ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 226
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี้เอง” จ้วงจ้วงนึกขึ้นได้ คาดไม่ถึงว่าในตอนที่นางกำลังดื่มน้ำหวานนั้น ทั้งสองคนก็นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนค่ำนี้อธิบายกันเรียบร้อยแล้ว ใช่แล้ว “ใช่แล้ว ราชครูเหลียงทำไมถึงได้กลัวมีดสั้นของจื่ออันนัก? มีดสั้นเล่มนั้นเป็นจื่ออันที่มอบให้ แม้แต่อ๋องเจ็ดเขายังมิกลัว แต่กลับกลัวมีดสั้นเล่มนี้หรือ?”
“บนมีดสั้นนั้นมีอักษรมังกรอยู่!” อ๋องหลี่เอ่ยยิ้ม “ใครกันที่ชอบทำสัญลักษณ์นามสกุลไว้บนสิ่งของตนเพื่อแสดงอำนาจกัน?”
“เสด็จย่า!” จ้วงจ้วงเอ่ยตะโกน “มีดสั้นเล่มนี้เป็นมีดที่เสด็จย่าทรงประทานให้กับเสด็จพี่ เสด็จพี่ก็ประทานให้แก่อ๋องเจ็ด อ๋องเจ็ดมอบให้จื่ออันอีกที ราชครูเหลียงไม่รู้เรื่องราว ก็เลยนึกเอาว่ามีดสั้นเล่มนี้เป็นเสด็จย่าประทานให้แก่จื่ออัน ดังนั้นเขาจึงกลัว เขามิได้กลัวมีดสั้น เพียงแต่เขาหวาดกลัวต่อเสด็จย่า”
“ฉลาดมาก!” อ๋องหลี่ขึ้นรถม้าไปแล้ว จ้วงจ้วงจึงเดินตามขึ้นไป
หลังจากที่ส่งอ๋องหลี่และจ้วงจ้วงแล้ว จื่ออันจึงได้ประคองหยวนซื่อที่คืนนี้มิได้พูดอันใดออกมาลุกขึ้น “ท่านแม่ พวกเราก็กลับกันเถอะ”
เซี่ยหว่านเอ๋อร์เมื่อพบว่าทุกคนต่างแยกย้ายกัน และผู้ที่ทำร้ายคนอื่นอย่างเซี่ยจื่ออันกลับไม่บุบสลายเลย จึงอดไม่ได้ที่จะโกรธเกลียดไม่พอใจ พุ่งเข้าไปฉุดรั้งจื่ออัน “เจ้าคิดที่จะจากไปเยี่ยงนี้รึ? ”
จื่ออันมองมายังนาง “เจ้ายังอยากจะยังไงกัน?”
เซี่ยหว่านเอ๋อร์คิดขึ้นมาได้ว่านางทำให้ตนพิการ นางโยนบางสิ่งออกไป อาจทำให้นางถอยหนี นางจึงหมุนตัวกลับไปอย่างกะทันหันดึงแส้ออกมาจากกำแพง แล้วจึงตีไปยังจื่นอันในทันที พลางเอ่ยอย่างดุร้าย “ข้าจะฆ่าเจ้า!”
แส้ไม่ได้มีแรงมากนัก จื่ออันใช้เพียงมือเดียวก็สามารถจับมันได้ จนเซี่ยหว่านเอ๋อล้มลงไปบนพื้น ท่าทางช่างไม่น่าดูแม้แต่น้อย
จื่ออันเอ่ยเสียงเย็น “อย่าใส่ร้ายผู้อื่น ค่ำนี้ข้าเห็นแก่พวกเจ้ามามากแล้ว เพียงแค่พวกเจ้าทำร้ายท่านแม่ข้า ข้าไม่เอาชีวิตพวกเจ้าเป็นเพราะเห็นแก่สายสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายกับจวนมหาเสนาบดีแห่งนี้”
ฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อได้ฟังคำพูดนี้แล้ว ออกคำสั่งด้วยใบหน้าเย็นชา “ใครก็ได้เข้ามา ส่งคุณหนูรองกลับห้อง ไม่มีคำสั่งข้า ห้ามนางออกมา”
เซี่ยหว่านเอ๋อมองไปทางฮูหยินผู่เฒ่าด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “ท่านย่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ข้าและท่านแม่ถูกพวกนางรังแกแบบนี้ ท่านจะไม่ออกหน้าให้ข้าเลยงั้นหรือ?”
“นำตัวไป!” ฮูหยินผู้เฒ่าออกคำสั่งอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวด
ป้าชุ่ยยู่เร่งรีบนำคนลากเซี่ยหว่านเอ๋อออกไป
เซี่ยหว่านเอ๋อตะโกนใส่จื่ออันด้วยความโกรธ “ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป”
จื่ออันมิได้ลืมตามอง คำพูดนี้ฮูหยินหลิงหลงเองก็เคยพูดเมื่ออยู่โรงหมอ สุดท้ายแล้วเป็นใครที่ไม่ปล่อยใครไป?
หลังจากที่เซี่ยหว่านเอ๋อถูกนำออกไป ฮูหยินผู้เฒ่ามองไปยังฮูหยินหลิงหลง เอ่ยอย่างเหนื่อหน่ายใจ “ทำเรื่องให้สำเร็จทำไม่ได้ ดีแต่ล้มเหลว เจ้าก็ออกไป!”
ฮูหยินหลิงหลงกัดปากอย่างน้อยใจ มองไปทางมหาเสนาบดีเซี่ย “ท่านพี่ เรื่องนี้จะปล่อยไปแบบนี้รึ?”
“แล้วเจ้าคิดจะให้ทำยังไงต่อ? ออกไป!” ฮูหยินผู้เฒ่าเร่งไล่นางเหมือนดั่งไล่แมลงหวี่แมลงวันออกไป
“ท่านพี่” ฮูหยินหลิงหลงยังไม่ยินยอม มองมายังมหาเสนาบดีเซี่ยด้วยความอ้อนวอนเศร้าโศกตลอดเวลา “หากท่านยังไม่ยอมออกหน้าให้ข้าและหว่านเอ๋อแล้ว ข้าและหว่านเอ๋อจะอยู่ในจวนนี้ได้อย่างไรกัน?”
“เจ้าออกไปก่อน เรื่องนี้ตัวข้าเองก็มีข้อคิดเห็นไว้แล้ว” มหาเสนาบดีในที่สุดก็ออกปากมา แต่สายตากลับมองมายังจื่ออันตลอดเวลา นัยน์ตามีแววที่ไม่สามารถรู้ได้ถึงอารมณ์ที่สลับซับซ้อนอยู่มากนัก
ฮูหยินหลิงหลงยังไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่ก็รู้ว่าเรื่องราวในค่ำนี้มิอาจเปลี่ยนแปลงได้แล้ว นางมองมายังจื่ออันด้วยแววโกรธเกลียด “เจ้าคิดว่าเพียงมือของเจ้าสามารปิดฟ้าได้รึ? เจ้าคิดว่าเจ้าจะได้เป็นพระชายาของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ? เจ้ารอดูไปเถอะ!”
ค่ำนี้หยวนซื่อมิได้เอ่ยอะไรออกมาเลย เดิมก็เป็นคนที่ไม่ควรจะข้องแวะด้วยที่สุดแล้ว แต่นางกลับเอ่ยออกมา “เฉินหลิงหลง เจ้าเอาหูมา ข้ามีคำพูดอยากจะพูดกับเจ้า”
ฮูหยินหลิงหลงมองมาอย่างโกรธแค้นไยังนาง แต่ก็ยังอยากจะฟังว่านางจะพูดอะไรกัน นางเอียงหูเข้าไปใกล้หยวนซื่อเอ่ยเสียงเบา ให้เสียงได้ยินเพียงเฉินหลิงหลงฟัง “จื่ออันมีคำพูดที่มิอาจพูดได้ ข้าจะบอกเจ้า ตั้งแต่วันนั้นในลานบ้านที่องค์รัชทายาทบังคับให้นางแต่งงานแล้ว นางก็ตั้งใจไว้ว่าจะทำให้เจ้าสองแม่ลูกตาย”
จื่ออันที่นางพูดถึง มิใช่จื่ออันที่อยู่ข้างกายนางแต่เป็นบุตรสาวที่สูญสลายไปแล้วของนาง
ฮูหยินหลิงหลงยิ้มเย็น “ใช่รึ?ต้องดูว่าเจ้าจะมีความสามารถนั้นไหม!”
ฮูหยินหลิงหลงมองรอยยิ้มแปลกประหลาดของนาง ภายในใจรู้สึกร้อนรน หยวนซื่อผู้นี้ไม่ได้อดทนเก็บไว้ดั่งก่อนหน้านี้แล้ว