บทที่ 136 หอคอยเทพสงคราม! สามรายการใหญ่!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

บทที่ 136 หอคอยเทพสงคราม! สามรายการใหญ่!

หอคอยเทพสงคราม

ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ส่วนกลางซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของฐานจงไห่ หอคอยเทพสงครามที่สูงถึง 1,000 เมตร มีสีทองปลดปล่อยคลื่นพลังพิเศษบางอย่างออกมาเป็นระลอก

ลบรอบหอคอยเทพสงครามในระยะ10 ไมล์ไม่สามารถบินได้ไม่สามารถบินได้ แม้ว่าระดับราชาจะมาที่นี่ ก็ทําได้เพียงเดินเข้าประตูหอคอยเทพสงครามไปอย่างว่าง่ายเท่านั้น

ด่านนอกของหอคอยเทพสงครามมีหน้าจอขนาดใหญ่ซึ่งปรากฏข้อมูลอยู่สามรายการ

“ประกาศรายชื่อระดับราชา!”

“ประกาศรายชื่อระดับศักดิ์สิทธิ์!”

“ประกาศรายชื่อระดับจักรพรรดิ!”

มีผู้คนจํานวนไม่น้อยที่คอยเฝ้ามองรายชื่อนี้อยู่ตลอดเวลา นี่เป็นหนึ่งในความสนุกของพวกเขา หากมีผู้มาใหม่เข้ามาพวกเขาก็จะวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด หรือบางทีมีชื่อของผู้ติด

อันดับบางคนหายไป ก็จะทําให้เกิดการพูดคุยในหมู่พวกเขาเช่นกัน

ท่ามกลางฝูงชน เย่เทียนเองก็กําลังดูรายชื่อนี้อยู่

“อันดับราชา อันดับ 1: ง้าวโลหิตวายุ (หอทหารรับจ้างขวานสงคราม), พลังการต่อสู้ระดับ 7 ดาว!”

“อันดับราชา อันดับสอง ฉินจ้านเทียน (ฉินจง) พลังการต่อสู้ระดับ 7 ดาว!”

ชื่อของอัจฉริยะปรากฏอยู่ในรายชื่อราชา และอันดับต้นๆคือสามกองกําลังใหญ่ได้แก่หอ

ทหารรับจ่างขวานสงคราม ฉินจง และวิหารเทพมนต์ด่า

แม้ว่าหอทหารรับจ้างขวานสงครามจะเป็นองค์กรอิสระแต่นั้นเป็นเพียงภายนอกเท่านั้น หอทหารรับจ้างขวานสงครามที่แท้จริงก็รับศิษย์และฝึกฝนสมาชิกหลักของพวกเขาเช่นกัน

คนที่เข้าร่วมกับหอทหารรับจ้างเป็นเพียงกองกําลังรอบนอก ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นทหารรับจ้าง

ไม่ใช่คนของหอทหารรับจ้างขวานสงคราม มิฉะนั้นคนของฐานทัพจงไห่ทั้งหมดคงจะกลายเป็นคนของหอขวานสงครามไปแล้ว ทุกคนคือศิษย์ของหอทหารรับจ้างขวานสงคราม? แน่นอนเป็นไปไม่ได้

พันธมิตรพเนจรและลูกหลานของตระกูลใหญ่บางคนก็อยู่ในรายชื่อนี้เช่นกัน เนื่องจากในหมู่ผู้ฝึกยุทธพเนจรและตระกูลใหญ่ต่างก็มีอัจฉริยะอยู่ไม่น้อย

“ประกาศอันดับของระดับศักดิ์สิทธิ์!

เย่เทียนมองไปที่อันดับของระดับศักดิ์สิทธิ์ การที่จะเข้าสู่อันดับของระดับต่างๆได้นั้นส่วนใหญ่ เป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราหรือสูงกว่า แต่เย่เทียนสนใจผู้มีพรสวรรค์ใน

การบ่มเพาะระดับจันทรา

“อันดับของระดับศักดิ์สิทธิ์มีเพียง 100 คนเท่านั้น!”

เย่เทียนคิดกับตัวเอง

การจัดอันดับราชาไม่จํากัดจํานวน มีผู้เข้ารับการทดสอบระดับราชานับพันคน และรายชื่อทั้งหมดต่างมีระดับ 3 ดาราขึ้นไป

ทันใดนั้น

ชื่อบนประกาศอันดับของระดับศักดิ์สิทธิ์ดึงดูดความสนใจของเย่เทียน “สุ่ยเชียนเย่ว! อันดับที่ 8 ของอันดับระดับศักดิ์สิทธิ์!
“เป็นนาง!”

เย่เทียนหวนนึกถึงค่าสาบานในหอคอยค่ายกลซางเหอที่ฐานทัพทะเลมาร ราชาซางเหอขอให้ผู้อื่นที่ยอมรับมรดกของเขาต้องสาบานว่าจะฆ่าสุ่ยเชียนเย่วให้ได้ ภายในสิบปี

“ราชาซางเหอบ้าไปแล้วหรือ? ฆ่าผู้ฝึกยุทธระดับศักดิ์สิทธิ์ภายใน 10 ปี และยังเป็นยอดฝีมือระดับศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 8 ในทําเนียบผู้ฝึกยุทธระดับศักดิ์สิทธิ์ จะมีคนจากฐานทะเลมารซักกี่คนที่ทําได้? หากเราตัดสินใจสาบานเมื่อตอนนั้น คงไม่แคล้วต้องตายอย่างแน่นอน!”

เย่เทียนหัวเราะ

อย่างไรก็ตาม เขาคาดเดาได้ว่าเมื่อราชาซางเหอกลับไปที่ฐานทัพทะเลมาร สุ่ยเชียนเย่วน่าจะยังอยู่ในระดับราชา แต่หลายปีผ่านไป สุ่ยเชียนเย่ว ไม่เพียงแต่เขาก้าวเข้าสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นอันดับที่แปดของระดับศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย

เพียงไม่นาน

เย่เทียนไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้อีกต่อไป เขามองไปที่รายการอื่น

ตอนนี้เย่เทียนรู้เกี่ยวกับระดับศักดิ์สิทธิ์แล้ว และรู้ว่าระดับถัดจากระดับศักดิ์สิทธิ์คือระดับจักรพรรดิ

ใครก็ตามที่บรรลุขอบเขตจักรพรรดิจะถูกเรียกว่าจักรพรรดิ์

จักรพรรดิ์สามารถสร้างกองกําลังระดับสูงได้ เช่น พันธมิตรพเนจร วิหารเทพมนต์ดําฉินจง

หรือหอทหารรับจ้างขวานสงคราม

กองกําลังเหล่านี้ล้วนมีผู้ฝึกยุทธในขอบเขตจักรพรรดิคอยควบคุมอยู่

ระดับจักรพรรดินั้นหมายถึงความแข็งแกร่งของกองกําลังและหอทหารรับจ้างขวานสงครามก็มี

ระดับจักรพรรดิมากที่สุดจึงเป็นขุมกําลังที่แข็งแกร่งที่สุด นี่จึงเป็นกองกําลังอันดับหนึ่งของฐานทัพจงไห่

ในฐานจงไห่นี้มีจักรพรรดิไม่มากนัก เพียง 36 คนเท่านั้น

ทั้ง 36 คน ตามถูกเรียกขานกันว่า 36 จักรพรรดิแห่งฐานทัพจงไห่ โดยผู้ที่สามารถทะลวงผ่านระดับจักรพรรดิได้สําเร็จคนล่าสุดก็เมื่อ 3 ปีก่อน

อันดับที่ 1 ใน 36 จักรพรรดิก็คือจักรพรรดิขวานสงคราม และเขายังเป็นผู้ก่อตั้งหอทหารรับจ้างขวานสงคราม

“ระดับจักรพรรดิ์ ฉันจะบรรลุถึงระดับนี้ให้ได้!”

เย่เทียนก๋าหมัดแน่นและแสดงความมั่นใจออกมา

เมื่อเดินเข้าไปในหอคอยเทพสงคราม ร่างเงาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเย่เทียน ในขณะที่คนอื่นๆดูเหมือนจะมองไม่เห็นมัน และเขาเองก็ยังเห็นคนอื่นๆกําลังพูดคุยกับอากาศที่ว่างเปล่า

“น่าจะเป็นภาพมายาที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน” เย่เทียนเดา

ร่างเงาเอ่ยขึ้นมาว่า “ข้าคือหนึ่งในวิญญาณศาสตราวุธนับร้อยล้านของหอคอยเทพสงคราม

ตรวจพบว่าเจ้าไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกหอคอยเทพสงคราม เจ้าต้องการสมัครสมาชิกหรือไม่? เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถเข้ามาท้าทายหอคอยเทพสงครามได้

“วิญญาณศาสตราวุธ?”

เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นี่ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในนิยายหรอกหรือ? โลกแห่งความเป็นจริงก็มีด้วยเหรอ?

แต่พอนึกถึงยุคสมัยนี้กับโลกเซียนแฟนตาซีในนิยายมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย การจะมีวิญญาณเช่นนี้ก็คงจะเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนถึงได้รู้สึกแบบนี้

“ตกลง ผมจะลงทะเบียน!”

เย่เทียนพยักหน้า

ไม่นานวิญญาณศาสตราวุธก็ส่งแบบฟอร์มการลงทะเบียนให้เย่เทียน และเย่เทียนก็กรอกข้อมูลทีละช่อง

ชื่อ: เย่เทียน

สายพันธุ์มนุษย์: มนุษย์ยุคใหม่

ระดับการบ่มเพาะ: ระดับราชา

กองกําลัง: พันธมิตรพเนจร

การลงทะเบียนนั้นง่ายมาก ไม่ได้บังคับให้กรอกถึงความลับใด ๆ หากแบบฟอร์มลงทะเบียนนี้ บังคับตรวจสอบพรสวรรค์ในการบ่มเพาะ เย่เทียนคงต้องล้มเลิกความตั้งใจในการเข้าท้าทาย

หอคอยเทพสงคราม

ทันใดนั้น

แสงบางอย่างกพุ่งเข้าไปในข้อมือขวาของเย่เทียน และปรากฏตราประทับแปลกประหลาดขึ้น

“นี่คือตราประทับเทพสงคราม สามารถสื่อสารกับตราเทพสงครามด้วยพลังจิตเจ้าสามารถตรวจสอบอันดับและคะแนนของตัวเองได้”

อันดับและคะแนน!

“คะแนน?” เย่เทียนถามอย่างสงสัย “คะแนนคืออะไร?”

เย่เทียนมีข้อมูลในหัวเพียงแค่นี้เท่านั้น สารานุกรมพื้นฐานที่เขาอ่านมาก่อนหน้านี้ไม่มีคําแนะนําใดๆเกี่ยวกับหอคอยเทพสงคราม ดังนั้นไม่แปลกที่เขาจะไม่รู้!

วิญญาณศาสตราวุธกล่าวตอบอย่างอดทนว่า “คะแนนเป็นรางวัลพิเศษของหอคอยเทพสงคราม คะแนนเริ่มต้นของราชาแต่ละระดับคือ 0 หอคอยเทพสงครามมีทั้งหมด 33 ชั้น การผ่านการท้าทายแต่ละชั้นจะได้รับคะแนนเป็นรางวัล ยกตัวอย่างเช่นเมื่อผ่านชั้นที่ 1 จะได้รับ 1 คะแนน เมื่อผ่านชั้นที่ 2 จะได้รับ 2 คะแนน ทุกครั้งที่ผ่านหนึ่งชั้น รางวัลจะเป็นสองเท่า… เจ้าสามารถใช้คะแนนเหล่านี้เข้าสู่หอคอยเทพสงครามเพื่อทําความเข้าใจกับศิลาจารึกเทพสงครามได้ ศิลาเทพ สงครามสามารถช่วยให้เข้าใจเจตนาดาบเจตจํานงกระบี่ หรือแม้แต่ความลึกลับของพรสวรรค์ และยังช่วยทะลวงจุดชีพจรอีกด้วย และเมื่อถึงราชาระดับ 6 ดาราแล้ว ของรางวัลที่เจ้าได้จะยิ่งน่าตกใจมากขึ้นจะยิ่งตกใจมากขึ้น”

“ศิลาเทพสงคราม!!!!”

ทันใดนั้นเย่เทียนก็นึกถึงแผ่นศิลาแห่งการรู้แจ้งที่เขาเจอในโลกของสัตว์อสูร บางทีทั้งสอง

อย่างอาจเป็นสมบัติประเภทหนึ่ง

– เมื่อคิดถึงประโยชน์ของศิลาแห่งการรู้แจ้ง เย่เทียนก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

ตอนแรกเขาคิดว่าไม่มีทางที่จะมีโอกาสทําความเข้าใจด้วยศิลาแห่งการรู้แจ้งอีกครั้ง แต่ไม่คิดว่าเขาจะได้พบกับสมบัติล้ําค่าอย่างศิลาจารึกเทพสงครามเร็วขนาดนี้

“คะแนน ฉันต้องได้คะแนน!”

เย่เทียนพูดอย่างตื่นเต้น

แน่นอน

เขายังไม่ลืมจุดประสงค์ในการมายังหอคอยเทพสงครามของเขา เขานั้นต้องการมองหาพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทรา หรือพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมอื่นๆ

แต่ทันใดนั้น

เย่เทียนรู้สึกสับสนเล็กน้อย พรสวรรค์ในการคัดลอกพรสวรรค์ของเขาไม่สามารถตรวจสอบ พรสวรรค์ของคนอื่นในหอคอยเทพสงครามได้ ราวกับว่ามีพลังบางอย่างปิดกั้นเขาและพรสวรรค์

ในการคัดลอก

มันไม่ได้ถึงกับปิดกั้นทั้งหมด แต่พลังนี้เหมือนจํากัดขอบเขตพรสวรรค์ในการคัดลอกของเย่

เทียนให้เหลือแค่ระยะสามเมตรเท่านั้น

เย่เทียนยังคงตรวจสอบพรสวรรค์ได้

แต่จะมีสักกี่คนที่เขาสามารถตรวจสอบได้ในระยะ 3 เมตร?

“ช่างมันเถอะ เราแค่ดักรอหน้าประตู และค่อยตรวจสอบพรสวรรค์ดูทีละคนก็พอแล้ว!”

เย่เทียนคิด

ดังนั้น

เขาจึงต้องการท้าทายออกคอยเทพสงครามเพื่อได้รับคะแนนในทันที

“วิญญาณศาสตราวุธ ข้าต้องการจะท้าทายชั้นแรกของหอคอยเทพสงคราม!

เย่เทียนกล่าว

“ตามข่ามา!”

วิญญาณศาสตราวุธนําทางเย่เทียนไปยังห้องหนึ่ง ภายในมีของคล้ายหมวกกันน็อควางอยู่

เมื่อเย่เทียนเข้ามาในห้อง ประตูก็ปิดลงไม่มีใครสามารถรบกวนเขาได้

“เมื่อสวมหมวก จิตวิญญาณของเจ้าจะเข้าสู่ชั้นแรกของโลกเสมือนจริง ที่นั่นเจ้าจะได้พบกับฝ่ายตรงข้าม ขอเพียงเจ้าสามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ก็จะสามารถผ่านชั้นแรกและได้รับ 1

คะแนนทันที!”

วิญญาณศาสตราวุธกล่าว

เย่เทียนนั่งลงและสวมหมวกกันน็อค

รูป!!!

สิ่งแวดล้อมโดยรอบค่อยๆเปลี่ยนไปแสงสว่างเจิดจ้าปรากฏขึ้นในจิตใจของเย่เทียน เมื่อแสงสว่างหายไป เย่เทียนก็พบว่าตัวเองนั้นได้มาถึงพื้นดิน