ไม่นานหัวใจของนางก็เต้นแรงขึ้นอีกครั้ง และรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

อัครเสนาบดีกู้เดนจากไปได้เพียงก้าวเดียวก็หันหลังกลับมา เขาคว้าป้ายจากในมือของนางและตะโกนเสียงต่ำ “ความสามารถที่จะทำให้สำเร็จนั้นมีไม่พอ แต่ความสามารถที่จะทำลายนั้นมีอยู่เหลือเฟือ ข้าให้กำเนิดบุตรสาวเช่นข้าได้อย่างไรกัน”

“ท่านพ่อ แขกหมายเลขเจ็ดในห้องส่วนตัวเป็นคนจ่ายเงินให้น้องสาม หากเราโก่งราคาต่อไป พวกเขาก็จะตามราคา”

“ไม่ว่าแขกหมายเลขเจ็ดในห้องส่วนตัวจะเป็นคนจ่ายเงินให้กู้ชูหน่วนหรือไม่ก็ช่าง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย?ก็แค่แผนที่ที่ชำรุด เหตุใดเราต้องเอาเงินมากมายไปประมูลเพื่อแย่งชิงมันมา?”

“น้องสามทำให้ท่านโกรธมากเช่นนี้ ลูกเพียงแค่อยากระบายความโกรธแทนท่านพ่อ และไม่เคยคิดที่จะทำให้ท่านไม่มีความสุข”

กู้ชูอวิ๋นน้ำตาหยดติ๋ง ๆ และพูดอย่างน่าสงสาร ประกอบกับเป็นหญิงงามที่อ่อนแอ อัครเสนาบดีกู้จึงใจอ่อน และน้ำเสียงของเขาก็อ่อนโยนขึ้นมาก

“พ่อรู้ว่าเจ้ากลัวว่านางจะแย่งประมูลของที่พ่อชอบ แต่การสู้ราคาไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นเงินจำนวนมาก จวนอัครเสนาบดีของเราไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น และทนไม่ได้ที่จะถูกเหยียบย่ำเช่นนี้”

“ลูกสำนึกผิดแล้วเจ้าค่ะ”

“ช่างเถอะ ครั้งต่อไปอย่าทำอีกก็พอแล้ว”

“เจ้าค่ะ ท่านพ่อ น้องสามเกลียดชังที่ท่านที่ไม่รักและเอ็นดูนางมาตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นจึงต่อต้านท่านทุกด้าน ลูกทนต่อไปไม่ไหว”

นอกจากนางจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาก็ทนต่อไปไม่ไหวเช่นกัน

เพียงแต่ตอนนี้นางเป็นพระชายาหาน ชายาเอกของเทพแห่งสงคราม อีกทั้งยังมีความสามารถและชื่อเสียง แล้วเขาจะทำอะไรได้?

“มีคนเสนอราคาสิบสองล้านตำลึง มีใครจะเสนอราคาต่อหรือไม่ หากไม่มี แผนที่ภูมิประเทศจะเป็นของแขกผู้มีเกียรติหมายเลขเจ็ด”

กู้ชูหน่วนรู้สึกว่าการมีพี่ชายสักคนที่คอยตามใจ อันที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องดี

โดยเฉพาะพี่ชายผู้นี้ ไม่เพียงแต่จะรูปงาม แต่ยังร่ำรวยอีกด้วย

เยี่ยจิ่งหานหรี่ตาลงและชูป้ายในมือขึ้น “ห้าสิบล้านตำลึง”

คราวนี้เยี่ยจิ่งหานไม่ได้ถือป้ายหมายเลขยี่สิบแปด แต่เป็นป้ายหมายเลขยี่สิบเก้า ซึ่งแยกจากกู้ชูหน่วนอย่างเห็นได้ชัด

รอยยิ้มของกู้ชูหน่วนแข็งทื่อในทันที

นางกัดฟัน “ท่านดูแผนที่ภูมิประเทศไม่ออก แล้วจะแย่งประมูลด้วยเงินจำนวนเงินมากเช่นนี้ทำไม”

“หลังจากประมูลได้แล้วเอากลับไป ข้าจะค่อย ๆ ดู บางทีสักวันหนึ่งข้าอาจจะดูออก”

อี้เฉินเฟยหัวเราะเหอะ ๆ และยังคงสู้ราคา “หกสิบล้านตำลึง”

“เจ็ดสิบล้านตำลึง”

“แปดสิบล้านตำลึง”

กู้ชูหน่วนคว้ามือของเยี่ยจิ่งหานไว้ในทันที และจ้องมองเขาด้วยความลำบากใจ “สามี แผนที่ชำรุดเช่นนี้ไม่คุ้มที่จะจ่ายเงินมากมายเช่นนี้ ไว้เราค่อยประมูลของชิ้นต่อไปจะดีกว่า เอาไว้เราค่อยประมูลใหม่อีกครั้ง”

หากสู้ราคาต่อไป นางก็คงจะสิ้นเนื้อประดาตัว

เดิมทีนางต้องการซื้อแผนที่ภูมิประเทศนี้ในราคาที่ต่ำ แต่กลับกลายเป็นว่าราคาที่สูงเสียดฟ้า

ไม่รู้ว่าเยี่ยจิ่งหานเป็นบ้าอะไร

เขาดึงมือของตัวเองกลับไป และกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “เก้าสิบล้านตำลึง”

ฮ้า……

นอกจากผู้คนจะอ้าปากค้างแล้ว ยังอ้าปากกว้างอีกด้วย

แต่ละคนต่างคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป

หรือว่าแผนที่ภูมิประเทศนี้จะมีความลี้ลับอะไร?

มิเช่นนั้นทั้งสองคนนี้ จะสู้ราคามากขนาดนี้ได้อย่างไร?