เช้าวันถัดมาญาติๆ ที่ยังไม่รู้ว่าหลี่จิ่นกลับมาแล้วมาถึงที่บ้านตระกูลหลี่อย่างเป็นกังวลว่าพวกเขาจะถูกหลอกลวง คุณพ่อหลี่ออกจากบ้านไปเพื่อเลี่ยงเรื่องวุ่นวาย ทิ้งให้คุณนายหลี่เผชิญหน้ากับพวกเขาอย่างจนปัญญาเพียงลำพัง
“ชิงชิง ฉันไม่ได้คิดว่าหลินเฉี่ยนจะทำอย่างนั้นหรอกนะ เธอเห็นความมิดเห็นในโลกออนไลน์หรือเปล่า ทุกคนทำเหมือนตระกูลหลี่เป็นตัวตลกไปหมดแล้ว”
“เสี่ยวชิง ฟังพวกเราเถอะ การแต่งงานนี้มันดูไม่ชอบมาพากลเลยนะ เธอโตมาในสภาพแวดล้อมอโคจรอย่างนั้น ใครจะไปรู้ว่าเธอจะทำเรื่องน่าขายหน้าอะไรไว้อีกบ้าง ถ้ามีคนมาขุดคุ้ยเรื่องของเธอทีหลัง ตระกูลหลี่จะไม่ถูกทำลายไม่มีชิ้นดีเหรอไง”
“เสี่ยวจิ่นเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อม เขาจะหาผู้หญิงที่เขาต้องการยังไงก็ได้ ทำไมเขาต้องพาผู้หญิงอย่างนี้เข้ามาในตระกูลเราด้วย เขาไม่ได้กำลังทำให้ตัวเองเดือดร้อนอยู่เหรอ”
“อีกอย่างต้องระวังว่าเธออาจจะมั่วผู้ชายตั้งแต่วัยรุ่นและไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แล้วด้วย คนอย่างนี้มันน่ารังเกียจ!”
เมื่อได้ฟังคำแนะนำที่ญาติผู้ใหญ่หลายคนเสนอ คุณนายหลี่ก็ปวดหัวขึ้นมา แค่คนพวกนี้พ่นคำพูดพวกนี้ออกมาก็แย่พออยู่แล้ว เธอไม่อยากให้หลินเฉี่ยนมาได้ยินมันเลย
“ฉันได้ยินว่าตอนนี้แม่หนูคนนั้นอยู่ที่นี่เหรอ เธอยังไม่ได้แต่งงานเข้าตระกูลเลยด้วยซ้ำแต่ก็ย้ายเข้ามาซะแล้ว มารยาทแย่จริงๆ …”
“ใช่ ถ้าเธอลำบากใจจะปฏิเสธ ให้เราช่วยพูดให้ก็ได้นะ…”
คุณนายหลี่ลุกขึ้นขวางทางไว้ทันทีเมื่อพวกเขาจะตั้งใจขึ้นไปชั้นบนจริงๆ และทำให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้
“เสี่ยวชิง อย่ามาขวางทางฉันนะ…”
พูดจบผู้หญิงคนหนึ่งก็พยายามบุกขึ้นไปชั้นบน เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณนายหลี่จะต้านทานแรงห้าหกคนไว้ได้
พวกเขาเป็นญาติจึงรู้ว่าห้องหลี่จิ่นอยู่ทางไหน พวกเขามุ่งหน้าตรงไปทันที ทว่าในจังหวะที่กำลังจะเคาะประตู ประตูก็เปิดออกพร้อมกับหลี่จิ่นที่ยืนขวางประตูอยู่
เมื่อเห็นหลี่จิ่น พวกเขาก็อึ้งไปเล็กน้อย
รอยยิ้มพลันปรากฏบนใบหน้าของพวกเขา
“นึกไม่ถึงว่าคุณป้าคุณลุงจะเป็นห่วงผมขนาดนี้เลยนะครับ” เขาเอ่ยเสียงเรียบพร้อมปิดประตูและพิงตัวกับบานประตู “กำลังจะทำอะไรกันเหรอครับ”
“คือว่า…เสี่ยวจิ่น…เราเห็นข่าวบนอินเทอร์เน็ตแล้ว”
“ใครอนุญาตให้เข้ามายุ่งเรื่องของครอบครัวของผมกันครับ” เขาถาม “มาคิดดูดีๆ แล้ว นี่เป็นเรื่องของตระกูลหลี่ ไม่ใช่ตระกูลจ้าวหรือตระกูลหวังเลย กล้าดียังไงมาทำร้ายภรรยาของผม”
“เสี่ยวจิ่น พูดจารุนแรงไปแล้วนะ เราก็แค่เป็นห่วงเท่านั้นเอง”
“เป็นห่วงหรือกำลังพยายามสอพลอผมกันแน่” หลี่จิ่นถามอย่างเย็นชา “พวกคุณไม่มีเรื่องในครอบครัวตัวเองจะพูดเหรอครับ ไม่ว่าหลินเฉี่ยนจะเป็นยังไง การแต่งงานก็จะถูกจัดขึ้นตามแผนที่วางไว้ ถ้าอยากมาก็ได้ครับ แต่ถ้าไม่ก็ไสหัวไปซะ
“ถ้าผมกลับมาบ้านไม่ทัน คุณจะทำอะไรกับภรรยาผมเหรอ”
ความน่าเกรงขามของหลี่จิ่นพาให้ทุกคนต่างกลัว ชายผู้เย็นชาคนนี้ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะรับมือได้
พวกเขาจึงก้าวถอยไปอย่างยอมจำนน
“เราแค่จะมาถามเรื่องข่าวเท่านั้นน่ะ…”
“ตอนนี้ก็กลับไปให้หมดได้แล้วครับ ต่อไปนี้อย่าโผล่หน้ามาให้ผมเห็นอีก ไม่อย่างนั้นผมจะมีวิธีนับไม่ถ้วนที่จะไปทักทายลูกๆ ของคุณเลยล่ะ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูครับ”
ญาติๆ ถึงกับชะงักไป เมื่อรู้ว่าหลี่จิ่นโกรธจริงๆ แม้พวกเขาจะไม่ได้แสดงสีหน้าออกมา แต่ก็สั่นเทาด้วยความกลัวอยู่ในใจ
“ไปค่ะ พวกคุณกลับไปได้แล้ว เราสบายกันดีค่ะ” คุณนายหลี่ถือโอกาสนี้ไล่ญาติๆ ลงไปชั้นล่าง “จิ่นเอ๋อร์รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ สนใจเรื่องของครอบครัวตัวเองเถอะค่ะ”
“เฮ้อ…”
ญาติๆ ทำอะไรหลี่จิ่นไม่ได้ จึงได้แต่ถอนหายใจออกมาขณะหันกลับออกไป
หากแต่คุณนายหลี่ผิดหวังในตัวคนพวกนี้เหลือเกิน พวกเขาเสียสติไปแล้ว
แม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวของเธอ แต่พวกเขาก็น่ารังเกียจ…
โชคดีที่หลี่จิ่นกลับมาเมื่อคืนก่อน ไม่อย่างนั้นหลินเฉี่ยนคงถูกคนเหล่านี้ฉีกเป็นชิ้นๆ …
หลังส่งกลุ่มญาติน่ารำคาญออกไปแล้ว คุณนายหลี่ก็หันกลับเข้าบ้าน ทว่าครั้งนี้ชายวัยสามสิบต้นๆ ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมของขวัญในมือ
เขาเอ่ยถามพลางถอดแว่นกันแดดออก “ไม่ทราบว่าคุณหลินอยู่ที่นี่ใช่ไหมครับ”
“คุณคือ…”
เมื่อเขามั่นใจว่าหลินเฉี่ยนอยู่ที่นี่ จึงหยิบนามบัตรออกมายื่นให้อีกฝ่าย “กรุณาให้ผมได้พบกับคุณหนูด้วยครับ”
ทันทีที่คุณนายหลี่เห็นนามบัตร ดวงตาเธอก็เบิกกว้าง เธอได้เห็นข้อมูลของหลินเฉี่ยนก่อนหน้านี้และรู้ว่าพ่อของเธอแซ่กู้
เธอจึงพาชายคนนี้เข้ามาในห้องนั่งเล่นและขึ้นไปบอกหลี่จิ่นให้รู้
หลังได้ฟังเรื่องจากแม่ของเขา หลี่จนไม่ได้บอกหลินเฉี่ยนในทันที กลับลงไปพบชายคนนั้นก่อน
“คุณคงเป็นคู่หมั้นของคุณหนูหลิน” เขาจับมือทักทายกับหลี่จิ่นอย่างนอบน้อม “ผมขอแนะนำตัวก่อน…”
“ไม่จำเป็นครับ ผมรู้ว่าคุณเป็นใคร” หลี่จิ่นตอบ “ผมสืบเรื่องนี้มาแล้วครับ”
“ไหนๆ คุณก็รู้แล้วงั้นผมจะพูดกับคุณตรงๆ เลยนะครับ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูหลินกับเฝิงจิ้งถูกเปิดเผยแล้ว ประธานของเราสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของคุณหนูหลิน เขาเลยสั่งให้ผมตามสืบเรื่องนี้เงียบๆ เขากำลังติดธุระอยู่ที่ยุโรปจึงไม่มีเวลาจัดการกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เขามั่นใจว่ามีความสัมพันธ์กับคุณหนูหลินจริง เลยส่งผมมาพบกับเธอก่อน เพราะกลัวว่าจะทำให้คุณหนูหลินตกใจถ้าอยู่ๆ เขาปรากฏตัวขึ้นน่ะครับ”
“เฉี่ยนเฉี่ยนไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนตระกูลกู้ครับ” หลี่จิ่นบอกกลับ
“อย่าเข้าใจผมผิดสิครับ คุณหลี่ ที่ท่านประธานกำลังพยายามจะบอกก็คือท่านยินดีรับคุณหนูหลินกลับเข้าตระกูลได้ทุกเมื่อที่เธอต้องการครับ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอ เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลกู้ครับ…”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็คงรู้แล้วว่าเฝิงจิ้งใส่ร้ายเฉี่ยนเฉี่ยนไปทั่ว ถ้าตระกูลกู้ยอมรับในตัวเธอจริง พวกเขาก็ควรออกมาพูดเพื่อเธอ”
“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลยครับ ท่านประธานได้พูดเรื่องนั้นและอธิบายความสัมพันธ์ของเขากับเฝิงจิ้งในอดีตกับผมแล้วล่ะครับ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรก็บอกผมได้เลยครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้นหลี่จิ่นก็เลิกคิ้ว ดูเหมือนว่าตระกูลกู้จะมาเพื่อช่วยและไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับพวกเขา
ถ้าเป็นอย่างนั้นทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบ
“ผมสามารถเล่าเรื่องที่เฝิงจิ้งเล่นกับความรู้สึกของท่านประธานยังไงกับคุณได้นะครับ”
“คุณไม่ต้องเล่าให้ผมฟังหรอก คุณบอกเรื่องนี้กับสื่อจะดีกว่าครับ”
…
หลินเฉี่ยนนึกไม่ถึงว่างานแต่งงานของเธอจะสร้างเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ หลังจากเหน็ดเหนื่อยเพราะหลี่จิ่นเมื่อคืนก่อน เธอไม่รู้แม้แต่น้อยว่าญาติๆ ของเขาโผล่มาหาเรื่อง จึงนึกผิดหวังเล็กน้อยที่พลาดชมการแสดงสนุกๆ ขนาดนั้นไป
ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่สำคัญสักนิดเมื่อเทียบกับสิ่งที่หลี่จิ่นกำลังจะบอกเธอ
พ่อของเธอมาตามหาเธอจริงๆ!
“เขามั่นใจว่าฉันเป็นลูกสาวของเขาขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ผมว่าเขาคงตามสืบเรื่องคุณมาสักพักแล้วล่ะครับ ไม่อย่างนั้นทำไมตระกูลกู้ไม่ติดต่อคุณมาตั้งนานแล้วล่ะ” เขาตอบ
“ฉันเดาว่าเขาคงอายที่โดนเฝิงจิ้งหลอกตอนที่ยังหนุ่มๆ น่ะค่ะ” หลินเฉี่ยนว่าขึ้นอย่างเย้ยหยันในขณะที่ในที่สุดก็ได้รู้ว่าทำไมเฝิงจิ้งถึงทอดทิ้งเธอไป