บทที่ 102 สิ่งแรกที่ต้องไล่ล่าให้ถึงที่สุดจนกว่าจะตาย

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

บทที่ 102 สิ่งแรกที่ต้องไล่ล่าให้ถึงที่สุดจนกว่าจะตาย
แม้จะได้ยินคำพูดนั้น ปีศาจแมลงก็ยังมีสีหน้าปกติ ไม่หลบเลี่ยง และปล่อยให้ผีโปร่งใสจำนวนนับไม่ถ้วนล้อมรอบตัวมัน

ปีศาจแมลงเมินเฉยต่อความเจ็บปวดแก่ผีนับหมื่นตนที่กัดกินจิตวิญญาณของตนเอง มันยิ้มเหยียด “พระโพธิสัตว์ปีศาจ ข้าไม่ได้ล่วงล้ำน้ำในแม่น้ำและไม่ได้ตั้งใจจะทำลายรากฐานของท่านจริงๆ ก่อนหน้านี้เพียงทำให้ตกใจกลัว ทำไมต้องมายุ่งกับมนุษย์แบบนี้ด้วยล่ะ? ท่านไม่กลัวว่าข้าจะไม่กลับไปแก้แค้นหลังจากเหตุการณ์นั้นจริงๆ เหรอ?”

ชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏตัวในถ้ำลึกแห่งนั้นและผู้ที่มาใหม่คือพระโพธิสัตว์ปีศาจ

พระโพธิสัตว์ปีศาจส่ายหัวและกล่าวว่า “ปีศาจแมลง เจ้ายังคิดว่าโลกนี้เหมือนโลกก่อนหน้าที่ยอมให้เจ้ามาวุ่นวายได้ตามอำเภอใจงั้นเหรอ? เจ้าเข่นฆ่าโดยประมาท นำความโกรธมาให้คนที่นี่โดยไม่รู้ตัว หากเจ้าปล่อยให้พลังหวนคืนสู่อดีต โลกที่ยังไม่ก่อตัวใบนี้จะต้องถูกเจ้าทำลาย ซึ่งไม่มีใครยินยอมเจ้าแน่ แม้แต่ข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้ ดังนั้นตอนนี้ข้าทำได้เพียงมาโปรดเพื่อให้เจ้าไปยังดินแดนสุขาวดีล่วงหน้า…”

ปีศาจแมลงหัวเราะ “โลกที่แล้วก็มีคนบ่นแบบนี้เยอะ แต่ข้ายังสบายดี ข้ามีร่างอวตารนับไม่ถ้วน ไม่รู้ว่าพระโพธิสัตว์ปีศาจมีวิธีอะไรที่จะโปรดให้ข้าละทางโลกได้?”

พระโพธิสัตว์ปีศาจยิ้มเล็กน้อย หันศีรษะแล้วกล่าวว่า “พญาแมลง เจ้าเต็มใจจะยึดถือข้าเป็นที่พึ่งหรือเปล่า?”

เมื่อปีศาจแมลงได้ยินคำพูดนั้น หัวใจของมันพลันเต้นระรัว แต่ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง “ฮึ่ม วิธีการหว่านล้อมของท่านยังต่ำเกินไปนัก ตราบใดที่ข้าไม่ตาย พญาแมลงก็ยังสามารถฟื้นคืนชีพได้ไม่รู้จบ มันจะทิ้งข้าไปได้ยังไง?”

ใครจะรู้ว่าพญาแมลงกลับก้มศีรษะพลางกระซิบ “พระโพธิสัตว์ปีศาจเต็มใจที่จะชะล้างบาปของแมลงตัวน้อยอย่างข้า ข้าก็รู้สึกทราบซึ้งใจเหลือเกินจะปฏิเสธได้ยังไง? ข้าเต็มใจที่จะยืดถือท่านเป็นที่พึ่ง”

ปีศาจแมลงถอยหลังไปสองสามก้าว ความเจ็บปวดของผีนับหมื่นตนที่กัดกินวิญญาณของเขาในตอนนี้ ไม่ได้ทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป แต่เป็นคำพูดของพญาแมลงต่างหากที่ทำให้เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้

เขาชี้ไปที่อีกฝ่าย “เจ้ากับข้าอยู่ด้วยกันมาหลายร้อยปีแล้ว เป็นที่พึ่งพาชีวิตและความตายมาโดยตลอด ครั้งนี้ไม่ได้สิ้นหวังน้อยไปกว่าที่ผ่านมา ทำไมเจ้าถึงผิดสัญญา?”

พญาแมลงเพียงส่ายหัวแต่ไม่พูดอะไร

พระโพธิสัตว์ปีศาจเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ได้รับความช่วยเหลือจากเต๋ามากมาย แต่กลับไม่เชื่อฟังและไม่เคยเข้าใจ ข้าจะบอกความจริงอะไรให้ การกำจัดคำสาปนี้ของเจ้า ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของพระผู้เป็นเจ้า ในภายภาคหน้าข้ากับเจ้าจะได้ไม่ต้องตระหนกอีกต่อไป ทุกวันข้าต้องคอยซ่อนตัวอยู่ในถ้ำใต้ดิน ไม่เห็นแม้ตะวันและหยาดฝน โลกใบนี้น่าตื่นเต้นกว่าโลกก่อนร้อยเท่า มันโหยหามานานแล้ว แต่เจ้ากลับเมินเฉย ไม่เปลี่ยนนิสัยชอบเข่นฆ่า คอยแต่จะคุกคามมรดกของผู้อื่นด้วยการฆ่าล้าง แม้ว่าข้าจะมีใจเมตตา แต่ครั้งนี้เห็นทีคงต้องใช้วิธีปราบปีศาจ”

ปีศาจแมลงโกรธมาก “เจ้าทรยศข้าด้วยผลประโยชน์เล็กน้อย ยังมีมโนธรรมอยู่ไหม?”

พระโพธิสัตว์ปีศาจส่ายหน้าไปมา “ปีศาจเช่นเจ้าคู่ควรกับมโนธรรมด้วยเหรอ เจ้าเข่นฆ่าดวงวิญญาณไปกี่ตนแล้ว? กี่ครั้งแล้วที่เจ้าทรยศคนที่ให้โอกาสเจ้า? วันนี้เป็นเพียงจุดจบของบาป พญาแมลงใช้ใยโลหิตกักขังร่างอวตารทั้งหมดของเจ้าปีศาจตนนี้”

พญาแมลงก้มศีรษะพลางพยักหน้า “รับทราบเจ้าค่ะ”

ทันทีที่มันพูดจบร่างกายก็สั่นเทิ้ม

คลื่นที่มองไม่เห็นโผล่พ้นออกมาจากถ้ำ

ไม่นานแมลงประหลาดทุกชนิดก็ปรากฏขึ้นทีละตัวและกระจายไปทั่วพื้นถ้ำ โดยเฉพาะแมงป่องตัวใหญ่ที่น่ากลัวที่สุด

“แน่นอนว่ามีร่างอวตารมากมายหลายพันตัว เพื่อหลีกเลี่ยงความฝันอันยาวนานยามค่ำคืน ดูเหมือนว่าวันนี้ข้าพระโพธิสัตว์ปีศาจคงต้องเลือดเปื้อนมือเพื่อชะล้างตราบาปซะแล้ว”

พระโพธิสัตว์ปีศาจรูปนี้กล่าวในขณะที่กำลังจะลงมือ ปีศาจแมลงหวาดกลัวจนพูดไม่ออก ไม่มีความบ้าคลั่งอย่างที่เคยควบคุมฝูงแมลงให้เข่นฆ่าอีกต่อไป

ทันใดนั้นพระโพธิสัตว์ปีศาจก็หยุดชะงัก ปีศาจแมลงคิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งได้แสดงความเมตตาอีกครั้งจึงรีบกล่าวว่า “พระโพธิสัตว์ปีศาจช่วยยกโทษให้ข้าอีกสักครั้งเถอะ คราวนี้ข้าจะกลับใจและกลายเป็นคนใหม่อย่างแน่นอน”

พระโพธิสัตว์ปีศาจส่ายหัว “คำพูดนี้ เจ้าควรนำไปบอกพี่ใหญ่มังกร”

ขณะที่ปีศาจแมลงกำลังงุนงง ไม่นานหลังจากนั้น สุนัขตัวหนึ่งก็ส่งเสียงเห่า จากนั้นชายผู้แข็งแกร่งก็ปรากฏตัว

“อัศวิน A!” ปีศาจแมลงอยากจะล่าถอย แต่ในเวลานี้เขาพบว่าผีหมื่นตนได้ล้อมเขาไว้แล้ว จึงไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้อีก

“นายท่าน พญาแมลงอยู่นี่เอง เอ๊ะ ทำไมพระโพธิสัตว์ถึงอยู่ด้วยล่ะ? ข้าขอนมัสการท่านพระโพธิสัตว์”

หมาเหลืองเซวียปาตกใจเมื่อเห็นพระโพธิสัตว์ปีศาจ มันรีบโค้งคำนับทันที

พระโพธิสัตว์ปีศาจโบกมือ เป็นเชิงบอกใบ้ว่าไม่ต้องก้มแล้ว เขาเอ่ยปาก “ไม่ต้องมากพิธีหรอก พี่ใหญ่มังกรและปราชญ์แห่งตระกูลสุนัข ท่านมาได้เวลาพอดี ร่างอวตารทั้งหมดของปีศาจตนนี้อยู่ที่นี่ ถูกกำจัดสิ้นซากหมดแล้ว”

ภายในพื้นที่ของระบบ

ระบบ “พระโพธิสัตว์ปีศาจรูปนี้หมายความว่ายังไงกัน? เห็นได้ชัดว่าเรามาที่นี่เพื่อแย่งเขากำจัด เขาไม่โกรธเหรอ?”

ฟางหนิง “ไอคิวของแกก็มีแค่นี้แหละ ฉันเคยพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอ มันไม่ใช่เรื่องดีเลยที่พวกนักพรตจะมามือเป้นเลือด แกคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนแกเหรอที่สามารถเพิ่มประสบการณ์และความแข็งแกร่งของตัวเองได้ด้วยการกำจัดปีศาจ สำหรับพระโพธิสัตว์ปีศาจเกรงว่ามันจะตรงกันข้ามน่ะสิ”

ระบบ “ถ้าโฮสต์พูดแบบนี้ งั้นเราลองทำข้อตกลงกับสหายคนนี้กันเถอะ”

ฟางหนิง “ฉลาดมาก ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบของเราได้แน่นอน หากมีปีศาจสุดอันตรายอีกก็ให้เรียกเขามา ปล่อยให้เขาทุบตีจนตายแล้วเราค่อยมาเก็บกวาดกันหัว…”

…………

อัศวิน A กล่าว “พระโพธิสัตว์มีเป้าหมาย เขาคนนี้ซื่อตรง ผู้กระทำชั่วต้องถูกจัดการให้สิ้นซาก”

หลังจากพูดจบ เขาก็ไม่รีรอ ครู่หนึ่งเปลวเพลิงมังกรก็ปะทุขึ้น แผดเผาแมลงทั้งหมดที่รวมตัวกันในถ้ำ มีเพียงชายหนุ่มเท่านั้นที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเปลวเพลิงก็ห่อหุ้มตัวปีศาจแมลงไว้

ในเวลานี้ ภูติผีนับไม่ถ้วนได้ถอนตัวและหายไปในอากาศอย่างเงียบๆ แล้ว

“ปล่อยข้าไปนะ ท่านมังกรตัวจริง ข้าเต็มใจจะพึ่งพาท่านอย่างสุดหัวใจ นับจากนี้จะขอทำตามคำสั่งของท่านในทุกสิ่ง ท่านและข้าจะร่วมแรงกันเพื่ออยู่ยงคงกระพัน ข้ายังมีชุดวิธีการใช้เทคโนโลยีของมนุษย์ในโลกนี้ด้วย พวกเราต่างเหมือนกัน อย่าฆ่าข้าเลย!” ปีศาจแมลงดิ้นพล่านอยู่ในกองเพลิงพลางขอความเมตตา

ฟางหนิงดูแผนที่ระบบและพูดไม่ออก ‘แกโกหกเก่งกว่าพี่ชายของฉันอีก บอกว่าจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ยังไงก็ตามต้องเปลี่ยนชื่อของแกเป็นสีเขียวบนแผนที่ระบบซะก่อนสิ ตอนนี้มันยังคงเป็นสีแดงคล้ำอยู่เลย’

‘ดูอย่างเจ้าหมาสองตัวสีเหลืองและสีดำนั่นสิ พวกมันกลายเป็นสีเขียวโดยไม่ต้องบอกกล่าวอะไรเลย มันจริงใจและซื่อสัตย์ ทำให้เราวางใจได้’

ปีศาจแมลงไม่รู้เรื่องนี้เลย เขามองไปทางอัศวิน A ที่ใบหน้าไร้อารมณ์ เท่านั้นก็รับรู้ได้ว่าหัวใจของอีกฝ่ายแข็งแกร่งราวกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์บนท้องฟ้า ร่างอวตารทั้งหมดถูกเรียกกลับมาโดยอาศัยใยโลหิตของพญาแมลง เขารู้ว่าคราวนี้ชีวิตของเขาคงจะต้องจบสิ้นจริงๆ เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงอดโมโหไม่ได้“ให้ตายเถอะ ฉันน่าจะปล่อยให้แมลงทุกตัวออกไปฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกมนุษย์ของแก ขอให้แผนการของพวกแกสูญเปล่า!”

ขณะที่เขาพูด มันก็หันไปมองพญาแมลงอีกครั้ง “น่ารังเกียจจริงๆ พญาแมลงเจ้ามันคนหน้าไหว้หลังหลอก! เจ้าทรยศข้าไปนานแล้วและข้าก็เคยถูกเจ้าหลอกมาก่อน ถ้าเจ้าไม่พูดซ้ำๆ อดทนต่อคำยั่วเย้าของศัตรูที่แข็งแกร่ง ข้าคงทำลายโลกนี้ไปได้นานแล้ว คงไม่ต้องพินาศแบบนี้!”

ฟางหนิงมองไปที่เขา สีของหมอนี่บนแผนที่ระบบเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ไม่เห็นแม้แต่สีแดง ทันใดนั้นเขาก็ตกใจ

ฟางหนิง “ระบบ นี่มันหมายความว่ายังไงกัน”

ระบบ “โฮสต์มีไอคิวสูงนักนี่มาถามระบบทำไมล่ะ? หมอนี่เพิ่งแปลงร่างเป็นนักฆ่าโดยสมบูรณ์น่ะสิ”

ฟางหนิง “ไม่ได้การ เขาต้องถูกกำจัด! จากที่เราเจอมาเขาคือวายร้ายคนแรกที่ต้องการทำลายโลกให้สิ้นซาก ถ้าปล่อยให้เขามีชีวิตและเติบโตต่อไป ฉันจะยังมีเกมและนิยายให้เล่นได้ยังไง? สมควรตายอย่างถึงที่สุด!”

ในพริบตาทั่วทั้งร่างของปีศาจแมลงก็กลายเป็นเถ้าถ่าน มีเพียงควันสีฟ้าจางๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า เป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามันได้หายไปจากโลกนี้แล้ว

คำแนะนำของระบบ ระบบจะใช้สล็อตความโกรธ ใช้สล็อตพลังปราณและใช้ทักษะหยั่งลึก ‘ระเบิดมังกรยักษ์’

ปีศาจแมลงถูกพลังมังกรปราบปราม โจมตีทำลายเกราะป้องกันได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการจู่โจมของพลังปราณเจียนตาย ‘การป้องปราม’ คงเหลือระดับกลาง

ปีศาจแผลงได้รับความเสียหายจากไฟไหม้อย่างต่อเนื่อง…

ระบบได้กำจัดร่างอวตารของปีศาจแมลงไปแล้ว 9,998 ตัว ยังคงเหลือหนึ่งตัว

ระบบได้ทำลายจิตวิญญาณของปีศาจแมลงอย่างรุนแรง

ระบบได้รับคะแนนประสบการณ์ 300,000 คะแนน

ระบบหยุดการคุกคามที่ร้ายแรงต่อโลกชั่วคราว โฮสต์ได้รับคะแนนความชื่นชอบ 3 คะแนนสำหรับคุณลักษณะทั้งหมดของเทพเจ้ามังกรตัวจริง

ระบบได้รับชื่อเสียงของอัศวินผู้กล้าหาญ ระดับของความกล้าหาญถูกยกระดับเป็น ‘โด่งดังระดับโลก’ และสล็อตพลังปราณเพิ่มขึ้นหนึ่งช่อง เนื่องจากผลของสกิล ‘พลังปราณฟ้าดินเวอร์ชั่นไม่สมบูรณ์’ และ’เสริมร่างปราณแท้’ สล็อตพลังปราณทั้งหมดในปัจจุบันจึงเพิ่มขึ้นเป็น 12 ช่อง

ระบบได้รับค่าพลังปราณส่วนเกิน สล็อตพลังปราณเต็ม 12 ช่องแล้ว

พระโพธิสัตว์ปีศาจยิ้มเล็กน้อย กำลังจะพูดบางอย่างเกี่ยวกับพญาแมลง แต่อัศวิน A กลับพูดขัดขึ้นก่อน

อัศวิน A “มันยังมีร่างอวตารที่ไม่ถูกทำลายอีก”

ใบหน้าของพระโพธิสัตว์ปีศาจซีดเผือดลงเป็นครั้งแรก เขาขมวดคิ้ว “ให้ตายสิ เป็นไปได้ยังไงกัน? ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าข้ากำลังพยายามกระตุ้นจิตใจของเขา ข้าสัมผัสได้ถึงอารมณ์แปรปรวนที่รุนแรงของมัน ถึงแม้จะคิดว่ามันถึงวาระแล้วก็ตาม พญาแมลงรู้สึกถึงมันไหม ปีศาจแมลงยังมีร่างอวตารซ่อนอยู่ข้างนอกอีกไหม?”

พญาแมลงก็หวาดกลัวเช่นกัน ถ้าปีศาจแมลงไม่ตาย หากรอให้เขาฟื้นและหลอมพญาแมลงขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง มันก็จะอยู่ได้อีกไม่นาน

ทันทีที่สัมผัสได้ถึงความเชื่อมโยงของเลือด ร่างกายก็หดเล็กลงถึงระดับตาเปล่า และในไม่ช้ามันก็เปลี่ยนขนาดจากระดับตัวแรดกลายเป็นหมูป่า

พญาแมลงส่ายหัวไปมา “เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่สัมผัสถึงร่างอวตารอื่นๆ ของปีศาจแมลงบนโลกนี้อีกแล้ว พวกมันถูกจับหมดแล้วอย่างแน่นอน”

คิ้วของพระโพธิสัตว์ปีศาจยังคงขมวดมุ่น “พี่ใหญ่มังกรมันอาจฟังดูไม่ประหลาด แต่เป็นไปได้ไหมว่าเขายังมีร่างอวตารหลงเหลืออยู่ในโลกก่อน?”

ภายในพื้นที่ของระบบ

ระบบ “จะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี? ถ้าหากปีศาจตนนี้ยังทิ้งร่างอวตารเอาไว้ มันจะเป็นหายนะครั้งใหญ่ในอนาคต”

ฟางหนิงกังวลใจมากกว่าที่เห็น “ฉันกำลังคิดอยู่ เพราะความโหดเหี้ยมของมัน ตราบใดที่มันรอดชีวิตและฟื้นคืนพลังได้ ผลที่ตามมาก็จะคาดเดาไม่ได้แน่นอน เรื่องนี้ต่างจากผู้อาวุโสตระกูลไป๋มาก มันโดดเดี่ยวและไร้ความปราณี ต้องถูกไล่ล่าจนกว่าจะตายเท่านั้น! ตอนนี้ฉันเดาว่าแกคงต้องให้ร่างกายของแกกับฉันแล้วล่ะ”

หนังสือตีพิมพ์ใหม่

หนังสือเล่มใหม่ออกวางจำหน่าย ‘เมื่อผมโดนระบบครองร่าง’ ออกวางจำหน่ายแล้ว ลองค้นดูนะครับ ทุกคนทำงานกันหนักมากเลย

เล่มที่สอง

………………………………………………..