“สิบเจ็ดล้านตำลึง”

“สิบแปดล้านตำลึง”

อัครเสนาบีดกู้เกรี้ยวกราด “ลูก หากเจ้ายังประมูลต่อก็อย่าเรียกข้าว่าท่านพ่ออีก และเจ้าก็หาทางจ่ายเงินพวกนี้เอง”

ห้องส่วนตัวชั้นสอง เสี่ยวลี่ว์ยกน้ำเข้ามาหนึ่งแก้ว พลางกล่าวเสียงโกรธ “องค์หญิงเพคะ บ่าวได้ยินว่า คุณหนูรองแห่งจวนอัครเสนาบดี กู้ชูอวิ๋นมีใจปฏิพัทธ์ต่อท่านอาจารย์ซั่งกวน เมื่อวานทำขนมให้ท่านอาจารย์ซั่งกวน แต่ท่านอาจารย์ซั่งกวนปฏิเสธ ยามนี้นางตั้งใจประมวลคัมภีร์กวีเช่นนี้ คาดว่าคงทำเพื่อมอบให้ท่านอาจารย์ซั่งกวนเพคะ”

“อะไรนะ? เจ้าว่าอะไรนะ นังสารเลว กู้ชูอวิ๋นชอบท่านอาจารย์ซั่งกวน?”

“เพคะ บ่าวได้ยินพูดกันหลายคนแล้วเพคะ”

“นังสารเลวนี้ เลวเหมือนกู้ชูหน่วนเลย มิน่าล่ะถึงได้เป็นพี่น้องต่างมารดากัน เชอะ พวกนางอยากได้คัมภีร์กวีใช่ไหม? องค์หญิงอย่างข้าไม่ยอมให้สมหวังหรอก”

องค์หญิงตังตังยกป้าย “ยี่สิบห้าล้านตำลึง”

โอ้…….

คนจำนวนไม่น้อยต่างเพ่งมองมายังองค์หญิงตังตัง

ทุกครั้งที่นางยกป้ายก็คว้าน้ำเหลวทุกครั้ง

หรือว่าครั้งนี้ตั้งมั่นจะคว้ามาให้จงได้?

“ยี่สิบหกล้านตำลึง”

“ยี่สิบแปดล้านตำลึง”

“สามสิบล้านตำลึง”

เหล่านักบัณฑิตในงานประมูลไม่อยากพลาดสิ่งนี้ไป ยังคงเพิ่มราคาไม่หยุดหย่อน และทุกครั้งที่เสนอราคา หัวใจก็สั่นระริกไม่หยุด

กู้ชูอวิ๋นยกป้าย ทว่ายังคงอิดออดในการเสนอราคา

อัครเสนาบดีกู้แยกป้ายมา กล่าวเสียงดุดัน “สามสิบล้านตำลึงแล้ว พวกเราจะไปเอาเงินมากมายที่ไหน”

กู้ชูหน่วนแย้มยิ้มกล่าว “สี่สิบล้านตำลึง”

องค์หญิงตังตังรีบตามหลังไม่ห่าง “สี่สิบห้าล้านตำลึง”

“สี่สิบหกล้านตำลึง”

“สี่สิบเจ็ดล้านตำลึง”

เหล่านักบัณฑิตในงานประมวลเริ่มมีคนถอดตัวไม่น้อย เพียงแต่ยังเหลือไม่กี่คนที่ยังคงมุ่งมั่นจะคว้ามาครอบครอง

กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว

ของประมูลรอบนี้ สาเหตุที่นางเข้าร่วมก็เพราะต้องการต่อกรกับกู้ชูอวิ๋น อยากให้อีกฝ่ายเสียเงินซื้อในราคาสูง ทว่ากลับคาดไม่ถึงว่าองค์หญิงตังตังก็เข้ามาเล่นด้วย

นางเสนอราคาเมื่อใด องค์หญิงตังตังก็จะเพิ่มราคาเมื่อนั้น

คิก…….

เมื่อครู่เป็นเพราะองค์หญิงตังตัง สิ่งที่นางต้องการประมูลจึงมีราคาสูงขึ้นไม่น้อย ในเมื่อรอบนี้อีกฝ่ายอยากร่วมประมูลเพียงนี้ นางก็จะดันให้อีกแรง

กู้ชูหน่วนยกป้าย “เจ็ดสิบล้านตำลึง”

วึบ………

เล่นเพิ่มราคาหลายสิบล้านในชั่วอึดใจเลยหรือ

นางรวยเกินไปหรือเปล่า

ดวงตาเยี่ยจิ่งหานเกิดประกายความประหลาดใจแวบผ่าน เงยหน้าเพ่งพิศพินิจกู้ชูหน่วน ผ่านไปสักพัก คล้ายกับฉุกคิดอะไรได้ เริ่มจับขลุ่ยหยกขาวเล่น ไม่ได้ทักท้วงกู้ชูหน่วน และไม่ได้สนับสนุนกู้ชูหน่วนได้

องค์หญิงตังตังฉุนเฉียวไม่น้อย นางรู้อยู่แล้วเชียวว่ากู้ชูหน่วนไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ

“เจ็ดสิบเอ็ดล้านตำลึง”

“แปดสิบล้านตำลึง”

“เก้าสิบล้านตำลึง”

เสี่ยวลี่ว์กังวลแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

นางอยากให้องค์หญิงดึงราคาอีกฝ่ายให้สูงขึ้น

ทว่านางคาดไม่ถึงว่า พระชายาหานอ๋องประมูลราคาสูงขนาดนั้นแล้ว องค์หญิงยังเข้าร่วมอีก?

เมื่อเห็นองค์หญิงตังตังจะยกป้าย เสี่ยวลี่ว์ก็รีบกอดขาองค์หญิงไว้อีกครั้ง “องค์หญิง มิได้เพคะ เงินเก้าสิบล้านตำลึงมากเกินไป กระทั่งพระพันปีก็ไม่มี คัมภีร์กวีชุดนี้ก็แค่รวบรวมบทกวีต่าง ๆ ไว้เท่านั้น ไม่ได้สำคัญต่อพวกเราเลย พวกเราค่อยแย่งประมูลกับนางรอบหน้าเถอะเพคะ”

องค์หญิงตังตังถีบนางออกแรง ๆ พลางด่าทอยกใหญ่

“เมื่อครู่เจ้าก็พูดเช่นนี้ ตอนนี้ก็พูดเช่นนี้อีก เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง แล้วองค์หญิงอย่างข้าจะชนะนางได้เยี่ยงใด?”

“เก้าสิบเอ็ดล้านตำลึง”

“หนึ่งร้อยล้านตำลึง”

“หนึ่งร้อยหนึ่งล้านตำลึง”

“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึง”

โอ้…….

ผู้คนพากันแตกตื่น

มีคนไม่น้อยลุกขึ้นด้วยความตกใจ

หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงอีกแล้ว……