บทที่ 134 เป็นเพียงคนจน!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

บทที่ 134 เป็นเพียงคนจน!

พันธมิตรพเนจร, สาขาทะเลสาบกรบจก.

เย่เทียนมาที่นี่วันนี้ เพื่อซื้อของของบางอย่าง

ทันทีที่เขาเข้ามาด้านในของพื้นที่สาขาพันธมิตรพเนจร เย่เทียนรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าเพราะในนี่แห่งนี้มีร้านค้าตั้งอยู่มากมายผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์และแม้แต่ระดับราชาก็เปิดร้านอยู่ที่นี่สมบัติมากมายวางขายเรียงรายเต็มไปหมด

สาขาพันธมิตรพเนจรยังติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่ที่ระบุถึงข้อมูลเกี่ยวกับการขายสมบัติต่างๆและหมายเลขติดต่อสําหรับใครก็ตามที่สนใจจะซื้อสมบัติต่างๆแบบส่วนตัว

“น่าสนใจ!”

เย่เทียนกวาดสายตามองหน้าจอที่เต็มไปด้วยข้อมูลสมบัติมากมายแม้แต่เทคนิครวบรวมลมปราณระดับสูงก็ยังมีขายซึ่งมันเป็นสิ่งของล้ำค่าในฐานทะเลมารมันเพียงพอที่จะเป็นทักษะลับ อันล้ำค่าของตระกูลแต่ที่นี่กลับตั้งขายได้ตามใจชอบ

ทันใดนั้นเย่เทียนก็ถอนหายใจกับความแตกต่างระหว่างฐานทัพขนาดใหญ่และฐานทัพระดับสุดยอด

เย่เทียนเดินไปรอบๆและซื้อวัตถุดิบบางอย่างสําหรับการสร้างค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสงเขาต้องการสร้างมันโดยเร็วที่สุดมิฉะนั้นความเร็วในการบ่มเพาะของเขาจะช้าลงอย่างมาก

พลังปราณปฐมแห่งสวรรค์และปฐพี่ของฐานระดับสุดยอดนั้น สูงกว่าฐานทะเลมารหลายเท่าหากสร้างค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูงขึ้นมาความเร็วในการบ่มเพาะของเขาอาจเพิ่มขึ้นถึงหก เท่า

เมื่อซื้อของที่ต้องการแล้ว เย่เทียนก็ใช้พรสวรรค์ในการคัดลอกปกคลุมรัศมี 1,500 เมตรเดิมที่มันมีระยะ 1,000 เมตร แต่หลังจากเลื่อนขั้นเป็นระดับราชาแล้วขอบเขตมากขึ้น

500 เมตรถือเป็นเรื่องดีสําหรับเขา

“พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้น!”

“พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้น!”

“พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุด!”

“พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูง!”

เย่เทียนตรวจสอบผู้คนจํานวนไม่น้อย และพบว่ามีผู้ที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นอยู่ไม่น้อยประมาณ 10% และพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุด 60% ซึ่งแสดงให้เห็นถึง รากฐานศักยภาพของผู้คนในฐานทัพระดับสุดยอด

แต่เห็นได้ชัดว่าแม้แต่ในฐานจงไห่พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดารานั้นหาไม่ง่ายนัก
“พบแล้ว!”

ในที่สุดเย่เทียนก็พบผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดารา เขาเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งภายในพันธมิตรพเนจรซึ่งเขาน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของพันธมิตรพเนจร

บางทีเขาอาจจะมีระดับที่สูงกว่าระดับราชา!

“คัดลอก!”

เย่เทียนไม่พูดพร่ําทําเพลง เขาคัดลอกพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราของอีกฝ่ายโดยไม่ลังเล

ทั่วทั้งพื้นที่สาขาของพันธมิตรพเนจรมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราคนเดียวเท่านั้นเย่เทียนไม่พบผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราคนที่สองอีกเลย

หลังจากนั้นไม่นาน เย่เทียนก็แลกเปลี่ยนวัตถุดิบบางอย่างและได้เงินมาไม่น้อย

แต่เย่เทียนไม่ต้องการเงินมากนัก ของบางอย่างไม่ใช่สิ่งที่เงินจะซื้อได้ ยกตัวอย่างเช่นของล้ำค่าบางสิ่งในพันธมิตรพเนจรต้องการแลกด้วยสิ่งที่มูลค่าเท่าเทียมกันใช้เงินซื้อของพวกนั้นไม่ได้ดังนั้นการมีเงินเยอะไปมันก็เปล่าประโยชน์

“ฉันสงสัยว่าจะมีสมบัติที่สามารถยกระดับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะให้กลายเป็นระดับหลุดพ้นในพันธมิตรพเนจรหรือไม่?”

เย่เทียนพึมพํา

เขาต้องการที่จะซื้อสมบัติดังกล่าวให้น้องสาวของเขา เพื่อให้น้องสาวของเขาสามารถบรรลระดับราชาได้อย่างง่ายดาย

หลังจากค้นหาอยู่นานเย่เทียนก็พบมันจริงๆ

[หลิวเส้นเหลว: สามารถยกระดับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะของผู้ฝึกยุทธให้กลายเป็นนระดับหลุดพ้นได้ข้อกําหนดในการซื้อขาย: ต้องการสมบัติที่สามารถมอบพรสวรรค์ด้านเปลวเพลิงระดับกลางให้แก่ปรมาจารย์ได้]

มันเป็นข้อมูลการทําธุรกรรมแต่คําขอของฝ่ายตรงข้ามนั้นสูงเกินไป

“สมบัติที่มอบพรสวรรค์เปลวเพลิงระดับกลางให้กับระดับปรมาจารย์นั้นหายากมากฉันไม่เคยเห็นมันมาก่อนแต่อย่างน้อยมันก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามีสมบัติที่สามารถยกระดับพรสวรรค์ของผู้ฝึก ยุทธได้ถึงระดับหลุดพ้นอยู่ในฐานจงไห่ซึ่งมันสามารถแลกเปลี่ยนได้ ดังนั้นเรายังมีความหวัง!”เย่เทียนลอบคิดกับตัวเอง

หลังจากนั้น

เย่เทียนก็ตรวจสอบเทคนิครวบรวมลมปราณระดับสูงอีกเล็กน้อย แต่เงื่อนไขในการซื้อขายนั้นสูงเกินไปเขายังไม่มีสิทธิ์ซื้อมันได้

นอกจากนี้พันธมิตรพเนจรยังมีการแลกเปลี่ยนสมบัติต่างๆที่ช่วยในการทะลวงจุดชีพจรได้แต่ราคาของมันสงอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถซื้อได้และยิ่งกว่านั้นบางคนยังตั้งเงื่อนไขแลกเปลี่ยนกับวัตถุดิบคุณภาพสูง

ตอนแรกเย่เทียนคิดว่าตัวเขานั้นค่อนข้างมั่งคั่ง แต่หลังจากอ่านข้อมูลการซื้อขายต่างๆที่สมาคมพเนจรเขาถึงได้รู้ว่าตัวเองยากจนแค่ไหน

หลังจากออกจากสาขาของพันธมิตรพเนจรเย่เทียนก็กลับบ้านทันที

เมื่อกลับมาถึงบ้านเย่เทียนก็เริ่มสร้างค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูง

หลังจากใช้เวลาหลายวัน เขาก็สามารถจารึกค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูงได้สําเร็จในที่สุดเย่เทียนก็ครอบครองห้องฝึกฝนระดับสูงที่ฐานจงไห่

“ตอนนี้เรายังไม่สามารถบ่มเพาะได้ เราจะต้องใช้โอกาสคัดลอกให้หมดก่อน เราต้องคัดลอกพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราอีกครั้งก็จะสามารถยกระดับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะให้กลายเป็นระดับจันทราได้ฐานจงไห่มีผู้แข็งแกร่งมากมายดังนั้นคงไม่ขาดแคลนผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราใช่ไหม? ”

เย่เทียนครุ่นคิด

เมื่อคิดดังนั้นเขาจึงออกจากบ้านและเริ่มค้นหาพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดารา

ฐานทัพระดับสุดยอดมีขนาดใหญ่มาก มันใหญ่พอๆกับจังหวัดบางจังหวัดเมื่อ100ปีก่อนดังนั้นด้วยระยะ 1,500 เมตรของพรสวรรค์คัดลอกจึงไม่สามารถหาผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราได้ไม่ใช่เรื่องง่าย

ทันใดนั้น

เย่เทียนได้ยินเสียงอึกทึกดังขึ้น

“ไปดูกัน เทพธิดาแสงจันทร์จากนิกายเทพจันทราและอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของชาวฉันฉันเหอกลังจะประลองกันแล้วที่สนามประลองของเขตทะเลสาบกระจก”

“เทพธิดาแสงจันทร์จะประมือกับนายน้อยฉินเหอ? นี่เป็นเรื่องใหญ่ พวกเรารีบไปกันได้แล้วอย่ามัวแต่เสียเวลาเดี๋ยวจะไม่ทันดูการประลอง!”

“เทพธิดาแสงจันทร์ อ้ากกกก ท่านเทพธิดาของฉัน ฉันเองก็ต้องไปดูเช่นกันยิ้มท่านเทพธิดาของฉันจะต้องชนะอย่างแน่นอน!”

“เทพธิดาแสงจันทร์? ฉันเหอ?”

เย่เทียนรู้สึกสนใจ แน่นอนว่าเขาไม่ได้สนใจจะไปชมสาวงามแต่สนใจพรสวรรค์ของพวกเขาทั้งสองคนเหล่านี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะได้แน่นอนว่าพรสวรรค์ของพวกเขาต้องสูง

ดังนั้นเย่เทียนจึงตามฝูงชนไปทันที

ไม่นานเขาก็มาถึงสนามประลอง!

สนามประลองนี้เป็นเขตของกลุ่มทหารรับจ้างขวานสงคราม มันมีไว้สําหรับการต่อสู้เท่านั้นหากเกิดความขัดแย้งขึ้นก็สามารถแก้ไขได้ที่นี้

หากต้องการประลองเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งจําเป็นจะต้องต่อสู้ในสนามประลองเท่านั้น

หากใครก็ตามที่ลงมือในสถานที่อื่นคนผู้นั้นจะถูกลงโทษ มันมีกฎฐานทะเลมาร

ถึงอย่างไรจํานวนมนุษย์ก็ยังสู้สัตว์อสูรไม่ได้ หากเข็นฆ่ากันเองมนุษย์ก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะสัตว์อสูรได้ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยฐานทัพจงไห่จึงเข้มงวดกับเรื่องนี้มากแม้กระทั่งการลอบสังหารก็ไม่สามารถทําได้

เมื่อเดินเข้าไปในสนามประลอง เย่เทียนก็เห็นชายหนุ่ม และหญิงสาวที่กําลังประลองฝีมือกันในสนามประลอง

สนามประลองแห่งนี้ถูกป้องกันด้วยโล่พลังปราณป้องกันขนาดใหญ่นี่เป็นค่ายกลป้องกันแม้ว่าหนุ่มสาวทั้งสองจะมีตารางการบ่มเพาะระดับราชาแต่ก็ไม่สามารถทําลายการป้องกันนี้ได้

ดังนั้นผู้ชมจึงไม่ได้รับผลกระทบ

“ตรวจสอบ!”

สายตาของเยเทียนจับจ้องไปที่พรสวรรค์ของทั้งสองคน

ชาวฉัน: ฉันเหอ

พรสวรรค์ในการบ่มเพาะ: หลุดพ้น

พรสวรรค์ด้านความแข็งแกร่ง: ระดับสูง

พรสวรรค์ในการต่อสู้: ปานกลาง

พรสวรรค์ด้านหอก: ปานกลาง

มนุษย์: หลี่เย่วหลิง

พรสวรรค์ในการบ่มเพาะ: ดารา

พรสวรรค์เทพจันทรา: ปานกลาง

พรสวรรค์ในเพลงดาบ: สูงสุด

พรสวรรค์ม่านน้า: ระดับเริ่มต้น

“ฉันเหอเป็นเพียงผู้มีพรสวรรค์ระดับหลุดพ้น?”

เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยตอนแรกเขาคิดว่าพรสวรรค์ของทั้งสองคนจะมีระดับพอพอๆกัน แต่ใครจะคิดว่าคนหนึ่งมีพรสวรรค์ระดับหลุดพ้นและอีกคนมีพรสวรรค์ระดับดาราความแตกต่างระหว่างพรสวรรค์นั้นกว้างเกินไป

แต่ไม่นานเย่เทียนก็เข้าใจเหตุผล

เหตุผลหลักก็คือพรสวรรค์ด้านการโจมตีของฉันเหอนั้นแข็งแกร่ง เขามีพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับสูงที่สามารถเทียบซ้อนทับกับพรสวรรค์ด้านหอกระดับกลางได้ทําให้ความสามารถในการต่อสู้ของเขาสามารถบดขยี้ระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย

นี่ก็คือส่วนที่จะปกปิดข้อบกพร่องในการบ่มเพาะของเขาทําให้เขาถูกเรียกว่าอัจฉริยะ