ตอนที่ 66 ตกใจจนอึ้ง

Mars เจ้าสงครามครองโลก

บนพื้น เต็มไปด้วยเงิน!

แบงค์ร้อยสีแดง!

หลี่หยางและหลี่อู่ตกตะลึง

แรงงานตกตะลึง

นี่ นี่เป็นเงินเท่าไหร่?

ชีวิตของพวกเขายังไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อน

ใครบอกว่าบริษัทหัวหยวนไม่มีเงินจ่ายค่าแรง?

ใครว่าบริษัทหัวหยวนกำลังจะล้มละลาย?

ใครบอกว่าห่วงโซ่ทุนของบริษัทหัวหยวนขาดแล้ว?

นี่คืออะไร?

นี่คืออะไร! ! !

กระเป๋าเดินทางสองใบเต็มไปด้วยเงิน ซึ่งเกาเจี๋ยเททั้งหมดกองไว้บนพื้น และกองรวมกันเป็นกองใหญ่

เกาเจี๋ยกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ที่นี่มีเงินจำนวนสองล้าน พอไหม?”

พอไหม?

เจ้าห้าและคนอื่น ๆ ไม่มีใครกล้าพูดอะไร

ทุกคนต่างตกใจกับภาพนี้

ชีวิตนี้ยังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน

สองล้าน เป็นแนวคิดอย่างไร!

ถ้ามัดละหนึ่งแสน เท่ากับยี่สิบมัด มองแล้วถือว่าไม่เยอะ

แต่เกาเจี๋ยไม่ได้ทำเช่นนั้น เพื่อเน้นย้ำถึงพลังที่น่าตกใจ เขาจึงเทเงินทั้งหมดไว้เป็นกอง!

ขณะนี้การเทเงินต่อหน้าทุกคน กลายเป็นพลังที่สามารถพูดโน้มน้าวได้!

อะไรที่ว่าบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินค่าแรงได้ อะไรที่ว่าบริษัทไหนกำลังจะเลิกกิจการ เงินสองล้านที่อยู่ตรงหน้า เป็นสิ่งที่อธิบายได้ตรงที่สุด! ! !

ข่าวลือ ไม่ต้องโจมตีก็ชนะ!

“ผมเอาเงินมาให้แล้ว ตอนนี้พวกคุณควรจะพาผมไปหาหลี่เทียนหมิงได้แล้ว”

เย่เซิ่งเทียนพอใจกับแนวทางของเกาเจี๋ย และมองไปที่หลี่หยางและหลี่อู่

ระดับการศึกษาของแรงงานโดยทั่วไปแล้วไม่สูงนัก โดยเฉพาะแรงงานผู้สูงอายุที่ย้ายถิ่น หลายคนเขียนได้เพียงชื่อตนเองเท่านั้น

การใช้เหตุผลกับพวกเขามันไม่มีประโยชน์เลย

พวกเขาเรียบง่ายมาก ผมทำงานให้คุณ คุณให้ค่าแรงผม

พวกเขาขี้ขลาดและกลัวที่จะมีปัญหา

พวกเขาคิดว่าคุณต้องให้ค่าแรงผม แม้ว่าต้องตาย ผมก็ต้องได้ค่าแรงของผม

พวกเขายังมีความทรยศของตัวเอง ถ้าเกิดเรื่องผิดปกติ งั้นคุณจ่ายค่าแรงให้ผมก่อน

เมื่อเผชิญกับกลุ่มแรงงานที่มีบุคลิกซับซ้อนอย่างที่สุด มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไร และถึงคุณมีเหตุผลก็ไม่สามารถพูดให้กระจ่างได้ พวกเขามีตรรกะของตนเอง

ดังนั้น เพื่อปลอบใจพวกเขา เย่เซิ่งเทียนจึงขอให้เกาเจี๋ยนำเงินมาทันที

สะเทือนเพื่อสยบจิตใจก่อน แล้วค่อยให้เงิน

การตบหัวแล้วลูบหลัง ฝังอยู่ในกระดูกของเขามานานแล้ว

“แล้วตอนนี้พวกคุณยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”

เมื่อเห็นเงิน เจ้าห้าก็ดุดันขึ้นมา ซ่อนตัวอยู่หลังเย่เซิ่งเทียนและกล่าวอ้างบารมี “ไอ้สารเลวสองคนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณสองคนปากยาวป่าวประกาศไปทั่ว ทุกคนก็จะไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่สามารถจ่ายค่าแรงได้ ตอนนี้พวกคุณสองคนยังมีอะไรจะพูดอีกไหม!”

หลี่หยางและหลี่อู่ต่างหลบสายตา ไม่กล้ามองเย่เซิ่งเทียน

พวกเขาสองคนรับเงินจากหลี่เทียนหมิงคนล่ะสองหมื่น เพื่อกระพือให้เรื่องขยายใหญ่โตลุกลามออกไป และทำให้ทุกคนสับสนโดยเฉพาะ

ตอนนี้ เย่เซิ่งเทียนโยนเงินต่อหน้าพวกเขาแล้ว พวกเขาตกใจจนไม่รู้จะพูดอะไร

“พวกคุณเป็นใบ้หรือไง เกิดอะไรขึ้นกันแน่ รีบบอกทุกคนเร็ว”

มีคนมากล่าวเร่ง ไม่มีใครเป็นคนโง่เขลา ขณะที่เย่เซิ่งเทียนกำลังเทเงิน ก็สามารถควบคุมอารมณ์ของพวกเขาได้แล้ว

“จะบอกหรือไม่บอก? ทุกคนรู้ว่าครอบครัวของคุณอยู่ที่ไหน ถ้าวันนี้คุณสองคนไม่อธิบายให้ฟัง ก็อย่าโทษถ้าพวกเราบุกไปบ้านของพวกคุณ”

คนที่ออกมาทำงานด้วยกัน ถ้าไม่ใช่มาจากหมู่บ้านเดียวกัน ก็เป็นหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งต่างก็รู้จักกันดี

หลี่หยาง หลี่อู่ตกใจจนขาอ่อนแรง และใบหน้าขาวซีด

ถ้าพวกเขาไปบ้านตนเองจริง ๆ ต่อไปครอบครัวก็จะเสียชื่อเสียงโดยสิ้นเชิง

หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป จะถูกคนแช่งชักหักกระดูก!

เมื่อคิดถึงวิธีที่ผู้หญิงในหมู่บ้านด่าแช่ง หลี่หยางและหลี่อู่ก็คุกเข่าลงบนพื้น

“ปล่อยพวกเราไปเถอะ หลี่เทียนหมิงเป็นคนสอนให้พวกเราทำเช่นนี้ พวกเรายินดีที่จะนำเงินออกมา”