ตอนที่ 1506 นางยังมีชีวิตอยู่ (3)
“คนของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์หยิ่งทระนงมาก ฉินเย่ว์ทำภารกิจพลาดแล้วถูกทรมานหนักมาก ดังนั้นนางจึงอับอายเกินกว่าจะกลับไปที่เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์”
“ไม่หรอก” อวิ๋นลั่วเฟิงส่ายหน้า ดวงตาเป็นประกายที่ยากคาดเดา “ถ้าฉินเย่ว์คิดอย่างนั้นจริงๆ นางคงไม่มีทางคิดที่จะหนี ข้าคิดว่าบางทีนางคงคิดพวกเราน่าจะมุ่งความสนใจมาที่นาง ดังนั้นนางจึงไม่มีโอกาสวางวงเวทเคลื่อนย้ายเพื่อให้เองมีโอกาสหนีได้ แต่ซูจวิ้นไม่เหมือนกัน ทันทีที่ฉินเย่ว์ตาย พวกเราก็ไม่ได้สนใจเขาแล้ว จากนั้นเขาก็จะมีโอกาสหลบหนี!”
อวิ๋นลั่วเฟิงนั่งยองๆ แล้วสำรวจวงเวทบนพื้นอย่างรอบคอบ วงเวทนี้ไม่ใหญ่มากและสังเกตได้ยาก ไม่มีร่องรอยขีดเขียนบนพื้นหรือการจัดเรียงก้อนหิน เช่นนั้นแล้ว ถ้าเจ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านวงเวทก็ไม่มีทางจะรับรู้ถึงวงเวทย์นี้ได้เลย
ตอนนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็เข้าใจแล้วยืนขึ้น นางลูบคางแล้วดวงตาก็เป็นประกายเย็นเยียบ “ฉินเย่ว์ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวงเวท! วงเวทนี้ถูกสลักไว้บนเครื่องราง ดังนั้นจึงไม่ต้องการสื่อกลางทางกายภาพ แล้ว…วงเวทเคลื่อนนี้ถูกออกแบบโดยเจวี๋ยเชียน”
ดูเหมือนว่านางคงต้องไปเยี่ยมเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์สักหน่อยแล้ว…
“ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมฉินเย่ว์ถึงให้โอกาสซูจวิ้นหลบหนี ข้าคิดพวกเราน่าจะเข้าใจผิดทั้งหมด การตายของนางเป็นเงื่อนไขให้วงเวทเคลื่อนย้ายทำงาน! ก็หมายความว่า…คนที่ถือเครื่องรางนี้ไม่สามารถหนีไปเพราะวงเวทเคลื่อนย้ายได้ มีแค่หลังจากที่นางตายแล้วเท่านั้นที่ใครสักคนจะถูกส่งออกไป”
ก่อนที่นางจะตาย คนของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ตายหมดแล้ว ดังนั้นคนเดียวที่นางสามารถส่งออกไปได้ก็เหลือแค่ซูจวิ้น! เมื่อซูจวิ้นหนีไปได้ เขาก็สามารถปล่อยข่าวว่านางถูกสังหาร แล้วเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็จะตามมาแก้แค้นให้นาง ไม่แปลกเลยที่นางจะไม่รู้ว่าฉินเย่ว์วางวงเวทเอาไว้เพราะว่าวงเวทนี้ไม่ต้องใช้สื่อกลางทางกายภาพ ตราบใดที่นางตาย วงเวทก็จะทำงานเองทันที…
“นายหญิง…”
เสี่ยวโม่หัวใจกระตุก ฉินเย่ว์คนเดียวก็จัดการได้ยากแล้ว ถ้ามียอดฝีมือแข็งแกร่งจำนวนมากจากเผ่าสตรีศักดิ์ทธิ์มาอีก พวกเขาจะจัดการได้อย่างไร
“เสี่ยวโม่ เจ้ากลับไปที่น้ำพุฌานโลหิตแล้วฝึกพลังอยู่ที่นั้นสักพัก พวกเราต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อรับมือกับยอดฝีมือทรงพลังจากเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์!”
น้ำพุฌานโลหิตเป็นบ่อน้ำพุในดินแดนแห่งจินตนาการของเผ่าผู้ใช้เวท เพราะได้สิ่งนี้ช่วย อวิ๋นลั่วเฟิงจึงเลื่อนระดับขึ้นมาเป็นผู้ฝึกฌานขั้นเซียนปราชญ์ระดับกลางได้!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ อวิ๋นลั่วเฟิงก็หันไปหาศิษย์ของสำนักเสวียนชิงที่ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว ศิษย์คนนี้อ่อนแอและเป็นแค่ผู้ฝึกฌานขั้นปราชญ์เท่นั้น เสื้อผ้าของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นแค่ศิษย์นอก เขา…เป็นคนเดียวที่มีชีวิตรอดในสำนักเสวียนชิง!
“อย่าฆ่าข้า ได้โปรดอย่าฆ่าข้า”
ศิษย์สำนักเสวียนชิงคุกเข่าเสียงดังแล้วตัวสั่นไปทั้งร่าง “ข้าเป็นแค่ศิษย์นอกตัวเล็กๆ ข้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการทำลายสำนักเซวียนชิงของท่าน ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยขอรับ”
สายตาของอวิ๋นลั่วเฟิงเย็นชาขึ้น “เจ้าไปได้”
ศิษย์สำนักเซวียนชิงเบิดตากว้างด้วยความสับสนมึนงง เขาคิดว่าตัวเองต้องตายแน่ แต่ตอนนี้เด็กสาวคนนี้บอกว่าเขาไปได้ใช่หรือไม่ เขากำลังฝันอยู่หรือเปล่า
“ท่าน…ท่านจะปล่อยข้าไปจริงหรือ”
อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองเขา “ถ้าเจ้าอยากไปอยู่กับพวกเขา ข้าก็สงเคราะห์ให้ได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นศิษย์สำนักเสวียนชิงก็หวาดกลัว แล้วตัวสั่นเทิ้มวิ่งลงจากเขาไป
“เดี๋ยวก่อน”
จู่ๆ ก็มีเย็นชาดังขึ้นจากข้างหลังเขา เขาหยุดแล้วฝืนหันหน้ากลับมาก่อนทำหน้าบึ้งด้วยความเสียใจ
…………………………………..
ตอนที่ 1507 นางยังมีชีวิตอยู่ (4)
“มี…มีอะไรอีกหรือขอรับ”
หญิงสาวในชุดขาวราวหิมะพูดเบาๆ มาตามลม “บอกคนอื่นว่าคนที่กวาดล้างสำนักเสวียนชิง…คือข้า อวิ๋นลั่วเฟิงผู้นี้!”
เสี่ยวโม่ไม่แปลกใจกับคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิง เขาหันหน้าไปหานางแล้วถาม “นายหญิง ท่านอยากจะแพร่ข่าวว่าท่านยังมีชีวิตผ่านคนผู้นี้หรือ”
อวิ๋นลั่วเฟิงพยักหน้า “ถ้าซูจวิ้นไม่ได้หนี ข้าอาจจะไม่ทำให้เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์หาเจอข้าเจอแล้วทำให้เรื่องนี้จบลงที่นี่” นางหยุดก่อนจะพูดต่อ “แต่ในเมื่อซูจวิ้นหนีไปได้ เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็จะรู้อยู่ดีว่าใครเป็นคนสังหารฉินเย่ว์ ดังนั้นข้าไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนแล้ว ข้าคว้าโอกาสนี้มาช่วยหาหงหลวนและอวิ๋นเซียวได้”
สำหรับนาง การหาพวกเขาเป็นเรื่องยากมาก แต่วิธีที่ง่ายกว่าคือให้พวกเขามานางเอง ดังนั้นจึงต้องปล่อยข่าวว่านางยังมีชีวิตอยู่ ถ้าข่าวนี้ไปถึงหูพวกเขา พวกเขาต้องพยายามตามหานางด้วยการตามรอยเส้นทางที่นางเดินแน่…
“หั่วหั่ว เผาสำนักเสวียนชิงซะ พวกเราไปกันเถอะ” พูดจบหญิงสาวก็ก้าวเท้าไปที่ทางเข้าภูเขา ทันทีที่นางเดินออกมาก็เกิดเสียงดังขึ้น สำนักเสวียนชิงทั้งสำนักถูกเปลวเพลิงงดงามเผาผลาญจนทำให้ท้องฟ้าถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน… …
เมืองบูรพา ณ จวนเจ้าเมือง
หงหลิงเอามือไพล่หลังยืนอยู่หน้าเตียงภายใต้แสงจันทร์ เขาดูโดดเดี่ยวและเศร้าสร้อย
“ท่านเจ้าเมืองขอรับ!”
จู่ๆ ก็เสียงดังขึ้นก่อนหงหลิงจะอนุญาตให้เขาเข้ามา ผู้คุ้มกันผลักประตูเข้ามาแล้วคุกเข่า
“ท่านเจ้าเมืองขอรับ ข้ามีบางอย่างรายงานท่านขอรับ”
“เรื่องอะไร” หงหลิงขมวดคิ้วแล้วถามเสียงเย็นชา
ตั้งแต่เรื่องการตายของอวิ๋นลั่วเฟิง หงหลวนก็ออกไปสถานที่อันตรายต่างๆ เพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของนางแล้วไม่กลับมาเมืองบูรพาเป็นปีแล้ว เขากังวลเรื่องนางมากๆ
“ท่านเจ้าเมือง ข้าได้ยินมาว่า…สำนักเสวียนชิงแห่งเมืองวิญญาณถูกใครบางคนกวาดล้างขอรับ”
หงหลิงขมวดคิ้วอีกครั้ง ดวงตาคมขึ้น “แล้วเรื่องนี้เกี่ยวกับข้าอย่างไร อย่ามารบกวนข้าถ้าเจ้าไม่มีข่าวของหลวนเอ๋อร์”
“แต่ว่า ท่านเจ้าเมืองขอรับ คนที่ทำลายสำนักเสวียนชิงชื่ออวิ๋นลั่วเฟิงขอรับ!”
อะไรนะ
ดวงตาของหงหลิงเบิกกว้าง เขาตื่นเต้นจนตัวสั่น “เจ้าได้ยินถูกใช่หรือไม่ อวิ๋นลั่วเฟิงแน่ๆ ใช่ไหม”
“ขอรับ ข้ามั่นใจแต่ข้าไม่แน่ใจว่า ‘อวิ๋นลั่วเฟิง’ คนนี้…จะใช่ ‘อวิ๋นลั่วเฟิง’ คนนั้นหรือไม่”
“ฮ่าๆ!” หงหลิงระเบิดเสียงหัวเราะ “เร็วเข้า รีบส่งคนไปตามหาหลวนเอ๋อร์แล้วบอกข่าวดีนี้กับนาง! ไม่ว่าพวกนางจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่ ข่าวนี้ก็ต้องทำให้นางมีความหวัง!”
“ขอรับ ท่านเจ้าเมือง” ผู้คุ้มกันคำนับแล้วกำลังจะออกไปแต่หงหลิงหยุดเขาไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อน!” หงหลิงยิ้ม “ส่งคนไปที่เมืองหลวงแล้วแจ้งข่าวให้ผู้อาวุโสจวินทราบด้วย” …
เวลาด้วยกัน ผู้อาวุโสจวินที่กำลังนั่งถอนหายใจอยู่ในจวนก็ได้ยินข่าวก่อนที่หงหลิงจะส่งคนมาบอกเขา
“มู่ต้ง เจ้าได้ยินหรือไม่ เขาบอกว่าสำนักเสวียนชิงแห่งเมืองวิญญาณถูกกวาดล้าง แล้วคนที่ทำก็คือเฟิงเอ๋อร์!”
มู่ต้งหัวเราะเยาะแล้วพูดเย้ย “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าคนที่ทำลายสำนักเสวียนชิงคือเด็กสาวคนนั้น ไม่แน่อาจจะเป็นคนที่ชื่อเหมือนกันก็ได้!”