บทที่ 343 ฆ่าเจ้าตำหนัก
บทที่ 343 ฆ่าเจ้าตำหนัก

หลังจากพูดจบประโยค!

วินาทีต่อมา แค่การโบกสะบัดมือส่งคลื่นพลังวิญญาณอีกรอบ โลหิตสด ๆ ก็ย้อมไปทั่วทั้งห้องโถงคฤหาสน์ทันที!

นักฆ่าชุดดำมากกว่าหนึ่งโหลตายโดยไม่ทันร้องโหยหวนด้วยซ้ำ!

แต่ในขณะเดียวกันนี้ ลูกศรหน้าไม้ลูกหนากว่าเดิมก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง!

แต่คราวนี้ลูกศรพวกนี้ดูเหมือนว่าจะพุ่งออกมาจากกลไกกับดักที่ซ่อนไว้ในห้อง!

ฟิ้ว ฟิ้ว…

ลูกศรหน้าไม้เหล่านี้มีความหนาเท่าแขนของเด็กทารก!

ภายใต้แรงดีดจากกลไก ความเร็วของลูกศรพวกนี้จึงเร็วกว่าลูกศรที่ออกจากหน้าไม้ที่ใช้คนยิงเป็นอย่างมาก! มันเร็วจนมีเสียงหวีดหวิวในขณะที่พุ่งผ่านอากาศ!

แต่ในทางกลับกัน เมื่อเผชิญหน้ากับลูกศรขนาดยักษ์เหล่านี้ อวี้ฮ่าวหรานกลับไม่ได้เคลื่อนไหวเลย! เขายืนนิ่งอยู่เฉย ๆ ราวกับว่าต้องการจะรับการโจมตีนี้ตรง ๆ!

ท่ามกลางเสียงคำรามของลูกศรขนาดยักษ์ จู่ ๆ เสียงแตกระเบิดของลูกศรก็ดังลั่นห้อง ลูกศรแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันทีหลังจากที่สัมผัสกับม่านพลังวิญญาณที่คุ้มกายอวี้ฮ่าวหราน!

ผลลัพธ์จากแรงปะทะส่งผลให้มีคลื่นกระแสลมแรงระเบิดออกทุกทิศทาง พังโต๊ะ เก้าอี้ และแจกันที่อยู่รอบ ๆ กระจุยกระจายยับเยิน!

อย่างไรก็ตามภายใต้ผลกระทบนี้ อวี้ฮ่าวหรานกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย และยังคงสาวเท้าเดินช้า ๆ เข้าไปด้านในคฤหาสน์ต่อไป!

ระหว่างทางเดิน มีกับดักและนักฆ่าที่ซุ่มโจมตีตลอดทาง แต่กลับไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้เลย

ในทางเดินที่นำไปสู่ห้องใต้ดินขนาดใหญ่มีกับดักหนาแน่นมากกว่าด้านบนมาก มีแม้กระทั่งกับระเบิดที่ใช้ในทางทหารถูกฝังเอาไว้บางจุดก็มี!

อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายต่ออวี้ฮ่าวหรานเลย!

และในที่สุดเขาก็ได้พบกับเจ้าตำหนักคุมกฎ!

อีกฝ่ายยังคงนั่งหลับตาบ่มเพาะมาจนถึงขณะนี้

อีกฝ่ายเป็นชายชราชุดดำในวัยห้าสิบ ซึ่งแค่ดูจากภายนอกก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา และยิ่งไปกว่านั้นในห้องลับใต้ดินแห่งนี้ก็มีวัตถุโบราณหลายชิ้นที่แฝงไปด้วยพลังวิญญาณ!

“แก…แกบุกเข้ามาเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?!!!”

เขาถูกปลุกให้ตื่นจากการฝึกเพราะเสียงย่ำเท้าของอวี้ฮ่าวหราน และมองดูชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างเหลือเชื่อ ไม่คิดเลยว่าปรมาจารย์พลังภายในหลายสิบคนและกับดักนับไม่ถ้วนจะไม่สามารถหยุดอีกฝ่ายได้เลยแบบนี้!

อวี้ฮ่าวหรานเพิกเฉยต่ออาการตื่นตระหนกของอีกฝ่าย เขาใช้เนตรเทวะตรวจสอบอีกฝ่ายทันที แล้วก็ได้พบว่าอีกฝ่ายใกล้ที่จะทะลวงระดับการบ่มเพาะขึ้นมาเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตก่อรากฐานเต็มที!

ไม่แปลกเลยที่ในห้องนี้มีวัตถุโบราณที่มีพลังวิญญาณแฝงอยู่มากมาย เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายใช้พวกมันเพื่อช่วยในการทะลวงระดับ

แน่นอนว่าเมื่อเห็นวัตถุโบราณพวกนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็ใจเต้นแรงทันที ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าการมาที่นี่ในครั้งนี้ เขาจะได้รับประโยชน์แบบนี้กลับไปด้วย!

แต่อันดับแรกเขาต้องเหยียบมดที่อยู่ข้างหน้าให้ตายก่อน

“แกเป็นเจ้าตำหนักคุมกฎใช่ไหม?” อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยถาม

“หึหึ ไอ้หนู! แกอย่าได้ใจไปนัก ถึงแม้ว่าแกจะฆ่าลูกน้องของฉันได้หมด แต่ฉันไม่ได้อ่อนแอเหมือนลูกน้องของฉัน ต่อหน้าฉัน แกมันก็ไม่ต่างอะไรกับลูกแกะที่รอให้ฉันเชือด!”

ชายชราผู้นี้เป็นคนที่มีสันดานโหดเหี้ยมอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเขาโดนอวี้ฮ่าวหรานขัดจังหวะการทะลวงระดับของเขา ก็ยิ่งตั้งใจแน่วแน่ว่าจะฆ่าอวี้ฮ่าวหรานให้ได้!

ในเวลานี้ แม้ว่าตัวเองจะสูญเสียโอกาสในการเข้าทะลวงสู่ขอบเขตก่อรากฐาน แต่ภายใต้พลังวิญญาณที่ท่วมท้นซึ่งหลงเหลือจากการเตรียมทะลวงระดับแล้วไม่ได้ใช้ เขาจึงได้รับความแข็งแกร่งของขอบเขตก่อรากฐานระดับแรกมาชั่วคราว!

“ไอ้หนู! วันนี้แกตายแน่!”

เจ้าตำหนักคุมกฎค่อย ๆ ลุกขึ้นพร้อมกับปลดปล่อยรัศมีพลังอันน่าสะพรึงกลัว!

ถึงแม้ว่าขณะนี้ในร่างกายของเขาจะพลุ่งพล่านเต็มไปด้วยพลังมหาศาล แต่ใบหน้าของเขากลับซีดเซียวอย่างมาก

เนื่องจากล้มเหลวในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการทะลวงระดับ นับจากนี้เจ้าตำหนักคงจะต้องรอไปอีกอย่างน้อยสองหรือสามปีกว่าจะฟื้นตัว และเริ่มขั้นตอนทะลวงระดับได้อีกครั้ง แถมโอกาสสำเร็จที่จะทะลวงระดับในครั้งต่อไปก็มีน้อยลงไปอีก

และทั้งหมดนี้เป็นเพราะชายหนุ่มตรงหน้า!

“ฉันจะตัดแขนขาของแกออก จากนั้นจะเอาร่างของแกไปแช่ในน้ำเกลือ และลอกหนังของแกทั้งเป็น!!”

เขาตวาดอย่างดุเดือด

“แกจะต้องโหยหวนทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดอ้อนวอนขอความตายจากฉันผู้นี้!”

ในทางกลับกัน เมื่ออวี้ฮ่าวหรานได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มกลับปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา

“แกคิดว่าจะเอาชนะฉันได้จริง ๆ เหรอ?”

“ฮ่า ๆ มั่นใจไหมงั้นเหรอ? แกคิดว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของแกที่ยังอยู่แค่จุดสูงสุดของขอบเขตพลังภายในจะสามารถต่อกรกับฉันผู้นี้ที่ก้าวขาเข้ามาครึ่งก้าวในขอบเขตที่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่อาจก้าวผ่านได้งั้นเหรอ?”

ชายชราเยาะเย้ย การที่ตอนนี้เขามีพลังของขอบเขตก่อรากฐานชั่วคราวทำให้เขามั่นใจอย่างยิ่ง

เท่าที่เดา อีกฝ่ายน่าจะอยู่ในระดับจุดสูงสุดของขอบเขตพลังภายในเป็นอย่างมากที่สุด ดังนั้นเขาควรจะเอาชนะได้อย่างสบาย ๆ จริงไหม?

“ขอบเขตที่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่อาจก้าวผ่านได้งั้นเหรอ ฮ่า ๆ”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นอย่างประชดประชันเมื่อเห็นความมั่นใจที่มากล้นของอีกฝ่าย

คนที่มีพลังแค่ขั้นแรกของขอบเขตก่อรากฐานแถมยังเป็นแบบชั่วคราวกลับแสดงความมั่นใจต่อหน้าเขา?

นี่มันไร้สาระสิ้นดี!

“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว! ไม่ใช่แค่ฉันจะฆ่าแก แต่ครอบครัวของแกทั้งหมดจะถูกฉันถลกหนังทั้งเป็นด้วย!!”

เมื่อได้ยินการเสียดสีของอีกฝ่าย ชายชราก็ยิ่งโกรธและอยากแก้แค้นให้สุดโต่งมากขึ้น แต่ในทันทีที่หลังจากที่เขาพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็เคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน!

ร่างของอวี้ฮ่าวหรานเคลื่อนที่เร็วราวกับสายฟ้าฟาด เขาพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ในชั่วพริบตาแล้วชกหมัดออกไปอย่างรุนแรง!

ปัง!

การปะทะกันระหว่างพลังวิญญาณและพลังวิญญาณทำให้เกิดคลื่นระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวซึ่งกวาดไปทั่วทั้งห้องใต้ดินทันที!

ยกเว้นแต่พวกวัตถุโบราณที่ถูกเก็บรักษาในตู้กระจกนิรภัยอย่างดี พวกโต๊ะและเก้าอี้ในห้องลับต่างก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ!

ชายชราตอบโต้กลับสุดกำลังของเขา แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าอีกฝ่ายน่ากลัวกว่าที่เขาคิดมาก!

อั่ก!

ด้วยหมัดอันรุนแรงของอวี้ฮ่าวหราน ชายชราจึงถูกผลักออกไปไกลถึงเจ็ดแปดเมตร!

“มีความแข็งแกร่งเท่าหางอึ่ง แต่กลับกล้าโอ้อวดต่อหน้าฉันผู้นี้งั้นเหรอ! แกนี่มันไม่ต่างอะไรกบในกะลาเอาซะเลย! ”

แววตาของอวี้ฮ่าวหรานเย็นชามากกว่าเดิมในเวลานี้ ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มเยาะเย้ยอีกฝ่ายอย่างไม่ใส่ใจ แต่อีกฝ่ายกลับข่มขู่สมาชิกในครอบครัวของเขา ดังนั้นเขาจึงจู่โจมอย่างกะทันหันด้วยความโกรธ!

โชคดีที่ชายชรามีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับขอบเขตก่อรากฐานขั้นที่หนึ่ง ไม่เช่นนั้น หากเป็นก่อนหน้านี้ที่เขามีความแข็งแกร่งแค่จุดสูงสุดของพลังภายในก็อาจถูกชกตายในทันที!

“แกไม่ควรคุกคามครอบครัวของฉัน แม้ว่าจะเป็นเพียงคำพูดก็ตาม!”

อวี้ฮ่าวหรานกล่าวขึ้นอย่างเย็นชาและเดินเข้าหาอีกฝ่ายอย่างช้า ๆ

ชายชราตกใจและหวาดกลัว!

ตามความคิดและความเข้าใจของเขา เข้าใจว่าในตอนนี้เขามีพลังเทียบเท่ากับผู้ที่หลุดพ้นความเป็นมนุษย์ไปแล้ว แต่ทำไมตอนนี้เขากลับไม่สามารถเอาชนะชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาได้!?

แถมอีกฝ่ายกลับแข็งแกร่งกว่าเขามาก!

แค่หมัดเดียวก็ทำให้ตัวเองเจ็บปวดอย่างมาก ราวกับว่าร่างกายเขากำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

“แก…แกเป็นมนุษย์หรือเป็นปีศาจกันแน่?!!”

เขามองดูชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ ความกลัวและความตื่นตระหนกในใจของเขาถึงขีดสุด!

“เป็นไปไม่ได้เลยที่แกจะมีพลังขนาดนี้ในวัยเท่านี้! เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!!”

เส้นผมขาว ๆ ของชายชราเริ่มร่วงหล่น เขาสูญเสียความมั่นใจเดิมไปอย่างรุนแรง และตะโกนขึ้นด้วยความไม่เชื่อ

อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่อีกฝ่าย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

“สมแล้วที่แกอยู่ในองค์กรที่เรียกตัวเองว่าเป็นงู! สัตว์เลื้อยคลานตาบอดอย่างแกไม่มีทางมองเห็นความกว้างใหญ่ของท้องฟ้าได้ต่อให้แกจะพยายามแค่ไหนก็ตาม!”

โลกนี้มักจะคาดเดาความแข็งแกร่งจากอายุของผู้บ่มเพาะ

แต่ในดินแดนแห่งเทพ โอรสสวรรค์บางคนแค่เพียงตอนเพิ่งเกิด พวกเขาก็มีพลังที่น่าสะพรึงกลัวจนสามารถบดขยี้มนุษย์ธรรมดาให้ตายได้ด้วยเพียงการเหลือบมอง!

“ตาย!”

ดวงตาของชายชรายังคงเหม่อลอย แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายใกล้เข้ามา เขาก็ได้สติและใบหน้าของตัวเองก็เคร่งเครียดในทันใด มีดสีดำทมิฬที่คมกริบก็พุ่งออกจากแขนเสื้อของเขาอย่างฉับพลัน!

ภายใต้แรงกระตุ้นของพลังวิญญาณ ความเร็วของมีดนั้นเหนือกว่ากระสุนใด ๆ จนการมองด้วยตาเปล่าไม่มีทางมองตามทันได้เลย!

และหลังจากนั้นชายชราก็พุ่งพรวดตามมีดที่ถูกซัดออกไปอย่างดุร้าย!

ด้วยระยะทางไม่กี่เมตรเช่นนี้ การโจมตีอย่างกะทันหันแบบนี้มันคือการลอบจู่โจมที่สมบูรณ์แบบ!

ชายชราอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยในใจ

ฮ่า ๆ แข็งแกร่งกว่าฉันแล้วมันยังไง? คนหนุ่มอย่างแกไม่มีทางมีประสบการณ์เหนือกว่าฉันไปได้แน่นอน!

แต่เขาไม่รู้เลยว่า อวี้ฮ่าวหรานไม่เคยประมาทเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู!

อวี้ฮ่าวหรานเห็นทุกการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

‘ปั่บ!’

ทันใดนั้นเสียงที่คมชัดก็ดังก้องไปทั่วทั้งห้องใต้ดิน!

ฉากที่เห็นทำให้ชายชรากลัวจนแทบหยุดหายใจปรากฏขึ้น!

ชายหนุ่มตรงหน้าจับมีดบินได้อย่างง่าย ๆ ด้วยมือเปล่าเพียงข้างเดียว!!