เฟิง ว่านซาน ประสบความพ่ายแพ้ในการประมูลการกุศลในครั้งนี้ห่างมองมันเพียงผิวเผินจะดูเหมือนว่าเขาจะชนะหลินฟานได้แต่ในความเป็นจริงเขาไม่ได้โชคดีอย่างนั้น
แม้ว่าเงินจํานวนเล็กน้อยนี้จะไม่มีประโยชน์สําหรับเฟิงว่านซาน แต่เฟิงว่านซานยังคงงงงวยกับกลอุบายของหลินฟานโดยคิดว่า หลินฟานจะต้องถูกเขาบดขยี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ดังนั้นเมื่อถึงช่วงการระดมทุน เฟิง ว่านซาน เป็นคนแรกที่แสดงให้เห็นว่าเขาจะบริจาคเงิน 10 ล้าน!
แม้ว่าผู้คนในที่นี้ จะเป็นคนร่ำรวย แต่ส่วนใหญ่วางแผนจะบริจาคเพียงไม่กี่หมื่นเท่านั้นหายากมากที่จะบริจาคสองสามแสนและการบริจาคหนึ่งล้านนั้นช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งกว่า
เฟิง ว่านซาน ทุ่มเงินไปหลายสิบล้าน ทุกคนก็ตกตะลึง
มันช่างหยิ่งผยองสมควรเป็นเจ้านายใหญ่ในโลกธุรกิจของหยุนเฉิง!
“บอสเฟิง สุดยอดมาก!”
“อะไรจะมั่งคั่ง และมีอํานาจ นี้เรียกแหละ ที่เรียกว่ารวย และมีอานาจ!”
“วันนี้.. พวกเราช่างไม่สาคัญจริงๆ!”
ผู้จัดงานหัวเราะหนักมาก ในฐานะผู้รับผิดชอบการระดมทุนเพื่อการกุศลครั้งนี้เหอต้าหงกล่าวว่า
“บอสเฟิงใจดี และใจกว้างจริงๆ ฉันขอบคุณบอสเฟิง สําหรับคนยากจนในหมู่บ้านบนภูเขา” เหอ ต้าหงโค้งค่านับ และพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
แต่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสุข เขาชอบ เพิ่ง ว่านซาน เศรษฐีที่ร่ำรวยและเอาแต่ใจตัวเองมาก จนในที่สุดเขาก็มีเงินที่จะซื้อสร้อยคอเพชรให้คนรักของเขาได้แล้ว!
เฟิง ว่านซาน พอใจกับปฏิกิริยาของทุกคนมาก เขาแค่ต้องการเห็นปฏิกิริยาเหล่านี้เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่ตกใจของทุกคนเขาก็ยิ้มออกมาด้วยความสนุก
จากนั้น เฟัง ว่านซานก็จ้องไปที่หลินฟาน แล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าน้องชายคนนี้จะบริจาคเท่าไหร่”
เขาบริจาคไปแล้ว 10 ล้านหยวน ถ้าหลินฟานบริจาคน้อยกว่าเขา เขาจะก้มศีรษะลงให้เขาแน่
หากหลินฟาน บริจาคมากกว่าเขาเพื่อขโมยซีน หลินฟาน จะต้องจ่ายมากกว่า 10 ล้านหยวน
ไม่ว่าอย่างไร หลินฟาน ก็ไม่สามารถหนีจากการคํานวณของเขาได้ในครั้งนี้
เฟิง ว่านซาน รู้สึกภูมิใจเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
เขาประสบความสูญเสียมากมายภายใต้หลินฟาน และครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็กลับมา
ทุกคนมองไปที่ หลินฟานพร้อมกัน เฟิง ว่านซาน ท้าทาย หลินฟานอย่างชัดเจนทุกคนสงสัยว่า หลินฟาน จะตอบสนองอย่างไร
เหอ ต้าหง ตั้งตารอคอยมันมากขึ้นไปอีก เขาได้ยินมาว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นเจ้านายใหญ่ของเทียนเสวียเอนเตอร์เทนเมนท์และเขายังเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่หลายแห่งด้วย!
ชุดสูทของเขาก็มีมูลค่านับ ล้าน!
คนผู้นี้ ต้องรวย
คนรวยชอบใบหน้า และตอนนี้ เขาถูกเฟิง ว่านซานกระตุ้น เขาคงไม่บริจาคให้น้อยกว่าเฟิง ว่านซานเป็นแน่!
คนรวยเหล่านี้ยิ่งต่อสู้ ยิ่งมีความสุข นกปากแหลม และหอยแมลงภู่ ทั้งชาวประมงก็จะเป็นผู้ชนะ
เหอ ต้าหงกําลังจะหัวเราะออกมา
เมื่อมองดูดวงตาที่ล้อเลียนของ เฟิง ว่านซาน หลินฟานรู้ดีว่า ไม่ว่าเขาจะบริจาคไปเท่าไรเฟิงว่านซานก็รู้สึกว่าตัวเขาอยู่ยงคงกระพัน
หลินฟาน พูดเบา ๆ “ผมไม่บริจาค”
อะไรนะ?
ทุกคนตกตะลึง
ไม่บริจาค?
นี่เป็นคําตอบที่ไม่คาดคิด
พวกเขาคิดว่า หลินฟาน จะบริจาคน้อยกว่า เฟิง ว่านซาน แต่ตราบใดที่เขามีมากกว่าคนที่อยู่ที่นี่ใบหน้าของเขาก็จะดูดี!
บางคนกลับคิดว่า เขาจะขโมยซีนจากเฟิง ว่านซาน และบริจาคให้มากกว่าเพิ่งว่านซาน
แต่ทุกคนไม่เคยคาดหวังว่า หลินฟาน จะไม่บริจาค
ไม่ได้ บริจาค
แม้แต่ตู้เถาก็ไม่เข้าใจหลินฟาน เหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมาที่หน้าผากของเขาต่อหน้าคนจํานวนมาก หัวหน้าใหญ่ กลับไม่บริจาคเงินสักแดงเดียว
“เหอะ! เขามันก็แค่ไก่อ่อน เจอก้อนเหล็กเข้าไปเลยไม่กล้า บริจาค!”
“เขา… ไม่กลัวเสียหน้า”
“ไม่เป็นไรถ้าไม่มีใครรู้ แต่ต่อหน้าทุกคน! มาๆ บริจาคให้มากที่สุดกัน”
บางคนส่ายหัวบางคนหัวเราะเยาะ และพวกเขาทั้งหมดดูถูกหลินฟาน
คนรวยทําหน้าเซ็งหนักมาก!
แม้เศรษฐีหลายคนจะทําเรื่องไร้ยางอาย แต่ก็แอบทํา ดูผิวเผิน ก็อาจเป็นคนมีหัวคิดไม่มีใครกล้าหน้าด้านท่าต่อหน้าทุกคนแบบนี้!
น่าเสียดายที่คนอย่าง หลินฟาน กล่าวในที่สาธารณะ ว่าเขาจะไม่บริจาคเงินไม่มีใครกล้าทําอย่างนั้น
นั่นเป็นเหตุผลที่ หลินฟาน ทําเช่นนี้ ซึ่งดูเหลือเชื่อในสายตาของทุกคน
เหอ ต้าหงกําลังสนุก แต่รอยยิ้มของเขา ก็หยุดนิ่งในเวลานี้
นี่มันบ้า อะไร!
เศรษฐีหนุ่มคนนี้ไม่เล่นไพ่ตามสามัญสํานึก!
ถ้าทุกคนไม่บริจาคเงินให้เขา เหอ ต้าหง คนนี้! จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อสร้อยคอให้แฟน!
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เฟิง ว่านซานอดหัวเราะไม่ได้ หลังจากตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง
หลินฟาน ไม่ได้บริจาคเงิน เขาไม่ได้คาดหวังว่า หลินฟาน จะเลือกตัวเลือกที่น่าอับอายที่สุดซึ่งเกินความคาดหมายของเขา
“ไม่จริง ใช่ไหม หนุ่มน้อย เธอไร้ความรักได้ขนาดนี้? เธอจะไม่บริจาคเงินให้กับพื้นที่บนภูเขาจริงๆหรือ”
เฟิง ว่านซาน เยาะเย้ยโดยตรง
มีการหัวเราะคิกคักไปทั่ว และแน่นอนว่า หลินฟาน รู้สึกเขินอาย
เมื่อแอนนาได้ยินคําพูดนี้ เธอก็รู้สึกขบขันเล็กน้อย พ่อบุญธรรมยั่วยุต่อหน้าหลินฟานและคราวนี้เธอก็เลิกคิ้วในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทําไม หลินฟาน ถึงเลือกวิธีการที่น่าอับอายเช่นนี้?
ไม่บริจาคสักหยวน?
ด้วยทรัพยากรทางการเงินของ หลินฟาน ในการซื้อวิลล่า และซื้อเกาะนั่นการบริจาค 100 ล้านควรจะเป็นเรื่องไม่กระพริบตาเสียด้วยซ้ำ
หลินฟาน ไม่ใช่คนโง่ ตรงกันข้าม หลินฟาน ดีกว่าผี เขาเลือกที่จะหลอกตัวเองได้อย่างไร?
แอนนาไม่เข้าใจหลินฟาน
ลี่ เจี้ยนหัว รู้สึกงงงวยมากในเวลานี้ โดยจําได้ว่าในการสนทนาก่อนหน้านี้หลินฟานได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าเขาจะไม่บริจาคเงินและยังแนะนําให้เขาไม่บริจาคด้วย
ถ้ากระทําอย่างเงียบๆ มันก็คงจะดีที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาไม่บริจาค แต่ตอนนี้มันวางบนหน้าเขาแล้วหลินฟานยังคงเลือกที่จะไม่บริจาคซึ่งก็ทําให้ทุกคนงง
ไม่สําคัญว่าคุณจะบริจาคเงิน ด้วยความรักหรือไม่ แท้จริงแล้วเป็นเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งหน้า!
เป็นไปได้ไหมที่ หลินฟาน ไม่เข้าใจความซับซ้อนเพียงเล็กน้อยของมนุษย์?
งงจริงๆ
ตู้เถา ได้เข้าใกล้หลินฟานแล้ว กระซิบว่า “เจ้านายใหญ่ เจ้านายใหญ่ เรามาบริจาคในนามของคุณสักหน่อยดีไหม”
ในฐานะประธานของเทียนเสวีย เขาไม่ต้องการให้เจ้านายใหญ่ของ เทียนเสวียกลายเป็นเรื่องตลก ให้ใครพูดถึงกัน
หลินฟาน ยิ้มเล็กน้อย บ่งบอกว่า เขาไม่จําเป็นต้องพูดอะไรอีก
ตู้เถาต้องยอมแพ้ ปาดเหงื่อที่เย็นเยียบ และสงสัยกับตัวเอง โดยไม่รู้ว่าเจ้านายใหญ่คิดอะไรอยู่ในใจ
อย่างไรก็ตาม หลินฟาน มองไปที่ เหอ ต้าหง ทันที และพูดว่า “คุณเหา ผมไม่บริจาคเงิน มันไม่สําคัญหรอกใช่ไหม?”
ทุกคนต่างพากันเหงื่อตก หลินฟาน ไม่จําเป็นต้องบริจาคเงิน การขอเหอต้าหงแบบนี้ค่อนข้างอาย
เหอ ต้าหงอารมณ์เสียโดยธรรมชาติ แต่บนใบหน้าของยังยิ้มอย่างใจดีและเป็นมิตร : “ไม่สําคัญหรอกคุณหลิน การมอบความรักขึ้นอยู่กับความปรารถนาของคนๆหนึ่งบริจาคมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับความรักส่วนตัวของคุณสิ่งนี้ไม่ได้บังคับใคร”
เหอต้าหงเยาะเย้ยในใจ และบอกเขาว่าไม่ต้องบริจาคเงิน และเขาจะมอบหมวกที่ไม่น่ารักนี้แก่คุณ
เมื่อเหอ ต้าหงกล่าวเช่นนี้ ทุกคนก็ดถูก หลินฟาน มากขึ้นไปอีก
เฟิง ว่านซานไม่พลาดโอกาสที่จะหัวเราะ และพูดว่า “หนุ่มน้อย ถ้านายไม่บริจาคเงิน นายมาทําอะไรที่นี่ นายมาที่นี่เพื่อกิน และดื่มเหรอ?”
ทุกคนพากันหัวเราะ
หลินฟาน เพิกเฉยต่อเฟิง ว่านซาน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเหอ ผมว่าผมจะประกาศบางสิ่งบางอย่างและเหตุใดผมถึงไม่บริจาค คงไม่เป็นไรใช่ไหม”
เหอ ต้าหง สงสัยเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เรื่อง? อะไร”
หลินฟาน เงยหน้าขึ้น และเหลือบมองผู้ชม และกล่าวว่า “เหตุผลที่ผมไม่บริจาคเงิน เพราะผมวางแผนที่จะตั้งมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุนเริ่มต้นของมูลนิธินี้จะเริ่มต้นที่ 1 พันล้านเหรียญจีน!”
หือ?
ทันทีที่ค่ากล่าวนี้ออกมา ผู้ชมก็ตกตะลึง และเงียบไป
*[นกปากแหลม และหอยแมลงภู่ ทั่งชาวประมง ก็จะเป็นผู้ชนะ] – สํานวนนี้ขอขยายความแยกเป็นส่วนๆผู้อ่านจะได้เข้าใจทันที
– นกปากแหลม เป็นคําเรียกจําพวกนกกินปลา ที่รอคอยเหยื่ออย่างใจเย็น
– หอยแมลงภู่ เป็นค่าเสียดสีของเหล่าพวกที่ชอบนินทาผู้อื่น
– ชาวประมง เป็นคําที่ใช้พูดกันในเรื่องของผู้ได้รับผลประโยชน์