บทที่ 192 จ้าวแห่งเกาะสุขาวดีทําลายล้างยมโลก!
“จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี ในตอนที่เจ้าไปถึงเขตแดนของเราแล้วจะมานึกถึงมด ไม่กี่ตัวในพิภพนี้ทําไมกัน? มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะเข้าสู่แดนนิรันดร์คือการร่วมมือกับพวกเรา
เรายินดีที่จะแบ่งปันความลับในการเข้าสู่แดนนิรันดร์ให้กับเจ้า นี่คือข้อมูลที่
ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณในพิภพไม่เคยรู้มาก่อน และมันมีค่ามาก”
สิ่งมีชีวิตโบราณในยมโลกอีกคนพูดเกลี้ยกล่อม
“โอ้ ความลับสู่นิรันดร์งั้นรึ?”
ฉินมู่อดไม่ได้ที่จะขํา
เขาได้ก้าวไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์แล้ว แต่ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณ เหล่านี้ยังคิดว่าเขาพยายามจะก้าวไปสู่เขตแดนนิรันดร์ มันช่างน่าขันเสียจริง
ตอนนี้ฉินมู่ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร เขาต้องการฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
แน่นอนว่า เมื่อเห็นว่าฉินมู่ไม่ได้ตั้งใจที่จะลงมือ เจ้าของเสียงก็ดูเหมือนจะ โล่งใจโดยคิดว่าจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีรู้สึกประทับใจ และเพื่อแสดงความจริงใจเขาจึงรีบพูดว่า:
“จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี ข้ารู้ถึงเขตแดนพลังยุทธ์สูงสุดของเจ้า และข้าคิดว่าเจ้า ได้ก้าวไปถึงเขตแดนที่เหนือกว่าเขตแดนพลังยุทธ์ระดับสุดยอดในตํานานแล้ว
แต่เจ้าก็ยังอยู่ในพิภพแห่งนี้ ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่สามารถทะลุผ่านกรงของพิภพ นี้และเข้าสู่แดนนิรันดร์ได้ใช่หรือไม่?”
“ใช่แล้ว นี่เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อัน ยาวนานในยมโลกของข้า หากเจ้าต้องการทําลายความหดหู่ของจักรวาลนี้และ เข้าสู่แดนนิรันดร์ เจ้าต้องมีสิ่งมีชีวิตที่มีพลังยุทธ์เหนือกว่าระดับสุดยอดสามคนเพื่อทําลายม่านพลังป้องกันนิรันดร์แล้วก้าวสู่แดนนิรันดร์!”
“เหตุใดพวกข้าถึงไม่ปรากฏตัวบนเส้นทางนิรันดร์ในตอนที่เส้นทางนิรันดร์
ปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้ ที่ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะพวกข้ารู้เรื่องนี้และสิ่งที่ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณเหล่านั้นทําก็เป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์”
ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณกล่าวทีละคน
“สิ่งที่เจ้าพูดมา มันไม่ได้เป็นความลับสําหรับข้า”
ฉินมู่ส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้
แน่นอนว่า เขาเองก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน
ม่านพลังป้องกันนิรันดร์นั้นแข็งแกร่ง และไม่สามารถทําลายได้เว้นแต่ว่าเซียน ส่องโลกาสามคนจะผนึกกําลังกันบุกทะลวง
แต่ตอนนี้ เขตแดนพลังยุทธ์ของเขาได้ก้าวไปถึงเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ แล้ว และเขาสามารถทําลายม่านพลังป้องกันนิรันดร์ได้โดยไม่ต้องใช้ความ พยายามใดๆ เลยแม้แต่น้อย แต่ว่ายังมีบางสิ่งที่เขาต้องทําในจักรวาลนี้และเขา ยังไม่พร้อมที่จะจากไปในตอนนี้
แต่จุดนี้ เกรงว่ายอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่อยู่ในยมโลกเหล่านี้จะไม่สามารถฝัน ถึงได้
“อาา จ้าวแห่งเกาะสุขาวดีจะรู้เรื่องนี้ก็ไม่แปลก แต่อย่างไรก็ตาม หากเจ้า ต้องการสร้างตัวตนที่เหมือนกับทวยเทพในจักรวาลนี้ ข้าเกรงว่ามันจะยากพอๆกับการขึ้นสู่แดนนิรันดร์ และคงไม่ต้องพูดถึงว่าจะปรากฏในหลายแสนปี เพราะ หลายล้านปีก็ยากที่จะปรากฏขึ้น
หากเจ้าไม่สามารถรวบรวมจอมยุทธ์ที่มีเขตแดนเหนือกว่าพลังยุทธ์ระดับสุด ยอดมาสามคนได้ ก็ไม่สามารถทําลายม่านพลังป้องกันนิรันดร์นี้ได้
วันนี้จ้าวแห่งเกาะสุขาวดียังอยู่ในพิภพ ข้ากลัวว่ามันอาจจะเป็นเพราะไม่มีใคร ที่สามารถร่วมมือกับเจ้าเพื่อเปิดประตูแดนนิรันดร์กับเจ้าสินะ”
หนึ่งในยอดยุทธ์สูงสุดโบราณพูดอย่างฉะฉาน
“แต่พวกเรามีวิธีที่จะช่วยจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี มีสิ่งที่อยู่ในยมโลกนี้ที่สามารถ โจมตีม่านพลังป้องกันแดนนิรันดร์เพื่อก้าวไปสู่นิรันดร์ด้วยกัน!”
“โอ้ เจ้ามีวิธีงั้นรึ? นั่นคือสิ่งที่เจ้าพูดใช่หรือไม่? ”
ความคิดของฉินมู่เปลี่ยนไป เขายกนิ้วขึ้นมาเล็กน้อย และพิภพอันงดงามนี้ก็ เริ่มสั่นคลอน จากนั้น เสาแห่งสวรรค์ก็โผล่ขึ้นจากยมโลกเปล่งแสงหลายพันล้าน ดวงและปกคลุมไปทั่วพิภพ!
นี่คือเสาสวรรค์ที่เก่าแก่และงดงาม มีอักขระอันลึกลับและแปลกประหลาดนับ ไม่ถ้วนจารึกไว้ มีเสียงร้องโหยหวนแผ่วเบา และมีร่างจําแลงของสิ่งมีชีวิตหลาย พันล้านร่างห่อหุ้มเสาสวรรค์นี้ ทั้งร่ําไห้ ทั้งอธิษฐาน ทั้งตกตะลึง
“สมบัติแห่งสวรรค์! มันอยู่ภายใต้คําสั่งของเขาได้อย่างไร!”
“ไม่! สมบัติแห่งสวรรค์นี้ทําไมไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของข้า!”
เมื่อแสร้งแสดงฉากนี้ ในที่สุด ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณในยมโลกก็ไม่สามารถ สงบลงได้อีกต่อไป และพวกเขาต่างก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจทีละคน
“สมบัติแห่งสวรรค์งั้นรึ? เจ้าปล้นวิญญาณของสิ่งมีชีวิตหลายพันล้านดวง และ นําพวกเขาทั้งหมดมากักขังอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ด้วยวิธีการที่ชั่วร้ายเช่นนี้ กล้าที่จะเรียกมันว่าสมบัติอีกงั้นรึ?”
ฉินมู่พูดอย่างเย็นชา
สิ่งที่เรียกว่าสมบัติแห่งสวรรค์นั้นเป็นอาวุธเวทมนตร์ชั่วร้ายที่ใช้ในการกักขังดวงวิญญาณของสิ่งมีชีวิต และจนถึงตอนนี้จํานวนของวิญญาณที่ถูกกักขังอยู่ใน นั้นมีถึงหลายร้อยล้านดวง!
วิญญาณทั้งหมดเหล่านี้ถูกปล้นมาจากยอดยุทธ์สูงสุดโบราณในอดีต เรียกได้ว่าชั่วร้ายมาก!
“ตราบใดที่เจ้าสามารถไปสู่นิรันดร์ มันก็คุ้มค่าที่จะเสียสละทุกอย่าง! ตอนนี้
พลังของสมบัติแห่งสวรรค์ก็เปรียบได้กับการระเบิดพลังของจอมยุทธ์ระดับสุดยอด
ตราบใดที่ยังคงหล่อเลี้ยงมัน พลังของมันจะสามารถเทียบได้กับพลังการ โจมตีของสองจอมยุทธ์ระดับสุดยอดแล้ว และเมื่อได้ผนึกกําลังกับจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี วันแห่งการสู่นิรันดร์ก็อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม!”
ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณในยมโลกนั้นแทบคลั่ง
“สู่นิรันดร์! เจ้าก็คู่ควรเช่นกันงั้นรึ!”
ฉินมู่ส่ายหน้าเล็กน้อย และชี้ให้เห็นว่าเขาจะทําลายสมบัติแห่งสวรรค์นี้
“จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี! ข้าเห็นเจ้าไม่ดื่มสุราคารวะ ดื่มแต่สุราลงทัณฑ์*!”
( สํานวนจีน ไม่ยอมรับการให้เกียรติ ต้องให้ใช้การบีบบังคับ)
ในตอนนี้ ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณในยมโลกเหล่านี้ต่างก็โกรธเคืองในที่สุด
สมบัติแห่งสวรรค์ เป็นผลมาจากการสะสมนับพันปีของพวกเขา เป็นหลัก
ประกันว่าพวกเขาจะก้าวเข้าสู่นิรันดร์ได้
ตอนนี้ฉินมู่ต้องการจะทําลายสมบัติแห่งสวรรค์นี้ และกําลังสัมผัสเกล็ดย้อน*ของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!
เกล็ดย้อน ค่าเปรียบเทียบ การทําให้ผู้มีอํานาจโกรธ เกล็ดย้อน คือ เกล็ดใต้คอมังกรซึ่งกันตรงกันข้ามกับเกล็ดบริเวณอื่น เชื่อกันว่าหากใครไปแตะ เกล็ดนี้ มังกรจะโกรธมากจนสังหารคนผู้นั้น)
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราต้องนําผนึกสมบัติแห่งสวรรค์กลับมาก่อน แล้วค่อยสังหารเขา!”
ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณกล่าวด้วยความโกรธเคือง
ขณะที่เสียงของยอดยุทธ์สูงสุดโบราณจบลง สมบัติแห่งสวรรค์ก็เริ่มเรืองแสงและระเบิดออกมาด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่เหนือกว่าพลังของจอมยุทธ์ระดับสุดยอด!
แต่ทว่า เมื่อต้องเผชิญกับฉากทั้งหมดนี้ ฉินมู่กลับมีท่าทีที่สงบมาก เขาทํา เพียงแค่ชี้ไปที่ยมโลกอันกว้างใหญ่ และดูเหมือนว่าทุกอย่างจะหยุดลงทันที!
แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวที่ไม่มีใครเทียบได้ พุ่งไปที่แสงซึ่งส่องประกาย และตรงกลางของแสงนั่นก็มีพิภพเปิดออก จนกระทั่งฉากแห่งความหายนะของสรรพสิ่งได้ปรากฏขึ้น!
นั่นคือจักรวาลโบราณ ที่ซึ่งเกิดขึ้น เปิดออก และดับสูญไป!
พลังและวิถีแห่งเต๋าที่มีอยู่ในนั้น มันเป็นสิ่งที่เหล่ายอดยุทธ์สูงสุดโบราณในยมโลกนี้ไม่สามารถเข้าใจได้เลย
พลังของมันอยู่เหนือทุกสิ่ง!
ทันทีที่ชี้ไปที่สมบัติแห่งสวรรค์ซึ่งควบแน่นไปด้วยวิญญาณของสิ่งมีชีวิตหลายร้อยล้านดวง มันก็ละลายเหมือนกับน้ําแข็ง จากนั้นก็แตกเป็นเสี่ยง
หลังจากนั้น ทั่วทั้งยมโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ก็ราวกับดวงอาทิตย์ที่ขึ้น เหนือธรรมชาติ ส่องสว่างไปทั่วสิบทิศทาง ละลายทุกอย่าง!
ทุกอย่างกําลังละลาย ทุกสิ่งกําลังถูกทําลายและในตอนนี้ยอดยุทธ์สูงสุด โบราณเหล่านี้ก็ลืมที่จะต่อต้าน หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พลังที่ยิ่งใหญ่นั้นอยู่ เหนือทุกสิ่งทําให้พวกเขากลัวที่จะกระตุ้นความคิดในการต่อต้านอย่างสมบูรณ์
“นี่คือพลังการต่อสู้ที่แท้จริงของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีงั้นรึ?…”
“ด้วยความแข็งแกร่งนี้ การทําลายม่านพลังป้องกันิรันดร์มันยากแค่ไหนกัน?ทําไมเขาไม่เข้าไปสู่แดนนิรันดร์…..”
“จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี!!”
เสียงคํารามที่ดูสิ้นหวังนั้นดังขึ้น แล้วมันก็หยุดลง
เพราะทุกอย่างภายในยมโลกนี้ ได้ถูกทําลายล้างด้วยนิ้วเดียวของฉินมู่!
เพียงนิ้วเดียวของราชันเซียนนิรันดร์ ก็สามารถทําลายล้างยมโลกได้! ฉินมู่เข้าสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ครั้งแรก พลังของราชันเซียนนิรันดร์ก็ได้
แสดงออกมาอย่างเ อย่างไม่ต้องสงสัย!