บ่ายนั้นเมื่อกลับเข้าห้องสอบ อันซย่าซย่าจ้องมองฉีเหยียนซีทางหางตาและมีสมาธิอยู่กับกระดาษข้อสอบ ไม่ว่าเขาจะพยายามกวนใจเธอมากขนาดไหน หญิงสาวก็ทำเป็นไม่สนใจเขา  

 

 

ฉีเหยียนซีกัดฟันก่อนจะก้มลงท้าวคางไปกับโต๊ะด้วยความเบื่อหน่ายระหว่างสายตาก็จับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของอันซย่าซย่า  

 

 

เวลาที่เธอเขียนคำตอบ ผมหางม้าของเธอก็ส่ายไปมาจากการขยับเขยื้อน ผมสองสามช่อปัดมาทางใบหน้าเขา 

 

 

ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ เป็นกลิ่นที่หอมสดชื่น 

 

 

อะไรบางอย่างแวบเข้ามาขณะที่เขานึกถึงธรรมเนียมของโรงเรียนฉีซย่าขึ้นมาได้ เขาเขียนอะไรสองสามคำลงในกระดาษทดแล้วพับเป็นแผ่นเล็กๆ ก่อนจะขว้างไปบนโต๊ะของอันซย่าซย่า 

 

 

ด้วยความแปลกใจ อันซย่าซย่าคลี่กระดาษแผ่นนั้นแล้วก็เห็นลายมือยึกยือ “ปีนี้เธอจะไปเข้าค่ายฝึกรด.ไหม” 

 

 

หญิงสาวเขียนตอบ : นายจะบ้าหรือไง อย่ามายุ่งกับฉัน!  

 

 

ฉีเหยียนซีคลี่กระดาษดูด้วยความคาดหวังอย่างแรงกล้าแต่แล้วใบหน้าก็มืดทะมึน เขาจึงเขียนตอบ : เธอรู้ไหมฉันเป็นใคร ใครอนุญาตให้เธอพูดกับฉันแบบนี้!  

 

 

อันซย่าซย่า : ไม่รู้! งั้นก็อย่ามายุ่งกับฉันสิ!  

 

 

ฉีเหยียนซีไม่พอใจ : นี่ ระวังมารยาทหน่อยคุณผู้หญิง! นี่พยายามจะเรียกร้องความสนใจฉันเหรอ ฝันไปเถอะ! เธอน่ะหุ่นก็ไม่ดีสมองก็ไม่มี!  

 

 

อันซย่าซย่ากลอกตา : อยู่ห่างๆ ฉันไว้สิ! นายคนเกเรขี้หงุดหงิดน่ารังเกียจ!  

 

 

ทั้งสองคนโยนก้อนกระดาษตอบโต้กันไปมา ไม่มีใครสังเกตเห็นอาจารย์คุมสอบผู้กำลังโกรธจัด 

 

 

ฉีเหยียนซีตอบไปอีก : ฉันรู้ว่าเธอปฏิเสธหัวใจตัวเองอยู่ เพราะยังไงซะ ฉันก็เป็นคนรูปหล่อ มีเสน่ห์แล้วก็เป็นที่หมายตา  

 

 

อันซย่าซย่า : ถ้างั้นฉันก็เป็นหญิงสาวที่น่ารัก ฉลาดหลักแหลมแล้วก็เลิศหรูที่สุดในโลกแล้วล่ะ!  

 

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะได้โยนมันกลับคืนให้เขา หนึ่งในอาจารย์คุมสอบ—อาจารย์หัวหน้าฝ่ายปกครอง—ก็เดินมาหยุดข้างเธอและพูดขึ้นด้วยท่าทีน่าเกรงขาม “ส่งโพยมา!” 

 

 

อันซย่าซย่าก้มหน้างุดด้วยความกระอักกระอ่วนใจ— เธอคิดไว้อยู่แล้วเชียว! การทะเลาะกับเจ้าปีศาจร้ายนี่มันไม่มีอะไรดีหรอก! 

 

 

หญิงสาวส่งกระดาษโน้ตให้อย่างอิดออด แต่อาจารย์กลับสั่ง “ยืนขึ้นแล้วอ่านดังๆ!” 

 

 

เขาพยายามจะเชือดไก่ให้ลิงดู 

 

 

อันซย่าซย่ามีสีหน้าอมทุกข์ “อาจารย์ แน่ใจนะคะ” 

 

 

“อ่านสิ!” 

 

 

เธอยอมจำนนทันทีที่สิ้นเสียงขู่ตะคอกของอาจารย์หัวหน้าหมวด หญิงสาวรวบรวมความกล้าและเริ่มอ่าน 

 

 

แต่ขณะที่เธออ่านไปนั้น ใบหน้าของอาจารย์ก็ดำคล้ำขึ้น 

 

 

เมื่อเธออ่านไปจนถึงส่วนที่ว่า “ฉันก็เป็นคนรูปหล่อ มีเสน่ห์แล้วก็เป็นที่หมายตา” นักเรียนทั้งห้องก็พากันหัวเราะครืน 

 

 

โอ๊ย ฉีเหยียนซีเป็นคนโง่หรือเปล่าเนี่ย 

 

 

“อาจารย์คะ มีเท่านี้ค่ะ” อันซย่าซย่าบอกอย่างแผ่วๆ 

 

 

ฉีเหยียนซีท่าทางเคืองมาก 

 

 

อาจารย์หัวหน้าหมวดกระแอม “นักเรียนทุกคนควรทำตามกฎของห้องสอบ ไม่ควรพูดคุยกันและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่คุยกันโดยการส่งโพยไปมาแบบนี้!” 

 

 

เด็กทั้งห้องระเบิดหัวเราะออกมาอีกครั้ง 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเบะปากแล้วรีบทำข้อสอบให้เสร็จ จากนั้นเขาก็ส่งคำตอบอย่างรวดเร็วก่อนจะออกจากห้องไป 

 

 

ฮึ เขียนตอบกันไปมากับฉีเหยียนซีสนุกไปเลย งั้นเจ้านั่นก็คงไม่ทำอันตรายเธอหรอก 

 

 

เมื่อความคิดนั้นแล่นผ่านเข้ามาในใจ เขาจึงตระหนักได้เดี๋ยวนั้นว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่ออันซย่าซย่านั้นดูไม่ตรงไปตรงมาเหมือนเมื่อตอนแรกเริ่มเสียแล้ว 

 

 

เขาอดขมวดคิ้วกับความตระหนักนั้นไม่ได้ 

 

 

หลังจากการสอบ สุดสัปดาห์นั้นก็ต่อเนื่องด้วยวันหยุดประจำชาติพอดี อันซย่าซย่าเตรียมตัวใช้วันหยุดยาวนั้นให้ฉ่ำใจไปเลย ทว่ากลับได้ข่าวจากครูประจำชั้น— 

 

 

หลังจากวันหยุดแล้ว เด็กนักเรียนชั้นปีหนึ่งจะต้องเข้าค่ายฝึกรด.ซึ่งใช้เวลานานสิบวัน การฝึกจะนับเป็นวันเรียนรวมกับการเข้าเรียนทั้งหมดตลอดภาคเรียน 

 

 

ฝึกรด.งั้นเหรอ อะไรกัน ถ้าอย่างนั้นฉีเหยียนซีก็พูดความจริงน่ะสิ