไม่คิดว่าพวกทหารที่อยู่ร่วมกันมานานหลายปีจะเห็นพ้องต้องกันในวันนี้ และมันก็ถือเป็นการตัดสินใจอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาจะมีได้ !!

ได้ยินแบบนั้นอิงปูก็ยิ้มออกมา เขายกแขนหยุดพวกเขาเอาไว้แต่เพียงเท่านี้ ก่อนที่จะชักดาบและชี้ไปยังพวกหนิง “ไปบอกคนทรยศและแม่ทัพของพวกเจ้าซะว่า ข้าอิงปูชาวเฟิงจะขอเป็นชาวเฟิงตลอดไป ใครที่คิดจะผ่านทางนี้ จะต้องข้ามศพพวกข้าไปก่อน !!!”

ถ้อยคำดังกล่าวทำให้พวกหนิงหวาดกลัวจนต้องรีบหนีไป

ในขณะที่พวกซ่งเทียนและแม่ทัพหนิงที่เห็นว่าทหารม้าของพวกเขากำลังกลับมา ก็ดูจะพากันมีกำลังใจเพิ่มขึ้นมากจนต้องรีบลุกขึ้นดู

ซ่งเทียนเริ่มมีสีหน้าที่ดีขึ้น หันไปบอกกับจ้านอู่ฉางและจ้านอู่ตี้ “ข้าบอกแล้ว คนของข้าน่ะเชื่อใจได้ และขอแค่มีทางผ่านบา พวกเราก็จะรอดไปได้ !!”

ระหว่างที่กำลังพูด จ้านอู่ฉางกลับรู้สึกว่ามันผิดปกติ เพราะตนส่งคนไปบอกให้พาคนออกมาต้อนรับ แล้วไหนคนที่ออกมาต้อนรับกัน ?

เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยปนกับความรู้สึกประหลาดใจ

ไม่นานนักทหารม้าก็วิ่งเข้ามาแล้วรีบลงมาอธิบายกับเขา “แย่แล้วท่านแม่ทัพ แม่ทัพอิงปูเลือกที่จะเข้าฝั่งกับถังหยินและปิดทางผ่านบาไม่ให้พวกเราข้ามไปขอรับ !”

สองพี่น้องจ้านหน้าซีดในพลัน เช่นเดียวกับซ่งเทียนที่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้ยินรายงานนั้น

จ้านอู่ตี้โกรธมากจนกระทืบเท้าพร้อมคว้าคอซ่งเทียนเอาไว้ “ไหนล่ะคนที่ไว้ใจได้ของเจ้า ?”

“เป็นไปไม่ได้ !” ซ่งเทียนรีบแก้ตัวก่อนจะหันไปถามพวกหนิงที่วิ่งมา “แล้วโจวชุนเล่า ? เขาไม่มีทางเข้ากับถังหยินแน่”

“เขาถูกฆ่าไปแล้วขอรับ” นายทหารรายงาน

ซ่งเทียนแทบจะเป็นลมที่ได้ยินแบบนั้น ในเมื่อกุญแจสำคัญคือโจวชุน …แต่เขากลับถูกฆ่าไปแล้ว งั้นนั่นมันก็หมายความว่าเขาไม่มีทางผ่านที่นี่ไปยังแคว้นโมได้ !!!

…ถ้าคิดจะตีฝ่าไปคงยากยิ่ง เพราะทางผ่านบานั้นมีกำแพงที่สูงเท่ากันไม่เหมือนกับที่ประตูตง

เมื่อเห็นว่าซ่งเทียนกำลังจะเสียสติ จ้านอู่ตี้ก็พลันร้องถามพวกของตัวเอง “เจ้าบอกว่าพวกมันจัดทัพนอกเมืองใช่ไหม ?”

“ขอรับ”

“เยี่ยม งั้นข้าจะไปเจอหน้ากับพวกมันเอง !!!”

พูดจบจ้านอู่ตี้ก็พลันควบม้าวิ่งเข้าไปด้วยความโมโห

ทว่าจ้านอู่ฉางที่เห็นแบบนั้นกลับรีบเข้ามาห้ามเอาไว้ “อย่าเพิ่งรีบร้อน !”