บทที่ 129 ค่ายกลรวบรวมลมปราณขันสูง!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

บทที่ 129 ค่ายกลรวบรวมลมปราณขันสูง!

ปกติแล้วหากต้องการทดสอบในหอค่ายกลซางเหอ จะต้องรับภารกิจปีละครั้งจากสมาคมค่ายกลเท่านั้นแต่ในความเป็นจริงแล้วไม่จําเป็นต้องรอถึงหนึ่งปีเย่เทียนใช้เงินและเส้นสายเล็กน้อยเขาก็มีโอกาสได้เข้ารับการทดสอบหอคอยค่ายกลซางเหอได้อย่างง่ายดาย

เดิมที่เย่เทียนสามารถแอบเข้าไปทดสอบได้เช่นกัน แต่เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากโดยไม่จำเป็นเขาจึงไม่ทําเช่นนั้น

หากสามารถเข้าไปได้อย่างเปิดเผยทําไมต้องทําให้มันยุ่งยาก?

หอคอยค่ายกลซางเหอ

เย่เทียนเริ่มบุกจากชั้นที่สี่

ด้วยฝีมือของจอมเวทย์ระดับสูง เย่เทียนสามารถผ่านชั้นที่ 4 ได้อย่างง่ายดายรวมไปถึงผ่านชั้นที่ 5…ครึ่งชั่วโมงต่อมา
เย่เทียนก็ปรากฏตัวที่ชั้นที่เจ็ด

ค่ายกลของชั้นที่เจ็ดค่อนข้างซับซ้อนมันเป็นค่ายกลที่ซ้อนทับกับหลายรูปแบบประกอบไปด้วยไฟและน้ำแข็งอยู่ร่วมกันซึ่งอาจพูดได้ว่าเปรียบเสมือนที่นี่มี 2 ค่ายกลและยังเป็นค่ายกลระดับสูงประเภทโจมตีถึงสองธาตุ

แม้พลังของค่ายกลเช่นนี้ไม่เลวนักแต่ก็มีจุดอ่อนที่ชัดเจน ตราบใดที่พบจุดเชื่อมต่อระหว่างค่ายกลอัคคีกับค่ายกลนาแข็งก็จะสามารถทําลายค่ายกลหล่านี้ได้

ด้วยความช่วยเหลือของพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงสุดเขาใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีในการหาจุดเชื่อมและทําลายมันในการโจมตีเพียงครั้งเดียว

หลังจากทําลายค่ายกล แผนผังค่ายกลระดับสูงก็ปรากฏขึ้น แต่ไม่ใช่แผนผังที่เย่เทียนต้องการ

“แผนผังค่ายกลงเพลิงระดับสูงช่างไร้ประโยชน์จริงๆ!”เย่เทียนถอนหายใจอย่างผิดหวังแต่เขาก็เก็บแผนผังนี้ไว้และจะไม่ขายมัน! ชั้นที่แปด
เมื่อเย่เทียนมาถึงที่นี่สภาพแวดล้อมโดยรอบราวกับว่าเป็นโลกสายฟ้า

“ค่ายกลอสนีบาต เป็นค่ายกลที่น่าสนใจในบรรดาค่ายกลประเภทโจมตีค่ายกลนี้ทรงพลังมาก!”

เย่เทียนพึมพํา

ตูม!!!

สายฟ้าขนาดใหญ่เท่าถังน้าพุ่งเข้าใส่เย่เทียน แต่เย่เทียนก็ได้หลบ เขาเพียงเปิดใช้พรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับลึกลับเท่านั้นซึ่งก็สามารถต้านทานการโจมตีของสายฟ้าได้อย่างง่ายดาย

ราชาซางเหอเป็นเพียงระดับราชาเท่านั้นความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถเทียบเท่ากับเย่เทียนได้เขาจะวางค่ายกลทําร้ายเย่เทียนได้อย่างไร?

เย่เทียนสามารถทําลายค่ายกลได้ด้วยกําลังแต่ดูเหมือนว่าราชาซางเหอจะพิจารณาเรื่องนี้ไว้แล้วหากยอดฝีมือคนใดก็ตามทําลายค่ายกลพลังของหอคอยค่ายกลซางเหอทั้งหมดก็จะรวมตัวกันต่อต้านคนผู้นั้น

หากคิดจะทําลายมันจริงๆ ผลลัพธ์เดียวที่จะเกิดขึ้นนั่นก็คือการท้าทายหอคอยนี้จะล้มเหลวและหอคอยซางเหอแห่งนี้ก็จะพังทลาย

เย่เทียนจึงไม่ต้องการทําลายหอคอยค่ายกลซางเหอมิฉะนั้นจอมเวทย์ค่ายกลทุกคนในฐานเลมารจะต้องเกลียดเขาแน่แม้เขาจะสามารถจากไปได้แต่น้องสาวของเขายังคงต้องอาศัยอยู่ในฐานทะเลมารไปอีกนาน

ดังนั้นเขาจึงไม่อยากทํา

“พรสวรรค์ด้านค่ายกล!”

ดวงตาของเยเทียนมองเห็นโลกของค่ายกล โลกของค่ายกลอัสนี้ปรากฏต่อหน้าต่อตาเขา

จุดเชื่อมค่ายกล!

เย่เทียนค่อยๆมองหาจุดเชื่อมค่ายกล ด้วยค่ายกลนี้ไม่สามารถทําร้ายเขาได้มันจึงทําให้เขาศึกษามันนานเท่าไหร่ก็ได้

ระดับความรู้ด้านค่ายกลของเย่เทียนยังไม่สูงนักค่ายกลอสนีบาตถูกสร้างโดยจอมเวทย์ค่ายกลระดับสูงที่เก่งกาจทําให้เขาต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการค้นหาจุดเชื่อม

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดเย่เทียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตอนนี้เขาพบจุดเชื่อมของค่ายกลแล้ว

แม้ว่าจะพบเพียงจุดเดียว แต่ตราบใดที่เขาทําลายจุดเชื่อมค่ายกลนี้ค่ายกลจะเริ่มไม่มั่นคงจดเชื่อมค่ายกลอื่น ๆ จะเกิดช่องโหว่และง่ายต่อการหาจุดเชื่อมอื่นๆ

“ทําลาย!”

เย่เทียนทําลายจุดเชื่อมค่ายกลในการโจมตีเดียว และสายฟ้าทั้งหมดสั่นสะเทือนทันที

ในตอนนี้จุดเชื่อมของค่ายกลปรากฏออกมาอย่างรวดเร็ว และหายไปในพริบตา แต่เย่เทียนก็ยังสังเกตุเห็นมัน

“อยู่ตรงนั้น!”

เย่เทียนโจมตีจุดเชื่อมอีกหลายจุดและทําลายมัน

เพียงห้านาทีผ่านไป ในที่สุดค่ายกลอัสนีก็ถูกเย่เทียนทําลาย

ทันใดนั้น แผนผังค่ายกลก็ปรากฏขึ้น เย่เทียนเปิดมันออกดู และยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น

“แผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูง!

“โชคเข้าข้างเราแล้ว จอมเวทย์ค่ายกลระดับสูงมากมายที่ผ่านชั้นแปดมาได้แต่ไม่มีใครเลยที่ได้รับแผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูงมาก่อนแต่เรากลับได้รับมันมา!”

เย่เทียนรู้สึกดีอย่างมาก เมื่อได้รับแผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูงมาถึงแล้วเป้าหมายของเขาก็เสร็จสิ้น แต่เย่เทียนก็อยากรู้อยากเห็นว่าทําไมจอมเวทย์ค่ายกลมากหมายถึงเลือกยอมแพ้ในชั้น 9

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามาถึงชั้นที่เก้า ไม่มีการทดสอบใดๆเกิดขึ้น แต่ปรากฏข้อความขึ้นมาซึ่งเป็นคําพูดที่ราชาซางเหอทิ้งไว้

“คนรุ่นหลัง ไม่ว่าเจ้าจะเป็นจอมเวทย์ค่ายกลระดับสูงหรือหรือเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงหากเจ้าต้องการสืบทอดมรดกของราชาซางเหอเจ้าจงสาบานว่าจะสังหารราชาไร้เทียม

ทานคนหนึ่งให้ข้า นางมีนามว่า สุ่ยเชียนเย่ว สตรีผู้นี้สมควรตาย เจ้าต้องฆ่านางให้ได้ขอเพียงเจ้าสาบานเจ้าจะได้รับสมบัติทั้งหมด แผนผังค่ายกลหรือแม้แต่วิชาลับขั้นสูงแต่เจ้าต้องสาบานว่าภายในห้าสิบปีจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารสตรีน่าตายผู้นี้ถ้าเจ้าทําไม่ได้เจ้าจะต้องฆ่าตัวตาย!

“จําไว้ สุ่ยเซียนเย่วเป็นคนของฐานทัพจงไห้!” เมื่อเห็นคําพูดเหล่านี้ เย่เทียนถึงกับพูดไม่ออก

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทําไมจอมเวทย์ระดับสูงมากมาย ถึงเลือกละทิ้งบททดสอบในชั้นนี้เพราะการสาบานเช่นนี้ มีแต่คนโง่เท่านั้นถึงจะกล้าทํา!

เห็นได้ชัดว่าราชาซางเหอมีความแค้นกับสู่ยเชียนเย่วที่เป็นคนของฐานทัพจงไห่ส่วนเรื่องใคร จะถูกหรือผิดนั้นไม่ชัดเจน

แต่ดูจากคําสาบานที่ร้ายกาจของราชาซางเหอ เขาไม่ใช่คนดีนัก สังหารสุ่ยเชียนเย่วภายในห้าสิบปีหากทําไม่ได้ก็ต้องฆ่าตัวตาย? คนดีๆที่ไหนจะทิ้งเงื่อนไขเช่นนี้ไว้?

ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเพราะราชาซางเหอถูกสตรีผู้นี้ทําให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เย่เทียนหันหลังเดินจากไปโดยไม่คิด

สมบัติของราชาซางเหอไม่ได้น่าสนใจอะไรสําหรับเขาแม้แต่น้อย เขาไม่จําเป็นต้องได้รับมันมาตอนนี้เขาบรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว เย่เทียนไม่ได้ไปส่งภารกิจที่สมาคมค่ายกลแต่เลือกตรงกลับบ้านแทน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เย่เทียนก็เปิดแผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูงทันที

“เป็นค่ายกลสามชั้น”

เย่เทียนเข้าใจแล้ว

ค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูงคือค่ายกลรวมค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับปราณสามค่ายกลที่ซ้อนทับกันเป็นสามชั้นค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูงจึงก่อตัวขึ้นแน่นอนว่าค่ายกลเหล่านี้ยังประกอบไปด้วยค่ายกลขนาดเล็กที่ใช้รักษาการหมุนเวียนและผสานเข้ากันจนกลายเป็นค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูง

แม้ว่าเขาจะรู้หลักการแล้ว แต่ถ้าไม่มีแผนผังนี้เย่เทียนก็ไม่สามารถจัดวางมันได้

“อย่างน้อยต้องเข้าใจรูปแบบอาคม 125 รูปแบบจึงจะสามารถสร้างค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูงขึ้นมาได้ก่อนอื่นเราต้องรวบรวมวัตถุดิบก่อน!”ดังนั้น

เย่เทียนจึงเริ่มฝึกฝนต่อในขณะที่รอวัตถุดิบสําหรับสร้างค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูง

วัสดุที่กล่าวมานั้นไม่ใช่แค่แผ่นจานค่ายกลเพียงอย่างเดียว มันต้องใช้วัตถุดิบหายากมากมายเพื่อจัดวางเป็นแท่นค่ายกลซึ่งจําเป็นต้องจารึกรูปแบบบนแท่นค่ายกลขนาดใหญ่จึงจะสามารถจัดวางค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูงได้

นี่เป็นหนึ่งในความแตกต่างระหว่างค่ายกลระดับสูงและค่ายกลระดับกลางและระดับต่ำ!

สิบวันต่อมา เย่เทียนก็ได้รับวัตถุดิบทั้งหมด และเริ่มสร้างแท่นค่ายกลในห้องลับใต้ดิน

สิบวันที่ผ่านมา เย่เทียนเข้าใจรูปแบบอาคม 125 รูปแบบแล้ว และตอนนี้แท่นบูชาค่ายกลก็ถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์

“จารึก!”

เย่เทียนหยิบปากกาจารึกขึ้นมาและค่อยๆจารึกลวดลายอักขระลงบนแท่นค่ายกลในที่สุดหลังจากผ่านไปครึ่งวัน การจารึกค่ายกลก็เสร็จสิ้น

หินปราณ 10 ก้อนถูกใส่เข้าไปในรูตรงแท่นค่ายกล และเปิดใช้งานค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูง

ฟูม!!!!

พลังปราณปฐมฟ้าดินมากมายไหลทะลักเข้ามาจนเกิดเป็นคลื่นพลังขนาดใหญ่

ไม่นาน พลังปราณก็สงบลง

“พลังปราณเพิ่มขึ้นสิบเท่าสําเร็จแล้ว!”

เย่เทียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย