ท่าทางของแม่ชีแห่งโชคชะตาเปลี่ยนอย่างฉับพลันเมื่อได้ยินคำพูดของฟลอเรียน การทำให้ภรรยาของน้องชายต้องเสื่อเสียนั้นเป็นความผิดมหันต์ในสังคมของพวกเธอ!

เหล่าศิษย์แห่งง้อไบ๊รอบ ๆ เธอก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบ

ปัง!

ใบหน้าของแม่ชีแห่งโชคชะตาเปลี่ยนเป็นเย็นชาในขณะที่เธอทุบโต๊ะแล้วกล่าวอย่างโมโห “ฉันไม่คิดว่าแดร์ริล ดาร์บี้ จะเป็นชายที่ไร้ยางอายแบบนี้ ฉันจะทำให้เขาชดใช้เมื่อฉันเจอเจ้านักเลงนั่นสักวันเพื่อประโยชน์ของตระกูลดาร์บี้”

เธออาจดูอ่อนโยนและถ่อมตน แต่เธอไม่สามารถยอมรับการล่วงละเมิดแบบนี้ได้!

วันต่อมา

เมืองตงไห่ยังคงเต็มไปด้วยความรื่นเริงจากบรรยากาศของวันหยุดเทศกาล ถึงแม้ว่าเทศกาลไหว้พระจันทร์จะจบแล้วก็ตาม

มันเป็นวันที่แดดจ้า ถนนใกล้ ๆ สถาบันหกวิถีนั้นมีชีวิตชีวาและเนืองแน่นไปด้วยผู้คน

เหล่านักเรียนเดินไปที่ตึกของสถาบันตามลำดับ เพราะวิชาเรียนกำลังจะเริ่มในอีกไม่นาน

แคทเธอรีน คีธ เดินออกมาจากห้องพักครูด้วยคิ้วที่ขมวด

เธอสัมผัสได้ว่าระดับของเธอลดลงสองระดับหลังจากตื่นขึ้นมาในเช้านี้

เธอระดับลดลงไปถึงหกระดับในสองวันที่ผ่านมา

เธอลดลงจากปรมาจารย์ยุทธ์สู่ปรมาจารย์ขั้นสี่

แม้แต่นักเรียนของเธอยังแข็งแกร่งกว่าเธอแล้ว

นี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง?

แคทเธอรีนคิดไปถึงแดร์ริล

เขาได้กล่าวว่าเธอจะระดับลดลงไปสองระดับในทุกวันจนกระทั่งเธอกลายเป็นคนธรรมดา เธอควรเชื่อเขาไหม?

กล่าวตามตรง แคทเธอรีนเริ่มเชื่อคำพูดของเขาแล้วว่ามันมีอะไรผิดปกติกับยานั่น!

เธอควรฟังเขาแล้วปฏิเสธที่จะใช้ยานั้น แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วในเมื่อมันเกิดไปแล้วนั่นเอง

ยังไงก็ตาม…

แดร์ริลบอกว่าเขามีทางแก้ปัญหาการลดระดับของเธอ!

แคทเธอรีนเริ่มมีความหวังอันริบหรี่เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น จากนั้นเธอก็วิ่งเหยาะ ๆ ไปที่ตึกสถาบันด้วยส้นสูงของเธอ

เธอถึงกับชะงักเมื่อมาถึงห้องเรียน ความผิดหวังฉายอยู่บนใบหน้าของเธอ

ห้องเรียนนั้นเต็มแน่น ทว่าแดร์ริลกลับไม่ได้อยู่ที่นี่ ยังไงก็ตาม แด๊กซ์กลับอยู่แทน

“สวัสดีตอนเช้าครับ/ค่ะอาจารย์!”

เหล่านักเรียนแสดงความเคารพแคทเธอรีนในขณะที่นั่งหลังตรง เธอสร้างความหวาดกลัวให้พวกเขาหลังจากได้ปฏิสัมพันธ์กันไม่กี่วัน

แคทเธอรีนพยักหน้าแล้วถาม “แด๊กซ์ ทำไมแดร์ริลไม่มาล่ะ?”

แด๊กซ์ยักไหล่แล้วส่ายหัว “ผมไม่รู้”

เขาไม่ติดต่อกับแดร์ริลเพราะเขาอยู่ในโรงพยาบาลมาหลายวัน

ไมเลสยืนขึ้นทันทีแล้วกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะคิกคัก “อาจาย์ครับ เขาต้องถูกกักบริเวณอยู่ที่บ้านแน่เลย!”

เขาต้องเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกครั้งที่มีคนพูดถึงแดร์ริล

เดคแลนเองก็ยืนขึ้นแล้วถาม “ไมเลส นายรู้ได้ยังไง?”
การสนทนาของสองคู่หูนี้ทำให้ทั้งห้องเพลิดเพลิน

ไมเลสหัวเราะ “ต้องถามจริง ๆ เหรอ? ก็เขาบริจาคเงินจำนวนมากด้วยเงินของเมียตัวเอง ทั้งหมดก็เพื่อสร้างภาพ เขาจะไปทำอะไรได้อีกล่ะ?”

จากนั้นเขาก็ย่อตัวลงทำท่าทาง “เขาอาจจะกำลังยุ่งกับการซักผ้าอยู่ที่บ้านก็ได้”

ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!

เสียงหัวเราะดังในห้อง

แด๊กซ์เก็บอารมณ์โกรธของเขาไม่อยู่แล้ว เขายืนขึ้นทันทีแล้วจ้องไมเลส “เฮ้ย ไอ้ระยำ อยากโดนกระทืบไหมล่ะ? ว่ามาเลย”

เขาทนฟังเพื่อนของเขาถูกล้อเลียนในตอนที่เขาไม่อยู่ในห้องไม่ได้

อีกอย่าง ไอ้ไมเลสนี่ก็เป็นไอ้บัดซบ เขาสมควรได้รับบทเรียน

ร่องรอยของความหวาดกลัวปรากฏบนใบหน้าของไมเลส แต่เขาก็ยังพูดต่อ “ฉันพูดอะไรผิด? ฉันก็แค่เล่าเรื่องตลกให้เพื่อนในห้องฟังโดยหยอกแดร์ริลเอง มีปัญหาอะไรกับเรื่องนั้นเหรอ?”

แด๊กซ์ทุบตีเคนท์ ฮูห์ จากห้องข้าง ๆ ตั้งแต่วันแรกของการเรียน

นิสัยชอบความรุนแรงของเขาไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ไมเลสรับผลของการล่วงเกินเขาไม่ไหว

ไมเลสนั่งลงหลังจากนั้น เขาไม่กล้าพูดอะไรมากไปกว่านั้นอีก ความกลัวของเขาปรากฏเด่นชัดบนใบหน้า

แคทเธอรีนถอนหายใจ ‘จะใช่งั้นเหรอ? แดร์ริลถูกลงโทษด้วยการทำงานบ้านเพราะใช้เงินของภรรยาในการบริจาคไป 20 ล้าน จริงเหรอ?’