ตอนที่ 321 ฆาตกรที่ฆ่าพ่อของฉินหงเหยียน

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอนที่ 321 ฆาตกรที่ฆ่าพ่อของฉินหงเหยียน!

ณ ห้องเพรสซิเด้นท์สูทชั้นบนสุดของโรงแรม Intercontinental Hotel เย่เฉินที่กำลังสวมหูฟังเพื่อฟังเนื้อหาทีพวกเขาคุยกัน ไม่ได้ยินเสียงเม็ดฝนที่ตกด้านนอกแม้แต่น้อย

แต่ในใจเขาตอนนี้กลับราวมีสายฟ้าฟาดลงกลางใจ!

เย่เฉินในตอนนี้ได้รู้ความจริงสักที!

ที่แท้ฉินหงเหยียนรู้เรื่องฆาตกรที่ฆ่าพ่อตัวเองเลยตัดสินใจมาขอเลิกกับเย่เฉิน!

“คนที่ฆ่าพ่อของฉินหงเหยียนเป็นใครกันแน่นะ!”

และในเวลาเดียวในรถบนถนน

สวี่ฉู่หมิงยอมให้หญิงสาวตบตีแล้วเป็นฝ่ายยอมรับ “เธอพูดถูก หงเหยียน ฉันผิดเอง ฉันไม่ควรบอกเรื่องพวกนั้นกับเธอ ไม่ควรไปรบกวนความสงบในชีวิตเธอ ในเมื่อเธอรักเย่เฉินขนาดนั้น เธอก็ถือว่าเธอไม่เคยได้ยินคำพูดพวกนั้นของเธอ ถือเสียว่าไม่เคยมาที่เมืองเสินเฉิงมาก่อนสิ! พ่อของเธอคือคนที่ฉันเคารพ เป็นเพื่อนสนิท ความแค้นของเขาฉันจะไปล้างแค้นเอง เธอไม่ต้องไปเสี่ยงหรอก เธอทำเหมือนกับว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกลับไปหาเย่เฉินสิไป!”

คำพูดนี้ของเขาฟังเหมือนเขาใจกว้าง มีน้ำใจเสียเหลือเกินแต่เย่เฉินรู้ว่าเป็นเพราะเขาเข้าใจนิสัยของหญิงสาว ถึงได้จงใจพูดแบบนี้

จากที่เขารู้จักหญิงสาว หล่อนไหนเลยจะยอมหนีจากโลกความจริง แล้วยอมละทิ้งความแค้นที่บิดาโดนฆ่าเพียงเพื่อจะมีชีวิตที่แสนสงบและมีความสุขแล้วทำเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตนเองได้ยังไง?

ผู้ชายแก่ๆ ที่เจ้าเล่ห์เพทุบายอย่างสวี่ฉู่หมิง ย่อมต้องใช้ไม้นี้เพื่อเอาาชานะใจสาว!

และเป็นไปอย่างที่คาดฉินหงเหยียนไม่ตบตีเขาอีกแต่กล่าวด้วยเสียสะอื้น“ไม่ ฉันจะไม่กลับไปหาเย่เฉินแล้ว เรื่องของเราสองคนมันจบลงแล้ว ความแค้นของพ่อฉัน ฉันจะต้องไปล้างแค้นด้วยตนเอง ฉันจะฆ่าไอ้คนสารเลวคนนั้น! ต่อให้ฉันต้องตายก็เถอะ!”

พอได้ยินแบบนี้เย่เฉินก็ตกตะลึง

คิดไม่ถึงว่าฉินหงเหยียนจะถึงขั้นเตรียมตัวเตรียมใจตายไปกับฆาตกร!

“เด็กโง่ ทำไมคุณถึงจะเอาชีวิตเข้าแลกล่ะ? ตระกูลเย่ของเรามีอิทธิพลทั่วโลก คุณบอกผมมาก็ได้ว่าเขาเป็นใคร ผมช่วยคุณจัดการเขาไม่ดีหรือไง? หงเหยียนจะต้องกลัวว่าจะทำให้เราลำบากไปด้วย บางทีคนๆ นั้นอาจจะมีอิทธิพลอย่างมาก หรือบางทีคนผู้นั้นอาจจะรับมือได้ยาก…”

ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็พบว่าเสียงสะอื้นของหญิงสาวค่อยๆ เบาลง แล้วหล่อนก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

และในเวลานี้เองเย่เฉินก็ถอดสายหูฟังออก เขาในตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมหญิงสาวถึงทอดทิ้งเขาไป

ตอนนี้เขาแค่ต้องรู้ว่าฆาตกรคือใครก็เป็นอันใช้ได้!

“อาคุน อากวา!”

เย่เฉินเรียกทั้งสองคนมา “รีบไปเอาตัวสวี่ฉู่หมิงมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

“ครับ!”

ในระหว่างที่สองคนนั้นไปตามล่าตัวสวี่ฉู่หมิง เย่เฉินก็โทรหาฉินเสี่ยวตั่ว

“เสี่ยวตั่ว”

“พี่เย่เฉินมีอะไรคะ?”

“พี่สาวคุณเคยบอกคุณไหมว่าคนที่ฆ่าพ่อพวกคุณคือใคร?”

“ไม่นะ พี่สาวฉันกับคุณอาสวี่ควานตัวหาพวกเขามาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าใครคือฆาตกร ทำไมจู่ๆ ถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?”

เย่เฉินไม่ตอบแต่ถามต่อ “งั้นคุณพอจะรู้สถานที่กับเวลาที่แน่ชัดที่พ่อคุณตายได้ไหม?”

ฉินเสี่ยวตั่วคุ่นคิด “พ่อฉันตายเมื่อปี 2011 ฉันรู้แค่ว่าที่ฝรั่งเศส แต่สถานที่กับเวลาฉันจำไม่ค่อยได้ นายถามเรื่องนี้ทำไมเหรอ พี่สาวฉันคุยอะไรกับนายใช่ไหม?”

เย่เฉินพอจะเข้าใจแล้วว่าฉินหงเหยียนกับสวี่ฉู่หมิงน่าจะไม่ได้บอกเรื่องที่พวกเขาเจอตัวฆาตกรแล้วกับฉินเสี่ยวตั่ว

เพราะฉินหงเหยียนหวังว่าน้องสาวจะมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย จึงไม่เพิ่มความทุกข์ใดๆ ให้หญิงสาว

เย่เฉินเองก็เห็นฉินเสี่ยวตั่วเป็นน้องสะใภ้ เป็นคนในครอบครัว เขาเองก็ไม่อยากจะให้ความตั้งใจของฉินหงเหยียนต้องพังทลายไป

ดังนั้นเขาจึงตอบแค่ “อ้อ ไม่มีอะไร จู่ๆ ผมก็นึกขึ้นมาได้น่ะเลยลองถามดู ไม่มีอะไรแล้ว ผมวางล่ะ”

“เดี๋ยวก่อน!”

แต่จู่ๆ ปลายสายก็มีเสียงท้วงดังขึ้น “ไม่ใช่สิ นายโทรมาถามเรื่องนี้โดยเฉพาะ หรือว่าจะไปฝรั่งเศสเพื่อไปตามล่าฆาตกรที่ฆ่าพ่อฉัน! ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน! เพราะนายเห็นพี่สาวฉันกำลังจะแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิง นายจะต้องอยากหาตัวฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเราเพื่อล้างแค้นให้พี่ฉัน แล้วใช้เงื่อนไขข้อนี้มาขอพี่สาวฉันแต่งงานอีกรอบใช่ไหม?”

เย่เฉินไม่รู้จะพูดอะไร คิดไม่ถึงว่าในหัวของฉินเสี่ยวตั่ว จะผูกเรื่องอะไรแบบนี้ออกมา

แต่เย่เฉินยังไม่ทันได้ตอบ ฉินเสี่ยวตั่วก็พูดต่อ “ฉันก็จะไปด้วย ฉันจะไป! ฉันอยากรู้เรื่องของพ่อมาตลอดเลย แต่ว่าพี่เขาไม่ยอมบอก ฉันเองก็เป็นลูกสาวพ่อเหมือนกัน ฉันเองก็มีสิทธิ์จะทำอะไรเพื่อพ่อบ้าง ทำไมพี่เขาไม่ยอมบอกฉัน? เย่เฉินฉันไปฝรั่งเศสด้วยสิ?”

เย่เฉินย่อมไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว “ผมไม่ได้จะไปฝรั่งเศส อีกอย่างตอนนี้ฝนตกหนัก บินไม่ได้ ผมก็ไปไม่ได้อยู่ดี คุณคิดมากเกินไปแล้ว”

ฉินเสี่ยวตั่วโวยวาย “คุณพี่คะ ฉันเนี่ยเป็นแอร์นะ บินอยู่ทุกวัน ฝนแค่นี้ไม่ได้มีผลอะไรกับการบินหรอกเข้าใจไหม? อีกอย่างนายมีเครื่องบินส่วนตัวนี่นา!”

เย่เฉินยังคงไม่เห็นด้วย “ผมไม่ได้ไปฝรั่งเศสจริงๆ แค่นี้ล่ะ”

พูดว่าไม่ไปฝรั่งเศส แต่เย่เฉินก็เตรียมกระเป๋าสัมภาระ แล้วโทรศัพท์สั่งให้คนทางฝั่งนั้นรอจัดการให้เขา

หลิวเจิ้งคุนกลับมารายงานอย่างรวดเร็ว “ขอโทษด้วยครับคุณชาย สวี่ฉู่หมิงกับคุณฉินหงเหยียนไปพักที่บ้านเสินเฉิงเลขที่ 1 เราเข้าไปด้านในไม่ได้!”

“สวี่ฉู่หมิงต้องเล่นลูกไม้สกปรกอะไรอีกแน่ๆ ว่าถ้าไม่ใช่เจ้าของวิลล่าด้านในจะไม่ให้ใช่ไหม?” เย่เฉินตะคอก “งั้นซื้อเลยหลังหนึ่ง ดูสิว่าจะให้เข้าไหม!”

หลิวเจิ้งคุนมีสีหน้าไม่สู้ดี “ถามแล้วครับ แต่พวกเขาไม่ขาย”

“หมู่บ้านหลังนี้เป็นหมู่บ้านที่หรูหราที่สุด ดีที่สุดในเมืองเสินเฉิง หรืออาจจะถึงขั้นในประเทศเลยด้วยซ้ำไปครับ ได้ยินมาว่าพวกเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รวยๆ ในประเทศเราทั้งหมดไม่อยู่บ้านตัวเอง แต่มาซื้อบ้านที่นี่ เงื่อนไขของพวกเขาตอนนี้ก็คือต้องเป็นประธานบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์ซื้อบ้านของพวกเขา แต่พอเราแจ้งชื่อคุณชาย พวกเขาก็ปฏิเสธทันที!”

ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าสวี่ฉู่หมิงน่าจะวางแผนเอาไว้ก่อนนี้ เพื่อไม่ให้เย่เฉินได้เข้าใกล้เขา

บ้านเสินเฉิงเลขที่ 1 เป็นแหล่งรวมของอภิมหาเศรษฐีในประเทศนี้ นโยบายรักษาความปลอดภัยย่อมต้องดีเลิศ

ถ้าหากว่าสวี่ฉู่หมิงไม่ออกมา เกรงว่าคงจะจับตัวไม่ได้เลย และต่อให้ออกมา เขาเป็นคนรอบคอบย่อมต้องหอบบอดี้การ์ดมาด้วย

แล้วต่อให้จับตัวอีกฝ่ายมาได้ สวี่ฉู่หมิงก็อาจจะไม่ยอมสารภาพกับเขาว่าคนที่ฆ่าพ่อของฉินหงเหยียนคือใครกันแน่

“อาคุน นายคอยเฝ้าพวกเขาอยู่ที่นี่ ส่วนฉันกับซีกวาจะไปฝรั่งเศส”

“ฝรั่งเศส? คุณชายจะไปไกลขนาดนั้นเลยหรอครับ? แต่ว่าอีกสองวันคุณฉินหงเหยียนจะแต่งงานแล้ว อย่ากลับมาสายนะครับ”

“อืม ฉันรู้น่า”

บินไปฝรั่งเศสอย่างน้อยๆ ก็ใช้เวลาหลายสิบชั่วโมง ไปกลับใช้เวลาทั้งวัน

เย่เฉินจำเป็นต้องสืบหาความจริงให้ได้ภายในหนึ่งวัน!

ดังนั้นเย่เฉินจึงรีบไปที่สนามบิน ถือร่มแล้วเดินเข้าไปในเครื่องบินส่วนตัวของตนเอง

พวกซีกวาเองก็ตามหลังมาติดๆ

ในตอนที่ซีกวาถือร่มเดินขึ้นบันไดเพื่อขึ้นเครื่อง ทันใดนั้นเองก็มีสาวสวยขายาวในชุดแอร์โฮสเตส เดินตามมาแล้วถาม

“คุณผู้ชายคะ คุณผู้ชาย คุณจะไปฝรั่งเศสหรือเปล่าคะ? อยากได้แอร์โฮสเตสไปบริการไหมคะ? ฉันเองก็จะไปฝรั่งเศส ให้ฉันติดเครื่องไปด้วยคน ฉันทำงานให้ฟรีก็ได้ค่ะ!”