ตอนที่ 677 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน / ตอนที่ 678 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 677 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน

ไม่ว่าอย่างไรกู้เชินก็ต้องการหย่าขาดให้ได้ ขอเพียงแค่จูอวี้ลู่ยินยอมเซ็นใบหย่า คฤหาสน์ตระกูลกู้ก็จะตกเป็นของเธอและกู้ซูหลิง ขณะเดียวกันยังมีทรัพย์สินอื่นๆ มอบให้อีกด้วย

แต่ไม่ว่าอย่างไรจูอวี้ลู่ก็ไม่ยอมหย่าเด็ดขาด

กู้ซูหลิงวิ่งออกจากคฤหาสน์ไปแต่ไม่ได้หนีไปไหน เมื่อออกจากคฤหาสน์เธอก็ใจเย็นลง รู้ว่าเมื่อครู่นี้ตัวเองประมาทเกินไป อีกอย่างเธอไม่รู้จะไปไหน ไปว่าจะไปที่ไหนก็สงบจิตใจไม่ได้ จึงรออยู่ด้านนอกกะว่าหลังจากอวี๋กานกานออกไปแล้วค่อยเข้าไปอ้อนวอนกู้เชินอีก

ไม่นานนักเธอก็เห็นว่ากู้เชินออกมาจากคฤหาสน์พร้อมอวี๋กานกานและฟังจือหัน

กู้ซูหลิงรีบวิ่งกลับเข้ามาข้างในคฤหาสน์ตระกูลกู้ก็เห็นจูอวี้ลู่นั่งเหม่อลอยร้องไห้กับพื้น สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทรมาน น้ำตาไหลพรั่งพรู แต่พอเธอเช็ดหน้าใบหน้ากลับเหมือนวิญญาณหลุดลอย

เธอรีบวิ่งเข้าไปด้วยความเป็นห่วง “แม่ เป็นอะไรไปคะ หรือว่าอวี๋กานกาน…”

เธอไม่ได้พูดประโยคต่อท้าย เพราะเธอเห็นแล้วว่าสิ่งที่กู้เชินทิ้งไว้ตรงปลายเท้าของจูอวี้ลู่คือใบหย่า เธอก็ตกใจเบิกตาโตทันที แล้วผรุสวาทออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ “อะไร กู้เชินต้องการหย่ากับแม่เหรอคะ ใจดำเกินไปแล้ว ใจดำจริงๆ!”

จูอวี้ลู่เอ่ยขึ้นด้วยความตกตะลึง “ฉันไม่หย่า ฉันไม่อย่าเด็ดขาด”

เธอมีท่าทียืนกรานแข็งกร้าว

แต่กู้ซุหลิงกลับมีความเห็นต่าง เธอจึงแนะนำ “แม่คะ หนูว่าหย่าเถอะค่ะ อวี๋กานกานกลับมาแล้วถึงยังไงเราก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง แม่หย่ากับกู้เชินดีกว่า อย่างน้อยกู้เชินก็แบ่งสินสมรสให้ครึ่งหนึ่ง แบบนี้ที่เราอยู่บ้านกู้มาตั้งสิบห้าปีก็ไม่สูญเปล่า ถึงจะเสียเปรียบอยู่บ้างแต่สินทดแทนก็ไม่เลวนะคะ”

“ฉันไม่หย่า ฉันไม่หย่าเด็ดขาด”

จูอวี้ลู่พูดย้ำในสิ่งที่พึ่งพูดไปเมื่อกี้ทำให้กู้ซูหลิงมีสีหน้านิ่งลง

“ทำไมถึงหย่าไม่ได้ล่ะคะแม่ แม่ดูไม่ออกเหรอ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีกู้เชินก็รักเพียงแต่ผู้หญิงที่ตายไปแล้วคนนั้น ไม่ว่าแม่จะเสียแรงไปเท่าไหร่ เขาก็ไม่ยอมรักแม่สักนิด แม่เป็นคุณหญิงกู้ตั้งหลายปี เขาก็ไม่เคยเห็นแม่อยู่ในสายตาเลยแม้แต่ครั้งเดียว!”

“ฉันไม่หย่า ฉันไม่หย่าเด็ดขาด”

จูอวี้ลู่ยังคงพูดคำเดิม นั่งดื้ออยู่บนพื้นราวกับเสียสติไร้วิญญาณ

ภาพนี้สะเทือนใจกู้ซูหลิงยิ่งนัก เธอออกแรงเขย่าตัวจูอวี้ลู่ “แม่ยอมหย่าเถอะนะคะ ไม่มีผู้ชายที่แม่ต้องการอีกแล้ว”

จูอวี้ลู่ปิดหน้าร้องไห้เจ็บปวดแล้วเอ่ยขึ้น “เขาไม่มีวันแบ่งสมบัติให้พวกเราหรอก”

กู้ซูหลิงสบถเสียงเย็น “สินสมรสร่วมกันหลังแต่งงานของสามีภรรยา เมื่อหย่ากันแล้วต้องแบ่งครึ่งกันแน่นอนค่ะ เขามีสิทธิอะไรไม่ให้แม่คะ”

“ตอนนั้น เพื่อได้รับความไว้วางใจและการสนับสนุนจากคุณหญิงท่าน แม่ก็เลยพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าไม่ได้แต่งงานกับกู้เชินเพื่อสมบัติของตระกูลกู้ ก่อนที่แม่จะจดทะเบียนสมรสก็เลยแสดงเจตนาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแม่ไม่มีทางหย่ากับกู้เชินเด็ดขาด และไม่ต้องการกู้กรุ๊ปเลยสักเศษเสี้ยว”

“อะไรนะคะ” กู้ซูหลิงแผดเสียงลั่น หัวใจเต้นแรงทั้งตกใจและโมโห “แม่ ทำไมแม่ถึงยอมเซ็นสัญญาก่อนแต่งง่ายๆ แบบนี้ล่ะคะ”

จูอวี้ลู่ปาดน้ำตาแล้วเอ่ยขึ้น “ตอนนั้นแม่ท้องน้องชายของลูกอยู่ แม่คิดว่าถึงยังไงกู้กรุ๊ปก็ต้องตกเป็นของน้อง แล้วมันจะต่างอะไรกับแม่ล่ะ”

“ตอนนี้อวี๋กานกานกลับมาแล้ว กู้เชินบอกจะยกสมบัติตระกูลกู้ทั้งหมดให้เธอ นั่นหมายความว่ากู้เนี่ยนจะไม่เหลืออะไรเลย” กู้ซูหลิงโกรธหน้าซีดหน้าสั่นและกระทืบเท้าเร่าๆ “หย่าไม่ได้ แม่หย่าไม่ได้เด็ดขาด พวกคุณแม่แต่งงานกันมาตั้งหลายปี เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีเยื่อใยต่อกัน แม่ห้ามหย่านะคะ หากหย่าแล้วเราไม่เหลืออะไรสักอย่างแน่…”

จูอวี้ลู่ก็ไม่อยากหย่าเหมือนกัน แต่เธอไม่อยากหย่าก็ไม่ต้องหย่าได้ด้วยเหรอ

ตอนที่ 678 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน

ไม่สนว่าจูอวี้ลู่จะยอมหรือไม่แต่กู้เชินก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าต้องหย่าขาดครั้งนี้ ไม่ยอมหย่าก็ต้องหย่า

เขาทิ้งท้ายประโยคนี้เอาไว้ก่อนจะพาอวี๋กานกานและฟังจือหันออกไป หลังจากนั้นก็ตามอวี๋กานกานและฟังจือหันไปด้วย เขานั่งอยู่ในรถโดยไม่พูดว่าจะไปที่ไหน

ฟังจือหันพอจะมองออกว่าพ่อตาต้องไปอยู่บ้านเขาแน่ แต่ปฏิเสธได้ไหมล่ะ ก็ไม่

คิดๆ ดุก็ท้อใจนิดหน่อย แค่อาจารย์คนเดียวก็พอแล้วยังมีพ่อแท้ๆ ตามมาอีกหนึ่งคน จะแต่งงานทั้งทีสู้กับศัตรูหัวใจก็ท้อแล้ว นอกจากศัตรูหัวใจแล้วเขายังต้องมาสู้กับพ่อตาอีก นี่คงไม่มีใครแล้วล่ะ

อวี๋กานกานไม่อยากให้กู้เชินกลับไปที่บ้านของเธอ แต่เธอไม่รู้จะปริปากบอกยังไง กู้เชินเงียบมาตลอดทาง หลังจากผ่านไปกว่าสิบปีก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดเหตุการณ์เสียใจเช่นนี้ขึ้น

ผ่านคืนนี้ไป อันที่จริงเธอก็ไม่ได้ต่อต้านกู้เชินขนาดนั้นแล้ว

นี่คือคนไม่ใช่พระเจ้าก็ต้องมีบางครั้งที่มีผิดพลาดไปบ้าง

แม้เมื่อก่อนเขาจะทำผิดพลาดไป แต่เมื่อเห็นความผิดของตัวเองชัดเจน แล้วทุกสิ่งที่เขาทำในวันนี้ เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อเธอทั้งนั้น เขาจะใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อรักเธอดูแลเธออย่างดีและตอบแทนทุกสิ่งที่เขาเป็นหนี้เธอ

ความรักของพ่อที่อบอุ่นทำให้เธอรู้สึกอุ่นวาบในใจ

คอนโดของฟังจือหันมีสองชั้นบนล่าง ที่จริงชั้นล่างมีห้องนอนใหญ่อยู่หนึ่งห้อง เอาไว้เป็นห้องรับรองแขกให้กู้เชินก็พอใช้ได้อยู่

เมื่อกลับมาถึงที่พักก็ดึกแล้ว หลังจากจัดห้องพักให้กู้เชินเสร็จแล้วอวี๋กานกานก็อยากกลับห้องไปพักผ่อนเหมือนกัน

เมื่อกำลังจะก้าวขาออกไปกู้เชินกลับเอ่ยรั้งเอาไว้ “ลูกรัก ลูกจะขึ้นไปทำไม”

อวี๋กานกานเอ่ยตอบ “ดึกแล้ว หนูจะขึ้นไปอาบน้ำนอนค่ะ”

กู้เชินขมวดคิ้ว “พวกลูกนอนห้องเดียวกันเหรอ”

อวี๋กานกานหน้าแดงระเรื่อ ยิ้มอย่างเขินอาย

กู้เชินตีหน้านิ่ง “พวกลูกยังไม่ได้แต่งงานกันจะนอนห้องเดียวกันได้ไง บ้านหลังนี้ไม่มีห้องอื่นแล้วเหรอ ตรงนั้นยังมีอีกห้องไม่ใช่เหรอ ให้ฟังจือหันไปนอนห้องนั้นซะ”

อวี๋กานกานร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก “ที่จริงหนูกับฟังจือหันจดทะเบียนสมรสกันแล้วค่ะ”

กู้เชินตกตะลึง “อะไรนะ จดทะเบียนแล้ว ลูกพึ่งอายุไม่เท่าไหร่เองทำไมรีบแต่งงานล่ะ ลูกยังเด็กลองมีแฟนดูหลายๆ คนก่อน ผู้หญิงลองคบแฟนหลายๆ คนก่อนถึงจะได้รู้ว่าผู้ชายคนไหนเหมาะสมกับตัวเอง”

อวี๋กานกานอยากพูดอะไรออกไปแต่กลับถูกฟังจือหันขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน “คุณอากู้ ถ้าผมจำไม่ผิด ดูเหมือนว่าคุณอาจจะมีคอนโดชุดอยู่ในเขตนี้นะครับ”

น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่กลับทำให้กู้เชินไม่เซ้าซี้อวี๋กานกานอีกทันที เขาจ้องฟังจือหันด้วยสายตาเย็นเยียบ แล้วหันไปยิ้มให้และพูดกับอวี๋กานกาน “ลูกรัก ดึกแล้วรีบพักผ่อนเถอะ”

เมื่อรนจนกระทั่งกู้เชินเดินเข้าห้องไปแล้ว “คุณยังมีหนทาง แต่ฉันแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าคุณยอมให้เขาอยู่ที่นี่”

ฟังจือหันจูงเธอเข้าห้องไปอธิบายให้ฟัง “คืนนี้คุณอากู้ทั้งดีใจและเสียใจ ดีใจมากแล้วพลันมาเสียใจมาก ยังไงมีคนดูแลน่าจะดีกว่า”

“ถ้าเขารู้ว่าคุณกตัญญูแบบนี้คงไม่พูดแบบเมื่อกี้อีกแน่นอน” อวี๋กานกานถอนหายใจ “ฉันว่าจูอวี้ลู่คงไม่รามือง่ายๆ เธอคงไม่ยอมหย่าเด็ดขาด อีกอย่าง…พอหาฉันเจอพวกเขาก็ต้องหย่ากัน นี่มันเหมือนเป็นความผิดของฉันเลยนะคะ”

“คุณคิดมากไปแล้ว คุณอากู้อยากหย่ามาโดยตลอด คุณเป็นแค่ข้ออ้างในการหย่าของเขา”

“จริงเหรอ”

“จริงสิ” ฟังจือหันเปลี่ยนเป็นชุดคลุมอาบน้ำแล้วกอดเธอจากด้านหลัง ริมฝีปากบางแนบชิดไปที่หูของเธอ “อาบด้วยกันนะ อืม”

เสียงแหบเซ็กซี่ที่ริมหูทำให้อวี๋กานกานสะท้าน อาบน้ำด้วยกันคงไม่จบแค่อาบน้ำง่ายๆ

“ไม่ค่ะ” อวี๋กานกานปฏิเสธดิ้นออกจากอ้อมกอดของเขา มือทั้งสองดันหลังฟังจือหัน “คุณรีบอาบอย่ามัวแต่ลีลา”

ฟังจือหันยอมให้เธอหลักเข้าห้องน้ำ แต่ในขณะที่เธอกำลังจะถอยออกไป จู่ๆ เขาก็ยื่นแขนโอบคอของเธอให้ม้วนตัวเข้าหาอ้อมกอด จากนั้นก็ยกเท้าเตะประตูห้องน้ำ…