ตอนที่ 67 สุภาพบุรุษยอมตายไม่ยอมเสียเชิง

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

อันซย่าซย่าส่ายหน้าอย่างจริงจังพลางกัดเล็บ “ฉันไม่มีความหวังอื่นแล้วนอกจากโอปป้าหรงเช่อ” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อสาบานเลยว่าสักวันหนึ่งเธอคงทำให้เขาเส้นเลือดในสมองแตก 

 

 

“ยัยโง่!” 

 

 

“ดูถูกฉันอีกแล้วนะ! เซิ่งอี่เจ๋อเรามาดวลกันอย่างลูกผู้ชายเลย! สุภาพบุรุษยอมตายไม่ยอมเสียเชิง!” หญิงสาวถลกแขนเสื้อขึ้น อันซย่าซย่าก้าวขึ้นไปบนแปลงดอกไม้ซึ่งเธอสามารถใช้มันเป็นฐานเพื่อให้ได้เปรียบเรื่องความสูงและก้มลงมองเซิ่งอี่เจ๋อ 

 

 

ชายหนุ่มยิ้มอย่างล้อเลียน ถึงตอนนี้อันซย่าซย่าจะสูงกว่าเขา แต่นั่นไม่ได้ส่งผลอะไรต่อท่าทางสง่าผ่าเผยของเขาเลยสักนิด เธอกลับเป็นฝ่ายที่ต้องล่าถอย 

 

 

“รู้แล้วว่าเก่งสุภาษิต เพราะงั้นข้อสอบวิชาภาษาจีนก็อย่าให้กระดาษว่างล่ะ!” เซิ่งอี่เจ๋อเดินโกรธๆ จากไปหลังจากเตือนเธอ 

 

 

ฉีเหยียนซีเฝ้าดูปฏิสัมพันธ์ของทั้งคู่ 

 

 

งั้น… เขาคาดการณ์ได้อย่างถูกต้อง เด็กสาวคนนี้เป็นคนพิเศษสำหรับเซิ่งอี่เจ๋อ… 

 

 

ความสามารถในการทำให้คนไร้ความรู้สึกอย่างเซิ่งอี่เจ๋อรำคาญใจได้นั้น เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นพลังพิเศษเชียวละ 

 

 

เด็กหนุ่มเดินเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ เมื่ออันซย่าซย่าหันกลับมาเห็นเขาเข้า สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เธอรีบกระโดดลงจากแปลงดอกไม้ก่อนจะรีบวิ่งหนีไป 

 

 

ฉีเหยียนซีเบ้ปาก— จำเป็นต้องทำท่าเหมือนลูกนกขี้ตกใจขนาดนั้นเชียวเหรอ 

 

 

เขาออกจะเป็นคนน่ารัก ทำไมเธอถึงได้วิ่งหนีเขาอย่างนั้นล่ะ 

 

 

เมื่อเหลือบมองไปยังทิศทางที่เธอวิ่งไป มุมปากเขาก็กระตุกแรงขึ้นไปอีก 

 

 

เอาจริงน่ะ แม่คนนั้นวิ่งหนีเข้าห้องน้ำผู้หญิงเลย 

 

 

เธอคิดว่าว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่คิดทำร้ายผู้หญิงหรือยังไงกัน 

 

 

ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย สำหรับอันซย่าซย่าแล้วเขาเทียบได้กับตัวอันตรายร้ายแรงเลยทีเดียว 

 

 

หญิงสาวซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำจนกระทั่งใกล้จะเริ่มสอบวิชาถัดไป นั่นเองเธอจึงละล้าละลังเดินออกมาและกลับไปเข้าห้องสอบ 

 

 

คราวนี้ดูเธอจะรับมือกับฉีเหยียนซีได้ดีขึ้น และอันซย่าย่าสามารถทำข้อสอบได้ตามปกติ 

 

 

เธอตอบได้ทุกคำถาม ตรวจทานคำตอบ ก่อนจะส่งกระดาษข้อสอบ 

 

 

ด้านนอกห้อง คังเจี้ยนและซูเสี่ยวมั่วยืนรอเธออยู่แล้ว— ทั้งสามคนไม่ได้สอบห้องเดียวกัน 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วสอบได้อันดับสูงสุดในจำนวนทั้งสามคน ดังนั้นจึงเข้าใจได้ว่าเธอจะส่งข้อสอบก่อนใครเพื่อน แต่ทำไมคังเจี้ยนคนหัวทึบถึงได้ส่งข้อสอบก่อนเหมือนกันล่ะ 

 

 

“ว้าว คังเพี้ยน สอบเสร็จไวเชียวนะ! ข้อสอบกากบาทตอบอะไรบ้างน่ะ” อันซย่าซย่าถามอย่างอยากรู้ 

 

 

คังเจี้ยนเกาศีรษะตัวเอง “จำไม่ได้หรอก ฉันโยนลูกเต๋าเสี่ยงทายคำตอบเอาน่ะ!” 

 

 

อันซย่าซย่า : “…” 

 

 

“อย่าไปสนใจเขาเลย ตรงนี้เขาไม่ปกติน่ะ” ซูเสี่ยวมั่วชี้ไปที่ขมับของเธอจากนั้นจึงลากตัวอันซย่าซย่าไปทานข้าวเที่ยง คังเจี้ยนร้องตามทั้งสองสาวไปพลางกล่าวหาว่าซูเสี่ยวมั่วขโมยตัวหวานใจวัยเด็กของเขาไป 

 

 

เมื่อเซิ่งอี่เจ๋อรวบรวมข้าวของแล้วเดินออกมา เขาก็เจอกับเรื่องที่ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากนั่นคืออันซย่าซย่าหายตัวไปเสียแล้ว 

 

 

ยัยจิ๋วจอมซื่อบื้อเอ๊ย 

 

 

ฉีเหยียนซีเดินฮัมเพลงตามหลังเขาออกมา “เซิ่งอี่เจ๋อ เมื่อไหร่จะสะสางบัญชีกับฉันสักที ตอนนั้นนายยังติดหนี้ฉันอยู่นะ…” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อขัดจังหวะเขากลางคันก่อนที่จะทันได้พูดจนจบประโยค “ขอโทษนะ แต่ฉันไม่คิดว่าเรารู้จักกันดีจนถึงขั้นจะคุยเล่นกันได้” 

 

 

ฉีเหยียนซีคาดไม่ถึงจากนั้นก็หัวเราะอย่างโกรธๆ “นายต้องเป็นอะไรสักอย่างแน่ๆ เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันเห็นว่านายไม่ได้เป็นแค่นักร้องดัง แต่ยังเป็นนักแสดงชั้นเยี่ยมด้วย…” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่ใส่ใจถ้อยคำประชดประชันของเขา ชายหนุ่มเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋าและเดินผละไป 

 

 

ฉีเหยียนซีไม่พอใจก่อนจะตะโกนไล่หลังเขา “นายหนีฉันไม่ได้หรอก! รอดูไปเถอะ เราจะได้เจอกันอีกในไม่ช้านี้! ฉันจะทำให้นายต้องชดใช้ทุกอย่างที่ติดค้างฉันไว้!” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อชะงักเล็กน้อยกับคำพูดเหล่านั้น แต่แล้วก็เดินต่อไปด้วยจังหวะคงเดิมจนลับตาไป 

 

 

ฉีเหยียนซีฮีดฮัดด้วยความโมโห เขากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดบนหลังมือปูดนูนขึ้นมา 

 

 

หลี่ชั่นซิงบังเอิญเดินผ่านมาในจังหวะนั้นพอดี เธอหยุดในทันทีที่เห็นฉีเหยียนซี 

 

 

ทำไม… เขากลับมาแล้วหรือ