ตอนที่ 1512 พู่หยกทั้งสอง (4) / ตอนที่ 1513 พู่หยกทั้งสอง (5)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1512 พู่หยกทั้งสอง (4)

“นายหญิง ถ้าพวกเรายังไม่รู้ว่าพู่หยกในมือท่านเป็นของจริงหรือไม่ ท่านก็ควรไปที่ตระกูลจวินแล้วรอผู้อาวุโสจวินกลับมา เขาเป็นคนเดียวที่บอกได้ว่าอันไหนเป็นของจริง”

“เจ้าพูดถูก นี่เป็นอาจเป็นทางเดียว” อวิ๋นลั่วเฟิงพูดแล้วเก็บพู่หยก “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่สามารถแสดงพู่หยกให้ใครดูได้ ถ้าหยกนี้ไม่ใช่ของตระกูลจวิน มันก็นำปัญหามาให้ข้า”

เสี่ยวโม่พยักหน้า หงหลิงเป็นแค่คนนอก ดังนั้นพวกนางไม่มีทางมั่นใจได้ว่าพู่หยกมาจากตระกูลจวินเพราะแค่มีคำว่า ‘จวิน’ สลักอยู่ อีกอย่างยังมีสตรีอีกคนที่ถือพู่หยก แม้แต่อวิ๋นลั่วเฟิงจะไม่แน่ใจว่าพู่หยกของนางเกี่ยวข้องกับตระกูลจวินจริงหรือไม่

ถ้าไม่ใช่ มันจะไม่น่าอับอายหรอกหรือ

“นายหญิง ตอนนี้พวกเราไปที่ตระกูลจวินเพื่อรอผู้อาวุโสจวินกลับมากันเถอะ เขาจะบอกเราเองว่าพวกเราหรือสตรีคนนั้นเป็นหลานสาวของเขาจริงๆ ถ้าเป็นสตรีผู้นั้น พวกเราก็แค่จากมา ถ้าไม่ใช่ ท่านก็ค่อยแสดงพู่หยกให้เขาดู”

นี่เป็นทางที่ปลอดภัยที่สุด อวิ๋นลั่วเฟิงก็ไม่ลังเลอีกต่อไปแล้วรีบเดินทางไปตระกูลจวิน…

ตระกูลจวิน

จวินเซวี่ยนจ้องหน้ายอดฝีมือที่ยืนล้อมตระกูลจวินอยู่บนฟ้าอย่างเย็นชาด้วยใบหน้าทะมึน ด้านหลังเขามียอดฝีมือของตระกูลจวินมากมายที่กำลังเผชิญหน้ากับคนบนฟ้า

หลิงเอ๋อร์ยืนอยู่ข้างหลังบิดาเงียบๆ ใบหน้าน่ารักของนางปรากฏความหวั่นวิตก นางมองขึ้นไปบนฟ้าเป็นครั้งคราวด้วยดวงตากระจ่างใสที่มีประกายความกังวล ทำไมท่านปู่ถึงยังไม่มาอีก ถ้าเขายังไม่กลับมา เกรงว่าไม่แน่ตระกูลจวินอาจไม่มีใครรอด…

“หลิงเอ๋อร์ ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มหล่อเหลาที่ยืนข้างนางยื่นมือมาจับมือจวินหลิงเอ๋อร์แน่นแล้วส่งยิ้มมั่นใจให้นาง “เชื่อในความสามารถของท่านลุง ข้าเชื่อว่าพวกเราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้”

จวินหลิงเอ๋อร์พยักหน้าแต่ดวงตายังเต็มไปด้วยความกังวล “อี้เฟย ถ้าพวกเราดูท่าว่าจะแพ้ เช่นนั้นเจ้าก็หนีไปกับท่านแม่เถอะ ข้าจะอยู่ที่นี่ไม่ว่าตระกูลจวินจะอยู่หรือตาย!”

ท่านปู่เป็นคนก่อตั้งตะกูลจวินและนางไม่มีทางไปจากที่นี่

“หลิงเอ๋อร์ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ข้าไม่มีทางทิ้งเจ้าไว้ข้างหลัง! ข้าเชื่อว่าท่านป้าก็เหมือนกัน…”

หวาอี้เฟยมองจวินหลิงเอ๋อร์อย่างลึกซึ้ง ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อนาง ในฐานะที่เขาเป็นญาติกับมารดาของหลิงเอ๋อร์ เขาก็ตกหลุมรักหลิงเอ๋อร์มาตั้งแต่ยังเด็ก อีกแค่ไม่กี่ปีเขาก็จะแต่งงานกับนางแล้ว แต่ไม่มีใครคิดว่าะเกิดเรื่องนี้ขึ้น…

“ฮ่าๆๆ!”

บนท้องฟ้ามีใครบางคนกำลังหัวเราะดังลั่น เขาหัวเราะอย่างโอหังเหมือนเขาไม่ได้ใส่ใจความแข็งแกร่งของตระกูลจวิน

“จวินเซวี่ยน ผู้เฒ่าจวินไม่ได้อยู่ที่นี่ ข้าอยากจะเห็นนักว่าเจ้าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างไร!”

จวินเซวี่ยนยิ้มเยาะ “ถึงแม้ว่าอาจารย์ข้าจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่แล้วอย่างไรเล่า ในฐานะผู้นำตระกูลจวิน ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทำร้ายตระกูลจวิน!” เสียงของเขาทั้งดังและทรงพลัง

“ฮึ่ม ข้าอยากจะเห็นจริงๆ ว่าเจ้าจะทนได้นานแค่ไหน เร็วเข้า พวกเราสังหารพวกเลวของตระกูลจวินกัน!” เขาหัวเราะเยาะก่อนจะพุ่งมาหาจวินเซวี่ยน

ขณะที่การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น บนถนนในนครจวินผู้อาศัยทุกคนรีบกลับบ้าน พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองเพราะหวาดกลัวว่าพวกเขาอาจจะถูกทำร้าย

“อี้เฟย ดูแลหลิงเอ๋อร์ให้ข้าด้วย ปกป้องนางเมื่อพวกเราสู้กับพวกเขา” จวินเซวี่ยนพูดเสียงต่ำแล้วมองศัตรูที่พุ่งเข้ามาหาเขา

…………………………………..

ตอนที่ 1513 พู่หยกทั้งสอง (5)

“ไม่ต้องห่วงขอรับ ท่านลุง ข้าจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องหลิงเอ๋อร์แน่นอน” หวาอี้เฟยพูดอย่างจริงจัง

จวินเซวี่ยนไม่อยากให้หลิงเอ๋อร์เข้าร่วมการต่อสู้ แต่หลิงเอ๋อร์ต้องการจะอยู่กับตระกูลจวินไม่ว่าจะเป็นหรือตาย นางไม่ยอมรับคำแนะนำของเขาและยืนกรานจะมาที่นี่กับเขา เขาไม่มีทางเลือกนอกจากให้หวาอี้เฟยคอยปกป้องนางไว้

ขณะที่กำลังต่อสู้ หวาอี้เฟยหันไปมองจวินหลิงเอ๋อร์เป็นครั้งคราว เขาตะลึงเมื่อเห็นความแข็งแกร่งของนาง จากนั้นเขาก็สบายใจขึ้นมานิดหน่อย

หลิงเอ๋อร์ติดตามท่านปู่จวินขึ้นเหนือลงใต้มาหลายปี ดังนั้นความแข็งแกร่งของนางจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก นางไม่ได้เป็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่คอยหลบหลังเขาอีกแล้ว…

ตอนนั้นเองที่หวาอี้เฟยไม่แน่ใจว่าตัวเองภูมิใจหรือท้อแท้ พูดอีกอย่างก็คือถ้าเขาไม่พยายามมากกว่านี้ ในอนาคตเขาอาจจะถูกนางแซงหน้าได้

“อี้เฟย ระวังตัวด้วย ไม่ต้องห่วงข้า” พูดจบนางก็เช็ดเลือดบนใบหน้า เสียงของนางไพเราะและอ่อนหวานเหมือนนกน้อย “ข้าไม่มีทางทำให้ท่านปู่เสียหน้า”

ในฐานะผู้สืบทอดของตระกูลจวิน นางจะอ่อนแอได้อย่างไร ท่านปู่จวินเป็นคนสอนนางเองกับมือ ถ้านางเอาชนะคนพวกนี้ไม่ได้จะไม่เป็นการทำให้ท่านปู่จวินอับอายหรือ

หวาอี้เฟยพยักหน้า ความแข็งแกร่งของหลิงเอ๋อร์ก้าวหน้ามากจริงๆ ดังนั้นเขาจึงสบายใจแล้วเริ่มจดจ่ออยู่กับการสู้กับศัตรูตรงหน้าเขา…

“ข้าไม่คิดเลยความแข็งแกร่งของจวินเซวี่ยนจะไม่ด้อย”

ผู้อาวุโสของพรรคอัสนีมรกตพูดอย่างเย็นชาแล้วดวงตาเขาก็เป็นประกายชั่วร้าย “ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะไม่เป็นผลดีกับพวกเรา ถึงแม้ว่าตระกูลจวินจะมีศัตรูมากมายแต่ก็มีมิตรสหายมากมายด้วยเหมือนกัน ถ้าคนพวกนั้นมาช่วยเขา ข้าเกรงว่าพวกเขาจะสังหารเราจนหมด”

เมื่อผู้อาวุโสคิดได้อย่างนั้น เขาก็กะพริบตาแล้วถอยหลังไปสองสามก้าวก่อนจะพูดอย่างเย้ยหยันว่า “จวินเซวี่ยน ข้าได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ตระกูลจวินเจอหลานสาวของจวินหลิงเทียนใช่หรือไม่”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า” จวินเซวี่ยนพูดอย่างเหน็บแนม

“หลานสาวของตระกูลจวินพวกเจ้า แน่นอนว่าไม่เกี่ยวอะไรกับข้า แต่โชคไม่ดีที่เด็กสาวคนนั้นอยู่ในมือของพวกเรา”

อะไรนะ

เมื่อจวินเซวี่ยนได้ยินเรื่องนี้ก็ตกใจ เขาไม่สังเกตว่ามีการโจมตีพุ่งมาหาเขาทำให้เขาโดนการโจมตีเข้าไปจนเกิดเสียงดัง เขาถอยหลังไปหลายก้าวแล้วกระอักเลือดออกมา

“ท่านพ่อ!”

“ท่านลุง!”

จวินหลิงเอ๋อร์และหวาอี้เฟยหน้าเปลี่ยนสี พวกเขากระโจนเข้าไปหาจวินเซวี่ยนเพื่อช่วยพยุงเขา

“ท่านพ่อเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ” จวินหลิงเอ๋อร์กังวลจนเกือบจะร้องไห้ นางมองจวินเซวี่ยนอย่างวิตกด้วยตาแดงก่ำ

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ จวินเซวี่ยนก็คงไม่มีทางยอมให้บุตรสาวร้องไห้ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจนาง เขามองผู้อาวุโสโดยไม่ละสายตาด้วยตาแดงก่ำ

“เจ้าว่าอะไร หลานที่น่าสงสารของข้าอยู่กับเจ้าหรือ”

ผู้อาวุโสพรรคอัสนีมรกตยิ้มเยาะอีกครั้ง “ใช่แล้ว ข้าตรวจสอบพู่หยกที่นางถือแล้ว มันเป็นของตระกูลจวินของเจ้าจริงๆ”

“เอาพู่หยกมาให้ข้า เอามันมา!” จวินเซวี่ยนฝืนยืนขึ้นช้าๆ แล้วกำหมัด ดวงตาเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร

“พู่หยก?” ผู้อาวุโสหัวเราะเยาะ เขาโบกมือแล้วพู่หยกก็ปรากฏอยู่ในมือเขา

จวินเซวี่ยนเห็นคำว่า ‘จวิน’ สลักอยู่บนพู่หยกจากไกลๆ ทำให้เขามองมันไม่ชัด เขารีบพุ่งไปข้างหน้าแล้วพยายามจะแย่งพู่หยกออกมาจากมือผู้อาวุโส

แกรก!

ผู้อาวุโสก็บีบพู่หยกอย่างแรงทันที แล้วทันใดนั้นพู่หยกก็กลายเป็นผงหยกก่อนจะปลิวไปตามสายลม