บทที่ 171 กรรมตามสนอง

The king of War

เซี่ยเหอยินยอมเสียสละความบริสุทธิ์ของตนเอง เพื่อต้องการปกป้องเสี้ยวเสี้ยวที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน บุญคุณครั้งนี้ หยางเฉินจำใส่ใจมาโดยตลอด

เวลานี้กลับถูกนำมาเป็นสินค้าเอาออกมาประมูล แค่คิดก็รู้ถึงความโกรธแค้นของหยางเฉิน

“ราคาเริ่มประมูล ห้าล้าน แต่ละครั้งเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าห้าแสน เริ่มประมูลได้!” ผู้ดำเนินการประมูลยิ้มบอก

“ยี่สิบล้าน!”

หยางเฉินเสนอราคาก่อนเป็นครั้งแรก สาวงามสี่คนก่อนหน้านี้ เขาล้วนรอช่วงใกล้สิ้นสุดการแข่งประมูล ถึงค่อยเข้าร่วมแบบกะทันหัน แต่ครั้งนี้กลับแข่งราคาครั้งแรก

เพียงแต่จำนวนเงินที่เขาเสนอแข่งนั้นเกินไปพอสมควร

คนที่เดิมทีอยากจะเข้าร่วมประมูลด้วยจึงยอมแพ้กันทันที

แต่ละคนที่อยู่ในงานอยู่ในฐานะที่มีเกินร้อยล้านเป็นอย่างต่ำ แต่ทว่าสำหรับใครคนใดก็ตาม เงินทุนหมุนเวียนยี่สิบล้าน ยังถือว่าเป็นจำนวนเงินมากก้อนหนึ่ง

ถึงแม้จะเป็นคนของตระกูลร่ำรวยชั้นนำเหล่านั้น ตำแหน่งสูงมาก แต่โดยพื้นฐานทรัพย์สินทั้งหมดล้วนอยู่ในรูปแบบอสังหาริมทรัพย์ที่มั่นคง เงินทุนหมุนเวียนแท้จริงในมือไม่ได้มากเท่าไร

เดิมทีเซี่ยเหอหน้าตาสับสน ตอนได้ยินเสียงของหยางเฉิน จึงส่งสายตามองเข้ามาทันที

เห็นเพียงหยางเฉินมองเธอด้วยหน้าตาอ่อนโยน แต่เซี่ยเหอกลับเข้าใจความหมายที่หยางเฉินส่งมาให้ทางสายตาในชั่วขณะนั้น กำลังบอกเธอว่าไม่ต้องกลัว เขาจะช่วยตนเองออกไปเอง

เซี่ยเหอน้ำตาไหลในชั่วขณะหนึ่ง ตั้งแต่ความสับสนตอนที่โดนคนจี้เอาตัวมา จนถึงความตกใจกลัวที่โดนขังเอาไว้ และเมื่อสักครู่ความหวาดกลัวที่ถูกเห็นเป็นสินค้านำออกมาประมูล ทำให้เธอเกือบพังทลาย

แต่ในเวลานี้ เธอพบหยางเฉินเข้าแล้ว

“ยี่สิบล้าน ยังมีใครสู้ราคาอีกไหมคะ?”

“ยังมีใครอีกหรือเปล่าคะ?”

ผู้ดำเนินการประมูลถามออกมาสองครั้งติดกัน ทว่าไม่มีใครเอ่ยปากสักคน

“ยี่สิบล้าน ครั้งที่หนึ่ง!”

“ยี่สิบล้าน ครั้งที่สอง!”

“ยี่สิบล้าน ครั้งที่…….”

“สามสิบล้าน!”

ผู้ดำเนินการประมูลกำลังจะยกค้อนเคาะราคาขึ้นแล้ว แต่ทันทีที่พูดจบ เสียงดังกังวานเสียงหนึ่งก็ดังทั่วทั้งโถงใหญ่งานประมูลโดยกะทันหัน

สายตาของทุกคนมองเข้าไปตามแหล่งที่มาของเสียง ยี่สิบล้านเอามาประมูลสาวงามคนหนึ่งถือว่าเกินขอบเขตมากแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสามสิบล้าน

หยางเฉินหันหน้ามองเข้าไปเช่นกัน เห็นเพียงใบหน้าที่คุ้นเคยกำลังจ้องตนเองด้วยหน้าตาเจ้าเล่ห์

“คุณชายใหญ่แห่งตระกูลจวง จวงปี้ฝาน!”

มีคนจำสถานะของคนที่สู้ราคาประมูลได้แล้ว

และข้างกายของจวงปี้ฝาน ยังมีภาพคนอีกสองคน หยางเฉินพอมองก็จำขึ้นมาได้

ก่อนหน้าที่หยางเฉินจะเข้ามาที่คลับหลงเถิง เกิดความขัดแย้งกับสองคนนั้นขึ้นด้วย

คนหนึ่งคือเว่ยหมิงเยว่ลูกสาวของตระกูลเว่ย

อีกคนหนึ่งเมิ่งชวนของตระกูลเมิ่งแห่งเมืองเอกเพียงแค่ลักษณะจมูกช้ำหน้าบวมของเขา เวลานี้จ้องหยางเฉินด้วยหน้าตาเยาะเย้ย

“ยังมีคุณหนูของตระกูลเว่ย เว่ยหมิงเยว่!”

“พวกคุณยังลืมไปคนหนึ่ง ยังมีคุณชายของตระกูลเมิ่ง เมิ่งชวนด้วย!”

“อะไรนะ? นึกไม่ถึงว่าเมิ่งชวนก็มาด้วย งานประมูลครั้งนี้คืองานของตระกูลเมิ่ง ว่ากันตามหลักแล้ว คนตระกูลเมิ่งห้ามเข้าร่วมแข่งประมูล!”

“เจ้าโง่ เมิ่งชวนเพียงแค่มาดูเฉยๆ ใครบอกว่าเขาจะเข้าร่วมแข่งประมูล?”

……

โดยรอบต่างส่งเสียงตกใจ

หยางเฉินเพียงแค่มองแวบหนึ่ง จากนั้นเก็บสายตากลับ สู้ราคาอีกครั้ง “ห้าสิบล้าน!”

ครืน!

ทั้งงานตื่นตกใจหมด

ทั้งโถงใหญ่ล้วนเงียบงันลง ทุกคนต่างทำหน้าอึ้งทึ่ง

เพื่อสาวงามคนหนึ่ง คาดไม่ถึงมีคนยินยอมเสียเงินห้าสิบล้าน นี่บ้าไปแล้วเหรอ?

จวงปี้ฝานทำหน้าตกใจเช่นกัน เขารู้ว่าทำไมหยางเฉินถึงอยากประมูลเซี่ยเหอมาให้ได้ แต่นึกไม่ถึงว่าเพื่อผู้หญิงคนนี้แล้ว คาดไม่ถึงเขายอมเสียเงินห้าสิบล้าน

แต่นึกขึ้นได้ว่าการที่สามารถทำให้หยางเฉินใช้เงินไม่คุ้มค่าส่วนหนึ่ง ถือเป็นเรื่องดีที่คนเลวโดนลงโทษทำให้ทุกคนสะใจ เขากัดฟันไว้ เอ่ยปากอีกครั้ง “หกสิบล้าน!”

“หนึ่งร้อยล้าน!”

จวงปี้ฝานเพิ่งเอ่ยปาก หยางเฉินก็เสนอราคาต่อไปแบบไม่ลังเลสักนิด

“หยางเฉิน คุณบ้าไปแล้วเหรอ? เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง สู้ราคาถึงหนึ่งร้อยล้าน?”

ชั่วขณะนั้นซูซานร้อนใจแล้ว กล่าวต่อว่าไปยังหยางเฉิน

เวลานี้จวงปี้ฝานลังเลอยู่บ้าง อย่าพูดถึงหนึ่งร้อนล้านเลย แม้แต่ยี่สิบล้าน เขาก็ไม่มี

เพียงแค่หลังจากเห็นหยางเฉินประมูลของก่อนหน้านี้ โดยพื้นฐานเขามั่นใจว่าหยางเฉินต้องประมูลเซี่ยเหอมาให้ได้ ดังนั้นเขาจึงจงใจดันราคาขึ้น แค่เพื่อทำให้หยางเฉินขายหน้า

แต่ตอนนี้หยางเฉินเสนอมาหนึ่งร้อยล้าน ถ้าตอนนี้เขาประมูลต่อไป หยางเฉินน่าจะสู้ราคาต่อไปอีก แต่ถ้าเกิดว่าหยางเฉินยอมแพ้แล้วล่ะ?

“หนึ่งร้อยล้าน ยังมีใครสู้ราคาต่ออีกหรือเปล่าคะ?”

“หนึ่งร้อยล้าน ครั้งที่หนึ่ง!”

“หนึ่งร้อยล้าน ครั้งที่สอง!”

ในเวลานี้ ในที่สุดจวงปี้ฝานตัดสินใจได้ สู้ราคาอีกครั้งหนึ่ง “หนึ่งร้อยห้าสิบล้าน!”

ทุกคนในงานตกตะลึงกับการสู้ราคาที่บ้าคลั่งนี้ไปตั้งนานแล้ว

จวงปี้ฝานหน้าตาได้ใจ ในหัวสมองเขาเริ่มเพ้อฝัน ขอเพียงหยางเฉินเสนอราคาเพิ่มออกมา เขาจงใจเสียดสีสักหน่อย บอกว่า “ถ้านายชอบ งั้นจะยอมให้นายก็แล้วกัน!”

และตอนที่ทุกคนมองไปทางหยางเฉิน รอเขาสู้ราคาต่ออีก หยางเฉินกลับไม่มีการเคลื่อนไหว

ชั่วขณะหนึ่งในใจจวงปี้ฝานลนลานอย่างมาก ทันใดนั้นเขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง

“ไอ้หนุ่ม นายไม่ใช่เก่งกาจมากเหรอ? ต่ออีกสิ? ฉันจะแข่งกับนายให้ถึงที่สุด!”

จวงปี้ฝานลุกขึ้นมาทันที ตะโกนเสียงดังขึ้นมาไปยังหยางเฉิน

แต่ใครต่างก็ดูออกว่าจวงปี้ฝานจิตใจสับสนแล้ว

ในแววตาลึกของหยางเฉินมีแสงคมกริบนิดๆ แวบผ่าน ฉีกมุมปากขึ้นเบาๆ

“ในเมื่อนายชอบ งั้นฉันถอยให้นายก็ได้!”

หยางเฉินพูดจาแบบสบายอารมณ์

เขาพูดประโยคนี้ออกมา คนทั้งงานส่งเสียงฮือฮา แต่จวงปี้ฝานกลับอึ้งทึ่งถึงที่สุด

“หนึ่งร้อยห้าสิบล้าน ครั้งที่หนึ่ง!”

“หนึ่งร้อยห้าสิบล้าน ครั้งที่สอง!”

“หนึ่งร้อยห้าสิบล้าน ครั้งที่สาม ปิดประมูล! ยินดีกับคุณผู้ชายท่านนี้ด้วยค่ะ เสนอราคาสูงกว่าสามสิบเท่า ได้รับสาวงามหมายเลข1ไปได้สำเร็จ!”

ผู้ดำเนินการประมูลพูดคำเดียวชี้ขาดการตัดสินสุดท้ายลง จวงปี้ฝานได้ยินคำพูดประโยคนี้ ขาทั้งคู่อ่อนยวบ แข้งขาอ่อนแรงทรุดลงบนพื้นโดยตรง

เวลานี้ ในใจจวงปี้ฝานรู้สึกสับสน

ถึงจะบอกว่าคลับหลงเถิงเป็นกิจการตระกูลจวงของเขา แต่ฝ่ายจัดงานของงานประมูลครั้งนี้เป็นตระกูลเมิ่งตระกูลร่ำรวยชั้นนำแห่งเมืองเอก

ต่อให้คุณปู่ของเขามาที่งาน ตระกูลเมิ่งก็จะไม่ไว้หน้าเขาสักนิดเดียว

ที่สำคัญสุดคือบนตัวเขาจะมีถึงหนึ่งร้อยห้าสิบล้านที่ไหน?

ถึงแม้ตระกูลจวงไม่ขาดเงิน แต่ย่อมจะไม่ให้เขาพังกิจการครอบครัวลงแบบนี้แน่

โดยเฉพาะหนึ่งร้อยห้าสิบล้านไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ อยากจะรวบรวมทั้งหมดในเวลาอันสั้นก็ไม่ได้ง่ายดายด้วย

“ไม่นับ!”

หลังจากที่อึ้งทึ่งไปชั่วคราว จวงปี้ฝานตะโกนเสียงดังด้วยอารมณ์ฮึกเหิม

โถงใหญ่งานประมูลที่เมื่อสักครู่ยังเอะอะเสียงดัง เงียบลงในชั่วพริบตา สายตาที่ตกตะลึงของทุกคนตกอยู่บนตัวของจวงปี้ฝานกันไม่กะพริบ

“เป็นเจ้าหมอนี่จงใจโก่งราคาสูง ก่อกวนขั้นตอนการแข่งประมูล ดังนั้นการประมูลครั้งนี้ ไม่สามารถนับได้!”

จวงปี้ฝานยื่นมือชี้ไปที่หยางเฉิน ในดวงตาที่แดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเคือง

หยางเฉินหัวเราะเยาะ มองจวงปี้ฝานเหมือนกำลังมองดูคนโง่

ต่อให้เป็นเขาจงใจโก่งราคาสูงขึ้น เกรงว่าธุรกิจประมูลที่ไหนคงไม่มาสนใจหรอกมั้ง?

ว่าไปแล้วเดิมหยางเฉินไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลเมิ่งสักนิดเดียว จะช่วยตระกูลเมิ่งโก่งราคาสูงเพิ่มได้อย่างไร?

“โอหัง!”

ในขณะที่จวงปี้ฝานเพิ่งพูดจบ เสียงตะโกนเย็นชาที่เผด็จการไร้ที่เปรียบได้ดังขึ้นในโถงใหญ่งานประมูลแล้ว

เห็นเพียงหงฝูที่เมื่อสักครู่ออกไปแล้ว ปรากฏตัวต่อสายตาของผู้คนอีกครั้ง เขาจ้องจวงปี้ฝานด้วยหน้าตาเย็นชาพูดว่า “ในงานประมูลที่ฉันเป็นผู้รับผิดชอบ เกิดเรื่องมาเสียใจที่หลังขึ้นตั้งแต่เมื่อไรกัน?”