ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 213

ผู้คนในโรงหมอต่างกลัวจนตัวสั่น ต่างพากันรีบมาห้ามเลือดให้ฮูหยินหลิงหลงและเซี่ยหว่านเอ๋อ ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่อ่อนแอบอบบางคนหนึ่งจะลงมือได้เหี้ยมโหดเช่นนี้

เมื่อองค์รัชทายาทเห็นว่าเซี่ยจื่ออันทำร้ายคนสองคนต่อหน้าเขา จึงโกรธมากและสั่งออกไป “เร็วเข้า จับกุมผู้หญิงมีพิษสงคนนี้ซะ”

มู่หรงจ้วงจ้วงก้าวไปข้างหน้าและกล่าวเย้ยหยัน “ข้าก็อยากรู้เสียจริง ว่าใครจะกล้าเข้ามา!”

จื่ออันกับมู่หรงจ้วงจ้วงมองตากัน และเดินเข้าไปด้านใน

องค์รัชทายาทอดทนต่อความเจ็บปวดบังคับตนเองให้ก้าวไปข้างหน้า จ้องมองไปที่มู่หรงจ้วงจ้วง “เสด็จย่า ดูเหมือนว่าท่านชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของผู้อื่นเสียจริง ท่านควรคิดให้ดี ๆ การต่อต้านข้าไม่ได้ส่งผลดีต่อท่านเช่นกัน”

มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าวอย่างเย็นชา “องค์รัชทายาท เจ้าช่างประเมินค่าตนเองสูงเสียจริง พาคนของเจ้ากลับไปซะ หากเจ้าต้องการล้างแค้นให้คู่หมั้นของเจ้า ให้ไปฟ้องร้องเอาที่ศาลาว่าการ ให้พวกเขาดูแลคดีนี้”

พูดจบ นางก็สั่งรถม้า “ข้ารับใช้ด้านนอก ไปที่จวนมหาเสนาบดี”

องค์รัชทายาทกัดฟันแน่นและกล่าว “ดี พวกเราไปที่จวนมหาเสนาบดีบอกกล่าวให้พวกเขารับรู้ ทหาร ไปเชิญคนของศาลาว่าการ”

องค์รัชทายาทไม่ได้สนใจเซี่ยหว่านเอ๋อเลย เพียงแค่หายใจฮึดฮัด เซี่ยหว่านเอ๋อได้เสียโฉมไปแล้ว อีกอย่างเลือดบนใบหน้าของนางเมื่อครู่นี้ก็ทำให้เขารู้สึกขยะแขยงมาก เขาไม่ต้องการที่จะพบเห็นนางอีก

คนในโรงหมอห้ามเลือดที่ไหลให้ฮูหยินหลิงหลงกับเซี่ยหว่านเอ๋อได้แล้ว แต่ว่าเลือดบนใบหน้าของพวกนางยังไม่ได้ถูกเช็ดออก มองดูแล้วช่างสยดสยองยิ่งนัก

เซี่ยหว่านเอ๋อฟื้นขึ้นมา แล้วร้องไห้ พูดกับองค์รัชทายาท “องค์ชาย ท่านต้องรับผิดชอบเรื่องของพวกเราด้วยนะเพคะ!”

พูดพลาง โน้มตัวไปซบเขาพลาง

องค์รัชทายาทรีบถอยออกด้วยความตกใจ สะบัดมืออย่างรังเกียจและกล่าว “เจ้าออกไปนะ ไปให้พ้น อย่าให้เลือดมาเปื้อนตัวข้า”

สีหน้าของเซี่ยหว่านเอ๋อซีดเผือด นางมองไปที่องค์รัชทายาทอย่างไม่อยากจะเชื่อ และกล่าวถามอย่างสั่นเทา “องค์ชายท่านพูดอะไรของท่าน?”

องค์รัชทายาทโบกมือเรียกทหารองครักษ์ “พยุงข้าขึ้นรถม้า พาพวกนางสองคนแม่ลูกไปส่งที่รถม้าของพวกนาง ให้กลับจวนมหาเสนาบดีไปซะ”

“พ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์รีบพยุงองค์รัชทายาทออกไป แทบจะอุ้มเขาขึ้นไปบนรถม้า

อีกด้านหนึ่ง จื่ออันได้พยุงหยวนซื่อออกมา นางวิงเวียนศีรษะมาก จึงได้ทิ้งตัวลงพิงที่จื่ออัน อีกทั้งตาก็มองไม่เห็น ทำได้เพียงเดินลากขาช้า ๆ

เซี่ยหว่านเอ๋อที่เห็นจื่ออันและหยวนซื่อในใจก็เต็มไปด้วยความชอกช้ำและขุ่นเคือง อยากเข้าจู่โจมนางแต่เมื่อสัมผัสได้ถึงดวงตาที่เยือกเย็นดุจน้ำแข็งของจื่ออันแล้ว ใจนางก็รู้สึกหนาวสั่น หยุดฝีเท้าและสาปแช่ง “นังแพศยา รอให้กลับถึงจวนก่อนเถิด ข้าจะให้ท่านพ่อจัดการเจ้า เจ้าจำไว้ด้วยนะ ว่าเจ้าคือคนที่ทำลายตัวเอง”

ดูเหมือนว่าจื่ออันจะไม่ได้ยิน พยุงตัวหยวนซื่อออกไป ท่าทางยังคงดูเยือกเย็นไม่เปลี่ยน

หมอของที่นี่ได้ช่วยพยุงฮูหยินหลิงหลงให้ลุกขึ้นยืน นางวิงเวียนศีรษะเป็นอย่างมาก แทบจะทรงตัวไม่อยู่ ทั่วทั้งหน้าผากและใบหน้าล้วนเปื้อนไปด้วยเลือด เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็น นิ้วก้อยของนางขาด หมดหนทางเชื่อมต่อ หมอจึงพันเอาไว้ ใส่ผงห้ามเลือดลงไป ถือเป็นการห้ามเลือดไว้ชั่วคราว ยังต้องดำเนินการในขั้นถัดไป

นางจ้องมองไปที่จื่ออัน ซ่อนสายตาภายใต้เส้นผมตรงหน้าผาก และแสงสลัวทำให้นางดูเหมือนผีในยามค่ำคืน นางกัดฟันพูด “หยวนซุ่ยหยู เซี่ยจื่ออัน พวกเจ้าคอยดูให้ดีเถิด!”

ถึงจะนางพูดอย่างนั้น แต่นางก็รู้สึกกลัวจื่ออันจริง ๆ

นางไม่เข้าใจว่าทำไมเซี่ยจื่ออันถึงเปลี่ยนไปเป็นคนที่โหดเหี้ยมได้เช่นนี้ ตอนที่ตัดนิ้วของนาง ตาของจื่ออันไม่ได้กะพริบเลยสักนิดเดียว สายตาดุร้ายเยือกเย็น จนนางแทบจะคิดว่าตนเองได้เห็นวิญญาณชั่วร้ายที่ผุดขึ้นมาจากนรกเสียแล้ว

หัวใจของนางเต้นแรง และในที่สุดนางก็เริ่มรู้สึกได้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซี่ยจื่ออันอีกต่อไป

เมื่อไตร่ตรองปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดดูแล้ว ตำแหน่งพระชายาเอกขององค์รัชทายาทที่เซี่ยหว่านเอ๋อมีอยู่ ไม่รู้ว่าจะรักษาไว้ได้หรือไม่ ทั้งเรื่องที่ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิพูด และไหนจะท่าทางขององค์รัชทายาทเมื่อครู่นี้อีก นางคิดว่าสิ่งต่าง ๆ อาจจะเปลี่ยนไป